การอ่านแผนภูมิรูปวงกลม

ในบทความนี้เราจะได้เรียนรู้การอ่านแผนภูมิรูปวงกลมรวมทั้งส่วนประกอบต่างที่ควรรู้เกี่ยวกับแผนภูมิรูปวงกลม

สารบัญ

Add LINE friends for one click to find article. Add LINE friends for one click to find article.

การนำเสนอข้อมูล(presentation of data) เป็นวิธีการเก็บรวบรวมข้อมูลที่ได้มาจากแหล่งต่างๆ มาจัดให้เป็น ระบบเพื่อแสดงข้อเท็จจริง รายละเอียดและข้อเปรียบเทียบต่างๆ ให้ผู้ที่สนใจในข้อมูลนั้นๆ ทราบได้โดยง่าย ชัดเจน รวดเร็วทั้งยังมีความเชื่อมั่นในข้อเท็จจริงเหล่านั้น และสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ โดยนิยมคิดข้อมูลให้อยู่ในรูปร้อยละ   

การอ่านแผนภูมิรูปวงกลม

เนื่องจากการนำเสนอข้อมูลในรูปข้อความมีลักษณะเป็นข้อความทำให้ข้อมูลที่เป็นปริมาณไม่เด่นชัดต้องใช้เวลาในการอ่านและวิเคราะห์

ส่วนการนำเสนอข้อมูลในรูปข้อความ รวมถึงตารางมีการแยกข้อมูลที่เป็นปริมาณให้เห็นเด่นชัด ถ้าต้องการนำเสนอข้อมูลที่เป็นปริมาณให้ชัดเจนน่าสนใจและสามารถเปรียบเทียบข้อมูลให้เห็นเป็นรูปภาพดูง่ายขึ้น

เรานิยมนำเสนอด้วยแผนภูมิรูปวงกลมโดยแทนปริมาณในข้อมูลทั้งหมดด้วยพื้นที่ในรูปวงกลมวงหนึ่งและแบ่งพื้นที่ในรูปวงกลมจากจุดศูนย์กลางออกเป็นส่วนของวงกลมย่อยตามส่วนของปริมาณที่นำเสนอแล้วเขียนตัวเลขแสดงข้อมูลกำกับไว้

ถ้าข้อมูลที่ต้องการนำเสนอโดยแผนภูมิรูปวงกลมเป็นปริมาณที่มีค่ามากเรานิยมแสดงข้อมูลเหล่านั้นในรูปร้อยละของปริมาณในข้อมูลทั้งหมดเพื่อให้ง่ายต่อการวิเคราะห์และให้เห็นเปรียบเทียบได้ชัดเจนยิ่งขึ้น

1. ส่วนประกอบของแผนภูมิรูปวงกลม 

1.1 ชื่อเรื่อง มีไว้เพื่อบอกว่าแผนภูมิวงกลมนี้ได้แสดงรายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องอะไร เมื่อไร จะเขียนไว้เหนือหรือใต้แผนภูมิก็ได้

1.2 รูปวงกลม โดยแบ่งพื้นที่เป็นส่วน ๆ แสดงรายละเอียดที่สอดคล้องกับชื่อเรื่อง

 1.3 ที่มาหรือแหล่งข้อมูล เพื่อให้ทราบว่าข้อมูลนั้นได้มาจากแหล่งใด เพื่อความน่าเชื่อถือและสะดวกในการค้นคว้าต่อไป

2. การเขียนแผนภูมิรูปวงกลม

หลักการเขียนแผนภูมิรูปวงกลม มีขั้นตอนดังนี้

2.1 หาปริมาณของข้อมูลทั้งหมด  และให้ปริมาณของข้อมูลทั้งหมดแทนมุมรอบจุดศูนย์กลางของวงกลม ที่มีขนาด 360  องศา

2.2 นำปริมาณของข้อมูลแต่ละประเภท มาเทียบหาขนาดของมุมที่จุดศูนย์กลางของวงกลม

2.3 เขียนรูปวงกลม แล้วลากรัศมีของวงกลมเพื่อแบ่งพื้นที่ของรูปวงกลมเป็นส่วนๆตามขนาดของมุมที่จุดศูนย์กลางของวงกลมที่หาได้

 

หมายเหตุ 

  • ข้อมูล 1% คิดเป็นขนาดของมุมที่จุดศูนย์กลางของวงกลม 3.6 องศา
  • ไม่นิยมเขียนขนาดของมุมลงในแผนภูมิ แต่นิยมเขียนตัวเลขแสดงปริมาณจริงของข้อมูลหรือ ร้อยละของข้อมูลแต่ละประเภทกำกับไว้ เพื่อความสะดวกในการอ่านปริมาณของข้อมูลได้อย่างถูกต้องและรวดเร็ว

 แผนภูมิรูปวงกลมนิยมใช้เมื่อต้องการเปรียบเทียบจำนวนย่อยๆกับจำนวนทั้งหมดพร้อมกับการเปรียบเทียบจำนวนย่อยๆด้วยกันเองเหมาะแก่การนำเสนอข้อมูลจำนวนร้อยละ(เปอร์เซ็นต์)มากกว่าแผนภูมิแบบอื่นๆ สามารถแผนภูมิรูปวงกลมได้ตามขั้นตอนต่อไปนี้

1.หาปริมาณของข้อมูลทั้งหมดและให้ปริมาณของข้อมูลทั้งหมดแทนมุมรอบจุดศูนย์กลางของวงกลมที่มีขนาด 360 องศา

2.นำปริมาณของข้อมูลแต่ละประเภทมาเทียบหาขนาดของมุมที่จุดศูนย์กลางของวงกลม

3.เขียนรูปวงกลม แล้วลากรัศมีของวงกลมเพื่อแบ่งพื้นที่ของรูปวงกลมเป็นส่วนๆตามขนาดของมุมที่จุดศูนย์กลางของวงกลมที่หาได้ การเขียนแผนภูมิรูปวงกลม อาจเรียกสั้น ๆว่า แผนภูมิวงกลม

ตัวอย่างการนำเสนอข้อมูลในรูปแผนภูมิรูปวงกลม

การนำเสนอข้อมูลในรูปแผนภูมิรูปวงกลมอาจมีได้หลายลักษณะเช่นอาจเป็นภาพสามมิติเพื่อข้อมูลที่นำเสนอให้เห็นชัดเจนและดูสวยงามโดยใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ในการเขียนดังตัวอย่างที่จะพบต่อไปนี้

ตัวอย่าง ให้นักเรียนพิจารณาแผนภูมิต่อไปนี้แผนภูมิแสดงร้อยละของรายได้จากการจัดงานการกุศลของโรงเรียนแห่งหนึ่งในปี พ.ศ. 2553

แผนภูมิรูปวงกลม

ให้นักเรียนตอบคำถามต่อไปนี้

1. รายได้จากการรับบริจาคเป็นกี่เปอร์เซ็นต์ของการขายอาหาร

2. ถ้ารายได้ทั้งหมดจากการจัดงานเป็นเงินรวมทั้งสิ้น 425,420 บาทขายบัตรชิงโชคเป็นเงินเท่าไร

3. รายได้จากการขายสินค้ากับรายได้จากการขายบัตรชิงโชครวมกันมากกว่าการรับบริจาคเท่าไรถ้ารายได้จากการขายอาหารเป็นเงิน 90,000 บาท

แผนภูมิรูปวงกลม

คลิปตัวอย่างเรื่องแผนภูมิรูปวงกลม

NockAcademy คือโรงเรียนออนไลน์สำหรับเด็ก โดยแอปฯ และเว็บไซต์ นักเรียนสามารถเรียนรู้ผ่านคลิปบทเรียนวิชา คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และภาษาไทย
มากไปกว่านั้น เรายังมีคอร์สเรียนออนไลน์ การสอนพิเศษ การติวนอกสถานที่โดยติวเตอร์ที่แน่นไปด้วยความรู้ อีกด้วย

Add LINE friends for one click to find article. Add LINE friends for one click to find article.
ครูผู้สอน NockAcademy

แค่ 10 นาที ก็เข้าใจได้

สามารถดูคลิปบทเรียนวิชา คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และภาษาไทย ที่มีมากกว่า 2,000+ คลิป และยังสามารถทำแบบทดสอบที่มีมากกว่า 4000+ ข้อ

แนะนำ

แชร์

NokAcademy_ม3 การใช้ Yes_No Questions  และ Wh-Questions

การใช้ Yes/No Questions  และ Wh-Questions

  สวัสดีค่ะนักเรียนชั้นม.3 ทุกคน วันนี้ครูจะพาไปตะลุยตัวอย่างและวิธีการแต่งประโยคคำถาม 2กลุ่ม ได้แก่ “การใช้  Yes/No Questions  และ Wh-Questions” หากพร้อมแล้วก็ไปลุยกันเลยจร้า   Yes/No Questions คืออะไร?   Yes/ No Questions ก็คือ กลุ่มคำถามที่ต้องการคำตอบแน่ชัดว่า Yes ใช่  หรือ

สมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว

สมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว

สมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว สมการ คือ ประโยคสัญลักษณ์ที่กล่าวถึงความสัมพันธ์ของจำนวนโดยมีสัญลักษณ์  “ = ”  บอกความสัมพันธ์ระหว่างจำนวน อาจมีตัวแปร หรือไม่มีตัวแปร เช่น สมการที่ไม่มีตัวแปร                           

NokAcademy_ม2 การใช้ Future Simple กับการตั้งคำถามด้วย Wh-Questions

การใช้ Future Simple กับการตั้งคำถามด้วย Wh-Questions

สวัสดีค่ะนักเรียนชั้นม.2 ทุกคน วันนี้ครูจะพาไปตะลุย “การใช้  Future Simple กับการตั้งคำถามด้วย Wh-Questions” หากพร้อมแล้วก็ไปลุยกันเลยจร้า Future Simple Tense     Future Simple Tense หรือ ประโยคอนาคตกาล เอาไว้พูดถึงเรื่องราวในอนาคต เช่น สิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้น สิ่งที่จะเกิดขึ้น สิ่งที่จะทำ เป็นต้น

Suggesting Profile

สำนวนการเสนอ การขออนุญาต และขอความช่วยเหลือ

สวัสดีค่ะนักเรียนชั้นม. 4 ที่น่ารักทุกคน วันนี้ครูจะพาไปตะลุย “สำนวนการเสนอ การขออนุญาต และขอความช่วยเหลือ พร้อมทั้งเทคนิคการพูดตอบรับและปฏิเสธการให้ความช่วยเหลือในสถานการณ์ต่างๆ ถ้าพร้อมแล้วก็ไปลุยกันเลยจร้า สำนวนการเสนอ   ในชีวิตประจำวันของเรานั้น ล้วนจะต้องเจอกลุ่มประโยคคำถามในเชิงชักชวน และการเสนอแนะที่ใช้เป็นรูปแบบคำถามนั้นถือเป็นการเสนอแนะชักชวนทางอ้อม ถ้าเทียบกับนิสัยคนไทยแล้ว ก็เพื่อแสดงถึงความเกรงใจ ไม่พูดมาตรงๆ เพื่อจุดประสงคืบางอย่าง ซึ่งเป็นนิสัยที่คนไทยส่วนใหญ่มีอยู่แล้ว ในภาษาอังกฤษการใช้ภาษาเหล่านี้จะทำให้การสนทนาดูเป็นธรรมชาติและคล่องมากขึ้น โดยที่บางครั้งผู้ถามนั้นหว่านล้อมผู้ฟังด้วยการ ชวนให้ทำ หรือแนะนำให้ทำนั่นเอง ประโยคคำถามที่ใช้มีดังนี้  

M6 Phrasal Verbs

Phrasal Verbs 

สวัสดีค่ะนักเรียนชั้นม.6 ที่รักทุกคนวันนี้เราจะไปเรียนรู้กันเรื่อง “Phrasal Verbs“ กันนะคะ ถ้าพร้อมแล้วก็ไปลุยกันโลด   ความหมาย Phrasal Verbs  Phrasal Verbs คือ คำกริยา โดยเป็นกริยาที่มีคำอื่นๆ อย่างเช่น คำบุพบท (Preposition) ร่วมกันส่วนใหญ่แล้ว Phrasal Verbs จะบอกถึงการกระทำ มักจะเจอในชีวิตประจำวันในสถานการณ์ทั่วไป ไม่เป็นทางการมาก ข้อดีคือจะทำให้ภาษาใกล้เคียงกับเจ้าของภาษามากขึ้นนั่นเองจ้า

Profile- WH Questions

ประโยคคำถาม Wh-Questions ที่ต้องการคำตอบ

สวัสดีค่ะนักเรียนชั้นป.  6 ทุกคน วันนี้ครูจะพาไปตะลุยตัวอย่างวิธีการแต่งประโยคคำถามด้วย Wh- Questions ที่ใช้กับเวลาในอดีตและคำถามทั่วไปที่ต้องการคำตอบแบบไม่ใช่ Yes หรือ No กันค่ะ ไปดูกันเลย อะไรคือ Wh-Questions     เมื่อต้องถามคำถามอะไรก็ตามที่ไม่ต้องการคำตอบ Yes หรือ No แบบทื่อๆ เราจะเรียกคำถามประเภทนี้ว่า Question  word หรืออีกชื่อในวงการคือ

โลโก้ NockAcademy

ทดลองฟรี!

เข้าใจได้ทันที NockAcademy ไลฟ์สดอันดับ 1 

โลโก้ NockAcademy

ทดลองฟรี!

เข้าใจได้ทันที NockAcademy ไลฟ์สดอันดับ 1