Infinitives after verbs

NokAcademy_Infinitives after verbs

สารบัญ

Add LINE friends for one click to find article. Add LINE friends for one click to find article.

Hi guys! สวัสดีค่ะนักเรียนม.5 ที่รักทุกคนวันนี้เราจะไปดูการใช้ Infinitives after verbs กันเด้อ ถ้าพร้อมแล้วก็ไปลุยกันโลดจร้า Let’s go!

 

ทบทวนความหมายของ “Infinitive”

 

NokAcademy_Infinitives after verbs (2)

Infinitive คือ   กริยารูปแบบที่ไม่ผัน ไม่เติมอะไรใดๆเลย ที่นำหน้าด้วย to (Infinitive with “to” หรือ To + infinitive) เช่น to play, to study, to stay, to call, etc. และนอกจากนี้เราจะไปดู รูปโครงสร้างของ Infinitive ที่มีทั้งตามหลัง to และ ไม่มี to (Infinitive without to) พร้อมทั้งโครงสร้างอื่นๆที่ใช้บ่อยเวอร์กันจร้า

***เราจะไปดูทั้ง ตัวอย่างประโยคและการใช้
Infinitive ที่มี  to และ ไม่มี to น๊า 

 

หน้าที่ของ Infinitive with to

 

NokAcademy_Infinitives after verbs (3)

ในประโยคนั้น To+ V. Infinitive หรือ Infinitive with to ทำหน้าที่ได้หลายอย่างมาก ได้แก่

1) เป็นประธาน เช่น

To study well is students’ duty.
***To study เป็นประธานของกริยาหลัก is ส่วน well ในประโยคเป็น คำวิเศษณ์ (Adverb)
ขยายกริยา infinitive “study”

2) เป็นคำวิเศษณ์ เช่น

Dad is content to go back to mom.
***to go back เป็นคำวิเศษณ์ขยาย adj. content

3) เป็นคำคุณศัพท์ เช่น
Jenny collected the trash can to be recycled.
*** to be recycled เป็นคุณศัพท์ ขยายนาม can (กระป๋อง)

4) เป็นกรรมของกริยา เช่น We managed to cook dinner tonight.
*** to cook  เป็นกรรมของกริยาหลัก managed

5) เป็น ส่วนเติมเต็ม (complement) ของ verb to be เช่น
Tiffany’s dream is to be a famous singer.
***to be เป็น complement ของกริยาหลัก is

การทำให้เป็นรูปปฏิเสธ

รูป negative infinitive สร้างขึ้นโดยการเติม not ข้างหน้า to ซึ่งเป็น not to + V.infinitive เช่น

Frank decided not to become a teacher.
แฟรงค์ได้ตัดสินใจแล้วว่าจะไม่เป็นครู

 

สรุป Infinitives after verbs ทั้ง 5 รูปแบบง่ายๆ

 

NokAcademy_Infinitives after verbs (4)

 วันนี้ครูขอเสนอ การใช้ Infinitives หลัง กริยาทั้ง 5 รูปแบบที่ใช้บ่อยนะคะ

  • โครงสร้าง1: Verb + to + infinitive

They planned to go on vacation.
พวกเขาวางแผนที่จะไปเที่ยวพักผ่อน

 

  • โครงสร้าง2: Verb + noun + to + infinitive

The teacher wanted the students to focus on their class.
ครูต้องการให้นักเรียนจดจ่อกับชั้นเรียนของตน

Jennifer told me to study more.
เจนนิเฟอร์บอกให้ฉันศึกษาเพิ่มเติม

 

  • โครงสร้าง3: Verb + noun + infinitive

My father wouldn’t let me stay out late.
พ่อของฉันจะไม่ปล่อยให้ฉันอยู่ดึก

 

  • โครงสร้าง4: Verb + to + infinitive

They needed to have more fun from online lessons.

พวกเขาจำเป็นต้องมีความสนุกสนานมากขึ้นจากบทเรียนออนไลน์

 

กริยากลุ่มนี้ที่เจอบ่อยๆ จะเกี่ยวข้องกับความรู้สึกนึกคิด ได้แก่

 

choose เลือก

decide ตัดสินใจ

expect คาดหวัง

forget ลืม

hope หวัง

intend ตั้งใจ

learn เรียนรู้

love รัก

mean แปลว่า

plan    วางแผน
prefer ชอบมากกว่า

remember จำ

want ต้องการ

would like/love ชอบที่จะ

 

 

กริยาเกี่ยวกับการพูด

agree   เห็นด้วย
promise สัญญา
refuse  ปฏิเสธ
threaten ปฏิบัติต่อ
advise แนะนำ
ask ถาม
encourage ให้กำลังใจ
order สั่ง
persuade โน้มน้าว
remind เตือน

 

การใช้  Passive form ของ “make, allow”+ to +V. Infinitive

 

She was made to be a millionaire.
เธอถูกสร้างให้เป็นเศรษฐี

Timothy was allowed to go home early today.

วันนี้ทิโมธีได้รับอนุญาตให้กลับบ้านเร็ว

 

โครงสร้าง5: การใช้ dare + (to) ในโครงสร้างประโยคคำถาม และปฏิเสธ

 

ปรกติเราจะไม่ค่อยเจอ dare ในประโยคบอกเล่า
ดังตัวอย่างต่อไปนี้

ตัวอย่างการใช้ “Dare to”

Jenny didn’t dare (to) go back to her ex-boyfriend.

เจนนี่ไม่กล้า(ที่จะ)กลับไปหาแฟนเก่าของเธอ

 

Who would dare (to) go against the law?

ใครจะกล้า (ที่จะ) ขัดต่อกฎหมาย?

 

 

 

Infinitive without to

NokAcademy_Infinitives after verbs (5)

เช่น Causative verbs: Let, Make, Have, Get และ Help

 

จาก 1 ในตัวอย่าง 5 โครงสร้างที่ใช้บ่อย มี make อยู่ด้วย สังเกตเห็นมั้ยเอ่ย เจ้า make นี้ถูกจัดอยู่ในกลุ่ม Causativeหรือ โครงสร้างไวยากรณ์ในรูปแบบคำกริยาที่พูดเพื่อให้ผู้อื่นทำบางสิ่งบางอย่างให้ ในภาษาอังกฤษ

****คำกริยา Let, Make, Have, Get และ Help เรียกว่า Causative Verbs เนื่องจากคำกริยาเหล่านี้ก่อให้เกิดบางสิ่งบางอย่างเกิดขึ้นนั่นเองค่า

 

โครงสร้างและหลักการใช้ Causative Verbs

  • Let

โครงสร้าง Let + someone/something + Infinitive (V.1) + something

หมายถึง ได้รับอนุญาตหรือปล่อย

 

I don’t know if my dad will let me hang out tonight.

ไม่รู้ว่าพ่อจะอนุญาตให้ออกไปเที่ยวมั้ยนะคืนนี้

Will you let me love you?
คุณจะให้ฉันรักคุณไหม

  • Have

โครงสร้าง Have + someone + Infinitive (V.1) + something

หมายถึง โน้มน้าวหรือสั่ง ตามโครงสร้าง Have + something + Past Participle (V.3)

I had my car fixed yesterday.

ฉันให้ (ช่าง) ซ่อมรถเมื่อวานนี้

 

 หรือ ตัวอย่างประโยค ใน Future tense

I will have him check my writing article.

ฉันจะให้เขาตรวจบทความของฉัน

 

  • Make

โครงสร้าง Make + someone + Infinitive (V.1) + something

หมายถึง บังคับ หรือต้องการให้

 

His mom made him study English.

แม่ของเขาให้เขาเรียนภาษาอังกฤษ

The janitor made his career more meaningful.
ภารโรงทำให้อาชีพของเขามีความหมายมากขึ้น

Mike made me wait for almost three hours.
ไมค์ทำให้ฉันรอเกือบสามชั่วโมง

 

  • Get

โครงสร้าง Get + someone + to Infinitive (to V.1)

I will try to get Liza to come home tonight.

ฉันจะพยายามให้ลิซ่ากลับบ้านคืนนี้

 

 

  • Help

โครงสร้าง Help + someone + infinitive (V.1)/to infinitive (to V.1)

หมายถึง ช่วยใครบางคนทำบางสิ่งบางอย่าง

 

Watching a movie helps me relax. หรือ Watching a movie helps me to relax.

การดูหนังสักเรื่องทำให้ผมผ่อนคลาย สองประโยคนี้ความหมายคล้ายๆกัน

 

เป็นอย่างไรกันบ้างคะทุกคน หวังว่านักเรียนที่รักจะเข้าใจหลักการใช้ Infinitives หลังกริยา กันมากขึ้นนะคะ  เทคนิคด้านบนนี้ครูได้สรุปมาให้แล้ว แต่ว่าก็อย่าลืมทบทวนบทเรียนกับวีดีโอด้านล่างเด้อ เพื่อความเป้ะปังของแกรมม่า และความมันส์ แล้วเจอกันจร้า

คลิกปุ่มเพลย์แล้วไปเรียนให้สนุกและได้ความรู้กับทีชเชอร์กรีซกันจร้า

Take care.
ดูแลตัวเองด้วยน๊า

NockAcademy คือโรงเรียนออนไลน์สำหรับเด็ก โดยแอปฯ และเว็บไซต์ นักเรียนสามารถเรียนรู้ผ่านคลิปบทเรียนวิชา คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และภาษาไทย
มากไปกว่านั้น เรายังมีคอร์สเรียนออนไลน์ การสอนพิเศษ การติวนอกสถานที่โดยติวเตอร์ที่แน่นไปด้วยความรู้ อีกด้วย

Add LINE friends for one click to find article. Add LINE friends for one click to find article.
ครูผู้สอน NockAcademy

แค่ 10 นาที ก็เข้าใจได้

สามารถดูคลิปบทเรียนวิชา คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และภาษาไทย ที่มีมากกว่า 2,000+ คลิป และยังสามารถทำแบบทดสอบที่มีมากกว่า 4000+ ข้อ

แนะนำ

แชร์

การใช้ There is และ There are ในประโยคคำถาม

สวัสดีค่ะนักเรียนชั้น ม.2 ที่รักทุกคน วันนี้เราจะไปเรียนรู้เรื่อง “การใช้ There is There are ในประโยคคำถาม ” กันจ้า ถ้าพร้อมแล้วก็ไปลุยกันเลยเด้อ   There is/There are คืออะไร   There is และ There are แปลว่า

ระยะห่างของเส้นตรง

ระยะห่างของเส้นตรง

ระยะห่างของเส้นตรง ระยะห่างของเส้นตรง มีทั้งระยะห่างระหว่างจุดกับเส้นตรง และระหว่างเส้นตรงสองเส้นที่ขนานกัน ซึ่งจากบทความเรื่องเส้นตรง น้องๆพอจะทราบแล้วว่าเส้นตรงสองเส้นที่ขนานกันความชันจะเท่ากัน ในบทความนี้น้องๆจะทราบวิธีการหาระยะห่างของเส้นตรงที่ขนานกันด้วยซึ่งสามารถประยุกต์ใช้ในการหาสมการเส้นตรงได้ด้วย ระยะห่างระหว่างเส้นตรงกับจุด จากรูปจะได้ว่า  โดยที่ A, B และ C เป็นค่าคงที่ และ A, B ไม่เป็นศูนย์พร้อมกัน ตัวอย่าง1  หาระยะห่างระหว่างจุด (1, 5) และเส้นตรง 2x

เสียงวรรณยุกต์ในภาษาไทยมีความสำคัญอย่างไร

  เสียงวรรณยุกต์ในภาษาไทยมีความสำคัญไม่แพ้เสียงพยัญชนะและเสียงวรรณยุกต์เลยค่ะ น้อง ๆ ทราบไหมคะว่าเสียงวรรณยุกต์ในภาษาไทยเรานั้นเป็นเหมือนตัวกำหนดความหมายของคำเลยก็ว่าได้ ทำไมถึงเป็นแบบนั้น วันนี้เรามีคำตอบให้แล้วค่ะ เราไปเรียนรู้เกี่ยวเสียงวรรณยุกต์พร้อมๆ กันเลยค่ะว่าทำไมถึงมีความสำคัญ   เสียงวรรณยุกต์คืออะไร   เสียงวรรณยุกต์ หมายถึง เสียงที่ใช้บอกระดับสูงต่ำของคำ มี 4 รูป 5 เสียง   รูปวรรณยุกต์   รูปวรรณยุกต์มี 4

ฟังก์ชันเอกซ์โพเนนเชียล

ฟังก์ชันเอกซ์โพเนนเชียล

ฟังก์ชันเอกซ์โพเนนเชียล ฟังก์ชันเอกซ์โพเนนเชียล คือ ฟังก์ชันที่เขียนอยู่ในรูป {(x, y) ∈ ×   : y = } โดยที่ a เป็นจำนวนจริงที่มากกว่า 0 และ a ≠ 1 เช่น  , , ซึ่งพูดอีกอย่างก็คือ

Daily Conversation P6

บทสนทนาในชีวิตประจำวันที่ควรรู้

  สวัสดีค่ะนักเรียนป. 6 ที่รักทุกคน เมื่อก่อนการคุยกันผ่านออนไลน์ยังไม่ค่อยเป็นที่นิยมเท่าในปัจจุบันที่เราหลีกเลี่ยงไม่ได้เลยในสถานการณ์ยุคโควิด เป็นเรื่องที่น่าเศร้าเวลาที่เราออกไปไหนไม่ได้ บทสนทนาออนไลน์จึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างมากแต่ไม่ค่อยมีใครพูดถึงสักเท่าไหร่ วันนี้ครูจะพาไปดูบทสนทนาที่อัพเดทแล้วในปัจจุบันรวมทั้งประโยคและวลีที่เราเจอบ่อยในชีวิตประจำวันทั้งชีวิตจริงและบนโลกออนไลน์กันค่ะ ไปลุยกันเลยค่า      การเริ่มบทสนทนากับคนที่เราไม่เคยรู้จักกันมาก่อนเลย     Hi/ Hello/ Is that …? = สวัสดี ที่นั่น ..(เบอร์/ สถานที่)… ใช่ไหม

การนำเสนอข้อมูลและแปลความหมายข้อมูลด้วยแผนภูมิแท่ง

การนำเสนอข้อมูลและแปลความหมายข้อมูลด้วยแผนภูมิแท่ง การนำเสนอข้อมูลและแปลความหมายข้อมูลด้วยแผนภูมิแท่ง คือ การนำเสนอข้อมูลที่ได้มีการเก็บรวบรวมข้อมูลไว้โดยใช้รูปสี่เหลี่ยมมุมฉาก ซึ่งเเต่ละรูปมีความกว้างเท่ากัน เเละใช้ความสูงหรือความยาวเเสดงปริมาณของข้อมูล เเต่จุดเริ่มต้นจะต้องเริ่มในระดับเดียวกันเสมอ อาจอยู่ในเเนวตั้งหรือเเนวนอนก็ได้ การนำเสนอข้อมูลและแปลความหมายข้อมูลด้วยแผนภูมิแท่งเปรียบเทียบ คือ การนำเสนอข้อมูลโดยเปรียบเทียบข้อมูลตั้งเเต่ 2 ชุดขึ้นไปในแผนภูมิเดียวกัน โดยมีเเท่งสี่เหลี่ยมที่เเสดงข้อมูลชนิดเดียวกันอยู่ด้วยกันเป็นชุดๆ เเละมีสีหรือเเรเงาในเเท่งสี่เหลี่ยมต่างกัน เเละระบุไว้บนเเผนภูมิด้วยว่าสีหรือเเรเงานั้น ๆ เป็นข้อมูลของอะไร ตัวอย่างของแผนภูมิเเท่งเปรียบเทียบ ส่วนประกอบของเเผนภูมิแท่ง: 1. ชื่อแผนภูมิ 2. จำนวน 3.

โลโก้ NockAcademy

ทดลองฟรี!

เข้าใจได้ทันที NockAcademy ไลฟ์สดอันดับ 1 

โลโก้ NockAcademy

ทดลองฟรี!

เข้าใจได้ทันที NockAcademy ไลฟ์สดอันดับ 1