โจทย์ปัญหาบวก ลบ ทศนิยม

บทความนี้จะยกตัวอย่างโจทย์ปัญหาการบวกลบทศนิยม เพื่อให้น้องๆได้ทำความเข้าใจและศึกษาการแสดงวิธีคิด หากต้องไปเจอการแก้โจทย์ปัญหาในห้องเรียนจะสามารถนำความรู้จากบทความนี้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์อย่างสูงสุด

สารบัญ

Add LINE friends for one click to find article. Add LINE friends for one click to find article.

ในชีวิตประจำวันนักเรียนมักจะเจอกับโจทย์บวก ลบ ทศนิยมที่ต้องแก้ในชีวิตจริง โดยต้องอาศัยความรู้ทางคณิตศาสตร์ เช่น การซื้อของ การคำนวณระยะทาง รวมไปถึงการชั่งน้ำหนัก เป็นต้น ในบางครั้งตัวเลขที่ได้มักจะออกมาในรูปของทศนิยม ซึ่งก็สอดคล้องกับบทเรียนที่เป็นเรื่องของโจทย์ปัญหาบวกลบทศนิยม บทความนี้จะยกตัวอย่างโจทย์ที่เราอาจจะเจอในชีวิตจริงมาให้น้องๆได้ลองคิดกัน

โจทย์ปัญหาการบวกทศนิยม

ตัวอย่างข้อที่ 1 

บ้านของนารีอยู่ห่างจากโรงเรียนเป็นระยะทาง 24.75 กิโลเมตร นารีเดินไปกลับระหว่างบ้านกับโรงเรียนเป็นระยะทางวันละกี่กิโลเมตร

วิเคราะห์โจทย์ ระยะทางจากบ้านไปโรงเรียน เท่ากับ ระยะทางจากโรงเรียนไปบ้าน ดังนั้นเอาระยะทาง 24.75 กิโลเมตรบวกกันสองครั้ง

ประโยคสัญลักษณ์  24.75+24.75 =________

การบวกทศนิยม

ตัวอย่างข้อที่ 2

แม่ค้าขายผลไม้วันแรกได้ 17.25 กิโลกรัม วันที่ 2 ขายได้ 26.8 กิโลกรัม รวมทั้งสองวันแม่ค้าขายผลไม้ได้เท่าไหร่

วิเคราะห์โจทย์ โจทย์ต้องการทราบน้ำหนักผลไม้รวมกันทั้งสองวัน ดังนั้นให้นำตัวเลขมาบวกกัน

ประโยคสัญลักษณ์ 17.25 + 26.8 =________

โจทย์ทศนิยม

โจทย์ปัญหาการลบทศนิยม

ตัวอย่างข้อที่ 1 

องุ่นถุงหนึ่งหนัก 23.35 กิโลกรัม สตอเบอรี่หนักน้อยกว่าองุ่น 4.9 กิโลกรัม อยากทราบว่าสตอเบอรี่หนักกี่กิโลกรัม

วิเคราะห์โจทย์ โจทย์ต้องการทราบน้ำหนักของสตอเบอรี่ ซึ่งสตอเบอรี่หนักน้อยกว่าองุ่น ดังนั้นนำน้ำหนักขององุ่นหักน้ำหนักที่น้อยกว่าออกก็จะได้เป็นน้ำหนักที่แท้จริงของสตอเบอรี่

ประโยคสัญลักษณ์ 23.35 – 4.9 =________

การลบทศนิยม

ตัวอย่างข้อที่ 2

แม่ซื้อทุเรียนที่ตลาดมีน้ำหนัก 2.75 กิโลกรัม พ่อซื้อส้มโอมีน้ำหนัก 1.8 กิโลกรัม ทุกเรียนที่แม่ซื้อมามีน้ำหนักมากกว่าส้มโอที่พ่อซื้อมากี่กิโลกรัม

วิเคราะห์โจทย์ โจทย์อยากทราบส่วนต่างที่มากกว่าของผลไม้สองชนิดที่ซื้อมา ดังนั้นนำน้ำหนักของผลไม้ 2 ชนิดมาลบกัน

ประโยคสัญลักษณ์ 2.75 – 1.8 =________

ลบทศนิยม

คลิปตัวอย่างเรื่องโจทย์ปัญหาบวกลบทศนิยม

NockAcademy คือโรงเรียนออนไลน์สำหรับเด็ก โดยแอปฯ และเว็บไซต์ นักเรียนสามารถเรียนรู้ผ่านคลิปบทเรียนวิชา คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และภาษาไทย
มากไปกว่านั้น เรายังมีคอร์สเรียนออนไลน์ การสอนพิเศษ การติวนอกสถานที่โดยติวเตอร์ที่แน่นไปด้วยความรู้ อีกด้วย

Add LINE friends for one click to find article. Add LINE friends for one click to find article.
ครูผู้สอน NockAcademy

แค่ 10 นาที ก็เข้าใจได้

สามารถดูคลิปบทเรียนวิชา คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และภาษาไทย ที่มีมากกว่า 2,000+ คลิป และยังสามารถทำแบบทดสอบที่มีมากกว่า 4000+ ข้อ

แนะนำ

แชร์

who what where

Who What Where กับ Verb to be

สวัสดีน้องๆ ม. 2 ทุกๆ คนนะครับ วันนี้เรามาทำความเข้าใจเกี่ยวกับการใช้ Who/What/Where ร่วมกับ Verb to be กันครับ ไปดูกันเลย

verb to be

Verb to be ใน Present Simple Tense

สวัสดีน้องๆ ป. 5 ทุกคนนะครับ วันนี้เราจะมาเรียนรู้เรื่อง Simple Simple อย่าง Verb to be ใน Present Simple Tense กันครับ ถ้าพร้อมแล้วไปดูกันเลย

กลอนบทละคร

กลอนบทละครอ่านอย่างไรให้ถูกต้อง และไพเราะ

บทนำ สวัสดีน้อง ๆ ที่น่ารักทุกคน ยินดีต้อนรับเข้าสู่เนื้อหาการเรียนรู้ภาษาไทยอีกครั้ง สำหรับใครที่กำลังรอคอย  บทเรียนเกี่ยวกับการอ่านบทอาขยานต้องมาทางนี้เลย เพราะว่าเราจะมาเรียนรู้หลักการอ่านอาขยานในประเภทบทละคร ซึ่งแน่นอนว่านอกจากน้อง ๆ จะได้เรียนรู้วิธีการอ่านที่ถูกต้องแล้ว ก็ยังจะได้สนุกไปกับเนื้อเรื่องของบทละครที่เราจะยกมาเป็นตัวอย่างในเนื้อหาวันนี้ด้วย ถ้าหากทุกคนพร้อมแล้วอย่ารอช้า เตรียมตัวไปเข้าสู่บทเรียนกันเลย     บทอาขยาน คืออะไร อาขยาน [อา – ขะ – หยาน] คือ

บทละครพูดเรื่องเห็นแก่ลูก

ศึกษาตัวบทและคุณค่าที่อยู่ใน บทละครพูดเรื่องเห็นแก่ลูก

บทละครพูดเรื่องเห็นแก่ลูก เป็นบทละครพูดเรื่องแรกของไทยที่พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวเป็นผู้ประพันธ์ โดยมุ่งหวังให้ละครเป็นตัวช่วยกล่อมเกลาจิตใจประชาชน แต่นอกจากตัวบทจะมีความโดดเด่นจนได้รับความนิยมอย่างมากแล้ว ยังแฝงแนวคิดมากมายไว้ในเรื่อง จะเป็นอย่างไรบ้างนั้น ไปเรียนรู้เรื่องพร้อม ๆ กันเลยค่ะ   ตัวบทเด่น ๆ ใน บทละครพูดเรื่องเห็นแก่ลูก     ตัวบทที่ 1    พระยาภักดี : ใครวะ อ้ายคำ : อ้างว่าเป็นเกลอเก่าของใต้เท้า

เสียงวรรณยุกต์ในภาษาไทยมีความสำคัญอย่างไร

  เสียงวรรณยุกต์ในภาษาไทยมีความสำคัญไม่แพ้เสียงพยัญชนะและเสียงวรรณยุกต์เลยค่ะ น้อง ๆ ทราบไหมคะว่าเสียงวรรณยุกต์ในภาษาไทยเรานั้นเป็นเหมือนตัวกำหนดความหมายของคำเลยก็ว่าได้ ทำไมถึงเป็นแบบนั้น วันนี้เรามีคำตอบให้แล้วค่ะ เราไปเรียนรู้เกี่ยวเสียงวรรณยุกต์พร้อมๆ กันเลยค่ะว่าทำไมถึงมีความสำคัญ   เสียงวรรณยุกต์คืออะไร   เสียงวรรณยุกต์ หมายถึง เสียงที่ใช้บอกระดับสูงต่ำของคำ มี 4 รูป 5 เสียง   รูปวรรณยุกต์   รูปวรรณยุกต์มี 4

แบบฝึกหัดการให้เหตุผล

แบบฝึกหัดการให้เหตุผล

แบบฝึกหัดการให้เหตุผล   แบบฝึกหัดการให้เหตุผล ประกอบไปด้วยการให้เหตุผลแบบอุปนัยและการให้เหตุผลแบบนิรนัย ซึ่งแบบฝึกหัดนี้จะช่วยให้น้องๆได้ฝึกฝนการทำโจทย์จนน้องๆเชี่ยวชาญและส่งผลให้น้องๆทำข้อสอบได้แบบไม่ผิดพลาด ถ้าเรารู้เฉยๆเราอาจจะทำข้อสอบได้แต่การที่เราฝึกทำโจทย์ด้วยจะทำให้เราทำข้อสอบได้แน่นอนค่ะ แบบฝึกหัดเพิ่มเติมและข้อสอบ O-Net ตัวอย่างต่อไปนี้เป็นข้อสอบ O-Net ของปีก่อนๆ   1.) พิจารณาการอ้างเหตุผลต่อไปนี้ ก. เหตุ 1. ถ้าฝนไม่ตกแล้วเดชาไปโรงเรียน   2. ฝนตก      ผล   

โลโก้ NockAcademy

ทดลองฟรี!

เข้าใจได้ทันที NockAcademy ไลฟ์สดอันดับ 1 

โลโก้ NockAcademy

ทดลองฟรี!

เข้าใจได้ทันที NockAcademy ไลฟ์สดอันดับ 1