Past Perfect Continuous Tense แบบเข้าใจแจ่มแจ้ง

สวัสดีน้องๆ ม.​ 6 ทุกคนนะครับ วันนี้เราจะมาทำทบทวนเกี่ยวกับ Past Perfect Continuous กันครับ ถ้าพร้อมแล้วเราไปเริ่มกันเลย
Past Perfect Continuous

สารบัญ

Add LINE friends for one click to find article. Add LINE friends for one click to find article.

Past Perfect Continuous

Past Perfect Continuous Tense หรือน้องๆ อาจจะเคยเห็นอีกชื่อหนึ่งของมันนั่นคือ Past Perfect Progressive ครับ เป็นประเภทหนึ่งของ Tense ในภาษาอังกฤษครับ ใช้ในการบอกเหตุการณ์ที่กำลังทำในอดีต (คล้ายๆ Past Continuous) แต่เน้นความต่อเนื่องในการทำและจบลงในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่งในอดีตนั่นเองครับ โดยมีโครงสร้างดังนี้

Past Perfect Continuous

 

สำหรับ Past Perfect Continuous นั่นจะไม่เหมือนกับ Present Perfect Cont. ที่ว่า หากเป็น Present Perfect Cont. นั้นเหตุการณ์เกิดขึ้นในอดีตก็จริง แต่การกระทำนั้นยังคงทำต่อเนื่องอยู่จนถึงปัจจุบัน ในขณะที่ Past Perfect Progressive. นั้นเหตุการณ์เกิดขึ้นในอดีต มีการกระทำต่อเนื่องและจบลงไปแล้วในอดีตนั่นเอง

Timeline

 

ตัวอย่าง & ข้อสังเกต

เทคนิคง่ายๆ ในการจำและสังเกต Past Perfect Progressive นั่นก็คือ “มันจะไม่มาคนเดียว” ครับ โดย Tense นี้นั้นมักจะมาคู่กันกับ Past Simple เพื่อแสดงให้เห็นว่า “มีการกำลังกระทำอะไรบางอย่างอยู่ จากนั้นก็เกิดเหตุการณ์อื่นเข้ามาแทรก” ดังตัวอย่างต่อไปนี้

 

Jane had been drinking milk when dad walked into the kitchen.

(ขณะที่เจนกำลังดื่มนมอยู่นั้นพ่อก็เดินเข้ามาในห้องครัว)

ประโยคนี้ต้องการเน้นให้เห็นว่าเจนดื่มนมมาได้ระยะเวลาหนึ่งแล้วครับก่อนที่พ่อจะเดินเข้ามา

He had been working at the company for 4 years when he got the promotion.

(เขาทำงานที่บริษัทนี่มาเป็นเวลา 4 ปีแล้วก่อนที่จะถูกเลื่อนขั้น)

เช่นกันครับ ประโยคนี้ต้องการแสดงให้เห็นถึงการกระทำที่ต่อเนื่องในอดีต(ทำงานต่อเนื่องมาเรื่อยๆ)ก่อนที่จะได้รับการเลื่อนขั้นนั่นเองครับ

Example

 

ข้อสังเกต

  • Past Perfect Progressive และ Past Simple จะมาคู่กัน
  • Past Perfect Progressive จะเกิดก่อน Past Simple เสมอ โดยที่ Past Simple จะเข้ามาแทรกสิ่งที่กำลังทำอยู่
  • มักจะมีคำว่า when, for, since และ before เชื่อมระหว่าง 2 Tense นี้เสมอ

 

เป็นอย่างไรกันบ้างครับน้องๆ สำหรับ Past Perfect Progressive ไม่ได้ยากเกินความสามารถน้องม. 5 เลยใช่มั้ยครับ หากน้องๆ ยังไม่เข้าใจหรืออยากทบทวนเพิ่มเติมสามารถรับชมวิดีโอจากช่อง Nock Academy ด้านล่างนี้ได้เลยครับ

NockAcademy คือโรงเรียนออนไลน์สำหรับเด็ก โดยแอปฯ และเว็บไซต์ นักเรียนสามารถเรียนรู้ผ่านคลิปบทเรียนวิชา คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และภาษาไทย
มากไปกว่านั้น เรายังมีคอร์สเรียนออนไลน์ การสอนพิเศษ การติวนอกสถานที่โดยติวเตอร์ที่แน่นไปด้วยความรู้ อีกด้วย

Add LINE friends for one click to find article. Add LINE friends for one click to find article.
ครูผู้สอน NockAcademy

แค่ 10 นาที ก็เข้าใจได้

สามารถดูคลิปบทเรียนวิชา คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และภาษาไทย ที่มีมากกว่า 2,000+ คลิป และยังสามารถทำแบบทดสอบที่มีมากกว่า 4000+ ข้อ

แนะนำ

แชร์

โจทย์ปัญหาแผนภูมิรูปวงกลม

ในบทความนี้เราจะได้เรียนรู้หลักการแก้โจทย์ปัญหาแผนภูมิรูปวงกลมที่จะนำไปใช้ได้ในชีวิตประจำวนและสามารถเข้าใจได้ง่าย

ส่วนต่างๆ ของวงกลม

ส่วนต่างๆ ของวงกลม ก่อนที่เราจะมารู้จักส่วนต่างๆ ของวงกลม เรามาเริ่มรู้จักวงกลมกันก่อน จากคำนิยามของวงกลมที่กล่าวว่า “วงกลมเกิดจากชุดของจุดที่มาเรียงต่อกันบนระนาบเดียวกัน โดยทุกจุดอยู่ห่างจากจุดจุดหนึ่งซึ่งเป็นจุดคงที่ในระยะทางที่เท่ากันทุกจุด”   โดยเรียกจุดคงที่นี้ว่า จุดศูนย์กลางของวงกลม เรียกระยะทางที่เท่ากันนี้ว่า รัศมีของวงกลม       วงกลม คือ รูปทรงเรขาคณิตที่มีสองมิติเเละจะมีมุมภายในของวงกลมที่มีขนาด 360 องศา โดยทั่วไปในชีวิตประจำวัน เราจะเห็นสิ่งที่มีลักษณะเป็นวงกลมอยู่รอบ ๆ ตัวเราอยู่เยอะเเยะมากมาย

ความรู้เกี่ยวกับ การสื่อสาร มีอะไรบ้างที่เราควรรู้?

ความรู้เกี่ยวกับการสื่อสาร เป็นเรื่องที่สำคัญอย่างมากในปัจจุบัน แม้ว่าเราจะสื่อสารกับผู้คนอยู่แล้วทุกวัน แต่จะทำอย่างไรให้ตนเองสามารถสื่อสารได้อย่างถูกต้อง มีเรื่องไหนที่ควรรู้และควรระวัง บทเรียนภาษาไทยในวันนี้จะพาน้อง ๆ ไปเรียนรู้เรื่องการสื่อสารให้ดียิ่งขึ้นไปอีก ถ้าอยากรู้แล้วว่าจะเป็นอย่างไรก็ไปดูกันเลยค่ะ   การสื่อสาร คืออะไร?   เป็นกระบวนการถ่ายทอดหรือแลกเปลี่ยนความคิด ข้อมูล ข้อเท็จจริง ความรู้ ความรู้สึก จากบุคคลหนึ่งไปยังอีกบุคคลหนึ่ง ให้มีความเข้าใจตรงกัน     การสื่อสารสำคัญอย่างมากตั้งแต่ในชีวิตประจำวันไปจนถึงอุตสาหกรรม การปกครอง การเมืองและเศรษฐกิจ

M2 V. to be + ร่วมกับ Who WhatWhere + -Like + infinitive

การใช้ V. to be ร่วมกับ Who/ What/Where และ Like +V. infinitive

สวัสดีค่ะนักเรียนชั้นม.2 ทุกคน วันนี้เราจะไปเรียนรู้เรื่อง การใช้ V. to be + ร่วมกับ Who/ What/Where + -Like + infinitive ซึ่งเป็นโครงสร้างที่สับสนบ่อย แต่ที่จริงแล้วง่ายมากๆ ไปลุยกันเลยจ้า Let’s go ความหมาย    Verb to be

ฟังก์ชันและกราฟของฟังก์ชัน

ฟังก์ชันและกราฟของฟังก์ชัน ฟังก์ชันและกราฟของฟังก์ชัน มีความเกี่ยวข้องกันเนื่องจากฟังก์ชันที่เราเขียนในรูป y = f(x) สามารถนำไปเขียนกราฟในระบบพิกัดฉากได้ ซึ่งกราฟในระบบพิกัดฉากก็คือ กราฟที่ประกอบไปด้วยแกน x และ แกน y   ก่อนที่เราจะเริ่มบทเรียนของฟังก์ชัน อยากให้น้องๆได้ศึกษารูปต่อไปนี้ก่อนนะคะ จากรูป คือการส่งสมาชิกในเซต A ไปยังสมาชิกในเซต B เซต A จะถูกเรียกว่า โดเมน

ฟังก์ชันเพิ่มและฟังก์ชันลด

ฟังก์ชันเพิ่มและฟังก์ชันลด ฟังก์ชันเพิ่มและฟังก์ชันลด สามารถตรวจสอบได้จากกราฟและนิยาม สมการหนึ่งสมการอาจจะเป็นทั้งฟังก์ชันเพิ่มและฟังก์ชันลดขึ้นอยู่กับรูปแบบของกราฟและสมการ บทนิยาม ให้ f เป็นฟังก์ชันที่ส่งจากโดเมนของฟังก์ชันไปยังจำนวนจริง โดยที่ A เป็นสับเซตของจำนวนจริง และ A เป็นสับเซตของโดเมน จะบอกว่า  f เป็นฟังก์ชันเพิ่มบนเซตเซต A ก็ต่อเมื่อ สำหรับ และ ใดๆใน A ถ้า  < 

โลโก้ NockAcademy

ทดลองฟรี!

เข้าใจได้ทันที NockAcademy ไลฟ์สดอันดับ 1 

โลโก้ NockAcademy

ทดลองฟรี!

เข้าใจได้ทันที NockAcademy ไลฟ์สดอันดับ 1