Third Conditional Sentences ประโยคเงื่อนไขแบบที่ 3 ในภาษาอังกฤษ

สวัสดีน้องๆ ม.5 ทุกคนนะครับ วันนี้เราจะมาเรียนรู้เกี่ยวกับ Conditional Sentence รูปแบบที่ 3 กันครับ ถ้าพร้อมแล้วไปเริ่มกันเลยครับ

สารบัญ

Add LINE friends for one click to find article. Add LINE friends for one click to find article.

Third Conditional Sentences คืออะไร?

พี่คิดว่าน้องๆ คงจะเคยได้เรียนประโยคเงื่อนไงรูปแบบต่างๆ กันมาอยู่บ้างแล้วใช่มั้ยครับ? ซึ่งหัวข้อวันนี้เป็นรูปแบบสุดท้ายของโครงสร้างประโยคเงื่อนไข เราจะใช้ Third Conditional Sentences ในการพูดถึงสิ่งที่ตรงข้ามกับความจริงในอดีต หรือง่ายๆ เลยมักจะใช้กับสิ่งที่เรา “เสียดาย” หรือเป็นอารมณ์ประมาณว่า “รู้อย่างนี้ฉันน่าจะ…” ลองมาดูตัวอย่างประโยคที่ใช้โครงสร้างแบบนี้กันครับ

 

If I had studied harder, I would have passed the exam.
ถ้าฉันตั้งใจเรียนให้มากกว่านี้ ฉันก็คงจะสอบผ่าน

 

ประโยคตัวอย่างดังกล่าวแสดงให้เห็นถึง “อดีตที่ตรงข้ามกับความจริงขณะที่พูด” ซึ่งก็คือในอดีตนั้น “ฉันไม่ตั้งใจเรียน” และ “ฉันสอบไม่ผ่าน” ประโยคเงื่อนไขแบบนี้จึงถูกใช้เพื่อแสดงความ “เสียดาย” หรือ “รู้อย่างนี้ฉันน่าจะตั้งใจเรียน” นั่นเองครับ

 

โครงสร้างของประโยค

จากตัวอย่างด้านบน เราสามารถเขียนโครงสร้างของประโยคเงื่อนไขรูปแบบที่ 3 ได้ดังนี้ครับ

third conditional sentences

 

ข้อควรจำ

  1. เราสามารถสลับที่ประโยคที่อยู่หลังคอมม่าขึ้นมาไว้ข้างหน้าได้ โดยไม่จำเป็นต้องมีคอมม่าอีก และยังให้ความหมายเหมือนเดิม เช่น

If I had studied harder, I would have passed the exam.
สามารถเปลี่ยนเป็น
I would have passed the exam if I had studied harder.

 

ตัวอย่างการใช้

 

If I had left my house at 9, I would have arrived here on time.
ถ้าฉันออกจากบ้านตั้งแต่ 9 โมง ฉันก็คงมาถึงที่นี้ตรงเวลา

(ความจริงคือ ฉันออกจากบ้านสาย และฉันมาถึงสาย)

She wouldn’t have missed the flight if she had taken a taxi to the airport.
เธอคงจะไม่พลาดเที่ยวบิน ถ้าเธอนั่งรถแท็กซี่มาสนามบิน

(ความจริงคือ เธอพลาดเที่ยวบิน เพราะเธอไม่ได้นั่งแท็กซี่มาที่สนามบิน)

They would have had 2 children if they had married.
พวกเขาคงจะมีลูก 2 คนแล้วถ้าพวกเขาแต่งงานกัน

(ความจริงคือ พวกเขาไม่ได้แต่งงานกัน และไม่มีลูก)

example

 

เป็นยังไงกันบ้างครับน้องๆ สำหรับเรื่อง Third Conditional Sentences ไม่ยากอย่างที่คิดเลยใช่มั้ยล่ะครับ? หลังจากนี้น้องๆ อย่าลืมทบทวนกันด้วยนะครับ หรือจะรับชมวิดีโอจาก Nock Academy ของเราเพื่อเป็นการทบทวนอีกครั้งนึงก็ได้ครับ

NockAcademy คือโรงเรียนออนไลน์สำหรับเด็ก โดยแอปฯ และเว็บไซต์ นักเรียนสามารถเรียนรู้ผ่านคลิปบทเรียนวิชา คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และภาษาไทย
มากไปกว่านั้น เรายังมีคอร์สเรียนออนไลน์ การสอนพิเศษ การติวนอกสถานที่โดยติวเตอร์ที่แน่นไปด้วยความรู้ อีกด้วย

Add LINE friends for one click to find article. Add LINE friends for one click to find article.
ครูผู้สอน NockAcademy

แค่ 10 นาที ก็เข้าใจได้

สามารถดูคลิปบทเรียนวิชา คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และภาษาไทย ที่มีมากกว่า 2,000+ คลิป และยังสามารถทำแบบทดสอบที่มีมากกว่า 4000+ ข้อ

แนะนำ

แชร์

การนำเสนอข้อมูลและแปลความหมายข้อมูลด้วยแผนภูมิแท่ง

การนำเสนอข้อมูลและแปลความหมายข้อมูลด้วยแผนภูมิแท่ง การนำเสนอข้อมูลและแปลความหมายข้อมูลด้วยแผนภูมิแท่ง คือ การนำเสนอข้อมูลที่ได้มีการเก็บรวบรวมข้อมูลไว้โดยใช้รูปสี่เหลี่ยมมุมฉาก ซึ่งเเต่ละรูปมีความกว้างเท่ากัน เเละใช้ความสูงหรือความยาวเเสดงปริมาณของข้อมูล เเต่จุดเริ่มต้นจะต้องเริ่มในระดับเดียวกันเสมอ อาจอยู่ในเเนวตั้งหรือเเนวนอนก็ได้ การนำเสนอข้อมูลและแปลความหมายข้อมูลด้วยแผนภูมิแท่งเปรียบเทียบ คือ การนำเสนอข้อมูลโดยเปรียบเทียบข้อมูลตั้งเเต่ 2 ชุดขึ้นไปในแผนภูมิเดียวกัน โดยมีเเท่งสี่เหลี่ยมที่เเสดงข้อมูลชนิดเดียวกันอยู่ด้วยกันเป็นชุดๆ เเละมีสีหรือเเรเงาในเเท่งสี่เหลี่ยมต่างกัน เเละระบุไว้บนเเผนภูมิด้วยว่าสีหรือเเรเงานั้น ๆ เป็นข้อมูลของอะไร ตัวอย่างของแผนภูมิเเท่งเปรียบเทียบ ส่วนประกอบของเเผนภูมิแท่ง: 1. ชื่อแผนภูมิ 2. จำนวน 3.

วิชชุมมาลาฉันท์

เรียนรู้การแต่ง วิชชุมมาลาฉันท์ 8 ฉันท์ที่เปล่งสำเนียงยาวดุจสายฟ้า

ฉันท์ คือ ลักษณะถ้อยคำที่กวีได้ประพันธ์ขึ้นเพื่อให้เกิดความไพเราะ โดยกำหนดครุ ลหุ และสัมผัสไว้เป็นมาตรฐาน มีด้วยกันมากมายหลายชนิด จากที่บทเรียนครั้งก่อนเราได้เรียนรู้เกี่ยวกับที่มาและพื้นฐานการแต่งฉันท์ไปแล้ว บทเรียนในวันนี้เราจะมาเจาะลึกให้ลึกขึ้นไปอีกด้วยการฝึกแต่ง วิชชุมมาลาฉันท์ 8 กันค่ะ ฉันท์ประเภทนี้จะเป็นอย่างไร ทำไมถึงเป็น 8  ถ้าพร้อมแล้วเราไปเรียนรู้พร้อมกันเลยค่ะ   คำประพันธ์ประเภท ฉันท์   ฉันท์ในภาษาไทยได้แบบแผนมาจากอินเดีย ในสมัยพระเวท แต่ลักษณะฉันท์ในสมัยพระเวทไม่เคร่งครัดเรื่องครุ ลหุ นอกจากจะบังคับเรื่องจำนวนคำในแต่ละบท

Passive voice + Active Voice

การใช้ Passive Voice และ Active Voice ในรูปปัจจุบัน 

สวัสดีค่ะนักเรียนชั้นม.1 ที่น่ารักทุกคน วันนี้เราจะไปดูการใช้ Passive Voice และ Active Voice ในรูปปัจจุบัน กัน ถ้าพร้อมแล้วก็ไปลุยกันโลดเด้อ   ความแตกต่างของ Passive Voice VS Active Voice       Passive Voice คือประโยคที่เน้นกรรม เน้นว่าใครถูกทำ  Active

like_dislike + การเขียนข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง

การเขียนบรรยายความรู้สึกของตนเอง like/dislike + การเขียนข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง

สวัสดีค่ะนักเรียนชั้นป.5 ที่น่ารักทุกคน วันนี้เราจะไปเรียนรู้เรื่อง การเขียนบรรยายความรู้สึกของตนเอง like/dislike + การเขียนข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง หากพร้อมแล้วก็ไปลุยกันโลดเด้อ Let’s go! ถาม-ตอบก่อนเรียน หากมีคนถามว่า What do you like doing? หรือ What do you dislike doing? (คุณชอบหรือไม่ชอบทำอะไร) นักเรียนสามารถแต่งประโยคเพื่อตอบคำถาม

บวกเศษส่วนและจำนวนคละให้ถูกต้องตามหลักการ

การบวกคือพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ที่ต้องเจอมาตั้งแต่ระดับอนุบาล แต่นั่นคือการบวกจำนวนเต็มโดยหลักการคือการนับรวมกัน แต่การบวกเศษส่วนและจำนวนคละนั้นเราไม่สามารถนับได้เพราะเศษส่วนไม่ใช่จำนวนนับ บทความนี้จึงจะพาน้อง ๆมาทำความเข้าใจกับหลักการบวกเศษส่วนและจำนวนคละ อ่านบทความนี้จบรับรองว่าน้อง ๆจะเข้าใจและสามารถบวกเศษส่วนจำนวนคละได้เหมือนกับที่เราสามารถหาคำตอบของ 1+1 ได้เลยทีเดียว

เปรียบเทียบเศษส่วนและจำนวนคละฉบับเข้าใจง่ายและเห็นภาพ

บทความนี้จะพาน้องๆ มาทำความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องการเปรียบเทียบเศษส่วนและจำนวนคละ  เนื่องจากหลักการที่ใช้ในการเปรียบเทียบเศษส่วนนี้จะนำไปต่อยอดกับเรื่องต่อไปเช่นเรื่องการบวกและการลบเศษส่วน หลังจากอ่านบทความนี้จบสิ่งที่จะได้รับก็คือ หลักการเปรียบเทียบเศษส่วน วิธีเปรียบเทียบที่เห็นภาพและเข้าใจง่ายร่วมถึงเทคนิคที่จะช่วยให้น้อง ๆ สามารถเปรียบเทียบเศษส่วนได้เร็วยิ่งขึ้น

โลโก้ NockAcademy

ทดลองฟรี!

เข้าใจได้ทันที NockAcademy ไลฟ์สดอันดับ 1 

โลโก้ NockAcademy

ทดลองฟรี!

เข้าใจได้ทันที NockAcademy ไลฟ์สดอันดับ 1