การใช้ There is/There are ทั้งประโยคบอกเล่า/คำถาม/ปฏิเสธ

ม.1 There is_There are ทั้งประโยคบอกเล่า_ คำถาม_ปฏิเสธ

สารบัญ

Add LINE friends for one click to find article. Add LINE friends for one click to find article.

สวัสดีค่ะนักเรียนชั้น ม.1 ที่รักทุกคน วันนี้เราจะไปเรียนรู้ “การใช้ There is/There are ทั้งประโยคบอกเล่า/คำถาม/ปฏิเสธ” กันจ้า ถ้าพร้อมแล้วก็ไปลุยกันเลยเด้อ

ตารางแสดงความแตกต่างของ  There is/There are และ  Have/Has

ม.1 There is_There are ทั้งประโยคบอกเล่า_ คำถาม_ปฏิเสธ (3)

นักเรียนลองสังเกตดูความแตกต่างของการใช้ There is/There are กับ Have/has จากตารางด้านล่าง ดูนะคะ

There is VS There are Have/has
There is a cat in my house.
มีแมวอยู่ในบ้านของฉัน
I have a good friend.

ฉันมีเพื่อนที่ดี

There are sellers at the market.
มีผู้ขายอยู่ที่ตลาด
A teacher has books.

ครูมีหนังสือ

Is there water left in the jar?

มีน้ำเหลืออยู่ในโถหรือเปล่า

She has a beautiful house.

เธอมีบ้านที่สวยงาม

 

Are there monks at the temple?
มีพระที่วัดหรือเปล่า
He has a racing car.
เขามีรถแข่ง

จากตารางด้านบนนักเรียนจะเห็นถึงความแตกต่างว่า การใช้ There is และ There are นั้นจะบอกถึง การมีอยู่ ส่วนการใช้ Have/has นั้นจะบอกถึงการเป็นเจ้าของ ซึ่งรูปประโยคก็จะเปลี่ยนไปขึ้นอยู่กับประธานและ Tense นั่นเองจ้า

 

 

There is/There are คืออะไร

 

 

There is และ There are แปลว่า “มี” “มีสิ่งใดดำรงอยู่” หรือ “มีสิ่งใดเกิดขึ้น” ซึ่งจะต่างจาก Have/has ที่แปลว่า มี ในลักษณะแสดงความเป็นเจ้าของ

 

 

ประโยคบอกเล่า

 

ม.1 There isThere are ทั้งประโยคบอกเล่า คำถามปฏิเสธ

 

สำหรับคำนามนับไม่ได้ ซึ่งไม่มีรูปพหูพจน์ เราจะต้องใช้ there is เท่านั้น

There is/are ใช้กับ ตัวอย่างประโยค
There is คำนามนับได้ เอกพจน์ There is one shirt in the closet.

มีเสื้อตัวหนึ่งอยู่ในตู้

There is a tomato on the table.
มีมะเขือเทศอยู่บนโต๊ะ

There is an ant in the garden.

มีมดอยู่ในสวน

คำนามนับไม่ได้ There is sugar in the kitchen.

มีน้ำตาลในครัว

There is oil in the kitchen.
มีน้ำมันในครัว

There is juice on the table.
มีน้ำผลไม้อยู่บนโต๊ะ

There are คำนามนับได้ พหูพจน์ There are students at school.

มีนักเรียนที่โรงเรียน

There are many people at the coffee shop.

ร้านกาแฟมีคนเยอะมาก

There are many flowers in the garden.
มีดอกไม้ในสวนเยอะมาก

 

ประโยคปฏิเสธ

 

ม.1 There is_There are ทั้งประโยคบอกเล่า_ คำถาม_ปฏิเสธ (6)

 

การใช้ there is และ there are ในประโยคปฏิเสธ หลักๆแล้วเราสามารถใช้ได้ 2 แบบ คือ

 

  • ประโยคที่เราสามารถใช้ not หลัง there is และ there are เลย
    ตัวอย่างเช่น

 

เราสามารถใช้ there is not (เขียนย่อเป็น there isn’t) และ there are not
(เขียนย่อเป็น there aren’t) เพื่อสื่อว่า “ไม่ได้มีสิ่งใดอยู่”

 

โครงสร้าง:
“There isn’t/aren’t + ปริมาณ + คำนามนับได้”
เพื่อบอกว่าไม่ได้มีสิ่งนั้นในปริมาณเท่านั้น แต่มีมากหรือน้อยกว่า

  • isn’t ย่อมาจาก is not + นามนับได้เอกพจน์ เช่น a rat, a cat, a car, an ant, an apple
  • aren’t ย่อมาจาก are not + นามนับได้พหูพจน์ rats, cats, cars, flowers, houses, buildings

 

ประโยคA)

There isn’t one cat behind that fence.

ไม่มีแมวตัวหนึ่งอยู่หลังรั้วนั้น (อาจจะมีแมวมากกว่าหนึ่งตัวก็ได้)

ประโยค B)

There aren’t cats in that house.
บ้านนั้นไม่มีแมว

 

  • โครงสร้าง “There isn’t any + คำนามนับไม่ได้” หากต้องการบอกว่า ไม่มีสิ่งนั้นอยู่เลย ดังในตัวอย่างประโยคด้านล่าง

 

There isn’t any money left.
ไม่มีเงินเหลือแล้ว

 

  • ใช้โครงสร้าง “There aren’t any + คำนามนับได้พหูพจน์” เพื่อบอกว่าไม่มีสิ่งนั้นอยู่เลย
    ดังในตัวอย่างประโยคด้านล่าง

There aren’t any people at his funeral.
ไม่มีคนที่งานศพของเขา

 

 

  • นักเรียนสามารถบอกว่าไม่ได้มีสิ่งใด หรือ ใคร อยู่ ในโครงสร้าง “There is no + คำนามนับได้เอกพจน์”
    ดังตัวอย่างประโยค 

There is no one in the toilet.
ไม่มีใครอยู่ในห้องน้ำ

 

  • ใช้โครงสร้าง “There is no + คำนามนับไม่ได้” แปลว่า ไม่มี…+ คำนามนั้นๆ
    ดังตัวอย่างประโยค

There is no juice in the refrigerator this week.
สัปดาห์นี้ไม่มีน้ำผลไม้ในตู้เย็น

 

  • ใช้โครงสร้าง “There are no + คำนามนับได้พหูพจน์” แปลว่า ไม่มี…+ คำนามนั้นๆ
    ดังตัวอย่างประโยค

There are no cows in the rice field.
ไม่มีวัวในนาข้าว

 

ประโยคคำถาม

 

ม.1 There is_There are ทั้งประโยคบอกเล่า_ คำถาม_ปฏิเสธ (7)

หลักๆแล้วเราจะใช้ there is และ there are ในประโยคคำถาม 2 แบบ คือ

 

  • มีหรือไม่

ในการถามว่ามีสิ่งใดหรือไม่ เราจะใช้ Is there… และ Are there… โดยโครงสร้างที่ใช้หลักๆแล้วจะมี

 

โครงสร้าง “Is there + a/an + คำนามนับได้เอกพจน์”
ตัวอย่างเช่น

 

Is there a book in your school bag?

มีหนังสือในกระเป๋านักเรียนของคุณหรือเปล่า

 

 

โครงสร้าง “Is there + any + คำนามนับไม่ได้”
ตัวอย่างเช่น

 

Is there any sugar in the kitchen?
มีน้ำตาลในครัวหรือเปล่า

 

และ “Are there + any + คำนามนับได้พหูพจน์”
ตัวอย่างเช่น

 

Are there any cars to rent?
มีรถให้เช่าบ้างไหม

สรุปโครงสร้างการตอบ

Is there…?

Is there…?

Are there…?

Are there…?

Yes, there is. 

No, there isn’t.
Yes, there are.

No, there aren’t.

 

แบบฝึกหัด

 

ม.1 There is_There are ทั้งประโยคบอกเล่า_ คำถาม_ปฏิเสธ (8)

 

คำสั่ง: จงเติมคำในช่องว่าง
(นักเรียนสามารถพิมพ์คำตอบได้ที่ใต้โพสต์ด้านล่างเลยนะคะ)

  1.  __________________any mistakes in this text?
  2. _________________ one question left.
  3. ___________________ no snails in my garden.
  4. ___________________ nobody in.
  5.  _____________________nothing to do?
  6.  ________________________seven days in a week?
  7.  ____________________a lot of tea in the kitchen.

เป็นยังไงกันบ้างคะนักเรียน พอจะเข้าใจไวยากรณ์เรื่อง “การใช้ There is/There are ทั้งประโยคบอกเล่า/คำถาม/ปฏิเสธ” กันมากขึ้นมั้ยคะ
อย่าลืมดูคลิปวีดีโอเพื่อเป็นการทบทวนบทเรียนเพิ่มเติมได้ที่ด้านล่างเลยนะคะ สนุกมากๆเลย

คลิกปุ่มเพลย์ แล้วไปเรียนให้สนุกกับทีเชอร์กรีซได้เลยจ้า 

Have a good day!

NockAcademy คือโรงเรียนออนไลน์สำหรับเด็ก โดยแอปฯ และเว็บไซต์ นักเรียนสามารถเรียนรู้ผ่านคลิปบทเรียนวิชา คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และภาษาไทย
มากไปกว่านั้น เรายังมีคอร์สเรียนออนไลน์ การสอนพิเศษ การติวนอกสถานที่โดยติวเตอร์ที่แน่นไปด้วยความรู้ อีกด้วย

Add LINE friends for one click to find article. Add LINE friends for one click to find article.
ครูผู้สอน NockAcademy

แค่ 10 นาที ก็เข้าใจได้

สามารถดูคลิปบทเรียนวิชา คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และภาษาไทย ที่มีมากกว่า 2,000+ คลิป และยังสามารถทำแบบทดสอบที่มีมากกว่า 4000+ ข้อ

แนะนำ

แชร์

สามัคคีเภทคำฉันท์

สามัคคีเภทคำฉันท์ วรรณคดีขนาดสั้นที่ว่าด้วยความสามัคคี

สามัคคีเภทคำฉันท์ เป็นนิทานสุภาษิตขนาดสั้นว่าด้วยเรื่องความสามัคคี เป็นอีกหนึ่งวรรณคดีที่ได้รับการยกย่องว่าแต่งดี ทั้งด้านการประพันธ์และเนื้อหา เหตุใดจึงเป็นเช่นนั้น บทเรียนในวันนี้จะพาน้อง ๆ ทุกคนไปทำความรู้จักกับวรรณคดีเรื่องดังกล่าวเพื่อศึกษาที่มา จุดประสงค์ รวมไปถึงเรื่องย่อ ถ้าพร้อมแล้วไปดูกันเลยค่ะ   ที่มาของเรื่องและจุดประสงค์ในการแต่ง   สามัคคีเภทคำฉันท์ ดำเนินเรื่องโดยอิงประวัติศาสตร์ครั้งพุทธกาล เป็นนิทานสุภาษิตในมหาปรินิพพานสูตรและอรรถกถาสุมังคลวิลาสินี     ในสมัยรัชกาลที่ 6 เกิดวิกฤตการณ์ทั้งภายในและภายนอกประเทศ เช่น เกิดสงครามโลกครั้งที่ 1

สถิติ (เส้นโค้งความถี่)

บทความนี้ได้รวบรวมความรู้เรื่อง สถิติ (เส้นโค้งความถี่)  ซึ่งก่อนที่จะเรียนเรื่องนี้ น้องๆจะต้องมีความรู้ในเรื่อง    ค่ากลางของข้อมูล และการวัดการกระจายของข้อมูล สามารถศึกษาเพิ่มเติมได้ที่  ⇒⇒ สถิติ (ค่ากลางของข้อมูล/การกระจายของข้อมูล) ⇐⇐ เส้นโค้งของความถี่ จะมีอยู่ 3 แบบ คือ เส้นโค้งปกติ เส้นโค้งเบ้ขวา และเส้นโค้งเบ้ซ้าย ซึ่งจะมีความสัมพันธ์กับค่ากลางของข้อมูล  ได้แก่ ค่าเฉลี่ยเลขคณิต (μ)   มัธยฐาน (Med) และฐานนิยม

ภาษาชวา มลายู ในภาษาไทย มีลักษณะอย่างไร?

น้อง ๆ สงสัยกันไหมคะว่าในภาษาที่เราใช้พูดและใช้เขียนกันอยู่นี้ มีคำไหนบ้างที่ถูกหยิบยืมมาจากต่างประเทศ บทเรียนภาษาไทยในวันนี้จะพาน้อง ๆ ไปทำความรู้จักและศึกษาลงลึกถึงภาษาชวาและมลายู เป็นอีกหนึ่งภาษาที่เข้ามามีอิทธิพลกับภาษาไทยมาตั้งแต่สมัยอดีต ถ้าพร้อมแล้วเราไปเรียนรู้เรื่องนี้ด้วยกันเลยค่ะ   ความเป็นมาของการยืมคำจากภาษาชวา มลายู     ทางตอนใต้ของประเทศไทยติดต่อกับประเทศมาเลเซีย จึงทำให้มีการติดต่อค้าขายสานสัมพันธ์ไมตรีกันมาตั้งแต่สมัยอดีต โดยเดิมทีชาวชวาและชาวมลายูเคยใช้ภาษามลายูร่วมกัน ต่อว่าชาวชวามีภาษาเป็นของชนชาติตัวเอง แต่ก็ยังมีบางคำที่คล้ายคลึงกับภาษามลายูอยู่ 1. คำยืมภาษาชวา เพราะอิทธิพลของวรรณคดีสมัยอยุธยาตอนปลายเรื่องดาหลังและอิเหนา วรรณคดีเรื่องนี้เป็นที่นิยมถูกนำมาปรับปรุงและประพันธ์เป็นบทละคร โดยในเรื่องมีภาษาชวาอยู่เยอะมาก ทำให้เป็นที่รู้จักและถูกหยิบยืมมาใช้ในการประพันธ์เรื่อยมา

พาราโบลา

พาราโบลา

พาราโบลา พาราโบลา คือเซตของจุดบนระนาบมีระยะห่างจากจุดโฟกัส (focus) เท่ากับระยะห่างจากเส้นไดเรกตริกซ์ (directrix) พาราโบลาที่มีจุดยอดอยู่ที่จุดกำเนิด กราฟของพาราโบลาจะมีลักษณะคล้ายระฆัง ตอนม.3 น้องๆเคยเห็นทั้งพาราโบลาหงายและคว่ำแล้ว แต่ในบทความนี้น้องๆจะได้รู้จักกับพาราโบลาตะแคงซ้ายและขวา สามารถเขียนเป็นตารางให้เข้าใจง่ายๆได้ดังนี้ ข้อสังเกต  จะเห็นว่าถ้าแกนสมมาตรคือแกน y รูปแบบสมการของพาราโบลา y จะมีเลขชี้กำลังเป็น 1  สมการเส้นไดเรกตริกซ์ก็จะเกี่ยวข้องกับ y เช่นเดียวกับแกนสมมาตรเป็นแกน x รูปแบบสมการของพาราโบลา x

การใช้รูปประโยคคำสั่ง คำขอร้อง คำแนะนำ ที่ใช้ในการเรียน

การใช้รูปประโยคคำสั่ง คำขอร้อง คำแนะนำ ที่ใช้ในการเรียน + การใช้ Can/ Could/ Should

สวัสดีค่ะนักเรียนชั้นม. 1 ที่น่ารักทุกคน วันนี้ครูจะพาเรียนรู้เกี่ยวกับ การใช้รูปประโยคคำสั่ง คำขอร้อง คำแนะนำ ที่เจอบ่อยและการใช้ Can, Could, Should กันนะคะ ไปลุยกันเลย   มารู้จักกับประโยคคำสั่ง (Imperative sentence)     รูปแบบและโครงสร้างประโยคคำสั่ง Imperative sentence Imperative sentence ในรูปแบบประโยคบอกเล่าจะ

NokAcademy_ProfilePastTense

มารู้จักกับ Past Tenses กันเถอะ

สวัสดีค่ะนักเรียนที่น่ารักทุกคน วันนี้ครูจะพาไปดูเทคนิคและวิธีการใช้ Past Tenses ที่ไม่ได้มีแค่ Past Simple Tenses นะคะ   มาทบทวนเรื่อง Past Tenses กันเถอะ     การพูดถึงเหตุการณ์ที่เกิดในอดีตนั้นสามารถพูดได้หลายรูปแบบ แต่จะพูดอย่างไรให้สอดคล้องกับบริบทนั้นย่อมสำคัญเช่นกัน และก่อนอื่นเราจะต้องรู้จักก่อนว่า การเล่าถึงงเหตุการณ์ในอดีตนั้นเราสามารถเล่าได้หลายแบบ ครูจะขอยกตัวอย่างจากสถาณการณ์การใช้ไปหาโครงสร้างและคำศัพท์ที่จำเป็นเพื่อให้เราเข้าใจความสำคัของ Tense นั้นๆ ร่วมกับเทคนิค “Situational

โลโก้ NockAcademy

ทดลองฟรี!

เข้าใจได้ทันที NockAcademy ไลฟ์สดอันดับ 1 

โลโก้ NockAcademy

ทดลองฟรี!

เข้าใจได้ทันที NockAcademy ไลฟ์สดอันดับ 1