เพลงชาติไทย สัญลักษณ์ของความรักชาติที่ถูกถ่ายทอดผ่านบทเพลง

สารบัญ

Add LINE friends for one click to find article. Add LINE friends for one click to find article.

‘ประเทศไทยรวมเลือดเนื้อชาติเชื้อไทย’ เชื่อว่าพอขึ้นต้นด้วยประโยคนี้ จะต้องมีน้อง ๆ หลายคนอ่านเป็นทำนองแล้วร้องต่อในใจแน่นอนว่า ‘เป็นประชารัฐ ไผทของไทยทุกส่วน’ เพราะนี่คือ เพลงชาติไทย ที่เราได้ยินตอนแปดโมงเช้ากับหกโมงเย็นของทุกวันนั่นเองค่ะ บทเรียนในวันนี้เราจะมาเจาะลึกถึงความเป็นมา และความหมายของเพลงชาติไทยกันค่ะ มาดูพร้อมกันเลย

 

ประวัติความเป็นมาของ เพลงชาติไทย

 

เพลงชาติไทย

 

ก่อนที่จะมีเพลงชาติไทย ประเทศไทยใช้เพลงสรรเสริญพระบารมีที่เป็นเพลงประจำองค์พระมหากษัตริย์ เป็นเพลงประจำชาติ จนถึงการเปลี่ยนแปลงการปกครองเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2475 กลุ่มคณะราษฎร์คิดริเริ่มที่จะสร้างเพลงชาติขึ้นมาเพื่อสะท้อนถึงความเป็นประชาธิปไตย มีการแก้ไขเนื้อเพลงกันอยู่ถึง 6 ฉบับแต่ก็ยังไม่สมบูรณ์ และในเพลงชาติฉบับที่เจ็ดซึ่งเป็นฉบับสุดท้าย ในปี พ.ศ. 2477 รัฐบาลของจอมแปลก พิบูลสงคราม ได้ประกาศให้มีการประกวดเนื้อร้องของเพลงชาติขึ้นมาใหม่ และบทเพลงชาติของพันเอกหลวงสารานุประพันธ์ก็ได้รับการคัดเลือกให้ชนะเลิศ รัฐบาลจึงได้ประกาศให้ใช้เนื้อร้องที่ชนะการประกวดและทำนองประพันธ์โดยพระเจนดุริยางค์ ตั้งแต่วันที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2482 เป็นต้นไปมาจนถึงปัจจุบัน

 

เพลงชาติไทยตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน

 

เพลงชาติไทยฉบับแรก คือ เพลงจอมราชจงเจริญ โดยใช้ทำนองของเพลง God save the Queen

 

เพลงชาติไทย

 

เพลงชาติไทยฉบับที่ 2 คือ เพลงทรงพระสุบิน หรือเพลงบุหลันลอยเลื่อน

 

เพลงชาติไทย

 

เพลงชาติไทยฉบับที่ 3 คือ เพลงสรรเสริญพระบารมี (ฉบับปัจจุบัน)

 

เพลงชาติไทย

 

 

เพลงชาติไทยฉบับที่ 4 คือ เพลงชาติมหาชัย

 

เพลงชาติไทย

 

เพลงชาติไทยฉบับที่ 5 คือ เพลงชาติฉบับของขุนวิจิตรมาตรา

 

 

เพลงชาติไทยฉบับที่ 6 คือ เพลงชาติฉบับราชการฉบับแรก เนื้อร้องเพลงชาติฉบับของนายฉันท์ ขำวิไล

 

 

เพลงชาติฉบับที่ 7 คือ ฉบับปัจจุบัน เป็นเนื้อร้องที่ประพันธ์โดย พ.อ. หลวงสารานุประพันธ์ (นวล ปาจิณพยัคฆ์) ส่งในนามกองทัพบกทางสำนักนายกรัฐมนตรี ส่วนทำนองประพันธ์โดยพระเจนดุริยางค์

 

 

ความหมายของเพลงชาติไทย

ประเทศไทยเป็นถิ่นที่รวมชนผู้มีเลือดหเนื้อเชื้อชาติไทยไว้ให้ได้อยู่อาศัยร่วมกัน แผ่นดินทุกส่วนของประเทศไทยย่อมเป็นของชาวไทยทุกคน ประชาชนไทยรักษาแผ่นดินไทยทั้งหมดไว้ได้ ก็ด้วยทุกคนมีน้ำใจสามัคคี รักคนไทยด้วยกันและรักประเทศชาติ ชนไทยรักที่จะอยู่อย่างสุขสงบ แต่ถ้าจำเป็นต้องรบกับศัตรูแล้วคนไทยไม่เคยขลาดกลัวเลยไม่มีวันยอมให้ศัตรูหน้าไหนมาข่มขู่ทำลายความเป็นอิสระของชาติไทยได้ ทุกคนยอมสละเลือดทุกหยดเพื่อชาติไทยอยู่ยั่งยืน จะปกป้องคุ้มครองประเทศไทยให้เจริญรุ่งเรืองยิ่งๆ ขึ้นไป และให้มีแต่ชัยชนะตลอดไป

 

 

เพลงชาติเป็นสัญลักษณ์อย่างหนึ่งที่สำคัญ เพราะเป็นเพลงที่สะท้อนถึงความเป็นไทยของคนในชาติและความเป็นเอกราชของประเทศนั้นๆ หวังว่าบทเรียนในวันนี้จะทำให้น้อง ๆ ได้ตระหนักถึงความเสียสละของคนในอดีตและรักในความเป็นไทยกันมากขึ้นนะคะ สุดท้ายนี้น้อง ๆ อย่าลืมทบทวนบทเรียนและตามไปดูครูอุ้มแปลความหมายของเพลงอย่างละเอียดในคลิปการสอนย้อนหลังได้เลยค่ะ

 

 

อย่าพลาดการติดตามบทความภาษาไทยจาก nockacademy

NockAcademy คือโรงเรียนออนไลน์สำหรับเด็ก โดยแอปฯ และเว็บไซต์ นักเรียนสามารถเรียนรู้ผ่านคลิปบทเรียนวิชา คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และภาษาไทย
มากไปกว่านั้น เรายังมีคอร์สเรียนออนไลน์ การสอนพิเศษ การติวนอกสถานที่โดยติวเตอร์ที่แน่นไปด้วยความรู้ อีกด้วย

Add LINE friends for one click to find article. Add LINE friends for one click to find article.
ครูผู้สอน NockAcademy

แค่ 10 นาที ก็เข้าใจได้

สามารถดูคลิปบทเรียนวิชา คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และภาษาไทย ที่มีมากกว่า 2,000+ คลิป และยังสามารถทำแบบทดสอบที่มีมากกว่า 4000+ ข้อ

แนะนำ

แชร์

การวัด

การวัดและความเป็นมาของการวัด

ในบทความนี้เราจะได้เรียนรู้ความเป็นมาของการวัดในหลายๆมิติ จนกระทั่งวิวัฒนาการที่ทำให้ได้ความแม่นยำในการวัดอย่างเป็นมาตรฐานมากขึ้นเรื่อยๆ

auxiliary verbs

Auxiliary Verbs คืออะไร?

สวัสดีน้องๆ ม.5 ทุกคนนะครับ วันนี้เราจะมาทำความรู้จักกับสิ่งที่เรียกว่า Auxiliary Verbs ในภาษาอังกฤษกันครับ

M5 Past Passive

Passive Voice ในอดีต

  Hi guys! สวัสดีค่ะนักเรียนชั้นม.5 ทุกคน วันนี้เราจะไปเรียนรู้เรื่อง Past Passive กันค่ะ ก่อนอื่นจะต้องไปรู้ความหมายกันก่อนน๊าว่ามันคืออะไร พร้อมแล้วก็ไปลุยกันโลด   ความหมาย Past หมายถึง อดีต ส่วน Passive มาจาก Passive voice หมายถึง ประโยคที่ประธานถูกกระทำ รวมแล้วหมายถึงการใช้ Passive

อิเหนา

อิเหนา จากนิทานปันหยีสู่วรรณคดีเลื่องชื่อของไทย

อิเหนา เป็นวรรณคดีที่ถูกเผยแพร่เข้ามาในไทยตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา น้อง ๆ สงสัยไหมคะว่าจุดเริ่มต้นของนิทานของชาวชวานี้มีจุดเริ่มต้นในไทยอย่างไร เหตุใดถึงถูกประพันธ์ขึ้นเป็นบทละครให้ได้เล่นกันในราชสำนัก ถ้าน้อง ๆ พร้อมหาคำตอบแล้ว เราไปเรียนรู้ประวัติความเป็นมาและเรื่องย่อของอิเหนา ตอน ศึกกะหมังกุหนิงกันเลยค่ะ   ความเป็นมา   อิเหนามีความเป็นมาจากนิทานปันหยี หรือที่เรียกว่า อิเหนาปันหยีรัตปาตี ซึ่งเป็นนิทานที่เล่าแพร่หลายกันมากในชวา เชื่อกันว่าเป็นนิยายอิงประวัติศาสตร์ของชวา ในสมัยพุทธศตวรรษที่ 16 ปรุงแต่งมาจากพงศาวดารชวา อิทธิพลของเรื่องอิเหนาเข้ามาในประเทศไทยครั้งแรกในสมัยอยุธยา จากการที่เจ้าฟ้าหญิงกุณฑลและเจ้าฟ้าหญิงมงกุฎ

โจทย์ปัญหาสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว

โจทย์ปัญหาสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว

ขั้นตอนของการแก้โจทย์ปัญหา บทความนี้จะทำให้น้องๆ มีความรู้ความเข้าใจในเรื่อง โจทย์ปัญหาสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว ซึ่งได้รวบรวมตัวอย่างไว้อย่างหลากหลาย แต่ก่อนที่น้องๆจะเรียนเรื่องนี้อย่าลืมทบทวน การแก้สมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว กันก่อนนะคะ ถ้าน้องๆพร้อมแล้วเรามาศึกษาขั้นตอนของการแก้โจทย์ปัญหาเกี่ยวกับสมการ ดังนี้               ขั้นที่ 1 วิเคราะห์โจทย์ว่ากำหนดอะไรให้บ้าง และให้หาอะไร               ขั้นที่ 2 กำหนดตัวแปรแทนสิ่งที่โจทย์ให้หาหรือแทนสิ่งที่เกี่ยวข้องกับสิ่งที่โจทย์ให้หา               ขั้นที่ 3 เขียนสมการตามเงื่อนไขของโจทย์               ขั้นที่

รากที่สาม

รากที่สาม

ในบทตวามนี้เราจะได้เรียนรู้การหารากที่สามของจำนวนจริงใดๆ ซึ่งทำได้หลายวิธีเช่นเดียวกับการหารากที่สอง อาจใช้การแยกตัวประกอบ การประมาณ การเปิดตาราง และการใช้เครื่องคำนวณ แต่เนื่องจากการประมาณเป็นวิธีที่ยุ่งยาก ในที่นี้จึงจะกล่าวเฉพาะการหารากที่สามโดยการแยกตัวประกอบ การเปิดตาราง และการใช้เครื่องคำนวณ

โลโก้ NockAcademy

ทดลองฟรี!

เข้าใจได้ทันที NockAcademy ไลฟ์สดอันดับ 1 

โลโก้ NockAcademy

ทดลองฟรี!

เข้าใจได้ทันที NockAcademy ไลฟ์สดอันดับ 1