การเขียนคำอวยพร เขียนอย่างไรให้เหมาะสมกับผู้รับ

การเขียนคำอวยพร

สารบัญ

Add LINE friends for one click to find article. Add LINE friends for one click to find article.

 

วัฒนธรรมเป็นส่วนหนึ่งของสังคม และภาษาก็เป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรม คนเราทุกคนต่างต้องการในสิ่งดีงาม เมื่อถึงโอกาสสำคัญอย่างวันเกิด วันแต่งงาน วันขึ้นบ้านใหม่ จึงต้องการคำอวยพรที่สร้างกำลังใจ และเป็นสิริมงคลแก่ตัวเอง คำอวยพรจึงเป็นเหมือนสิ่งสะท้อนวัฒนธรรม ที่คนใช้สื่อสาร ถ่ายทอดเพื่อมอบสิ่งดี ๆ ให้แก่กัน บทเรียนในวันนี้ น้อง ๆ จะได้เรียนรู้เกี่ยวกับ การเขียนคำอวยพร เราไปดูพร้อมกันเลยค่ะว่าการเขียนประเภทนี้จะมีลักษณะและวิธีอย่างไรบ้าง

 

การเขียนคำอวยพร

 

ความหมายของคำอวยพร

คำอวยพร คือ คำพูดแสดงความปรารถนาดีต่อกันในโอกาสต่าง ๆ

 

โอกาส ในการเขียนคำอวยพร

 

การเขียนคำอวยพร

 

1. วันปีใหม่

  • สวัสดีปีใหม่ ขอให้มีความสุขมาก ๆ
  • สัขสันต์วันขึ้นปีใหม่ ขอให้โชคดึมีเงินมีทอง

2. วันเกิด

  • สุขสันต์วันเกิด ของให้สุขภาพร่างกายแข็งแรง มีเงินใช้
  • ขอให้มีความสุขมากๆ ในวันเกิดปีนี้ มีความสุข ร่ำรวย ๆ

3. วันสงกรานต์

  • สงกรานต์ปีนี้ ขอให้สมหวังดั่งใจปรารถนา มีสุขภาพแข็งแรง จิตใจแจ่มใส คลายทุกข์คลายโศกตลอดไป
  • สุขสันต์วันสงกรานต์ ขออวยพรให้ท่านสุขสันต์ แช่มชื่นทุกคืนวัน

4. งานแต่งงาน

  • ขอให้ชีวิตคู่มีแต่ความสุข ความเจริญ ดูแลซึ่งกันและกันตลอดไป
  • เนื่องในโอกาสมงคล ขออวยพรให้เจ้าบ่าวเจ้าสาวครองรักกันไปนาน ๆ

5. จบการศึกษา

  • ขอแสดงความยินดีกับการเรียนจบ ขอให้ชีวิตหลังจากนี้ประสบความสำเร็จ และก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นใจ
  • ยินดีกับนักเรียนทุกคนที่จบการศึกษาในปีนี้ ขอให้เส้นทางในอนาคตราบรื่น พบแต่ความสุข ความเจริญ

 

ลักษณะของคำอวยพร

 

การเขียนคำอวยพร

 

1. คำอวยพรที่ใช้เฉพาะโอกาส

หมายถึง คำอวยพรที่ใช้ได้เฉพาะโอกาสใดโอกาสหนึ่งเท่านั้น เนื่องจากว่าคำศัพท์และเนื้อหาที่ใช้ในโอกาสนั้นเป็นคำเฉพาะ จะใช้กับโอกาสอื่น ๆ ไม่ได้

ตัวอย่าง

 

 

2. คำอวยพรที่ใช้ได้มากกว่าหนึ่งโอกาส

หมายถึง คำอวยพรใช้ได้ตั้งแต่ 2 โอกาสขึ้นไป

ตัวอย่าง

ขอให้สุขภาพแข็งแรง สามารถอวยพรได้ทั้งในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ วันเกิด เยี่ยมผู้ป่วยหรืออวยพรแก่สามีภรรยาที่เพิ่งคลอดลูก เป็นต้น

 

หลักการเขียนคำอวยพร

 

 

1. เขียนให้สอดคล้องสัมพันธ์กันระหว่างผู้อวยพร ผู้รับพร โอกาส และสื่อที่ใช้อวยพร

2. การกล่าวถึงโอกาสที่อวยพร

3. การอวยพรผู้อาวุโส ควรกล่าวอ้างถึงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เป็นสากลหรือสิ่งที่ผู้รับพรเคารพนับถือ เช่น ขออำนาจคุณพระแก้วมรกต ดลบันดาลให้ท่านพบความสุขี มีแต่ความสวัสดี โชคดีทุกคืนวัน

4. ให้พรที่เหมาะสมกับผู้รับพรและเป็นพรที่สร้างสรรค์ในด้านต่าง ๆ เช่น ความสุข หน้าที่การงาน ความสำเร็จ ความสมหวัง สุขภาพ อายุยืนยาว เป็นต้น

5. ใช้ภาษาเขียนที่ถูกต้องเหมาะสมโดยพยายามสรรหาคำที่ไพเราะและมีความหมายดี

 

การอวยพรเป็นการตอบสนองทางจิตใจ ทำให้ผู้รับเกิดกำลังใจ ความเชื่อมั่น และความสุข ดังนั้นผู้ที่อวยพรจึงต้องเลือกใช้คำให้เหมาะสมกับโอกาสต่าง ๆ และแสดงความปรารถนาดีผ่านภาษาที่ถ่ายทอดออกไป เมื่อได้เรียนรู้การเขียนคำอวยพรไปแล้ว เชื่อว่าหลังจากนี้หากน้อง ๆ ต้องเขียนอวยพรให้กับใคร ไม่ว่าจะเด็กหรือผู้ใหญ่ ก็อย่าลืมบทเรียนนี้ และเลือกใช้คำที่ไพเราะ มีความหมายดี และที่สำคัญที่สุดคือต้องเหมาะสมกับโอกาสนั้น ๆ ด้วยนะคะ สุดท้ายนี้เพื่อเป็นการทบทวนบทเรียน น้อง ๆ อย่าลืมตามไปชมคลิปครูอุ้มเพื่อไม่ให้พลาดบทเรียนสนุก ๆ กันนะคะ

 

 

อย่าพลาดการติดตามบทความภาษาไทยจาก nockacademy

NockAcademy คือโรงเรียนออนไลน์สำหรับเด็ก โดยแอปฯ และเว็บไซต์ นักเรียนสามารถเรียนรู้ผ่านคลิปบทเรียนวิชา คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และภาษาไทย
มากไปกว่านั้น เรายังมีคอร์สเรียนออนไลน์ การสอนพิเศษ การติวนอกสถานที่โดยติวเตอร์ที่แน่นไปด้วยความรู้ อีกด้วย

Add LINE friends for one click to find article. Add LINE friends for one click to find article.
ครูผู้สอน NockAcademy

แค่ 10 นาที ก็เข้าใจได้

สามารถดูคลิปบทเรียนวิชา คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และภาษาไทย ที่มีมากกว่า 2,000+ คลิป และยังสามารถทำแบบทดสอบที่มีมากกว่า 4000+ ข้อ

แนะนำ

แชร์

การเขียนเรียงความ

เทคนิคการเขียนเรียงความง่าย ๆ ที่จะช่วยถ่ายทอดความคิดให้เป็นขั้นตอน

การเขียนเรียงความ เป็นทักษะการเขียนที่มีสำคัญมาก เพราะเป็นการถ่ายทอดความคิดให้ออกมาอยู่ในรูปของตัวอักษร จะมีวิธีเขียนอย่างไรบ้างนั้น บทเรียนในวันนี้จะทำให้น้อง ๆ มีความรู้ความเข้าใจถึงวิธีการเขียนเรียงมากขึ้น จะเป็นอย่างไรนั้น ไปเรียนรู้พร้อมกันเลยค่ะ     เรียงความ เป็นทักษะการเขียนที่แสดงออกถึงความรู้สึกนึกคิด ความเห็น ความเข้าใจของผู้เขียน มีรูปแบบและวิธีการเขียนที่มีแบบแผน เพื่อถ่ายทอดความคิดออกมาเป็นตัวอักษรให้น่าอ่าน และยังเป็นพื้นฐานของการเขียนต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นบทความหรือนวนิยายอีกด้วย โดยประเภทของการเขียนเรียงความมีดังนี้ 1. เรื่องที่เขียนเพื่อความรู้ 2. เรื่องที่เขียนเพื่อความเข้าใจ

comparison of adjectives

Comparison of Adjectives

สวัสดีน้องๆ ม. 1 ทุกคนนะครับ วันนี้เราจะมาทำความรู้จักกับเรื่องของ Comparison of Adjectives ซึ่งจะคืออะไรและเอาไปใช้อะไรได้บ้าง เราลองไปดูกันเลยครับ

สถิติ (เส้นโค้งความถี่)

บทความนี้ได้รวบรวมความรู้เรื่อง สถิติ (เส้นโค้งความถี่)  ซึ่งก่อนที่จะเรียนเรื่องนี้ น้องๆจะต้องมีความรู้ในเรื่อง    ค่ากลางของข้อมูล และการวัดการกระจายของข้อมูล สามารถศึกษาเพิ่มเติมได้ที่  ⇒⇒ สถิติ (ค่ากลางของข้อมูล/การกระจายของข้อมูล) ⇐⇐ เส้นโค้งของความถี่ จะมีอยู่ 3 แบบ คือ เส้นโค้งปกติ เส้นโค้งเบ้ขวา และเส้นโค้งเบ้ซ้าย ซึ่งจะมีความสัมพันธ์กับค่ากลางของข้อมูล  ได้แก่ ค่าเฉลี่ยเลขคณิต (μ)   มัธยฐาน (Med) และฐานนิยม

เสียงวรรณยุกต์ในภาษาไทยมีความสำคัญอย่างไร

  เสียงวรรณยุกต์ในภาษาไทยมีความสำคัญไม่แพ้เสียงพยัญชนะและเสียงวรรณยุกต์เลยค่ะ น้อง ๆ ทราบไหมคะว่าเสียงวรรณยุกต์ในภาษาไทยเรานั้นเป็นเหมือนตัวกำหนดความหมายของคำเลยก็ว่าได้ ทำไมถึงเป็นแบบนั้น วันนี้เรามีคำตอบให้แล้วค่ะ เราไปเรียนรู้เกี่ยวเสียงวรรณยุกต์พร้อมๆ กันเลยค่ะว่าทำไมถึงมีความสำคัญ   เสียงวรรณยุกต์คืออะไร   เสียงวรรณยุกต์ หมายถึง เสียงที่ใช้บอกระดับสูงต่ำของคำ มี 4 รูป 5 เสียง   รูปวรรณยุกต์   รูปวรรณยุกต์มี 4

ม.1 There is_There are ทั้งประโยคบอกเล่า_ คำถาม_ปฏิเสธ

การใช้ There is/There are ทั้งประโยคบอกเล่า/คำถาม/ปฏิเสธ

สวัสดีค่ะนักเรียนชั้น ม.1 ที่รักทุกคน วันนี้เราจะไปเรียนรู้ “การใช้ There is/There are ทั้งประโยคบอกเล่า/คำถาม/ปฏิเสธ” กันจ้า ถ้าพร้อมแล้วก็ไปลุยกันเลยเด้อ ตารางแสดงความแตกต่างของ  There is/There are และ  Have/Has นักเรียนลองสังเกตดูความแตกต่างของการใช้ There is/There are กับ Have/has จากตารางด้านล่าง ดูนะคะ

โลโก้ NockAcademy

ทดลองฟรี!

เข้าใจได้ทันที NockAcademy ไลฟ์สดอันดับ 1 

โลโก้ NockAcademy

ทดลองฟรี!

เข้าใจได้ทันที NockAcademy ไลฟ์สดอันดับ 1