เทคนิคการเขียนเรียงความง่าย ๆ ที่จะช่วยถ่ายทอดความคิดให้เป็นขั้นตอน

การเขียนเรียงความ

สารบัญ

Add LINE friends for one click to find article. Add LINE friends for one click to find article.

การเขียนเรียงความ เป็นทักษะการเขียนที่มีสำคัญมาก เพราะเป็นการถ่ายทอดความคิดให้ออกมาอยู่ในรูปของตัวอักษร จะมีวิธีเขียนอย่างไรบ้างนั้น บทเรียนในวันนี้จะทำให้น้อง ๆ มีความรู้ความเข้าใจถึงวิธีการเขียนเรียงมากขึ้น จะเป็นอย่างไรนั้น ไปเรียนรู้พร้อมกันเลยค่ะ

 

ความหมายและความสำคัญของการเขียนเรียงความ

 

เรียงความ เป็นทักษะการเขียนที่แสดงออกถึงความรู้สึกนึกคิด ความเห็น ความเข้าใจของผู้เขียน มีรูปแบบและวิธีการเขียนที่มีแบบแผน เพื่อถ่ายทอดความคิดออกมาเป็นตัวอักษรให้น่าอ่าน และยังเป็นพื้นฐานของการเขียนต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นบทความหรือนวนิยายอีกด้วย โดยประเภทของการเขียนเรียงความมีดังนี้

1. เรื่องที่เขียนเพื่อความรู้

2. เรื่องที่เขียนเพื่อความเข้าใจ

3. เรื่องที่เพื่อโน้มน้าวใจ

 

การเขียนเรียงความ

 

องค์ประกอบของ การเขียนเรียงความ

 

องค์ประกอบเรียงความ

 

1. ส่วนนำ เป็นส่วนหนึ่งของเรียงความที่เป็นการเปิดประเด็นเข้าสู่เนื้อเรื่อง ตรงส่วนนี้จะเป็นส่วนที่ทำให้ผู้อ่านรับรู้ว่าผู้เขียนนั้นจะเขียนเรื่องอะไร โดยเนื้อหาที่ใช้ในการเขียนเปิดต้องมีความน่าสนใจเพื่อกระตุ้นให้ผู้อ่านอยากจะอ่านต่อไป แต่ไม่ควรเปิดเผยเนื้อหาทั้งหมด

 

2. เนื้อหา ส่วนสำคัญที่สุดของเรียงความ เพราะจะเป็นส่วนที่นำเสนอความรู้ความคิดความเข้าใจทรรศนะหรือความรู้สึกของผู้เขียน

ขั้นตอนการเรียบเรียงเนื้อหา

  • วางแผนลำดับขั้นตอนและโครงเรื่องที่จะเขียนว่ามีแนวทางอย่างไร
  • เขียนเนื้อหาตามโครงเรื่องที่วางไว้
  • แต่ละย่อหน้าต้องมีใจความสำคัญ
  • ไม่เขียนออกนอกเรื่อง

 

การวางโครงเรื่อง

 

การเขียนเรียงความ ไม่ควรมีแค่ย่อหน้าเดียว นอกจากนี้การใช้ภาษาในการเขียนยังเป็นสิ่งสำคัญมากกว่า น้อง ๆ จะต้องพิถีพิถันในการเลือกคำมาเขียนให้ลื่นไหลและต้องเป็นภาษาแบบทางการ ถูกต้องตามหลักการเขียน

3. สรุป ส่วนสำคัญที่สุดของการเขียนเรียงความ เพราะจะเป็นการนำสิ่งที่เขียนไปทั้งหมดมาสรุปอีกทีหนึ่ง เนื้อหาที่สรุปออกมานั้นต้องเป็นประเด็นที่สำคัญ เพราะจะช่วยส่งเสริมให้งานเขียนดียิ่งขึ้น ไม่จบแบบห้วน ๆ อย่างไร้ข้อสรุป

การตั้งชื่อเรียงความ

  • กระชับ น่าสนใจ การตั้งชื่อเรียงความไม่ควรยาวเกินไป เพราะจะทำให้อ่านยาก คนไม่จำ อีกทั้งชื่อเรื่องที่ยาวเกินไป อาจจะทำให้ผู้อ่านสับสนว่าประเด็นของเรียงความคืออะไรกันแน่
  • ตรงประเด็นกับเนื้อหา เมื่อเขียนถึงเรื่องอะไรก็ควรจะตั้งชื่อเรื่องให้เกี่ยวข้องกับเรื่องที่เขียน ผู้อ่าน อ่านแล้วรู้ว่าเขียนเรื่องอะไร
  • ชื่อเรื่องต้องน่าสนใจ ทำให้อยากอ่าน การตั้งชื่ออย่างเหมาะสม มีความน่าสนใจ ไม่สั้นและไม่ยาวเกินไป เพราะอาจจะทำให้ไม่น่าดึงดูด ผู้อ่านไม่อยากอ่าน

 

ลักษณะของเรียงความที่ดี

 

ลักษณะของเรียงความที่ดี

 

ลักษณะของการเขียนเรียงความที่ดีนั้น จะต้องมีประมวลข้อคิดที่สำคัญ ๆ เพื่อกำหนดเป้าหมายในการเขียน โดยที่ต้องแบ่งสัดส่วนการเล่าเรื่องให้เหมาะสม เป็นลำดับขั้นตอนตามโครงเรื่องที่ได้วางไว้ และที่สำคัญคือการใช้ภาษา ที่จะต้องใช้ให้ถูกหลักภาษา ใช้คำเป็นทางการ ตรวจทานคำผิดเพื่อนให้ผู้อ่านสามารถอ่านได้อย่างลื่นไหล และสื่อสารได้อย่างถูกต้องตามจุดประสงค์ของผู้เขียน

 

การเขียนเรียงความนั้นถึงจะมีหลายขั้นตอน เพราะการจะเขียนเรียงความต้องสามารถฟัง พูด คิด และจับใจความเพื่อให้เขียนออกมาได้ดี อีกทั้งผู้เขียนยังต้องรู้จักศึกษาและค้นคว้าหาความรู้ด้วย แต่ก็ไม่มีอะไรยากเกินความตั้งใจของเราหรอกค่ะ ถ้าน้อง ๆ หมั่นฝึกเขียนเรียงความบ่อย ๆ ตามเทคนิคการเขียนที่ได้เรียนไปก็จะสามารถเขียนได้อย่างลื่นไหลเอง สุดท้ายนี้อย่าลืมชมคลิปของครูระหว่างฝึกนะคะ จะได้ช่วยให้เข้าใจมากขึ้น ไปชมเลยค่ะ

 

 

อย่าพลาดการติดตามบทความภาษาไทยจาก nockacademy

NockAcademy คือโรงเรียนออนไลน์สำหรับเด็ก โดยแอปฯ และเว็บไซต์ นักเรียนสามารถเรียนรู้ผ่านคลิปบทเรียนวิชา คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และภาษาไทย
มากไปกว่านั้น เรายังมีคอร์สเรียนออนไลน์ การสอนพิเศษ การติวนอกสถานที่โดยติวเตอร์ที่แน่นไปด้วยความรู้ อีกด้วย

Add LINE friends for one click to find article. Add LINE friends for one click to find article.
ครูผู้สอน NockAcademy

แค่ 10 นาที ก็เข้าใจได้

สามารถดูคลิปบทเรียนวิชา คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และภาษาไทย ที่มีมากกว่า 2,000+ คลิป และยังสามารถทำแบบทดสอบที่มีมากกว่า 4000+ ข้อ

แนะนำ

แชร์

can could

การตั้งคำถามโดยใช้ Can และ Could

สวัสดีน้องๆ ป. 6 ทุกคนนะครับ วันนี้เราจะมาเรียนรู้วิธีการใช้กริยาช่วยคือ Can และ Could กันครับ ถ้าพร้อมแล้วเราลองไปดูกันเลย

ค่าของฟังก์ชันไซน์และโคไซน์

ค่าของฟังก์ชันไซน์และโคไซน์

ค่าของฟังก์ชันไซน์และโคไซน์ ค่าของฟังก์ชันไซน์และโคไซน์ จะเกี่ยวข้องกับ θ พิกัดของ จุด (x, y) ซึ่งในบทความนี้จะอธิบายเกี่ยวกับ ความสัมพันธ์ระหว่าง x, y กับ θ จากบทความที่ผ่านมาเราได้รู้จักวงกลมหนึ่งหน่วยและการวัดความยาวส่วนโค้ง ในบทความนี้น้องๆจะได้รู้จักกับฟังก์ชันไซน์ (sine function) และฟังก์ชันโคไซน์ (cosine function) และวิธีการหาค่าของฟังก์ชันทั้งสอง Sine function =

เรียนรู้ความเหมือนที่แตกต่างของคำพ้อง

  น้อง ๆ หลายคนคงจะเคยเห็นฝาแฝดกันมาบ้างใช่ไหมคะ แล้วรู้หรือเปล่าคะว่าในภาษาไทยเรานั้นก็มีฝาแฝดเหมือนกัน แต่ฝาแฝดนั้นถูกเรียกว่า คำพ้อง นั่นเองค่ะ หลายคำในภาษาไทยมีจุดที่เหมือนกันแต่ก็มีส่วนที่ต่างกันออกไปด้วย เพื่อไม่ให้สับสนว่าคำไหนคือคำไหน อ่านอย่างไร หมายความว่าอะไรกันแน่ วันนี้เราไปเรียนรู้เรื่องคำพ้องพร้อม ๆ กันเลยค่ะ   คำพ้อง   ความหมายของคำพ้อง     ประเภทของคำพ้อง     คำพ้องเสียง

แบบฝึกหัดการให้เหตุผล

แบบฝึกหัดการให้เหตุผล

แบบฝึกหัดการให้เหตุผล   แบบฝึกหัดการให้เหตุผล ประกอบไปด้วยการให้เหตุผลแบบอุปนัยและการให้เหตุผลแบบนิรนัย ซึ่งแบบฝึกหัดนี้จะช่วยให้น้องๆได้ฝึกฝนการทำโจทย์จนน้องๆเชี่ยวชาญและส่งผลให้น้องๆทำข้อสอบได้แบบไม่ผิดพลาด ถ้าเรารู้เฉยๆเราอาจจะทำข้อสอบได้แต่การที่เราฝึกทำโจทย์ด้วยจะทำให้เราทำข้อสอบได้แน่นอนค่ะ แบบฝึกหัดเพิ่มเติมและข้อสอบ O-Net ตัวอย่างต่อไปนี้เป็นข้อสอบ O-Net ของปีก่อนๆ   1.) พิจารณาการอ้างเหตุผลต่อไปนี้ ก. เหตุ 1. ถ้าฝนไม่ตกแล้วเดชาไปโรงเรียน   2. ฝนตก      ผล   

การใช้ Quantity words

การใช้ Quantity words

Hi guys! สวัสดีค่ะนักเรียนชั้นม.1 ทุกคนวันนี้เราจะไปเรียนรู้ “การใช้ Quantity words ” ในภาษาอังกฤษกันค่ะ Let’s go! ไปลุยกันโลด Quantity words คืออะไร “Quantity words” คือคำบอกปริมาณนั่นเอง เช่น much, many, few, a few, lots

โลโก้ NockAcademy

ทดลองฟรี!

เข้าใจได้ทันที NockAcademy ไลฟ์สดอันดับ 1 

โลโก้ NockAcademy

ทดลองฟรี!

เข้าใจได้ทันที NockAcademy ไลฟ์สดอันดับ 1