ลบไม่ได้ช่วยให้ลืม เช่นเดียวกับการลบเศษส่วนและจำนวนคละ!

บทความที่แล้วเราได้กล่าวถึงการบวกเศษส่วนและจำนวนคละไปแล้ว บทต่อมาก็จะเป็นเรื่องของการลบเศษส่วนและจำนวนคละ ทั้งสองเรื่องนี้มีหลักการคล้ายกันต่างกันที่เครื่องหมายที่บ่งบอกว่าโจทย์ต้องการทราบอะไร ดังนั้นบทความนี้จะอธิบายถึงหลักการลบเศษส่วนและจำนวนคละอย่างละเอียดและยกตัวอย่างให้น้อง ๆเข้าใจอย่างเห็นภาพและสามารถนำไปปรับใช้กับแบบฝึกหัดเรื่องการลบเศษส่วนและจำนวนคละได้

สารบัญ

Add LINE friends for one click to find article. Add LINE friends for one click to find article.

การบวกลบจำนวนเต็มเป็นพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ท่มีในหลักสูตรวิชาคณิตศาสตร์มาตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาล แต่การบวกลบเศษ่วนและจำนวนคละจะแตกต่างจากการบวกลบจำนวนเต็ม ที่ไม่สามารถนำตัวเลขมาบวกลบกันได้เลย เพราะมีสิ่งที่ต้องพิจารณาแตกต่างออกไปอีกหลายประการ ซึ่งจะมีอะไรบ้างเราจะมาอธิบายกันในบทความนี้

หลักการลบเศษส่วนมี 3 ประการ

  1. หา ค.ร.น. ของตัวส่วน หรือหาตัวเลขที่จะต้องคูณเพื่อทำให้ตัวส่วนเท่ากับตัวเลขนั้นลบเศษส่วน
  2. ทำตัวส่วนของให้เท่ากันก่อนที่จะนำเศษส่วนมาลบกันค.ร.น.ของตัวส่วน
  3. ลบเศษส่วนโดยลบเฉพาะตัวเศษ ตัวส่วนยังคงเหมือนเดิมการลบเศษส่วน

 

รูปแบบของการลบเศษส่วนและจำนวนคละ

1.การลบเศษส่วนและจำนวนคละที่ตัวส่วนเท่ากัน

การลบเศษส่วนและจำนวนคละที่ตัวส่วนเท่ากัน สามารถนำจำนวนนับลบกับจำนวนนับและเศษส่วนบลบกันเศษส่วนได้เลย  แต่ข้อควรระวังในการลบเศษส่วนต้องตรวจสอบก่อนว่าเศษส่วนที่อยู่ข้างหน้าต้องมากกว่าเศษส่วนที่อยู่ข้างหลังจึงจะสามารถลบกันได้เลย แต่ถ้าเศษส่วนน้อยกว่าตัวข้างหลังต้องทำการแปลงจำนวนคละให้เป็นเศษเกินทั้งหมดก่อนจึงจะสามารถลบกันได้ลบเศษส่วนจำนวนคละ

 

2.การบวกเศษส่วนและจำนวนคละที่ตัวส่วนไม่เท่ากัน

การลบเศษส่วนและจำนวนคละที่ตัวส่วนไม่เท่ากัน ต้องทำตัวส่วนให้เท่ากันก่อนจึงจะสามารถนำตัวเศษมาลบกันได้ ดังที่กล่าวไว้ข้างต้นเรื่องหลักการบวกเศษส่วน 3 ประการ จากนั้นต้องตรวจสอบเศษส่วนของตัวข้างหน้าว่าน้อยกว่าเศษส่วนตัวข้างหลังหรือไม่ ถ้ามากกว่าสามารถลบเศษส่วนได้เลยลบเศษส่วน

 

3.การบวกจำนวนคละและเศษเกิน

การลบจำนวนคละและเศษเกินสามารถทำได้ 2 วิธี คือเปลี่ยนเศษเกินให้เป็นจำนวนคละแล้วใช้หลักการลบจำนวนคละกับจำนวนคละ หรือเปลี่ยนจำนวนคละให้เป็นเศษเกินแล้วใช้หลักการลบเศษส่วนแต่วิธีนี้หลังจากลบเศษส่วนเสร็จแล้วและผลลัพธ์ออกมาเป็นเศษเกินต้องทำการแปลงให้เป็นจำนวนคละด้วยจึงจะทำให้ได้คำตอบที่สมบูรณ์โจทย์การลบเศษส่วน

วิธีที่ 1 แปลงเศษเกินให้เป็นจำนวนคละ

 

การลบเศษส่วน

วิธีที่ 2 แปลงจำนวนคละให้เป็นเศษเกิน


สรุปเรื่องการลบเศษส่วนและจำนวนคละ หลักการมี 3 ขั้นตอนและรูปแบบการลบเศษส่วนและจำนวนคละนั้นมี 3 รูปแบบ ดังที่อธิบายและยกตัวอย่างวิธีคิดในบทความข้างบน ข้อควรระวังก็คือการตรวจสอบเศษส่วนก่อนจะลบ เพราะถ้านำเศษส่วนที่น้อยกว่าลบเศษส่วนที่มากกว่าแล้วคำตอบอาจจะผิดได้ หากน้อง ๆ เข้าใจขั้นตอนของการลบเศษส่วนไม่ว่าโจทย์จะเป็นการลบในรูปแบบไหนก็จะสามารถทำโจทย์การลบเศษส่วนและจำนวนคละได้ถูกต้องอย่างแน่นอน

คลิปตัวอย่างเรื่องการลบเศษส่วนและจำนวนคละ

NockAcademy คือโรงเรียนออนไลน์สำหรับเด็ก โดยแอปฯ และเว็บไซต์ นักเรียนสามารถเรียนรู้ผ่านคลิปบทเรียนวิชา คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และภาษาไทย
มากไปกว่านั้น เรายังมีคอร์สเรียนออนไลน์ การสอนพิเศษ การติวนอกสถานที่โดยติวเตอร์ที่แน่นไปด้วยความรู้ อีกด้วย

Add LINE friends for one click to find article. Add LINE friends for one click to find article.
ครูผู้สอน NockAcademy

แค่ 10 นาที ก็เข้าใจได้

สามารถดูคลิปบทเรียนวิชา คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และภาษาไทย ที่มีมากกว่า 2,000+ คลิป และยังสามารถทำแบบทดสอบที่มีมากกว่า 4000+ ข้อ

แนะนำ

แชร์

past simple tense

Past Simple Tense

สวัสดีน้องๆ ม. 4 ทุกคนนะครับ วันนี้เราจะมาพูดถึงเรื่อง Past Simple Tense ในภาษาอังกฤษ จะเป็นอย่างไรลองไปดูกันเลยดีกว่าครับ

การใช้ going to / will ในการสร้างประโยค

การใช้ going to / will ในการสร้างประโยค เกริ่นนำเกริ่นใจ   ภาพใหญ่ของ Will และ Be going to การจะเข้าใจอะไรได้อย่างมั่นใจและคล่องตามากขึ้น เราในฐานะผู้เรียนรู้ควรที่จะต้องเห็นภาพรวมทั้งหมดก่อน โดย Will เนี่ย อยู่ในตระกูล Auxiliary verb หรือ Helping verb

อนุกรมเลขคณิต

อนุกรมเลขคณิต

อนุกรมเลขคณิต อนุกรมเลขคณิต คือการนำลำดับเลขคณิตแต่ละพจน์มาบวกกัน โดย เขียนแทนด้วย จากบทความ “สัญลักษณ์การบวก” ซึ่งเป็นการลดรูปการเขียนจำนวนหลายจำนวนบวกกัน ในบทความนี้จะพูดถึงการบวกของลำดับเลขคณิต การหาผลบวก สูตรสำหรับการหาผลบวกเลขคณิต สูตรอนุกรมเลขคณิต สูตรของอนุกรมเลขคณิตมีอยู่ 2 สูตร ดังนี้ 1)   โดยที่ d คือ ผลต่างร่วม 2)   โดยจะใช้สูตรนี้ก็ต่อเมื่อรู้ค่า

M1 การใช้ Verb Be

การใช้ Verb Be

สวัสดีค่ะนักเรียนชั้นม.1 ที่รักทุกคน วันนี้เราจะไปเรียนรู้เรื่อง การใช้ Verb Be กันนะคะ พร้อมแล้วก็ไปลุยกันเลยจ้า Let’s go! ความหมาย   Verb be ในที่นี้จะแปลว่า Verb to be นะคะ แปลว่า เป็น อยู่ คือ ซึ่งหลัง verb to

สังข์ทอง จากนิทานชาดกสู่วรรณคดีไทยอันเลื่องชื่อ

สังข์ทอง เป็นวรรณคดีที่แพร่หลายและโด่งดังอย่างมากในสังคมไทย ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปกี่ร้อยปี ความนิยมของวรรณคดีเรื่องดังกล่าวนี้ก็ยังไม่เสื่อมคลาย ดูได้จากการที่ถูกผลิตซ้ำตั้งแต่เป็นกลอนบทละครจนถึงละครโทรทัศน์ ที่น้อง ๆ หลายคนก็คงจะเดินเห็นผ่านตากันมาแล้วบ้าง บทเรียนในวันนี้จะพาน้อง ๆ ไปเรียนรู้ถึงความเป็นมาของวรรณคดีเรื่องนี้ พร้อมเรื่องย่อหนึ่งตอนสำคัญที่เป็นเหมือนจุดเริ่มต้นของเรื่องราวทั้งหมดอย่างตอน กำเนิดพระสังข์ กันค่ะ ถ้าพร้อมแล้วเราไปเรียนรู้เรื่องนี้พร้อม ๆ กันเลยนะคะ   สังข์ทอง ความเป็นมา     สังข์ทอง มีที่มาจาก สุวรรณสังขชาดก

ไตรภูมิพระร่วง เรียนรู้วรรณคดีเก่าแก่จากสมัยสุโขทัย

ไตรภูมิพระร่วง เป็นวรรณคดีเก่าแก่ที่แต่งขึ้นตั้งแต่สมัยสุโขทัย น้อง ๆ สงสัยไหมคะว่าทำไมวรรณคดีที่เก่าแก่ขนาดนี้ถึงยังมีให้เห็น ให้เราได้เรียนกันมาจนถึงปัจจุบัน บทเรียนในวันนี้จะพาน้อง ๆ ทุกคนไปไขข้องใจทั้งประวัติความเป็นมา ลักษณะคำประพันธ์ รวมไปถึงเรื่องย่อในตอน มนุสสภูมิ กันด้วย ถ้าพร้อมแล้วเราไปเรียนรู้เรื่องนี้พร้อมกันเลยค่ะ   ความเป็นมาของเรื่อง   ไตรภูมิพระร่วง เดิมเรียกว่า เตภูมิกถา หรือ ไตรภูมิกถา แต่สมเด็จพระยาดำรงราชานุภาพ ทรงเปลี่ยนชื่อให้เพื่อเป็นเกียรติแก่พญาลิไท กษัตริย์ในราชวงศ์พระร่วงผู้พระราชนิพนธ์เรื่องนี้เมื่อปี

โลโก้ NockAcademy

ทดลองฟรี!

เข้าใจได้ทันที NockAcademy ไลฟ์สดอันดับ 1 

โลโก้ NockAcademy

ทดลองฟรี!

เข้าใจได้ทันที NockAcademy ไลฟ์สดอันดับ 1