จะเห็นได้ว่าบทกลับของทฤษฎีบทพีทาโกรัสเป็นการนําผลของทฤษฎีบทพีทาโกรัสมาเป็นเหตุและนําเหตุมาเป็นผลนั่นเอง เพื่อประยุกต์ใช้ในรูปสามเหลี่ยมแต่ละลักษณะนั่นเอง
บทกลับของทฤษฎีบทพีทาโกรัส
บทกลับของทฤษฎีบทพีทาโกรัสกล่าวว่า “สำหรับรูปสามเหลี่ยมใดๆ ถ้ากำลังสองของความยาวของด้านด้านหนึ่งเท่ากับผลบวกของกำลังสองของความยาวของด้านอีกสองด้านแล้วรูปสามเหลี่ยมนั้นเป็นสามเหลี่ยมมุมฉาก”
โดยบทกลับของทฤษฎีบทพีทาโกรัสเป็นการนำผลของทฤษฎีบทพีทาโกรัสมาเป็นเหตุและนำเหตุมาเป็นผล ดังนั้น
เหตุ: มีรูปสามเหลี่ยมรูปหนึ่ง เป็นรูปสามเหลี่ยมมุมฉาก
ผล : กำลังสองของความยาวของด้านตรงข้ามมุมฉาก เท่ากับ ผลบวกของกำลังสองของความยาวของด้านประกอบมุมฉากของรูปสามเหลี่ยม
เมื่อนำผลข้างต้นมาเป็นเหตุ และเหตุมาเป็นผล ก็จะได้บทกลับของทฤษฎีบทพีทาโกรัส ดังนี้
ตัวอย่างที่ 1
กำหนดความยาวของด้านทั้งสามของรูปสามเหลี่ยมให้ให้แสดงว่ารูปสามเหลี่ยมนั้นเป็นรูปสามเหลี่ยมมุมฉากหรือไม่
1) 7, 9, 11 2) 8, 15, 17
ในกรณีที่โจทย์กำหนดความยาวให้ 3 ด้าน และถามว่านำมาประกอบกันเป็นรูปสามเหลี่ยมมุมฉากหรือไม่ ถ้าใช่ยังสามารถตรวจสอบต่อไปได้อีกว่าเป็นรูปสามเหลี่ยมอะไรโดยพิจารณาให้ ดังนี้
และความยาวของด้านทั้งสามต้องสัมพันธ์กันดังนี้คือ c < a + b มิฉะนั้นจะนำมาสร้างรูปสามเหลี่ยมไม่ได้
ตัวอย่างที่ 2
กำหนดความยาวของด้านให้สามด้าน นำมาสร้างรูปสามเหลี่ยมจะได้รูปสามเหลี่ยมอะไร
1) 2, 3,6 2) 3, 4, 5 3) 4 5, 6 4) 5, 6, 8