ไวยากรณ์เรื่อง There is / There are และ How many

ป.5 ไวยากรณ์เรื่อง There is _ There are และ How many

สารบัญ

Add LINE friends for one click to find article. Add LINE friends for one click to find article.

สวัสดีค่ะนักเรียนชั้น ป.5 ที่รักทุกคน วันนี้เราจะไปเรียนรู้ “ไวยากรณ์เรื่อง There is / There are และ How many” กันจ้า ถ้าพร้อมแล้วก็ไปลุยกันเลยเด้อ

ถามก่อนเรียน:

ป.5 ไวยากรณ์เรื่อง There is _ There are และ How many (2)

อ้าวแล้ว Have/has ก็แปลว่า “มี” เหมือนกันไม่ใช่เหรอ แล้ว There is/There are ต่างกันยังไงล่ะ

ตอบ:

ป.5 ไวยากรณ์เรื่อง There is _ There are และ How many (3)

ใช่แล้วค่ะ have และ has แปลว่า “มี” แต่เป็นความหมายในเชิงครอบครองหรือแสดงความเป็นเจ้าของนะคะ

 

มารู้จักกับ There is/There are…กันเถอะ

 

ป.5 ไวยากรณ์เรื่อง There is _ There are และ How many (4)

 

There is และ There are แปลว่า “มี” “มีสิ่งใดดำรงอยู่” หรือ “มีสิ่งใดเกิดขึ้น”

 

ตารางแสดงความแตกต่างของ  There is/There are และ  Have/Has

ป.5 ไวยากรณ์เรื่อง There is _ There are และ How many (5)

 

There is/There are Have/Has
There is a pen on the table.
มีปากกาหนึ่งด้ามวางอยู่บนโต๊ะ
I have a pen.
ฉันมีปากกา
There are many people at the fresh market.

มีผู้คนจำนวนมากที่ตลาดสด

She has a new car.
หล่อนมีรถคันใหม่
There aren’t any people here.

ที่นี่ไม่มีใครเลย

He hasn’t got any close friends.
เขาไม่มีเพื่อนสนิทเลย
There isn’t any money in the pocket.

ไม่มีเงินในกระเป๋า

I have no money in my pocket.

ฉันไม่มีเงินในกระเป๋า

 

จากตารางด้านบนนักเรียนจะเห็นถึงความแตกต่างว่า การใช้ There is และ There are นั้นจะบอกถึง การมีอยู่ ส่วนการใช้ Have/has นั้นจะบอกถึงการเป็นเจ้าของ ซึ่งรูปประโยคก็จะเปลี่ยนไปขึ้นอยู่กับประธานและ Tense นั่นเองจ้า

 

 

การใช้ There is และ There are

 

สำหรับคำนามนับไม่ได้ ซึ่งไม่มีรูปพหูพจน์ เราจะต้องใช้ there is เท่านั้น

There is/are ใช้กับ ตัวอย่างประโยค
There is คำนามนับได้ เอกพจน์ There is one dog in my house.
มีสุนัขตัวหนึ่งอยู่ในบ้านของฉัน
คำนามนับไม่ได้ There is water on the refrigerator.
มีน้ำอยู่ในตู้เย็น
There are คำนามนับได้ พหูพจน์ There are many rats on the roof.

มีหนูจำนวนมากบนหลังคา

 

ประโยคปฏิเสธ

 

ป.5 ไวยากรณ์เรื่อง There is _ There are และ How many (6)

 

การใช้ there is และ there are ในประโยคปฏิเสธ หลักๆแล้วเราสามารถใช้ได้ 2 แบบ คือ

 

  • ใช้ not หลัง there is และ there are

 

เราสามารถใช้ there is not (เขียนย่อเป็น there isn’t) และ there are not
(เขียนย่อเป็น there aren’t) เพื่อสื่อว่า “ไม่ได้มีสิ่งใดอยู่”

 

โครงสร้าง:
“There isn’t/aren’t + ปริมาณ + คำนามนับได้”
เพื่อบอกว่าไม่ได้มีสิ่งนั้นในปริมาณเท่านั้น แต่มีมากหรือน้อยกว่า

  • isn’t ย่อมาจาก is not + นามนับได้เอกพจน์ เช่น a rat, a cat
  • aren’t ย่อมาจาก are not + นามนับได้พหูพจน์ rats, cats

 

ประโยคA)

There isn’t one rat on the roof.

ไม่มีหนู 1 ตัวอยู่บนหลังคา (อาจจะมีหนูมากกว่า 1 ตัวอยู่บนหลังคาก็ได้นะคะ)

ประโยค B)

There aren’t rats on the roof.
ไม่มีหนู (หลายตัว)อยู่บนหลังคา

 

  • หากต้องการบอกว่า ไม่มีสิ่งนั้นอยู่เลย นักเรียนสามารถใช้โครงสร้าง “There isn’t any + คำนามนับไม่ได้” ได้เลยนะคะ
    ดังในตัวอย่างประโยคด้านล่าง

 

There isn’t any food left for tonight.
ไม่มีอาหารเหลือสำหรับคืนนี้เลย

 

  • ใช้โครงสร้าง “There aren’t any + คำนามนับได้พหูพจน์” เพื่อบอกว่าไม่มีสิ่งนั้นอยู่เลย
    ดังในตัวอย่างประโยคด้านล่างนะคะนักเรียน

There aren’t any students at school during a summer.
ไม่มีนักเรียนเลยที่โรงเรียนในช่วงวันหยุดฤดูร้อน

 

  • นักเรียนสามารถบอกว่าไม่ได้มีสิ่งใด หรือ ใคร อยู่ ในโครงสร้าง “There is no + คำนามนับได้เอกพจน์”
    ดังตัวอย่างประโยค 

There is no one in my house.
บ้านฉันไม่มีใครอยู่

 

  • ใช้โครงสร้าง “There is no + คำนามนับไม่ได้” แปลว่า ไม่มี…+ คำนามนั้นๆ
    ดังตัวอย่างประโยค

There is no water in the pond.
ไม่มีน้ำในสระ

 

  • ใช้โครงสร้าง “There are no + คำนามนับได้พหูพจน์” แปลว่า ไม่มี…+ คำนามนั้นๆ
    ดังตัวอย่างประโยค

There are no cars on the road at night time.
ไม่มีรถบนถนนในเวลากลางคืน

 

ประโยคคำถาม

 

ป.5 ไวยากรณ์เรื่อง There is _ There are และ How many (7)

 

หลักๆแล้วเราจะใช้ there is และ there are ในประโยคคำถาม 2 แบบ คือ

 

  • มีหรือไม่

ในการถามว่ามีสิ่งใดหรือไม่ เราจะใช้ Is there… และ Are there… โดยโครงสร้างที่ใช้หลักๆแล้วจะมี

 

“Is there + a/an + คำนามนับได้เอกพจน์”

 

Is there a bird on the tree?

มีนกอยู่บนต้นไม้หรือเปล่า

“Is there + any + คำนามนับไม่ได้”
ดังประโยคด้านล่าง

Is there any water left for me?
มีน้ำเหลือให้ฉันไหม

และ “Are there + any + คำนามนับได้พหูพจน์”

 

Are there any books to recommend?
มีหนังสือแนะนำมั้ยคะ/ครับ

สรุปโครงสร้างการตอบ

Is there…?

Is there…?

Are there…?

Are there…?

Yes, there is. 

No, there isn’t.
Yes, there are.

No, there aren’t.

 

 

การใช้ How many?

 

ป.5 ไวยากรณ์เรื่อง There is There are และ How many


How many ใช้ถามว่า มีจำนวนเท่าไร

 

โครงสร้าง: How many + คำนามนับได้พหูพจน์ + are there?

How many ใช้ถามจำนวนของนามที่นับได้

 

  • การใช้: How many

How many ใช้กับคำนามที่นับได้ และข้อสำคัญคือต้องเป็นพหูพจน์

How many + Plural noun + ………………?

 

เช่น

How many novels do you have in your room?
คุณมีนิยายกี่เล่มในห้องของคุณ

How many students are there in your school?
โรงเรียนของคุณมีนักเรียนกี่คน

How many school bags do you have?
คุณมีกระเป๋านักเรียนกี่ใบ

How many members in your family?
มีสมาชิกกี่คนในบ้านของคุณ

How many scores do you want?
คุณอยากได้คะแนนกี่คะแนน

 

** คำนามหลัง how many จะต้องเป็นนามพหูพจน์ตลอดนะคะ ทีนี้นักเรียนลองไปทำ Quiz สนุกๆด้านล่างกันเลยจ้า

 

Quiz: There is/There are

 

ป.5 ไวยากรณ์เรื่อง There is _ There are และ How many (10)


คำสั่ง: จากรูปภาพ ให้นักเรียนพิมพ์ A ถ้าข้อความด้านล่างถูก(TRUE) หรือพิมพ์ Bถ้าข้อความด้านล่างผิด(FALSE)
ใต้โพสต์เลยจ้า

 

  1. There is one cat under the table.
    (มีแมว 1 ตัวอยู่ใต้โต๊ะ)
  2. There are four balls in the room.
    ( มีลูกบอล4ลูกอยู่ในห้อง)
  3. There are two chairs.
    (มีเก้าอี้สองตัว)
  4. There is no window in the picture.
    (ไม่มีหน้าต่างอยู่ในภาพเลย)
  5. There aren’t any people in the picture.
    (ไม่มีคนอยู่ในรูปภาพเลย)
  6. There is one bed in the room.
    (มีเตียงนอนตัวเดียวในห้อง)
  7. There are six candles on the table.
    (มีเทียน 5 แท่งบนโต๊ะ)
  8. There is one pumpkin on the table.
    (มีฟักทอง 1 ลูกบนโต๊ะ)
  9. There is a girl in the picture.
    (มีเด็กผู้หญิง 1 คนในภาพ)
  10. There aren’t any flags in the picture.
    (ไม่มีธงชาติอยู่ในภาพเลย)

 

เป็นยังไงกันบ้างคะนักเรียน พอจะเข้าใจไวยากรณ์เรื่อง There is / There are และ How many กันมากขึ้นมั้ยคะ
อย่าลืมดูคลิปวีดีโอเพื่อเป็นการทบทวนบทเรียนเพิ่มเติมได้ที่ด้านล่างเลยนะคะ สนุกมากๆเลย

คลิกปุ่มเพลย์ แล้วไปเรียนให้สนุกกับทีเชอร์กรีซได้เลยจ้า 

Have a good day!

NockAcademy คือโรงเรียนออนไลน์สำหรับเด็ก โดยแอปฯ และเว็บไซต์ นักเรียนสามารถเรียนรู้ผ่านคลิปบทเรียนวิชา คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และภาษาไทย
มากไปกว่านั้น เรายังมีคอร์สเรียนออนไลน์ การสอนพิเศษ การติวนอกสถานที่โดยติวเตอร์ที่แน่นไปด้วยความรู้ อีกด้วย

Add LINE friends for one click to find article. Add LINE friends for one click to find article.
ครูผู้สอน NockAcademy

แค่ 10 นาที ก็เข้าใจได้

สามารถดูคลิปบทเรียนวิชา คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และภาษาไทย ที่มีมากกว่า 2,000+ คลิป และยังสามารถทำแบบทดสอบที่มีมากกว่า 4000+ ข้อ

แนะนำ

แชร์

Profile_imperative sentence

การใช้ประโยคคำสั่ง หรือ Imperative sentence ในชีวิตประจำวัน

สวัสดีค่ะนักเรียนชั้นป.5 ที่น่ารักทุกคน วันนี้ครูจะพาไปเรียนรู้เกี่ยวกับ การใช้ประโยคคำสั่ง หรือ Imperative sentence ในชีวิตประจำวัน กันนะคะ ซึ่งเราจะเจอประโยคเหล่านี้ตั้งแต่ตื่นนอน ทานข้าว เดินไปโรงเรียน ไปดูหนัง ข้ามถนน ข้ามสะพาน ขึ้นแท็กซี่ และในกิจกรรมอื่นๆอีกมากมาย หากว่าพร้อมแล้วก็ไปลุยกันเลย รูปแบบและโครงสร้างประโยคคำสั่ง Imperative sentence     คือประโยคที่เจอบ่อยเมื่อต้องพูด ให้คำคำปรึกษา

หลักการของอัตราส่วนที่เท่ากัน

หลักการของอัตราส่วนที่เท่ากัน

ในบทความนี้เราจะได้เรียนรู้วิธีการในการหาค่าตัวแปรในการใช้สัดส่วน สามารถมารถนำไปประยุกต์ใช้กับการแก้โจทย์ปัญหาในชีวิตจริงได้ พิจารณาสิ่งที่ต้องการแสดงการเปรียบเทียบโดยการเขียนเป็นอัตราส่วนสองอัตราส่วนอย่างเป็นลำดับและหาค่าของตัวแปรได้

การแก้อสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว

บทความนี้จะเป็นการสอนวิธี การแก้อสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว ซึ่งสามารถทำได้โดยการจัดรูปของตัวแปรให้อยู่ด้านเดียวกันและตัวเลขอยู่อีกด้าน เพื่อหาค่าของตัวแปรนั้นๆ แต่ก่อนที่น้องๆจะได้เรียนรู้การแก้อสมการนั้น น้องๆสามารถทบทวน อสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียวเพิ่มเติมได้ที่  ⇒⇒ แนะนำอสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว ⇐⇐ หลักการแก้อสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว ในการแก้อสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว จะทำคล้ายๆกับการแก้สมการ โดยมีหลักการ ดังนี้ จัดตัวแปรให้อยู่ข้างเดียวกัน และจัดตัวเลขไว้อีกฝั่ง (นิยมจัดตัวแปรไว้ด้านซ้ายของสัญลักษณ์อสมการ และจัดตัวเลขไว้ด้านขวาของสัญลักษณ์อสมการ) ถ้านำจำนวนลบ มาคูณ หรือ หาร สัญลักษณ์ของอสมการจะเปลี่ยนเป็นสัญลักษณ์ตรงกันข้าม ดังนี้

NokAcademy_ม6 Relative Clause

ทบทวนเรื่อง Relative clause + เทคนิค Error Identification

สวัสดีค่ะนักเรียนม. 6 ที่รักทุกคน วันนี้เราจะไปดู Relative clause หรือ อนุประโยคในภาษาอังกฤษ ที่ทำหน้าที่เหมือนกันกับคำคุณศัพท์ (Adjective) ซึ่งมีหน้าที่ขยายคำนามที่อยู่ข้างหน้า  และจะใช้ตามหลัง Relative Pronoun เช่น  who, whom, which, that, และ whose แต่สงสัยมั้ยคะว่าทำไมต้องเรียนเรื่องนี้ ลองดูตัวอย่างประโยคด้านล่างแล้วจะร้องอ๋อมากขึ้น พร้อมข้อสอบ Error

การบอกลักษณะต่างๆ โดยใช้คำคุณศัพท์ Profile

การบอกลักษณะต่างๆโดยใช้คำคุณศัพท์

สวัสดีค่ะนักเรียนชั้นม.3 ที่น่ารักทุกคน วันนี้ครูจะพาไปดูเทคนิค การบอกลักษณะต่างๆโดยใช้คำคุณศัพท์ (Descriptive Adjective) กันค่ะ ถ้าพร้อมแล้วก็ไปลุยกันเลยจร้า    ความหมายของคำคุณศัพท์     คำคุณศัพท์หรือ Adjective มีตัวย่อคือ Adj.  ทำหน้าที่ขยายคำนามหรือสรรพนามที่อยู่ในประโยค คำนามหรือสรรพนาม ณ ที่นี้ ก็คือ คน สัตว์ สิ่งของ สถานที่

ศึกษาที่มาของ ขัตติยพันธกรณี บทประพันธ์ที่มาจากเรื่องจริงในอดีต

ขัตติยพันธกรณี เป็นพระราชนิพนธ์ในรัชกาลที่ 5 มีที่มาจากเหตุการณ์จริงในประวัติศาสตร์ น้อง ๆ สงสัยกันไหมคะว่าเกี่ยวกับเรื่องไหน เหตุใดพระองค์จึงต้องพระราชนิพนธ์วรรณคดีเรื่องนี้ขึ้นมา เราไปหาคำตอบถึงที่มา ความสำคัญ และเนื้อเรื่องกันเลยค่ะ รับรองว่านอกจากจะได้ความรู้เกี่ยวกับบทประพันธ์แล้ว บทเรียนในวันนี้ยังมีเกร็ดความรู้ทางประวัติศาสตร์ให้น้อง ๆ อีกด้วยค่ะ ถ้าพร้อมแล้วเราไปเรียนรู้เรื่องนี้พร้อมกันเลยค่ะ   ที่มาของ ขัตติยพันธกรณี     ขัตติยพันธกรณีมีความหมายถึงเหตุอันเป็นข้อผูกพันของกษัตริย์ เป็นพระราชหัตถเลขาของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวและตอบกลับโดยสมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ มีที่มาจากเหตุการณ์จริงในประวัติศาสตร์ ช่วง

โลโก้ NockAcademy

ทดลองฟรี!

เข้าใจได้ทันที NockAcademy ไลฟ์สดอันดับ 1 

โลโก้ NockAcademy

ทดลองฟรี!

เข้าใจได้ทันที NockAcademy ไลฟ์สดอันดับ 1