มาสำรวจรอบๆโรงเรียนกันดีกว่า: การใช้ There is/There are แบบเข้าใจง่ายๆ

เชื่อว่าช่วงนี้น้องๆ น่าจะเปิดเทอมกันมาได้สักพักนึงแล้ว แล้วน้องๆ เคยมีเวลาไปสำรวจรอบๆ โรงเรียนของเรากันรึยังเอ่ย? วันนี้พี่จะมาบอกประโยคง่ายๆ ที่ใช้พูดเวลาเจอสิ่งที่น่าสนใจรอบๆโรงเรียนของเรากัน

สารบัญ

Add LINE friends for one click to find article. Add LINE friends for one click to find article.

ทำความรู้จักกับ There is/There are

พื้นฐานที่ควรมีมาก่อน: Singular/Plural Noun, Countable/Uncountable Noun

There is/There are ถ้าแปลเป็นไทยให้เข้าใจง่ายๆ นั้นจะแปลว่า “มี” ใช้บอกว่ามีสิ่งนั้นอยู่ตรงนั้น มีสิ่งนี้อยู่ตรงนี้ แต่เอ๊ะ!…เราจะเลือกใช้ There is หรือ There are อย่างไรดีล่ะ? น้องๆ ลองดูประโยคตัวอย่างกันเลย

There is a teacher in a classroom.

มีครูคนนึงอยู่ในห้องเรียน

There are students in a cafeteria.

มีเด็กนักเรียน(หลายคน)อยู่ในโรงอาหาร

ถ้าน้องๆ สังเกตจะเห็นว่า There is จะตามด้วยคน 1 คน สิ่ง 1 สิ่ง หรืออะไรที่มีอย่างเดียวเท่านั้น (ในตัวอย่างคือ ครู 1 คน) ซึ่งเราจะเรียกสิ่งนั้นว่าเป็น Singular Noun หรือ คำนามเอกพจน์

ในทางกลับกัน There are จะตามด้วยคนหลายๆคน ของหลายๆอย่าง (ในตัวอย่างคือ เด็กนักเรียนหลายคน) ซึ่งเราเรียกสิ่งนั้นว่าเป็น Plural Noun หรือ คำนามพหูพจน์นั่นเอง

และน้องๆ ทราบหรือไม่ว่า There is นั้นใช้กับคำนามที่นับไม่ได้ (Uncountable Noun) ด้วยนะ (แน่ล่ะ! เพราะว่ามันนับไม่ได้ มันจึงมีค่าเป็น 1 อยู่ตลอดเวลาไง) เช่น

There is rice in my plate.

มีข้าวอยู่ในจานของฉัน

There is milk in a school fridge.

มีนมอยู่ในตู้เย็นของโรงเรียน

*ถ้าน้องๆ คนไหนยังไม่มั่นใจเรื่อง Countable/Uncountable Noun อย่าลืมกลับไปทบทวนกันด้วยนะ 🙂

“There is”

 

“There are”

 

ย่อ There is ให้พูดง่ายๆ สบายปาก

 

ในการพูด There is ในชีวิตจริงนั้น น้องๆ สามารถย่อประโยคให้สั้นลงได้ด้วยนะ ซึ่งการย่อแบบนี้เรียกว่า Contractions (ไม่จำเป็นต้องจำชื่อเรียกมันหรอกนะ)

สำหรับคำย่อของ There is คือ There’s ออกเสียงเหมือนคำว่า There เลย แค่ใส่เสียง s ต่อท้ายแค่นั้นเอง เช่น

There is a burger at a food stall.

มีเบอร์เกอร์ที่ซุ้มขายอาหารด้วยล่ะ (จะแปลว่า “ที่ซุ้มขายอาหารมีเบอร์เกอร์ด้วยล่ะ” ก็ได้นะ)

ย่อได้เป็น

There’s a burger at a food stall.

สำหรับ There are นั้นเราไม่สามารถย่อได้นะ

*การใช้รูป There’s ที่ย่อแบบนี้นิยมใช้ในภาษาพูด (Spoken Language) เท่านั้นนะ ถ้าน้องๆ เอาไปเขียนเรียงความส่งคุณครูให้เขียน There is แบบเต็มๆ ตลอดนะครับ 🙂

 

There’s a burger.

 

แล้วถ้า “ไม่มี” ล่ะ?: Negative Form

 

เรารู้กันไปแล้วใช่ไหมครับว่า There is/There are แปลว่า “มี” แล้วถ้าน้องๆ อยากบอกว่า “ไม่มี” ล่ะ สามารถพูดอย่างไรได้บ้าง? ง่ายมากครับ แค่เติม not ไปข้างหลัง is/are เท่านั้นเอง เช่น

There is not a TV in the class.

ไม่มีทีวีอยู่ในชั้นเรียน (หรือ ในชั้นเรียนไม่มีทีวี)

There is not a dog in school.

ไม่มีสุนัขอยู่ในโรงเรียน (หรือ ในโรงเรียนไม่มีสุนัข)

There are not students in the library.

ไม่มีนักเรียนอยู่ในห้องสมุด (หรือ ในห้องสมุดไม่มีนักเรียน)

There are not parents in the building.

ไม่มีผู้ปกครองอยู่ในอาคาร

ซึ่งในภาษาพูดเราสามารถย่อประโยคปฎิเสธของ There is/There are ได้ดังนี้ครับ

There isn’t a TV in the class. (There is not = There isn’t)

There aren’t parents in the building. (There are not = There aren’t)

Tips: เราสามารถใช้ any ตามหลัง there are not ได้ เพื่อแสดงให้เห็นว่า “ไม่มีสิ่งนั้นเลย” เช่น There are not any students in school on Sunday. (ไม่มีนักเรียนที่โรงเรียนในวันอาทิตย์เลย) หรือใช้กับ Uncountable Noun เช่น There is not any grass in the football field. (ไม่มีหญ้าในสนามฟุตบอลเลย)

There’s a TV.

 

There isn’t a TV.

 

มีถั่วไหม?: Question Form

 

ถ้าเราต้องการถามใครสักคนว่า มี…ไหม? เราสามารถใช้โครงสร้าง There is/There are ถามได้ โดยย้าย Is/Are มาไว้ด้านหน้าประโยค เช่น

Is there a toilet in the building?

มีห้องน้ำในตัวอาคารไหม?

Is there a computer in the library?

มีคอมพิวเตอร์ในห้องสมุดไหม?

(Is there สามารถตอบได้ว่า Yes, there is. หรือ No, there isn’t)

และถ้าเป็นคำนามพหูพจน์และคำนามที่นับไม่ได้ ให้ใช้ any ด้วยเสมอ เช่น

Are there any teachers on the second floor?

มีครูอยู่บนชั้น 2 บ้างไหม?

Is there any juice for students?

มีน้ำผลไม้สำหรับนักเรียนบ้างไหม?

Are there any children in the playground?

มีเด็กๆอยู่ในสนามเด็กเล่นบ้างไหม?

Is there any sugar left?

มีน้ำตาลเหลือบ้างไหม?

(Are there สามารถตอบได้ว่า Yes, there are. หรือ No, there aren’t)

Are there any beans?

 

มีกี่อันกันนะ?: How many … are there?

 

หากน้องๆ ต้องการถามจำนวนของสิ่งนั้นๆว่ามีกี่อัน กี่ชิ้น กี่คน น้องๆ สามารถใช้โครงสร้าง

How many + plural noun + are there?

*ใช้กับคำนามที่นับได้ที่เป็นพหูพจน์เท่านั้น (น้องๆ ยังจำได้ใช่ไหมว่าคำนามที่นับไม่ได้มีค่าเป็น 1 เสมอ ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องถามว่ามีเท่าไหร่นั่นเอง)

How many students are there in this room?

ในห้องนี้มีนักเรียนกี่คน?

How many tables are there in the cafeteria?

ในโรงอาหารมีโต๊ะกี่ตัว?

How many food stalls are there around the school?

มีรถเข็นขายอาหารกี่ร้านรอบๆโรงเรียน?

A: How many people are there?

B: There are five people.

 

เห็นไหมครับว่าการใช้ There is/There are นั้นง่ายมากๆ ใช้บอกได้ว่าตรงนั้นมีอะไร ตรงนู้นมีอะไร หรือถามว่ามีอะไรอยู่ตรงนั้นไหม? มีจำนวนเท่าไหร่? ประโยชน์ในการใช้หลากหลายมากๆ ครับ ว่างๆ ลองเดินสำรวจรอบๆ โรงเรียนและฝึกพูดกับคุณครูหรือเพื่อนๆ กันได้นะครับ 🙂

NockAcademy คือโรงเรียนออนไลน์สำหรับเด็ก โดยแอปฯ และเว็บไซต์ นักเรียนสามารถเรียนรู้ผ่านคลิปบทเรียนวิชา คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และภาษาไทย
มากไปกว่านั้น เรายังมีคอร์สเรียนออนไลน์ การสอนพิเศษ การติวนอกสถานที่โดยติวเตอร์ที่แน่นไปด้วยความรู้ อีกด้วย

Add LINE friends for one click to find article. Add LINE friends for one click to find article.
ครูผู้สอน NockAcademy

แค่ 10 นาที ก็เข้าใจได้

สามารถดูคลิปบทเรียนวิชา คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และภาษาไทย ที่มีมากกว่า 2,000+ คลิป และยังสามารถทำแบบทดสอบที่มีมากกว่า 4000+ ข้อ

แนะนำ

แชร์

สมบัติการบวกจำนวนจริง

สมบัติการบวกจำนวนจริง สมบัติการบวกจำนวนจริง เป็นสมบัติที่น้องๆต้องรู้ เพราะเป็นรากฐานของวิชาคณิตศาสตร์และน้องๆจะต้องใช้สมบัติพวกนี้ในการเรียนคณิตศาสตร์ในระดับที่สูงขึ้น สมบัติการบวกของจำนวนจริง มีทั้งหมด 5 ข้อ ดังนี้   1.) สมบัติปิดการบวก  สมบัติปิดการบวก คือ การที่เรานำจำนวนจริง 2 ตัวมาบวกกัน เราก็ยังได้ผลลัพธ์เป็นจำนวนจริงเหมือนเดิม เช่น 1 + 2 = 3 จะเห็นว่า

การถามทางในภาษาอังกฤษ Asking for Direction in English

สวัสดีค่ะนักเรียนป.6 ที่น่ารักทุกคน เคยมั้ยที่เราเจอฝรั่งถามทางแล้วตอบไม่ได้ ทำได้แค่ชี้ๆ แล้วก็บ๊ายบาย หากทุกคนเคยเจอปัญหานี้ ต้องท่องศัพท์และรู้โครงสร้างประโยคที่สำคัญในการถามทางแล้วล่ะ ไปลุยกันเลย   การถามทางในภาษาอังกฤษ Asking for Direction in English   การถามทิศทางจะต้องมีประโยคเกริ่นก่อนเพื่อให้คนที่เราถาม ตั้งตัวได้ว่า กำลังจะโดนถามอะไร ยังไง ซึ่งเราสามารถถามได้ทั้ง คำถามแบบสุภาพเมื่อพูดกับคนที่เราไม่คุ้นเคย หรือ คำถามทั่วไปเมื่อพูดกับคนใกล้ตัว  

ประมาณค่าทศนิยมด้วยการปัดทิ้งและปัดทด

บทความนี้จะพูดถึงเรื่องพื้นฐานของทศนิยมอีก 1 เรื่องก็คือการประมาณค่าใกล้เคียงของทศนิยม น้อง ๆคงอาจจะเคยเรียนการประมาณค่าใกล้เคียงของจำนวนเต็มมาแล้ว การประมาณค่าทศนิยมหลักการคล้ายกับการประมาณค่าจำนวนเต็มแต่อาจจะแตกต่างกันที่คำพูดที่ใช้ เช่นจำนวนเต็มจะใช้คำว่าหลักส่วนทศนิยมจะใช้คำว่าตำแหน่ง บทความนี้จึงจะมาแนะนำหลักการประมาณค่าทศนิยมให้น้อง ๆเข้าใจ และสามารถประมาณค่าทศนิยมได้อย่างถูกต้อง

คติธรรมในสำนวนไทย

คติธรรม หมายถึง ธรรมที่เป็นแบบอย่าง เป็นวัฒนธรรมที่เกี่ยวกับหลักการดำเนินชีวิตซึ่งได้มาจากหลักธรรมทางพระพุทธศาสนาหรืออาจเรียกได้ว่าเป็นวัฒนธรรมทางจิตใจอย่างหนึ่งที่คนไทยให้ความสำคัญอย่างมากและมักจะถูกสอดแทรกอยู่ในสื่อต่าง ๆ เพื่อปลูกฝังเด็กรุ่นใหม่ให้มีคติธรรมประจำใจ ไม่ว่าจะเป็นนิทานหรือสำนวนไทย สำหรับบทเรียนในวันนี้เราจะพาน้อง ๆ ไปเรียนรู้เรื่อง คติธรรมในสำนวนไทย มาดูกันค่ะว่าจะมีอะไรบ้าง   สำนวนที่เกี่ยวกับคติธรรม   สำนวนไทยถือเป็นภูมิปัญญาในการใช้ภาษาไทยอีกรูปแบบหนึ่ง เป็นถ้อยคำที่มิได้มีความหมายตรงไปตรงมาตามตัวอักษร หรือแปลตามรากศัพท์ แต่เป็นถ้อยคำที่มีความหมายเป็นอย่างอื่น ชวนให้ผู้อ่านได้คิด มีรูปแบบการใช้ภาษาที่ต้องผ่านการเรียบเรียงถ้อยคำ การรวมข้อความยาว ๆ ให้สั้น โดยนำถ้อยคำเพียงไม่กี่คำมาเรียงร้อย

Life is Simple: ทำความรู้จัก Present Simple Tense

เรื่อง Tense (กาล) ในภาษาอังกฤษเป็นเรื่องที่สำคัญมากๆ อีกเรื่องหนึ่ง และ Tense ที่เป็นพื้นฐานสุดๆ และน้องๆ จะพบเจอบ่อยที่สุดก็คือ Present Simple นั่นเอง วันนี้เราจะมาปูพื้นฐานและทบทวนความรู้เรื่องนี้กันครับ

รู้ไว้ไม่พลาด! คำที่มักเขียนผิด ในภาษาไทย มีคำว่าอะไรบ้าง?

ปัจจุบัน ปัญหาเรื่องการสะกดคำในภาษาไทยถือเป็นปัญหาใหญ่หลัก ๆ ของเด็กทุกคนในสมัยนื้ เนื่องจากว่าโลกของเรามีการพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว ภาษามีการเปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย เพื่อให้สะดวกต่อการใช้ในโซเชี่ยลมีเดียพูดคุยกับเพื่อน โดยการจะตัดคำให้สั้นลงหรือเปลี่ยนตัวสะกด ลดการใช้ตัวการันต์ ทำให้เมื่อต้องมาเขียนคำที่ถูกต้องกันจริง ๆ ก็มีเด็ก ๆ หลายคนที่สะกดผิด ไม่รู้ว่าคำที่ถูกต้องเป็นอย่างไร น้อง ๆ อยากลองสำรวจตัวเองดูกันไหมคะว่าคำในภาษาไทยที่เราใช้กันอยู่ทุกวันนี้ เราเขียนถูกกันมากน้อยแค่ไหน อยากถามรู้แล้วเราไปดูเรื่อง คำที่มักเขียนผิด พร้อมกันเลยค่ะ   การเขียนสะกดคำ  

โลโก้ NockAcademy

ทดลองฟรี!

เข้าใจได้ทันที NockAcademy ไลฟ์สดอันดับ 1 

โลโก้ NockAcademy

ทดลองฟรี!

เข้าใจได้ทันที NockAcademy ไลฟ์สดอันดับ 1