Second Conditional Sentence: ประโยคเงื่อนไขแบบที่ 2

สวัสดีน้องๆ ม. 5 ทุกคนนะครับ วันนี้เราจะมาเรียนรู้เกี่ยวกับ Conditional Sentence หรือ If Clause รูปแบบที่ 2 กันครับ ถ้าพร้อมแล้วไปดูกันเลย
second conditional

สารบัญ

Add LINE friends for one click to find article. Add LINE friends for one click to find article.

Second Conditional

โครงสร้างประโยคแบบ Second Conditional หรือที่น้องๆ อาจจะรู้จักในชื่อ If Clause แบบที่ 2 นั้น เป็นโครงสร้างที่ใช้กล่าวถึงเหตุการณ์ที่ตรงข้ามกับความเป็นจริงในปัจจุบัน หรือมีโอกาสเป็นไปได้น้อยมากๆ หรือเป็นไปไม่ได้เลย ซึ่งโครงสร้างของมันคือ

second conditional structure

 

วิธีการใช้

เราสามารถจำแนกวิธีการใช้ออกเป็น 2 แบบ ดังนี้ครับ

  • ใช้พูดถึงเหตุการณ์ในอนาคตที่ไม่อาจจะเกิดขึ้นได้จริง อาจจะเกิดจากการจินตนาการหรือเพ้อฝัน เช่น

If I won the lottery, I would buy a new laptop.
(ถ้าฉันถูกหวย ฉันจะซื้อแล็ปท็อปเครื่องใหม่)

 

If she married Robert Pattinson, she would be happy.
(ถ้าเธอแต่งงานกับโรเบิร์ต แพตตินสัน เธอจะมีความสุข)

example

 

  • ใช้พูดถึงสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ในปัจจุบัน เช่น

If I had his number, I would call him.
(ถ้าฉันมีเบอร์เขา ฉันจะโทรหาเขา)
=ความจริงคือฉันไม่มีเบอร์เขา

If I were you, I wouldn’t go out with that guy.
(ถ้าฉันเป็นคุณ ฉันจะไม่ออกไปกับผู้ชายคนนั้น)
=ความจริงคือฉันไม่ใช่เธอ

If she studied hard, she would pass the exam.
(ถ้าเธอเรียนหนัก เธอจะสอบผ่าน)
=ความจริงคือเธอไม่ตั้งใจเรียน และสอบไม่ผ่าน

second conditional

 

ข้อควรจำ

  • น้องๆ สามารถสลับประโยคที่เป็นเหตุและผลกันได้ เช่น

If I had his number, I would call him. = I would call him if I had his number.

โดยหากคำว่า if อยู่กลางประโยคน้องๆ ไม่จำเป็นต้องใส่เครื่องหมายคอมม่า (,) แต่หาก if ขึ้นต้นประโยคจะต้องใส่คอมม่าคั่นระหว่างประโยคทุกครั้ง

  • นอกจากกริยา would แล้ว น้องๆ สามารถใช้ could หรือ might แทนได้เช่นกัน
  • ประธานไม่ว่าจะเป็นเอกพจน์ หรือพหูพจน์หากอยู่ในโครงสร้างนี้โดยใช้ Verb to be จะใช้ were ตัวเดียวเท่านั้น
  • ประโยคเงื่อนไขรูปแบบที่ 2 นี้ออกข้อสอบบ่อยมากๆ ฉะนั้นน้องๆ ต้องหมั่นใช้ให้คล่องนะครับ

 

เป็นอย่างไรกันบ้างครับสำหรับประโยคแบบ Second Conditional หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับน้องๆ ม. 5 ทั้งในชีวิตประจำวันและในการสอบนะครับ หากน้องๆ คนไหนอยากเรียนรู้เพิ่มเติมก็สามารถรับชมวิดีโอจากช่อง Nock Academy ด้านล่างได้เลยครับ

NockAcademy คือโรงเรียนออนไลน์สำหรับเด็ก โดยแอปฯ และเว็บไซต์ นักเรียนสามารถเรียนรู้ผ่านคลิปบทเรียนวิชา คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และภาษาไทย
มากไปกว่านั้น เรายังมีคอร์สเรียนออนไลน์ การสอนพิเศษ การติวนอกสถานที่โดยติวเตอร์ที่แน่นไปด้วยความรู้ อีกด้วย

Add LINE friends for one click to find article. Add LINE friends for one click to find article.
ครูผู้สอน NockAcademy

แค่ 10 นาที ก็เข้าใจได้

สามารถดูคลิปบทเรียนวิชา คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และภาษาไทย ที่มีมากกว่า 2,000+ คลิป และยังสามารถทำแบบทดสอบที่มีมากกว่า 4000+ ข้อ

แนะนำ

แชร์

Profile Telling Time

“บอกเวลาในภาษาอังกฤษ (Time in English) ”

Hi guys! สวัสดีค่ะนักเรียนชั้น ป.5 ที่น่ารักทุกคน วันนี้เราจะไปดูวิธีการ “บอกเวลาในภาษาอังกฤษ (Telling Time in English) ” กันค่ะ ถ้าพร้อมแล้วก็ไปลุยกันเลย  บทนำ ในบทเรียนนี้ครูขอยกตัวอย่างการบอกเวลาที่นิยมใช้กันโดยทั่วไปใน 2 รูปแบบ ตามที่มาของ Native English หรือ ภาษาอังกฤษของเจ้าของภาษา นะคะ  ดังตัวอย่างดังต่อไปนี้

การใช้ Possessive Pronoun

สวัสดีค่ะนักเรียนชั้นป.6 ที่น่ารักทุกคน วันนี้เราจะไปเรียนรู้เรื่อง การใช้ Possessive Pronoun ถ้าพร้อมแล้วก็ไปลุยกันเลยจ้า บทนำ Possessive pronoun (เช่น mine, yours, hers) ถือเป็นหัวข้อหนึ่งในภาษาอังกฤษที่หลายคนมักจะสับสน นั่นก็เพราะมันมีความคล้ายคลึงกับ Possessive adjective (เช่น my, your, her) ลองเปรียบเทียบประโยคเหล่านี้ดูนะคะ   A

ค่าของฟังก์ชันไซน์และโคไซน์

ค่าของฟังก์ชันไซน์และโคไซน์

ค่าของฟังก์ชันไซน์และโคไซน์ ค่าของฟังก์ชันไซน์และโคไซน์ จะเกี่ยวข้องกับ θ พิกัดของ จุด (x, y) ซึ่งในบทความนี้จะอธิบายเกี่ยวกับ ความสัมพันธ์ระหว่าง x, y กับ θ จากบทความที่ผ่านมาเราได้รู้จักวงกลมหนึ่งหน่วยและการวัดความยาวส่วนโค้ง ในบทความนี้น้องๆจะได้รู้จักกับฟังก์ชันไซน์ (sine function) และฟังก์ชันโคไซน์ (cosine function) และวิธีการหาค่าของฟังก์ชันทั้งสอง Sine function =

การใช้ should ในการสร้างประโยค

การใช้ should ในการสร้างประโยค เกริ่นนำ เกริ่นใจ เคยสงสัยมั้ยว่า ชีวิตนี้ของเราควรจะต้องทำอะไรบ้าง? ภาษาอังกฤษเองก็มีอะไรแบบนี้เหมือนกันนะเอาจริง จริง ๆ ทุกภาษาก็มีเหมือนกันนะแม่ที่หากเราต้องการที่จะแนะนำว่าใครควรทำหรือชักชวนเพื่อให้รู้จักมักคุ้นกับอะไรยังไงสักอย่างอย่างมีระบบเราก็จะมีชุดคำศัพท์ที่เรา “ควร” ที่จะใช้ และนั่น!! นำมาซึ่งเนื้อหาของเราในวันนี้ อย่างเรื่อง “ควร หรือ Should” ในโลกของภาษาอังกฤษกัน แก… เราควรไปทำผมใหม่ปะ? แก… เราว่าเราควรตั้งใจเรียนแล้วปะ? แก…

who what where

Who What Where กับ Verb to be

สวัสดีน้องๆ ม. 2 ทุกๆ คนนะครับ วันนี้เรามาทำความเข้าใจเกี่ยวกับการใช้ Who/What/Where ร่วมกับ Verb to be กันครับ ไปดูกันเลย

ป.5 ไวยากรณ์เรื่อง There is _ There are และ How many

ไวยากรณ์เรื่อง There is / There are และ How many

สวัสดีค่ะนักเรียนชั้น ป.5 ที่รักทุกคน วันนี้เราจะไปเรียนรู้ “ไวยากรณ์เรื่อง There is / There are และ How many” กันจ้า ถ้าพร้อมแล้วก็ไปลุยกันเลยเด้อ ถามก่อนเรียน: อ้าวแล้ว Have/has ก็แปลว่า “มี” เหมือนกันไม่ใช่เหรอ แล้ว There is/There are

โลโก้ NockAcademy

ทดลองฟรี!

เข้าใจได้ทันที NockAcademy ไลฟ์สดอันดับ 1 

โลโก้ NockAcademy

ทดลองฟรี!

เข้าใจได้ทันที NockAcademy ไลฟ์สดอันดับ 1