สวัสดีค่านักเรียนชั้นม.5 ที่น่ารักทุกคน วันนี้เราจะไปดู ” Modal Auxiliaries หรือ Modal verbs “ ที่ใช้บ่อยพร้อมเทคนิคการใช้งานง่ายๆกันค่า Let’s go! ไปลุยกันเลยจร้า
รู้จักกับ Modal Auxiliaries
Modal Auxiliaries คือ กริยาช่วยกลุ่ม Modal verbs หรือ Modals ซึ่งจะมีความหมายพิเศษในตัวของมันเอง และ ไม่ควรจะแปลตรงๆ ตามความหมายใน Dictionary เหมือนกริยาช่วยตระกูล V. to be, V. to do, และ V. to have เราจะต้องดูที่บริบทการใช้งานของผู้พูด
กลุ่มของ Modal verbs ที่ควรรู้จักคือ shall, should, will, would, may, might can, could, must, ought to,
used to ที่เราจะได้รู้และทบทวนในบทความนี้นั่นเองค่าSit back, relax, and enjoy your lesson! ขอให้สนุกกับการเรียนน๊า
การใช้ Modal Verbs ตามเทคนิค “เท่าเดิม ไม่เพิ่มเติมอะไร”
- ไม่เติมอะไรท้ายกริยาที่ตามหลัง Modal verbs ทุกตัว เพราะต้องตามด้วย Verb infinitive
ง่ายๆ ก็คือ Verb เปลือยที่เป็นรูปกริยาธรรมดาไม่เติม –ing, -ed, ไม่เติม to, หรือ ไม่เติม -s/-es หรืออะไรใดๆเลยค่ะ เช่น
Michel can cook.
แปล ไมเคิลทำอาหารได้ จะเห็นว่า หลังกริยาช่วย can ตามด้วยกริยา V. infinitive “cook” ที่ไม่เติมอะไรเลย
คงไว้รูปแบบกริยาช่องที่1ไม่ผันเด้อ ถ้าเราเจอ Michel can cooks. แบบนี้คือผิด แกรมม่านะคะที่รัก
- ไม่เติมอะไรหลัง “Modal verbs” ไม่ว่าจะเป็น -s, -es
เช่นถูก: Tina should exercise every day.
แปล ตีน่าควรออกกำลังกายทุกวัน
VS
ผิด: Tina shoulds exercise every day.
- สำหรับประโยคปฏิเสธนั้น หลัง Modal verbs ให้ใช้ not ได้เลย
ตามโครงสร้าง
Subject + Modal verb + not + V. Infinitive…
เช่น
They could not attend the conference.
แปล พวกเขาไม่สามารถเข้าร่วมประชุมได้
การใช้ Modal Auxiliaries แสดง “ความเป็นไปได้”
สำหรับความเป็นไปได้ แบ่งเป็น 3 ระดับดังนี้ คือ เป็นไปได้มาก เป็นไปได้ปานกลาง เป็นไปได้น้อย
ตาราง Modal Auxiliaries 9 คำ พร้อมความหมาย
can | can + V. infinitive | แปลว่า สามารถ… |
could | could + V. infinitive | แปลว่า สามารถ |
may | may + V. infinitive | แปลว่า อาจจะ |
might | might + V. infinitive | แปลว่า อาจจะ |
shall | shall + V. infinitive | แปลว่า จะ/ ควรจะ |
should | should + V. infinitive | แปลว่า จะ/ ควรจะ |
will | will + V. infinitive | แปลว่า จะ |
would | would + V. infinitive | แปลว่า จะ |
must | must + V. infinitive | แปลว่า ต้อง |
ข้อควรรู้: would จะใช้เพื่อแสดงการคาดการณ์ถึงเหตุการณ์ในอนาคต
ส่วนการใช้ Modal verbs พวก must, can, will จะแสดงความเป็นไปได้มาก
- Can
Can แปลเป็นไทยได้ว่า สามารถ หรือ มีโอกาสที่จะ ดังนี้
บอกเล่า: I can edit the video.
แปล ฉันสามารถตัดต่อวีดีโอได้
คำถาม: Can you edit the video?
แปล คุณสามารถตัดต่อวีดีโอได้มั้ย
ปฏิเสธ: I cannot (can’t) edit the video.
แปล ฉันไม่สามารถตัดต่อวีดีโอได้
- Will
เราอาจจะเคยเจอ will ในโครงสร้างของ Future Simple Tense มาบ้างแล้ว ซึ่ง will แปลว่า จะ ใช้บอกอนาคต เพื่อแสดงถึงแนวโน้มของความเป็นไปได้มาก ในโครงสร้างประโยคบอกเล่า Subject + will + V. Infinitive และแสดงให้เห็นว่า ณ ช่วงเวลาหนึ่งในอนาคต จะมีบางอย่างกำลังดำเนินอยู่ในโครงสร้าง Subject + will + be + V. ing ของประโยค Future Continuous Tense เช่น
บอกเล่า: There will be snowing in the evening.
มีความเป็นไปได้มากที่หิมะจะตกเย็นนี้
ปฏิเสธ: They will not (won’t) be late again.
พวกเขาจะไม่สายอีกคำถาม: Will there be snowing tomorrow?
พรุ่งนี้หิมะจะตกมั้ย
- ใช้ will เพื่อแสดง ความเต็มใจที่จะทำ หรือ คำสัญญาที่จะทำ
เช่น
I will forgive you.
ฉันจะให้อภัยคุณ
I promise (that) I will come back to you.
ผมให้สัญญาว่าจะกลับมาหาคุณอีกครั้ง
Will ในสถานการณ์ ที่ โซเซ แนะนำให้แฟนไปออกกำลังกายที่ฟิต
Joseph: You should go to the fitness center Tina.
คุณควรหาเวลาเข้าฟิตเนาบ้างนะ
Tina: Of course, I will.
แน่นอน ฉันจะไปแน่
- Must
เราใช้ must เมื่อเรามั่นใจว่าบางสิ่ง ต้อง เกิดขึ้น หลัง must ตามด้วย V. Infinitive
แสดงถึงความมั่นใจมาก เช่น
Jill must be Jenny’s sister. They look alike.
จิ้มจะต้องเป็นพี่สาวเจนนี่แน่ๆ พวกเขาดูหน้าตาคล้ายกันมาก
He must be joking.
เขาต้องกำลังล้อฉันเล่นแน่ๆ
Look at his Lamborghini car! He must be very rich!
ดูรถแลมโบกีนี่ของเขาสิ เขาต้องรวยมากแน่ๆเลย
เมื่อต้องแสดงความเป็นไปได้ “ระดับปานกลาง”
กริยาช่วยกลุ่มนี้ ได้แก่ may, might, could, should
คำเหล่านี้เมื่ออยู่ในประโยคจะมีน้ำหนักของคำระดับปานกลาง และจะมีความหมายเหมือนกันซึ่งแปลว่า อาจจะ เช่น
She may skip school today.
หล่อนอาจจะหลบเรียนวันนี้
I might like him a bit.
ฉันอาจจะชอบเขานิดหน่อย
It may/might/could be worst.
มันอาจจะแย่มากๆก็ได้
- Should
Should มีความหมายว่า น่าจะ หรือ ควรจะ เช่น
She has met the doctor already. She should be okay.
หล่อนพบหมอแล้ว หล่อนน่าจะโอเค้กแล้วYou should take the test.
คุณควรทำแบบทดสอบดูนะ
- Could แสดงความเป็นไปได้น้อยมาก
Could นอกจากจะใช้เพื่อแสดงแนวโน้มของความเป็นไปได้ปานกลาง และ การเปรียบเทียบที่เกินจริง บางครั้งเป็นการประชดประชัน
เช่น
I’m hungry. I could eat a horse.
ฉันหิวมาก ฉันสามารถกินม้าได้ทั้งตัวเลย (เกินจริง)
She could win the beauty pageant.
หล่อนคงจะชนะการประกวดนางงามนะ (ประชด) ***ลองนึกถึงสถานการณ์แฟนนางงามขี้อิจฉาพูดประโยคนี้แล้วยิ้มที่มุมปาก
How could I be without him?
ฉันจะอยู่ด้วยตัวเองยังไงโดยไม่มีเขา (ไม่มั่นใจ)
- Semi-modal: “ought to”
การใช้ ought นี้จะแปลว่า “ควรจะ” มีหลักการใช้ดังตัวอย่างบทสนทนาด้านล่างนี้
หลักการแนะนำทั่วๆไป:
Doctor Mike really ought to take more rest.
คุณหมอไมค์ควรจะพักผ่อนบ้างPeople ought not to go to the night club during Covid-19.
เราไม่ควรจะออกไปเที่ยวตอนกลางคืนช่วงโควิด19
และเมื่อต้องพูดถึงสิ่งที่ควรทำในอดีตแต่ไม่ได้ทำ มักเป็นการเพ้อ แสดงความเสียใจ ตามโครงสร้าง
Subject + ought to+ have +V3+… เช่น
I ought to have studied harder so that I could pass the exam.
ฉันควรจะตั้งใจเรียนมากกว่านี้ถึงจะสอบผ่าน
Semi-modal Verb “used to”
- used to คำนี้แปลว่า “เคย”
ปัจจุบันเราไม่นิยมใช้ used to ในรูปแบบของกริยาช่วยแล้ว แต่ก็ยังมีคนพูดถึงอยู่ ดังตัวอย่างต่อไปนี้
I used to exercise so much.
ฉันเคยออกกำลังกายอย่างมากShe used to date a Hollywood superstar.
หล่อนเคยออกเดทกับนักแสดงฮอลลีวูด
เพิ่มเติม: “be used to”
ตามโครงสร้าง (be) used to +noun / V.ing แปลว่า “เคยชิน” เช่น
I am used to cooking at home.
ฉันชินกับการทำอาหารกินเองแล้วJake is used to living alone.
เจคเคยชินกับการอยู่คนเดียวA professional nurse is used to having emergency cases.
พยาบาลวิชาชีพเคยชินกับเคสคนไข้ฉุกเฉินแล้ว
ตารางสรุปกริยาช่วยเพิ่มเติม
กริยาช่วยรูปปกติ |
รูปปฎิเสธ (แบบเต็ม) |
รูปปฎิเสธ (แบบย่อ) |
||
1 | is | (เป็น, อยู่, คือ) | is not | isn’t |
2 | am | (เป็น, อยู่, คือ) | am not | ไม่มีรูปย่อ |
3 | are | (เป็น, อยู่, คือ) | are not | aren’t |
4 | was | (เป็น, อยู่, คือ) | was not | wasn’t |
5 | were | (เป็น, อยู่, คือ) | were not | weren’t |
6 | do | (ทำ) | do not | don’t |
7 | does | (ทำ) | does not | doesn’t |
8 | did | (ทำ) | did not | didn’t |
9 | has | (มี) | has not | hasn’t |
10 | have | (มี) | have not | haven’t |
11 | had | (มี) | had not | hadn’t |
12 | can | (สามารถ) | cannot | can’t |
13 | could | (สามารถ) | could not | couldn’t |
14 | may | (อาจจะ) | may not | mayn’t |
15 | might | (อาจจะ) | might not | mightn’t |
16 | will | (จะ) | will not | won’t |
17 | would | จะ) | would not | wouldn’t |
18 | shall | (จะ) | shall not | shan’t |
19 | should | (ควรจะ) | should not | shouldn’t |
20 | must | (จะ,จะต้อง) | must not | mustn’t |
21 | need | (จำเป็น) | need not | needn’t |
22 | dare | (กล้า) | dare not | daren’t |
23 | ought to | (ควรจะ) | ought not | oughtn’t |
24 | used to | (เคย) | used not to | usedn’t to |
อธิบายเพิ่มเติม:
ตั้งแต่ 12 ถึง 20 | เรียกว่า “Modal verbs” | ( can, could, may, might, will, would, shall, should, must ) |
ตั้งแต่ 21 ถึง 24 | เรียกว่า “Semi-modal verbs” | ( need, dare, ought to, used to ) |
สรุปการใช้ Modal auxiliaries
- แสดงความเป็นไปได้ และแนวโน้มของความเป็นไปได้ เช่น can, could, may, might
- ให้คำแนะนำ ข้อเสนอแนะ เช่น should, ought to
- กฎข้อบังคับ เช่น must
- มารยาททางสังคม การขออนุญาต แสดงความสุภาพ เช่น can, could, may, might, shall, will, would
เมื่อจะต้องใช้ Modal auxiliaries สิ่งที่ต้องคำนึงถึงคือ บริบทการใช้งาน ว่าเราต้องการจะสื่ออะไร ในระดับ เป็นไปได้มาก เป็นไปได้ปานกลาง เป็นไปได้น้อย เพื่อให้เราสามารถใช้ภาษาอังกฤษได้ถูกต้อง และคล่องมากๆแบบเจ้าของภาษากันจร้า อย่าลืมดูวีดีโอทบทวนบทเรียนในหัวข้อ วิชาภาษาอังกฤษ ชั้น ม.5 เรื่อง Modal auxiliaries ที่สำคัญ กันด้วยเด้อ เลิฟๆ
คลิกที่ปุ่มเพลย์แล้วไปเรียนให้สนุกกันจร้า