Like & Dislike ในการพูดถึงความชอบ และการให้ข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง

สวัสดีน้องๆ ป. 5 ทุกคนนะครับผม วันนี้เราจะมาลองฝึกใช้ประโยคที่เอาไว้บอกความชอบของเรากัน พร้อมกับการให้ข้อมูลเกี่ยวกับตัวเองเบื้องต้นครับ ถ้าพร้อมแล้วไปลุยกันเลย

สารบัญ

Add LINE friends for one click to find article. Add LINE friends for one click to find article.

Like & Dislike

หากน้องๆ ต้องการจะบอกความชอบ เช่น อาหาร งานอดิเรก หรือสิ่งที่น้องๆ ชอบทำ วิธีง่ายๆ ที่พี่เอามาฝากวันนี้ก็คือการใช้ Like & Dislike นั่นเองครับ

Like เป็นคำกริยาในภาษาอังกฤษ แปลว่า “ชอบ” ซึ่งสามารถใช้ได้ในหลากหลายสถานการณ์ ดังนี้

I like strawberry ice cream.
(ฉันชอบไอศกรีมสตรอว์เบอร์รี่)

I like playing football.
(ฉันชอบการเล่นฟุตบอล)

I like dogs.
(ฉันชอบสุนัข)

น้องๆ จะเห็นได้ว่าเราสามารถใช้ Like ตามด้วยคำนาม หรือคำกริยาที่เติม -ing ได้ (แปลว่า การ…) เพื่อเป็นการบอกว่าเราชอบอะไร นอกจากนี้น้องๆ สามารถใช้คำว่า love ก็ได้เช่นกัน เช่น

I love pizza.
(ฉันรักพิซซ่า)

I love going to school.
(ฉันรักการไปโรงเรียน)

like & dislike

 

และถ้าจะบอกว่าน้องๆ ไม่ชอบอะไร เราสามารถนำ do not หรือ don’t มาวางไว้ข้างหน้า like ได้เลย เช่น

I don’t like coconuts.
(ฉันไม่ชอบมะพร้าว)

I do not like going to the beach.
(ฉันไม่ชอบการไปชายหาด)

 

หรือน้องๆ อาจจะใช้กริยา dislike แทนก็ได้เช่นกัน แต่คำนี้จะไม่ค่อยใช้ในภาษาพูดเท่าไรนัก เช่น

I dislike spicy foods.
(ฉันไม่ชอบอาหารรสเผ็ด)

like & dislike 2

 

และสุดท้ายหากน้องๆ ต้องการถามเพื่อนว่าเขาชอบอะไรก็สามารถทำได้โดยใช้โครงสร้างดังนี้

Do you like/love … ?

เช่น

Do you like pop music?
(เธอชอบเพลงป๊อปมั้ย?)

Do you love Star Wars?
(เธอชอบสตาร์วอร์มั้ย?)

Do you like watching TV?
(เธอชอบการดูทีวีมั้ย?)

question

 

การให้ข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง

และสุดท้ายพี่ก็มีวิธีการพูดหรือเขียนให้ข้อมูลเกี่ยวกับตัวเองง่ายๆ จากสิ่งที่เราเพิ่งเรียนกันมา มาฝากกันครับ

introduction pattern

 

เป็นอย่างไรกันบ้างครับสำหรับเรื่อง Like & Dislike หวังว่าน้องๆ จะสามารถเอาไปใช้พูดหรือเขียนในชีวิตประจำวันกันนะครับ และหากน้องๆ ต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมก็สามารถดูวิดีโอเพิ่มเติมจาก NockAcademy ได้ตามด้านล่างนี้เลย หรือลองอ่านวิธีใช้อื่นๆ ได้ที่นี่

NockAcademy คือโรงเรียนออนไลน์สำหรับเด็ก โดยแอปฯ และเว็บไซต์ นักเรียนสามารถเรียนรู้ผ่านคลิปบทเรียนวิชา คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และภาษาไทย
มากไปกว่านั้น เรายังมีคอร์สเรียนออนไลน์ การสอนพิเศษ การติวนอกสถานที่โดยติวเตอร์ที่แน่นไปด้วยความรู้ อีกด้วย

Add LINE friends for one click to find article. Add LINE friends for one click to find article.
ครูผู้สอน NockAcademy

แค่ 10 นาที ก็เข้าใจได้

สามารถดูคลิปบทเรียนวิชา คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และภาษาไทย ที่มีมากกว่า 2,000+ คลิป และยังสามารถทำแบบทดสอบที่มีมากกว่า 4000+ ข้อ

แนะนำ

แชร์

Relative Clause Profile II

Relative Clause

สวัสดีค่ะนักเรียนม. 3 ที่รักทุกคน วันนี้เราจะไปดู Relative clause หรือ อนุประโยคในภาษาอังกฤษ ที่ทำหน้าที่เหมือนกันกับคำคุณศัพท์ (Adjective) ซึ่งมีหน้าที่ขยายคำนามที่อยู่ข้างหน้า  และจะใช้ตามหลัง Relative Pronoun เช่น  who, whom, which, that, และ whose แต่สงสัยมั้ยคะว่าทำไมต้องเรียนเรื่องนี้ ลองดูตัวอย่างประโยคด้านล่างแล้วจะร้องอ๋อ   Relative

คำสุภาพและคำผวน

คำสุภาพ คำผวน สองขั้วตรงข้ามในภาษาไทย

คำสุภาพ และคำผวน คำสุภาพและคำผวน คือสองเรื่องในภาษาไทยที่ต่างกันสุดขั้ว ทั้งวิธีใช้ ความหมาย และความสำคัญ บทเรียนภาษาไทยวันนี้เราจะพาน้อง ๆ ไปทำความรู้จักกับทั้งคำสุภาพ และคำผวนในภาษาไทย ว่าทำไมถึงต่างกันและสามารถใช้ในโอกาสใดได้บ้าง ไปเรียนรู้เรื่องนี้พร้อม ๆ กันเลยค่ะ   ความหมายของคำสุภาพ     คำสุภาพ เป็นการเปลี่ยนแปลงการใช้คำศัพท์เดิมให้เปลี่ยนไปในทางดีขึ้น เพื่อให้ดูสุภาพมากกว่าเดิม ใช้เมื่อต้องการหลีกเลี่ยงเรียกคำที่ไม่น่าฟัง หรือใช้กับคนที่อาวุโสกว่าก็ได้ อาจเรียกอีกอย่างว่าเป็นคำราชาศัพท์

แยกให้ออก บอกให้ถูกสำนวน สุภาษิต คำพังเพยแตกต่างกันอย่างไร?

บทนำ สวัสดีน้อง ๆ ที่น่ารักทุกคนกลับมาเข้าสู่เนื้อหาการเรียนภาษาไทยกันอีกเช่นเคย สำหรับวันนี้จะเป็นบทเรียนที่ทั้งสนุก มีสาระ และเป็นเนื้อหาที่เราต้องได้เจอบ่อย ๆ ในการเรียนภาษาไทยอย่างเรื่องสำนวน สุภาษิต และคำพังเพย น้อง ๆ อาจจะเคยได้ผ่านหูผ่านตากันมาบ้างเพราะเป็นบทเรียนที่ได้เริ่มเรียนตั้งแต่ช่วงประถมศึกษาแล้ว แต่วันนี้เราจะมาเรียนรู้ในเชิงลึกขึ้นไปอีกเกี่ยวกับวิธีการสังเกตระหว่างสำนวน สุภาษิต และคำพังเพยนั้นมีความเหมือน หรือแตกต่างกันอย่างไร มีตัวอย่างประกอบให้ทุกคนได้ดูด้วย ถ้าน้อง ๆ คนไหนพร้อมแล้วก็ไปลุยกับเนื้อหาของวันนี้ได้เลย   สำนวน สำนวน

การนำเสนอข้อมูลในรูปตารางแจกแจงความถี่

การนำเสนอข้อมูลในรูปตารางแจกแจงความถี่

การแจกแจงความถี่ของข้อมูล (Frequency distribution)              การแจกแจงความถี่ของข้อมูล  เป็นวิธีการทางสถิติอย่างหนึ่งที่ใช้ในการจัดข้อมูลที่มีอยู่ให้เป็นหมวดหมู่ เพื่อความสะดวกในการนำเสนอและการวิเคราะห์ข้อมูลเหล่านั้น  มี 2 ลักษณะ คือ ตารางแจกแจงความถี่แบบไม่เป็นอันตรภาคชั้น และ ตารางแจกแจงความถี่แบบไม่เป็นอันตรภาคชั้น การสร้างตารางแจกแจงความถี่ แบบไม่เป็นอันตรภาคชั้น การนำเสนอข้อมูลในรูปตารางแจกแจงความถี่ แบบไม่เป็นอันตรภาคชั้น เหมาะสำหรับข้อมูลที่มีค่าจาการสังเกตไม่มากนักหรือไม่ซับซ้อน  1.

จุด

จุด : เรขาคณิตวิเคราะห์

จุด จุด เป็นตัวบอกตำแหน่งของสิ่งต่างๆ เช่น ตำแหน่งของสถานที่ต่างๆ ในเรื่องเรขาคณิตวิเคราะห์ จุดใช้บอกตำแหน่งในระนาบ 2 มิติ หรือ 3 มิติ เช่น   ระยะทางระหว่างจุดสองจุด เราสามารถหาระยะทางระหว่างจุดสองจุดได้ โดยใช้สูตร โดยจะกำหนดให้  และ  เป็นจุดในระนาบ เราจะได้ว่าระยะห่างระหว่างจุดทั้งสองหาได้จาก ตัวอย่าง ระยะห่างระหว่าง A(1,1) และ

โลโก้ NockAcademy

ทดลองฟรี!

เข้าใจได้ทันที NockAcademy ไลฟ์สดอันดับ 1 

โลโก้ NockAcademy

ทดลองฟรี!

เข้าใจได้ทันที NockAcademy ไลฟ์สดอันดับ 1