การเรียงคำคุณศัพท์ (Adjective Order)

น้องๆ น่าจะรู้จักหรือเคยได้ยิน “คำคุณศัพท์” หรือ Adjective ในภาษาอังกฤษกันมาบ้างแล้วใช่มั้ยครับ? ซึ่งหน้าที่ของคำเหล่านี้คือเพิ่มความหมายและบอกลักษณะของคำนามนั่นเอง วันนี้เราจะมาเรียนรู้กันว่าหากมี Adjective มากกว่า 1 คำมาขยายคำนาม เราจะเรียงลำดับมันอย่างไรดี ไปดูกันเลย!

สารบัญ

Add LINE friends for one click to find article. Add LINE friends for one click to find article.

Adjective Order เพื่อขยายคำนาม

น้องๆ ที่มีพื้นฐานเรื่อง Parts of Speech น่าจะคุ้นเคยกับการใช้ Adjective ขยาย Noun กันมาบ้างแล้วใช่มั้ยครับ เช่น

He is a young man.

(เขาคือชายหนุ่ม)

She is an outstanding student.

(เธอเป็นนักเรียนที่โดดเด่น)

That girl wears a pink skirt.

(เด็กผู้หญิงคนนั้นใส่ผ้าพันคอสีแดง)

 

ลำดับของ Adjective

แต่ถ้าหากว่ามี Adjective ตั้งแต่ 2 คำขึ้นไปมาขยายคำนาม เราจะเรียงลำดับพวกมันยังไงดีครับ? ลองดู 2 ประโยคนี้ครับ

1) I am sitting in a big white room.

2) I am sitting in a white big room.

น้องๆ จะเห็นว่ามี Adjective 2 คำ คือ “big” และ “white” มาขยายคำนามคือ “room” น้องๆ คิดว่าประโยคไหนถูกต้องตามหลักไวยากรณ์กันนะ?

คำตอบที่ถูกต้องคือ ข้อ 1) ครับ “a big white room”

ตอบถูกกันมั้ยเอ่ย?

โดยปกติแล้วการเรียงลำดับของ Adjective จะเป็นไปตามตารางนี้ครับ

 

ในบางครั้งก็จะมีการใช้ Adjective 3 ตัวในการขยายคำนาม (แต่ว่าไม่ค่อยนิยมกันนะครับ)

ตัวอย่าง

This chair is made of an enormous ancient European tree.

(เก้าอี้นี้ทำมาจากต้นไม้ยุโรปเก่าแก่ขนาดใหญ่)

He is a handsome young British actor.

(เขาคือนักแสดงหนุ่มชาวอังกฤษสุดหล่อ)

Milo is a horrible big fierce dog.

(ไมโลเป็นหมาร้ายๆ ตัวใหญ่นิสัยแย่)

หรือในบางครั้งก็จะใช้มากกว่า 3 ตัว (กรณีนี้ค่อนข้างหายากครับ)

ตัวอย่าง

Taylor is a beautiful tall slim young blonde-haired American artist.

(เทย์เลอร์คือศิลปินสาวสวย สูง ผอม ผมบลอนด์ชาวอเมริกา)

My mom bought me a lovely little white Japanese sweater from Tokyo.

(แม่ซื้อเสื้อกันหนาวญี่ปุ่นตัวเล็กๆ น่ารักสีขาวจากโตเกียวมาให้ฉัน)

 

การเชื่อม Adjective ด้วย and

เมื่อมี Adjective มากกว่า 1 คำในประโยคที่ตามหลัง Linking Verbs หรือ Verb to be เรามักจะใช้ and เพื่อเชื่อม Adjective ตัวสุดท้ายกับตัวก่อนหน้าครับ เช่น

This place is dark and scary.

(สถานที่นี้มืดและน่ากลัว)

I feel so fresh, lively, and energetic.

(ฉันรู้สึกสดชื่น ร่าเริง และมีพลัง)

Your cat is so adorable, fluffy, and kind.

(แมวของคุณน่ารัก นุ่มนิ่ม และใจดีมาก)

แต่ถ้าหาก Adjective มีคำนามตามหลัง (อย่างที่ได้เห็นมาแล้วมากมายด้านบน) เรามักจะไม่ใส่ and ครับ เช่น

I am afraid of that old wooden house.

(ฉันกลัวบ้านไม้เก่าๆ หลังนั้น)

Daniel is a nice handsome middle-aged husband.

(ดาเนียลเป็นสามีวัยกลางคนที่หล่อและนิสัยดี)

Patrick is a genius Thai student.

(แพทริกเป็นนักเรียนอัจฉริยะชาวไทย)

 

เรื่องลำดับของ Adjective เป็นเรื่องที่เข้าใจไม่ยาก น้องๆ สามารถฝึกฝนได้โดยการอ่านหนังสือ หรือสื่อภาษาอังกฤษบ่อยๆ เรื่องนี้มีประโยชน์มากในการเขียนภาษาอังกฤษและข้อสอบประเภท Error Analysis ครับ

NockAcademy คือโรงเรียนออนไลน์สำหรับเด็ก โดยแอปฯ และเว็บไซต์ นักเรียนสามารถเรียนรู้ผ่านคลิปบทเรียนวิชา คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และภาษาไทย
มากไปกว่านั้น เรายังมีคอร์สเรียนออนไลน์ การสอนพิเศษ การติวนอกสถานที่โดยติวเตอร์ที่แน่นไปด้วยความรู้ อีกด้วย

Add LINE friends for one click to find article. Add LINE friends for one click to find article.
เรียนพิเศษออนไลน์ ดูได้ทั้ง 4 รายวิชา - NockAcademy

แค่ 10 นาที ก็เข้าใจได้

สามารถดูคลิปบทเรียนวิชา คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และภาษาไทย ที่มีมากกว่า 2,000+ คลิป และยังสามารถทำแบบทดสอบที่มีมากกว่า 4000+ ข้อ

แนะนำ

แชร์

การใช้คำคุณศัพท์และการเรียงคำคุณศัพท์

การใช้คำคุณศัพท์และการเรียงคำคุณศัพท์ คำคุณศัพท์ (Adjective) คืออะไร? ก่อนเราจะเริ่มเข้าเนื้อหา ทางผู้เขียนก็อยากจะพูดถึงความหมายและความสำคัญของคำคุณศัพท์ (Adjective) กันก่อน คำคุณศัพท์ (Adjectives) มักจะุถูกใช้ในการอธิบายลักษณะรูปร่างทางกายภาพของทั้งสิ่งของและสิ่งมีชีวิตที่รวมถึงตัวของมนุษย์เอง โดยที่เราจะมาเรียนกันวันนี้คือการที่บางครั้ง คำคุณศัพท์ (Adjective) นั้นจะมีลักษณะที่ถูกใช้อธิบายลักษณะทางกายภาพที่มากกว่าหนึ่งอย่าง ในภาษาไทยของเรา ก็มีการเรียกคำคุณศัพท์ หรือที่เรียกว่า order of adjective ด้วยเหมือนกัน จากศึกษาและพูดคุยกับนักศึกษาศาสตร์ พบว่า การใช้ภาษาไทยในปัจจุบันไม่ได้มีการกำหนดการเรียงลำดับคำคุณศัพท์แบบภาษาอังกฤษที่ชัดเจน

การตั้งคําถามทางสถิติ

การตั้งคําถามทางสถิติ บทความนี้ได้รวบรวมความรู้เรื่อง การตั้งคําถามทางสถิติ ไว้อย่างละเอียด ก่อนอื่นน้องมาทำความเข้าใจกับความหมายของ “คำถามทางสถิติ” คำถามทางสถิติ  หมายถึง คำถามที่มีคำตอบหรือคาดว่าจะได้รับคำตอบมากกว่า 1 คำตอบ รวมถึงคำถามที่ต้องการคำตอบซึ่งได้มาจากการรวบรวมข้อมูลพื้นฐานบางอย่างแล้วนำมาจำแนก  คำนวณ หรือวิเคราะห์เพื่อใช้ตอบคำถามนั้น คำถามทางสถิติจะต้องประกอบด้วยองค์ประกอบสำคัญ 3 ส่วน ได้แก่ ระบุสิ่งที่ต้องการศึกษาได้ มีกลุ่มบุคคลหรือสิ่งที่จะเก็บรวบรวมข้อมูลที่หลากหลาย สามารถคาดการณ์ได้ว่าคำตอบที่จะเกิดขึ้นมีความแตกต่างกัน ตัวอย่างคำถามทางสถิติ คำถามต่อไปนี้เป็นคำถามทางสถิติ อัตราส่วนที่เหมาะสมในการผสมสีทาบ้าน แต่ยี่ห้อควรเป็นอย่างไร

สมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว

สมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว

สมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว สมการ คือ ประโยคสัญลักษณ์ที่กล่าวถึงความสัมพันธ์ของจำนวนโดยมีสัญลักษณ์  “ = ”  บอกความสัมพันธ์ระหว่างจำนวน อาจมีตัวแปร หรือไม่มีตัวแปร เช่น สมการที่ไม่มีตัวแปร                           

สามัคคีเภทคำฉันท์

สามัคคีเภทคำฉันท์ วรรณคดีขนาดสั้นที่ว่าด้วยความสามัคคี

สามัคคีเภทคำฉันท์ เป็นนิทานสุภาษิตขนาดสั้นว่าด้วยเรื่องความสามัคคี เป็นอีกหนึ่งวรรณคดีที่ได้รับการยกย่องว่าแต่งดี ทั้งด้านการประพันธ์และเนื้อหา เหตุใดจึงเป็นเช่นนั้น บทเรียนในวันนี้จะพาน้อง ๆ ทุกคนไปทำความรู้จักกับวรรณคดีเรื่องดังกล่าวเพื่อศึกษาที่มา จุดประสงค์ รวมไปถึงเรื่องย่อ ถ้าพร้อมแล้วไปดูกันเลยค่ะ   ที่มาของเรื่องและจุดประสงค์ในการแต่ง   สามัคคีเภทคำฉันท์ ดำเนินเรื่องโดยอิงประวัติศาสตร์ครั้งพุทธกาล เป็นนิทานสุภาษิตในมหาปรินิพพานสูตรและอรรถกถาสุมังคลวิลาสินี     ในสมัยรัชกาลที่ 6 เกิดวิกฤตการณ์ทั้งภายในและภายนอกประเทศ เช่น เกิดสงครามโลกครั้งที่ 1

การเปลี่ยนแปลงของประโยค

การเปลี่ยนแปลงของประโยค ศึกษาธรรมชาติของภาษาที่ยังไม่ตาย

ภาษาเป็นกลไกสำคัญที่จะต้องเปลี่ยนแปลงควบคู่ไปกับสังคมมนุษย์ คำและประโยคในทุกภาษาอาจเปลี่ยนแปลงหรือหายไปพร้อมกับความเจริญและเสื่อมของสังคมตามยุคสมัย ภาษาที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงจะถูกนับเป็นภาษาที่ตายแล้ว ภาษาไทยเป็นอีกภาษาหนึ่งที่ยังคงมีความเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ บทเรียนในวันนี้เราจะพาน้อง ๆ ไปเรียนรู้เรื่อง การเปลี่ยนแปลงของประโยค หนึ่งในเรื่องราวที่น่าสนใจของเรื่องการเปลี่ยนแปลงทางภาษา จะมีอะไรบ้างนั้น เราไปเรียนรู้พร้อม ๆ กันเลยค่ะ   การเปลี่ยนแปลงทางภาษา     ปัจจัยที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางภาษา   1. เกิดจากปัจจัยทางสังคม   2. ลักษณะการออกเสียงของผู้พูด ในบางครั้งผู้พูดจะไม่สามารถออกเสียงคำได้อย่างถูกต้องทุกคำ

การวัดความยาวส่วนโค้ง

การวัดความยาวส่วนโค้ง

การวัดความยาวส่วนโค้ง การวัดความยาวส่วนโค้ง ในบทความนี้จะเป็นการวัดความยาวของวงกลม 1 หน่วย วงกลมหนึ่งหน่วย คือวงกลมที่มีจุดศูนย์กลางที่จุดกำเนิด และมีรัศมียาว 1 หน่วย จากสูตรของเส้นรอบวง คือ 2r ดังนั้นวงกลมหนึ่งหน่วย จะมีเส้นรอบวงยาว 2 และครึ่งวงกลมยาว   จุดปลายส่วนโค้ง   จากรูป จะได้ว่าจุด P เป็นจุดปลายส่วนโค้ง   จากที่เราได้ทำความรู้จักกับวงกลมหนึ่งหน่วยและจุดปลายส่วนโค้งแล้ว

Nockacademy web logo 3

ทดลองฟรี!

เข้าใจได้ทันที NockAcademy ไลฟ์สดอันดับ 1

Nockacademy web logo 3

ทดลองฟรี!

เข้าใจได้ทันที NockAcademy ไลฟ์สดอันดับ 1