เรื่อง Tag Question (1)

01NokAcademy_Question Tag Profile

สารบัญ

Add LINE friends for one click to find article. Add LINE friends for one click to find article.

สวัสดีค่ะนักเรียนชั้นม.4 ที่น่ารักทุกคนวันนี้เราจะไปเรียนรู้ในหัวข้อ “เรื่อง Tag Question “ พร้อมแล้วก็ไปลุยกันเลยจร้า

รู้จักกับ Question Tag (Tag Question หรือ Tail Question)

 

02NokAcademy_ม4 Tag Question (1)

Question Tag ในบางครั้งเรียกว่า Tag Question หรือ Tail Question ก็ได้จร้า 

Question แปลว่า คำถาม ส่วนคำว่า Tag จะแปลว่า วลี ที่นำมาใช้ต่อท้ายประโยค เพื่อทำให้เป็นประโยคคำถาม ดังนั้น ถ้าแปลตามคำนิยามแล้ว Question Tag ก็คือ วลีคำถาม นั่นเองค่ะ แต่มักจะเรียกทับศัพท์ไปเลยว่า Question Tag (เคว็สเชิน แท็ก) หรือ Tag Question
เพื่อให้เกิดความชัดเจนมากขึ้น ตามโครงสร้างประโยคด้านล่างเลยนะคะนักเรียนที่รัก

โครงสร้างประโยค Question Tag โดยหลักๆแล้วมี 3 เทคนิค ดังนี้

03NokAcademy_NokAcademy_ม4 Tag Question (1)

  • หากว่าประโยคหลักเป็นประโยคบอกเล่า ตรงส่วนของ Question Tag จะเป็นคำถามเชิงปฏิเสธ ซึ่งจะมี Not เพิ่มเข้ามา
  • หากว่าประโยคหลักเป็นปฏิเสธ ตรงส่วนของ Question Tag จะเป็นคำถามเชิงบอกเล่า
    (ไม่มี Not)
  • หากว่าประธานของประโยคหลักเป็นคำนาม เช่น คน สัตว์ สิ่งของ ในส่วนของ
    Question Tag จะเปลี่ยนเป็นสรรพนามที่แทนประธานโดยทันที เช่น he, she, it

ตัวอย่างหลักการใช้ Question Tag กับ Verb to be

 

04NokAcademy_NokAcademy_ม4 Tag Question (1)

ข้อควรจำคือ

เมื่อเจอ กริยาทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น Verb to be (is, am, are, was, were), กริยาแท้ แม้แต่ กริยาช่วย ในประโยคในส่วนของ Question tag ต้องเป็น Verb to be

 

 

ตัวอย่างประโยค Question Tag ในเวลาปัจจุบัน

 

05NokAcademy_NokAcademy_ม4 Tag Question (1)


โครงสร้าง:

Subject + are +… , aren’t you?


Student: You are from Bangkok, aren’t you?
= คุณมาจากกรุงเทพ ใช่มั้ย

Beauty: Sorry, I’m from the North of Thailand.
= ไม่ใช่ค่ะครู หนูมาจากภาคเหนือค่ะ

Teacher: You are from Chiang Mai, aren’t you?
= แล้วมาจากเชียงใหม่รึเปล่าคะ

Beauty: Nope, I’m from Chiang Rai.
= ไม่ค่ะ หนูมาจากเชียงราย

 

ตัวอย่างประโยคที่เจอบ่อยๆ

 

  • ถ้าประโยคหลักมี “กริยาช่วย” ประโยค Question Tag ต้องใช้กริยาช่วยตัวนั้น

 

Wellness can speak Chinese, can’t she?
= เวลเนสพูดจีนได้ ใช่ไหม

Jenny shouldn’t see him, should she?
= เจนนี่ไม่ควรพบเขา ใช่ไหม

You haven’t done your homework, have you?
= คุณทำการบ้านยังไม่เสร็จ ใช่ไหม *

 

I’m British, aren’t I?
แปลว่า ฉันเป็นคนบริติช ใช่มั้ยนะ

I’m not supposed to be in the UK, am I?
แปลว่า ฉันไม่ควรอยู่ที่ประเทศอังกฤษเลย  ว่ามั้ย

You’re a teacher in Germany, aren’t you?
แปลว่า คุณเป็นครูที่ประเทศเยอรมัน  ใช่มั้ยคะ/ครับ

The Japanese friends were not at school yesterday, were they?
แปลว่า เมื่อวานเพื่อนชาวญี่ปุ่นไม่ได้อยู่ที่โรงเรียน ใช่ไหม

* ในบางครั้งอาจะใช้ am I not?, aren’t I?, amn’t I?, และ ain’t I?  ขึ้นอยู่กับบริบทที่ใช้

 

Present Simple Tense ใน Question Tag

 

06NokAcademy_NokAcademy_ม4 Tag Question (1)

 

  • ถ้าประโยคหลักเป็น Present Simple Tense ประโยค Question Tag ต้องใช้ do, don’t/ does, doesn’t

 

We have two brothers, don’t we?
= พวกเรามีพี่ชายสองคน ไม่ใช่เหรอ

You don’t like living in Thailand, do you?
= คุณไม่ชอบอาศัยอยู่ที่ประเทศไทย ใช่มั้ย

เพิ่มเติม:

ถ้า have กับ has เป็นกริยาแท้ของประโยค ที่แปลว่า มี, กิน, ดื่ม
Question tag
จะใช้ do, does

Tag Question ในประโยคคำสั่ง ขอร้อง

 

ม4 Tag Question (1)

 

หากว่าประโยคหลักมี Let’s (Let us) ในส่วนของประโยค Question Tag จะใช้ shall we

 

Let’s fly to the Philippines next week , shall we?
แปลว่า พวกเราบินไปประเทศฟิลิปปินส์สัปดาห์หน้ากันเถอะ ป้ะ

มาจาก Shall we fly to the Philippines next week?

 

Let’s watch the Singaporean TV show, shall we?
แปลว่า
 พวกเราดูทีวีโชว์ช่องสิงคโปร์กันเถอะ ดีมั้ย

มาจาก Shall we watch the Singaporean TV show?

 

  • ถ้าประโยคบอกเล่าที่ใช้กับ “There”

    ตามโครงสร้าง There + is, are, was, were จะมีความหมายว่า มี

    ในส่วนของประโยค Question Tag จะต้องใช้ is, are, was, were + there?

 

There is a girl in that house, isn’t there?
แปล มีเด็กผู้หญิงอยู่ในบ้านหลังนั้นไม่ใช่เหรอ

 

There aren’t many people at the school, are there?
แปล มีคนไม่มากเกินไปที่โรงเรียนใ่ช่มั้ย

“ประธานเป็น No body”

10NokAcademy_ม4 Tag Question (1) (2)

ถ้าประธานเป็น everybody, everyone , everything , no one , nobody , anybody , neither ในส่วน tag ให้ใช้ they ดังตัวอย่างด้านล่างเลยจร้า

 – Everyone loves chocolate, don’t they?

Nobody knows James’ phone number , do they?

Neither of the family’s members complained , did they?

ประโยคเชิงซ้อน

10NokAcademy_ม4 Tag Question (1)

ในรูปประโยคเชิงซ้อน (Complex Sentence )ให้ใช้กริยาใน main clause เป็นหลัก

หมายถึง ตัวเองหรือบุรุษที่ 1 เช่น

                  – Jenny said Joshep could come , did he?

                  – I see James is a good boy , isn’t he?

                 – If tomorrow were your birthday, you would host a party,
                    wouldn’t you?

แบบฝึกหัดทบทวนเรื่อง Tag Question

 

10NokAcademy_ม4 Tag Question (1) (3)

Direction: Choose the best answer for each of the following sentences.

1. Jennifer goes to the cinema every weekend,………………?

a. does not she

b. doesn’t she
c. doesn’t she go
d. does she

 

2. Dominic walks to school every day, …..she?

a. don’t
b. doesn’t
c. did
d. never done

 

3.My auntie’s car needs cleaning every morning,……………?

a. doesn’t it
b. needsn’t it
c. isn’t it
d. needs it

 

 4.Let………….. watch the Singaporean TV show, …………..we?

a. is, shall
b. us, shall
c. has, shall
d. you, shall

 

5.Let’s dance on Tiktok,…………..?

a. don’t we
b. don’t you
c. shall we
d. shalln’t we

 

6.Please go see the dentist at 9 P.M. tomorrow,………….?

a. won’t you
b. will you
c. don’t you
d. do you

 

7.We study together at school every day,……….?

a. don’t we
b. do you
c. don’t you
d. don’t you have

 

8.You’d better finish your project today,………….?

a. hadn’t you
b. don’t you
c. do you
d. better you

 

9. Nobody ………….James’ phone number , do ……………?

a. is, we

b. knows, they

c. know, we

d. knew, you know

 

10.If tomorrow ……………..your birthday,
you would host a party,……………you?

a. would, would
b. would, wouldn’t
c. will, won’t
d. wants, would

 

 

 เฉลยแบบฝึกหัด 

 

11NokAcademy_ม4 Tag Question (1)

 

 

  1. b
  2. c
  3. a
  4. b
  5. c
  6. b
  7. a
  8. a
  9. b
  10. b

 

เป็นอย่างไรกันบ้างคะนักเรียนที่น่ารักทุกคน หวังว่าทุกคนจะได้ความรู้และประโยชน์จากการอ่านบทเรียน “เรื่อง Tag Question (1)” นี้นะคะ
อย่าลืมทบทวนบทเรียนกับวีดีโอด้านล่างด้วยนะคะ กดตรงปุ่มเพลย์แล้วไปเรียนให้สนุกและได้ความรู้แบบเต็มๆกัน
See you there!

กดปุ่มเพลย์แล้วไปเรียนให้สนุกกันจร้า

NockAcademy คือโรงเรียนออนไลน์สำหรับเด็ก โดยแอปฯ และเว็บไซต์ นักเรียนสามารถเรียนรู้ผ่านคลิปบทเรียนวิชา คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และภาษาไทย
มากไปกว่านั้น เรายังมีคอร์สเรียนออนไลน์ การสอนพิเศษ การติวนอกสถานที่โดยติวเตอร์ที่แน่นไปด้วยความรู้ อีกด้วย

Add LINE friends for one click to find article. Add LINE friends for one click to find article.
ครูผู้สอน NockAcademy

แค่ 10 นาที ก็เข้าใจได้

สามารถดูคลิปบทเรียนวิชา คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และภาษาไทย ที่มีมากกว่า 2,000+ คลิป และยังสามารถทำแบบทดสอบที่มีมากกว่า 4000+ ข้อ

แนะนำ

แชร์

วิธีพูดสรุปความจากเรื่องที่ฟังและดูอย่างง่ายๆ

การพูดสรุปความสำคัญอย่างไร ? น้อง ๆ หลายคนคงจะเคยประสบปัญหาเวลาที่ต้องออกไปนำเสนองานหน้าชั้นเรียนแล้วไม่รู้ว่าจะพูดอย่างไรให้เพื่อนกับครูเข้าใจ เพราะเนื้อหาที่เราจำมามันก็เยอะเสียเหลือเกิน บทเรียนภาษาไทยวันนี้จะช่วยให้น้อง ๆ รับมือกับปัญหาเหล่านั้นได้ เพียงแค่น้อง ๆ มีความเข้าใจในเรื่องการพูดสรุปความ วันนี้เรามาดูไปพร้อม ๆ กันเลยนะคะว่าการพูดสรุปความจากเรื่องที่ฟังหรือดูจะมีวิธีใดบ้าง   การพูดสรุปความจากเรื่องที่ฟังและดู   การพูดคืออะไร   องค์ประกอบของการพูด   ผู้พูด คือผู้ที่มีจุดมุ่งหมายสำคัญที่จะนำเสนอความรู้ความคิดเห็นให้ผู้ฟังได้รับรู้และเข้าใจ เนื้อเรื่อง

สถิติ (เส้นโค้งความถี่)

บทความนี้ได้รวบรวมความรู้เรื่อง สถิติ (เส้นโค้งความถี่)  ซึ่งก่อนที่จะเรียนเรื่องนี้ น้องๆจะต้องมีความรู้ในเรื่อง    ค่ากลางของข้อมูล และการวัดการกระจายของข้อมูล สามารถศึกษาเพิ่มเติมได้ที่  ⇒⇒ สถิติ (ค่ากลางของข้อมูล/การกระจายของข้อมูล) ⇐⇐ เส้นโค้งของความถี่ จะมีอยู่ 3 แบบ คือ เส้นโค้งปกติ เส้นโค้งเบ้ขวา และเส้นโค้งเบ้ซ้าย ซึ่งจะมีความสัมพันธ์กับค่ากลางของข้อมูล  ได้แก่ ค่าเฉลี่ยเลขคณิต (μ)   มัธยฐาน (Med) และฐานนิยม

การนำเสนอข้อมูลเเละเเปลความหมายข้อมูลด้วยเเผนภูมิวงกลม

การนำเสนอข้อมูลเเละเเปลความหมายข้อมูลด้วยเเผนภูมิวงกลม การนำเสนอข้อมูลเเละเเปลความหมายข้อมูลด้วยเเผนภูมิวงกลม เป็นการนำเสนอข้อมูลโดยการเเบ่งพื้นที่ของวงกลมออกเป็นส่วน ๆ เเละมีขนาดของสัดส่วนตามข้อมูลที่ได้ทำการเก็บรวบรวมข้อมูลไว้ การนำเสนอด้วยเเผนภูมิวงกลมเป็นการนำเสนอข้อมูลที่มีอยู่ได้อย่างน่าสนใจ สามารถวิเคราะห์เเละเเปรข้อมูลได้ง่ายขึ้น การสร้างแผนภูมิรูปวงกลมเพื่อนำเสนอข้อมูล การสร้างแผนภูมิวงกลม ทำได้โดยการเเบ่งมุมรอบจุดศูนย์กลางของวงกลมที่มีขนาด 360 องศา ออกเป็นส่วน ๆ ที่เรียกว่า มุมที่จุดศูนย์กลางของวงกลม ตามขนาดที่ได้จากการเทียบส่วนกับปริมาณทั้งหมดในข้อมูล มุมที่จุดศูนย์กลาง = (จำนวนที่สนใจ/จำนวนทั้งหมด) x 360 องศา ตัวอย่างการสร้างแผนภูมิวงกลม จากข้อมูลการสำรวจที่ได้เก็บรวมรวบข้อมูลจากนักเรียนทั้งหมด 200

เลขยกกำลัง

เลขยกกำลัง ที่มีเลขชี้กำลังเป็นจำนวนตรรกยะ

เลขยกกำลัง ที่มีเลขชี้กำลังเป็นจำนวนตรรกยะ เลขยกกำลัง ที่มีเลขชี้กำลังเป็นจำนวนตรรกยะมีความเกี่ยวข้องกับกรณฑ์ในบทความ จำนวนจริงในรูปกรณฑ์ จากที่เรารู้ว่า จำนวนตรรกยะคือจำนวนที่สามารถเขียนอยู่ในรูปเศษส่วนของจำนวนเต็มได้ เช่น , , , 2 , 3 เป็นต้น ดังนั้นเลขยกกำลังที่มีเลขชี้กำลังเป็นจำนวนตรรกยะ ก็คือจำนวนจริงใดๆยกกำลังด้วยจำนวนที่สามารถเขียนในรูปเศษส่วนของจำนวนเต็ม เช่น , เป็นต้น โดยนิยามของเลขยกกำลังที่มีเลขชี้กำลังเป็นจำนวนตรรกยะ คือ เมื่อ k และ

like_dislike + การเขียนข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง

การเขียนบรรยายความรู้สึกของตนเอง like/dislike + การเขียนข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง

สวัสดีค่ะนักเรียนชั้นป.5 ที่น่ารักทุกคน วันนี้เราจะไปเรียนรู้เรื่อง การเขียนบรรยายความรู้สึกของตนเอง like/dislike + การเขียนข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง หากพร้อมแล้วก็ไปลุยกันโลดเด้อ Let’s go! ถาม-ตอบก่อนเรียน หากมีคนถามว่า What do you like doing? หรือ What do you dislike doing? (คุณชอบหรือไม่ชอบทำอะไร) นักเรียนสามารถแต่งประโยคเพื่อตอบคำถาม

โลโก้ NockAcademy

ทดลองฟรี!

เข้าใจได้ทันที NockAcademy ไลฟ์สดอันดับ 1 

โลโก้ NockAcademy

ทดลองฟรี!

เข้าใจได้ทันที NockAcademy ไลฟ์สดอันดับ 1