Imperative Sentence: เรียนรู้การใช้ประโยคคำสั่ง ขอร้องในชีวิตประจำวัน

เชื่อว่าชีวิตประจำวันของน้องๆ ไม่ว่าจะเป็นที่โรงเรียน ที่บ้าน หรือเวลาออกไปเที่ยว น้องๆ อาจจะเคยได้ยินประโยคประมาณนี้กันมาบ้าง Turn off the computer! (จงปิดคอมพิวเตอร์!) Please pass me the sugar (ช่วยส่งน้ำตาลมาให้ที) Drink a lot of water (ดื่มน้ำเยอะๆ) ประโยคเหล่านี้ภาษาอังกฤษมีชื่อเรียกว่า Imperative Sentence วันนี้เราจะมาดูกันว่า Imperative Sentence คืออะไร และสามารถใช้ในสถานการณ์ไหนได้บ้าง

สารบัญ

Add LINE friends for one click to find article. Add LINE friends for one click to find article.

ความหมายของ Imperative Sentence

 

คือประโยคที่ใช้ในการให้คำแนะนำ คำปรึกษา หรือแสดงการออกคำสั่ง ตักเตือน ขอร้อง บอกทาง ปกติจะเป็นประโยคสั้นๆ ที่ขึ้นต้นด้วยกริยา (Verb) ในรูป Infinitive (กริยาที่ไม่ต้องเติมอะไร) และลงท้ายด้วย full-stop (.) หรือ exclamation mark (!) ขึ้นอยู่กับอารมณ์ของผู้พูด ซึ่งเราพอที่จะแบ่งประเภทของ Imperative Sentence ออกเป็น 4 ประเภท ดังนี้

 

ประเภทของ Imperative Sentence

 

1. การให้คำอวยพร

ใช้ในการอวยพรแบบสุภาพ เช่น “Have a good day!” (ขอให้เป็นวันที่ดี), “Have a safe trip!” (ขอให้เดินทางปลอดภัย)

2. การเชิญชวน

ใช้ในการเชื้อชวนต่างๆ เช่น “Come join our group.” (มาอยู่กลุ่มกับเราสิ), “Please join me for lunch.” (มากินข้าวเที่ยงด้วยกันสิ)

3. การออกคำสั่งหรือขอร้อง

ใช้ในการออกคำสั่ง หรือขอร้อง ซึ่งหากเป็นการขอร้องจะเติมคำว่า Please ลงไปข้างหน้าหรือข้างหลังประโยค เช่น Open the window! (จงเปิดหน้าต่าง!) Please speak English at all times. (กรุณาพูดภาษาอังกฤษตลอดเวลา)

4. การให้คำแนะนำ

ใช้ในการให้คำแนะนำ คำปรึกษา บอกขั้นตอน บอกทาง เช่น “Go straight and turn right.” (ตรงไปและเลี้ยวขวา) Put the cookiesin the oven for about 15 minutes (ใส่คุกกี้เข้าไปในเตาอบประมาณ 15 นาที)

 

 

โครงสร้างของ Imperative Sentence

 

1. ใช้ Verb Infinitive ขึ้นต้นประโยค

อาจจะเป็นกริยาตัวเดียวหรือตามด้วยคำสั่งก็ได้ มักจะเป็นการออกคำสั่ง เช่น

Stop! (หยุด!)

Sit! (นั่งลง!)

Close the door. (ปิดประตู)

Speak louder. (พูดให้ดังขึ้น)

 

 

2. ใช้ Verb to be ขึ้นต้นประโยค

ตามด้วย Adjective หรือ Noun มักจะเป็นประโยคเชิงแนะนำ เช่น

Be humble. (จงถ่อมตัว)

Be a good role model. (จงเป็นแบบอย่างที่ดี)

Be kind to everyone. (จงมีเมตตาต่อทุกๆ คน)

 

 

3. ใช้ Do not (Don’t) ขึ้นต้นประโยค

ตามด้วยกริยา จะทำให้ Imperative Sentence เป็นรูปปฏิเสธ เป็นการสั่งห้ามทำสิ่งต่างๆ เช่น

Don’t eat in class! (อย่ากินอาหารในห้อง)

Do not cross the field (อย่าเดินตัดสนาม)

Don’t shout at your friend. (อย่าตะโกนใส่เพื่อน)

 

 

*การใช้ Please ไว้ข้างหน้าหรือข้างหลังประโยคจะทำให้ประโยคสุภาพขึ้น ลองสังเกต 2 ประโยคนี้

Turn off your phone. (ปิดโทรศัพท์)

Please turn off your phone. (กรุณาปิดโทรศัพท์)

จะเห็นได้ว่ารูปแบบของประโยคจะเปลี่ยนจะคำสั่งเป็นขอร้องแทน เนื่องจากมีความสุภาพมากขึ้น

 

 

การใช้ Can/Could/Should ในการขอร้องและขอคำแนะนำ

 

หากว่าน้องๆ รู้สึกว่าการใช้ Imperative Sentence ในการขอร้องนั้นอาจจะดูห้วนไป พี่มีเทคนิคการขอร้องแบบสุภาพมาบอกด้วย นั่นก็คือการใช้ Can หรือ Could นั่นเอง โดยทั้งสองคำมีความหมายเหมือนกัน แต่ Could จะสุภาพและเป็นทางการมากกว่า ส่วนคำว่า Should ใช้ในการขอคำแนะนำ

1. ใช้เพื่อขออนุญาต เช่น

Can I go to the toilet, please? (ฉันขออนุญาตไปห้องน้ำได้ไหม?)

Could I go to the nursing room? (ฉันขออนุญาตไปห้องพยาบาลได้ไหม?)

Could I use the computer? (ฉันขออนุญาตใช้คอมพิวเตอร์ได้ไหม?)

 

 

2. ใช้เพื่อขอร้องบางสิ่งบางอย่าง เช่น

Could you help me do my homework? (คุณสามารถช่วยฉันทำการบ้านได้ไหม?)

Can you help me carry my stuffs? (คุณสามารถช่วยฉันถือของได้ไหม?)

Could you speak louder? (คุณช่วยพูดให้ดังขึ้นได้ไหม?)

 

3. ใช้เพื่อขอคำแนะนำ เช่น

Should I do my homework at home or at school? (ฉันควรทำการบ้านที่บ้านหรือที่โรงเรียนดี?)

Should I call my parents to pick me up? (ฉันควรโทรให้พ่อแม่มารับดีไหม?)

Should we skip the class? (เราโดดวิชานี้กันดีไหม?) *เป็นตัวอย่างที่ไม่ดีน้องๆ ห้ามทำตามเด็ดขาด!

 

การฝึกใช้ Imperative Sentence และประโยคขอร้องแบบสุภาพนั้นสำคัญมากๆ ในการสื่อสารภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวัน นอกจากนั้นแล้วน้องๆ สามารถพบเห็นประโยคแบบนี้ทั้งใน โฆษณา คู่มือต่างๆ ป้ายบอกทาง หรือป้ายสัญญาจราจรตามท้องถนนอีกด้วย

 

NockAcademy คือโรงเรียนออนไลน์สำหรับเด็ก โดยแอปฯ และเว็บไซต์ นักเรียนสามารถเรียนรู้ผ่านคลิปบทเรียนวิชา คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และภาษาไทย
มากไปกว่านั้น เรายังมีคอร์สเรียนออนไลน์ การสอนพิเศษ การติวนอกสถานที่โดยติวเตอร์ที่แน่นไปด้วยความรู้ อีกด้วย

Add LINE friends for one click to find article. Add LINE friends for one click to find article.
ครูผู้สอน NockAcademy

แค่ 10 นาที ก็เข้าใจได้

สามารถดูคลิปบทเรียนวิชา คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และภาษาไทย ที่มีมากกว่า 2,000+ คลิป และยังสามารถทำแบบทดสอบที่มีมากกว่า 4000+ ข้อ

แนะนำ

แชร์

ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับเซต

เซตคืออะไร? เซต คือ คำที่ใช้เรียกกลุ่มของสิ่งต่างๆ ทำไมต้องเรียนเซต เซตมีประโยชน์ในเรื่องของการจำแนกสิ่งต่างๆออกเป็นกลุ่มๆ อีกทั้งยังแทรกอยู่ในเนื้อหาบทอื่นๆของคณิตศาสตร์ เราจึงจำเป็นต้องทำความเข้าใจเกี่ยวกับเซต เพื่อที่จะเรียนเนื้อหาบทอื่นๆได้ง่ายขึ้น ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับเซต เซต คือคำที่ใช้เรียกกลุ่มของสิ่งต่างๆ เช่น เซตของสระในภาษาอังกฤษ คือ กลุ่มของสระในภาษาอังกฤษ a,e,i,o,u เป็นต้น สมาชิกของเซต คือ สิ่งที่อยู่ในเซต เช่น เซตของสระในภาษาอังกฤษ สมาชิกของเซต คือ

การใช้ Tenses : Present Simple Tense/ Present Continuous Tense

สวัสดีนักเรียนชั้นม.2 ที่น่ารักทุกคน วันนี้เราจะไปดู “การใช้ Tenses : Present simple/ Present Continuous” พร้อมทั้งตัวอย่างสถานการณ์ใกล้ตัว หากพร้อมแล้วก็ไปลุยกันเลย ทบทวน Present Simple Tense       ความหมาย: Present แปลว่า ปัจจุบัน ดังนั้น Present

01NokAcademy_Question Tag Profile

เรื่อง Tag Question (1)

สวัสดีค่ะนักเรียนชั้นม.4 ที่น่ารักทุกคนวันนี้เราจะไปเรียนรู้ในหัวข้อ “เรื่อง Tag Question “ พร้อมแล้วก็ไปลุยกันเลยจร้า รู้จักกับ Question Tag (Tag Question หรือ Tail Question)   Question Tag ในบางครั้งเรียกว่า Tag Question หรือ Tail Question ก็ได้จร้า 

การวัดปริมาตรและน้ำหนัก

การวัดปริมาตรและน้ำหนัก

ในบทความนี้เราจะได้เรียนรู้หน่วยที่ใช้ในการวัดปริมาตร และน้ำหนักที่มีการใช้กันอย่างแพร่หลาย อีกทั้งยังมีมาตรฐาน ซึ่งแต่ละหน่วยล้วนแต่มีความสัมพันธ์กัน

M6 Phrasal Verbs

Phrasal Verbs 

สวัสดีค่ะนักเรียนชั้นม.6 ที่รักทุกคนวันนี้เราจะไปเรียนรู้กันเรื่อง “Phrasal Verbs“ กันนะคะ ถ้าพร้อมแล้วก็ไปลุยกันโลด   ความหมาย Phrasal Verbs  Phrasal Verbs คือ คำกริยา โดยเป็นกริยาที่มีคำอื่นๆ อย่างเช่น คำบุพบท (Preposition) ร่วมกันส่วนใหญ่แล้ว Phrasal Verbs จะบอกถึงการกระทำ มักจะเจอในชีวิตประจำวันในสถานการณ์ทั่วไป ไม่เป็นทางการมาก ข้อดีคือจะทำให้ภาษาใกล้เคียงกับเจ้าของภาษามากขึ้นนั่นเองจ้า

ลบไม่ได้ช่วยให้ลืม เช่นเดียวกับการลบเศษส่วนและจำนวนคละ!

บทความที่แล้วเราได้กล่าวถึงการบวกเศษส่วนและจำนวนคละไปแล้ว บทต่อมาก็จะเป็นเรื่องของการลบเศษส่วนและจำนวนคละ ทั้งสองเรื่องนี้มีหลักการคล้ายกันต่างกันที่เครื่องหมายที่บ่งบอกว่าโจทย์ต้องการทราบอะไร ดังนั้นบทความนี้จะอธิบายถึงหลักการลบเศษส่วนและจำนวนคละอย่างละเอียดและยกตัวอย่างให้น้อง ๆเข้าใจอย่างเห็นภาพและสามารถนำไปปรับใช้กับแบบฝึกหัดเรื่องการลบเศษส่วนและจำนวนคละได้

โลโก้ NockAcademy

ทดลองฟรี!

เข้าใจได้ทันที NockAcademy ไลฟ์สดอันดับ 1 

โลโก้ NockAcademy

ทดลองฟรี!

เข้าใจได้ทันที NockAcademy ไลฟ์สดอันดับ 1