คำคุณศัพท์และการเรียงคำคุณศัพท์

สวัสดีน้องๆ ป. 6 ทุกคนนะครับ วันนี้เราจะมาเรียนรู้เกี่ยวกับคำคุณศัพท์และการเรียงคำคุณศัพท์ในภาษาอังกฤษกัน ถ้าพร้อมแล้วไปลุยกันเลยครับ
Adjective

สารบัญ

Add LINE friends for one click to find article. Add LINE friends for one click to find article.

Adjective ในภาษาอังกฤษ

ในภาษาอังกฤษเราเรียกคำคุณศัพท์ว่า “Adjective” ซึ่งคำเหล่านี้จะมีหน้าที่ขยายคำนาม (Noun) หรือคำสรรพนาม (Pronoun) เพื่อให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ลักษณะ สี ขนาด และอื่นๆ

โดยปกติแล้วเรามักวางคำเหล่านี้ไว้ข้างหน้าคำนามและตามหลัง Verb to be (is/am/are/was/were) ซึ่งสามารถเขียนออกมาเป็นโครงสร้างได้ดังนี้

adjective

ตัวอย่าง

Gina is beautiful.
(จีน่าสวย)

Paul likes small dogs.
(พอลชอบสุนัขตัวเล็กๆ)

I love Japanese food.
(ฉันรักอาหารญี่ปุ่น)

adjective example

 

การเรียงคำคุณศัพท์

จากตัวอย่างด้านบนเราจะเห็นว่ามีการใช้ Adjective ประโยคละ 1 คำ แล้วถ้าหากว่าเราต้องการใช้ Adjective มากกว่า 1 คำ เพื่อขยายคำนามล่ะ เราควรจะวางคำไหนไว้ก่อนหรือหลังดี? เช่น

เราควรจะบอกว่า I am standing in a big white room. หรือ

I am standing in a white big room. ประโยคไหนคือประโยคที่ถูกต้อง?

คำตอบที่ถูกต้องคือประโยคแรกนั่นเองครับ

 

โดยหลักการเรียงคำคุณศัพท์จะเรียงตามลำดับดังนี้

Adjectives

Examples

Quality (คุณภาพ)

good, bad, standard, handsome

Size (ขนาด)

big, small, large, huge

Age (อายุ)

old, young, ancient, new

Shape (รูปร่าง)

round, square, triangle, cube

Colour (สี)

black, white, red, orange

Nationality (เชื้อชาติ)

Thai, Japanese, British, American

ซึ่งถ้าหากเรียงตามนี้ “a big white room” จึงถูกต้องนั่นเองครับ เพราะขนาดจะมาก่อนสี

 

ตัวอย่างอื่นๆ ที่น่าสนใจ

My brother is a handsome young man.
(พี่ชายของฉันเป็นหนุ่มวัยรุ่นรูปหล่อ)

Poppy is my good small dog.
(ป๊อปปี้เป็นสุนัขตัวเล็กแสนดีของฉัน)

Thailand is a big ancient country.
(ประเทศไทยเป็นประเทศเก่าแก่ขนาดใหญ่)

order example

 

เป็นยังไงกันบ้างครับน้องๆ เรื่องคำคุณศัพท์นั้นไม่ยากเลยใช่มั้ยครับ? ซึ่งโดยปกติแล้วเราจะพบเห็นการใช้ Adjective ประมาณ 2-3 คำเท่านั้นในการขยายคำนามหรือคำสรรพนาม ฉะนั้นน้องๆ ไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้มากเกินไปนะครับ และน้องๆ สามารถดูวิดีโอเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้ที่ช่องของ NockAcademy ด้านล่างเลยครับ

NockAcademy คือโรงเรียนออนไลน์สำหรับเด็ก โดยแอปฯ และเว็บไซต์ นักเรียนสามารถเรียนรู้ผ่านคลิปบทเรียนวิชา คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และภาษาไทย
มากไปกว่านั้น เรายังมีคอร์สเรียนออนไลน์ การสอนพิเศษ การติวนอกสถานที่โดยติวเตอร์ที่แน่นไปด้วยความรู้ อีกด้วย

Add LINE friends for one click to find article. Add LINE friends for one click to find article.
ครูผู้สอน NockAcademy

แค่ 10 นาที ก็เข้าใจได้

สามารถดูคลิปบทเรียนวิชา คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และภาษาไทย ที่มีมากกว่า 2,000+ คลิป และยังสามารถทำแบบทดสอบที่มีมากกว่า 4000+ ข้อ

แนะนำ

แชร์

Compound sentences Profile

ประโยคความรวม (Compound Sentence)

  สวัสดีค่ะนักเรียนชั้นม.2 ที่น่ารักทุกคน เจอกันอีกแล้วจร้ากับไวยากรณ์การเขียนภาษาอังกฤษและวันนี้ครูจะพาไปดูเทคนิคการการใช้ประโยคความรวมในภาษาอังกฤษกันค่ะ ซึ่งเป็นไม้เบื่อไม้เมามากกับคนที่ไม่ชอบเขียน  ครูเอาใจช่วยทุกคนค่า ไปลุยกันเลย     ประโยคความรวม (Compound Sentence)   ประโยคความรวม ภาษาอังกฤษคือ Compound Sentence อ่านว่า เคิมพาวดฺ เซนเท่นสฺ เป็นประโยคที่ประกอบด้วยประโยคความเดียวอย่างน้อย 2 ประโยคโดยมีคำเชื่อมระหว่างประโยค เช่น for,

verb to be

Verb to be ใน Present Simple Tense

สวัสดีน้องๆ ป. 5 ทุกคนนะครับ วันนี้เราจะมาเรียนรู้เรื่อง Simple Simple อย่าง Verb to be ใน Present Simple Tense กันครับ ถ้าพร้อมแล้วไปดูกันเลย

รากที่สาม

รากที่สาม

ในบทตวามนี้เราจะได้เรียนรู้การหารากที่สามของจำนวนจริงใดๆ ซึ่งทำได้หลายวิธีเช่นเดียวกับการหารากที่สอง อาจใช้การแยกตัวประกอบ การประมาณ การเปิดตาราง และการใช้เครื่องคำนวณ แต่เนื่องจากการประมาณเป็นวิธีที่ยุ่งยาก ในที่นี้จึงจะกล่าวเฉพาะการหารากที่สามโดยการแยกตัวประกอบ การเปิดตาราง และการใช้เครื่องคำนวณ

สมบัติการคูณจำนวนจริง

การให้เหตุผลแบบอุปนัย

การให้เหตุผลแบบอุปนัย การให้เหตุผลแบบอุปนัย คือ การนำประสบการณ์มาสรุปผล เช่น เราไปซื้อผลไม้แล้วเราชิมผลไม้ 2-3 ลูก ปรากฏว่า มีรสหวาน เราเลยสรุปว่าผลไม้ทั้งกองนั้นหวาน เป็นต้น ซึ่งการสรุปผลอาจจะเป็นจริงหรือเท็จก็ได้ อาจจะขึ้นอยู่กับประสบการณ์ของผู้สรุป ดังนั้น ผลสรุปไม่จำเป็นต้องเหมือนกัน ตัวอย่างเช่น เหตุ เมื่อวานแป้งตั้งใจเรียน วันนี้แป้งตั้วใจเรียน ผลสรุป  พรุ่งนี้แป้งจะตั้งใจเรียน การให้เหตุผลแบบนี้ เหมือนเป็นการคาดคะเนเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นต่อไป ซึ่งการคาดคะเนนี้อาจจะจริงหรือเท็จก็ได้

หลักการใช้ Simple Present Tense+ Present Continuous Tense

สวัสดีนักเรียนชั้นม.1 ที่น่ารักทุกคน วันนี้เราจะไปเรียนรู้เรื่อง” หลักการใช้ Simple Present Tense+ Present Continuous Tense” พร้อมทั้งตัวอย่างสถานการณ์ใกล้ตัว และเทคนิคการจำและนำ Tense ไปใช้กันจร้า ซึ่ง Simple Present Tenseและ Present Continuous Tense นั้นมีสิ่งที่เหมือนกันคือ อยู่ในรูปปัจจุบัน (Present) เหมือนกัน

หลักการคูณทศนิยม พร้อมตัวอย่างที่เข้าใจง่าย

บทความนี้จะพาน้อง ๆมาทำความเข้าใจกับหลักการคูณทศนิยมในแต่ละรูปแบบ พร้อมทั้งอธิบายหลักการและยกตัวอย่างวิธีคิดในแต่ละรูปแบบของการคูณทศนิยม ให้น้อง ๆสามารถนำไปปรับใช้กับการหาคำตอบจากแบบฝึกหัดในห้องเรียนได้จริง

โลโก้ NockAcademy

ทดลองฟรี!

เข้าใจได้ทันที NockAcademy ไลฟ์สดอันดับ 1 

โลโก้ NockAcademy

ทดลองฟรี!

เข้าใจได้ทันที NockAcademy ไลฟ์สดอันดับ 1