ฟังอย่างไรให้ได้สาระประโยชน์ดี ๆ ด้วยวิธีวิเคราะห์ความน่าเชื่อถือจากสื่อที่ฟัง

ความน่าเชื่อถือของสื่อที่ฟัง

สารบัญ

Add LINE friends for one click to find article. Add LINE friends for one click to find article.

บทนำ

สวัสดีน้อง ๆ ทุกคนยินดีต้อนรับเข้าสู่เนื้อหาในบทเรียนภาษาไทยกันอีกครั้ง สำหรับบทเรียนในวันนี้ต้องบอกว่ามีประโยชน์มาก ๆ และเราควรจะต้องศึกษาไว้เพื่อนำไปใช้ในการฟัง หรือคัดกรองสิ่งต่าง ๆ รอบตัวที่เรารับฟังมาให้มากขึ้น ซึ่งเราจะพาน้อง ๆ มาฝึกฝนการวิเคราะห์ความน่าเชื่อถือจากสื่อที่ฟังกัน เพราะในปัจจุบันเราสามารถรับสารได้หลากหลายรูปแบบมีทั้งประโยชน์
และโทษ ดังนั้น เราจึงต้องมีทักษะนี้ติดตัวไว้แยกแยะว่าสื่อนั้นมีความน่าเชื่อถือมากน้อยแค่ไหน ถ้าน้อง ๆ พร้อมแล้วเรามาเริ่มเรียนกันเลย

 

ความหมายของความน่าเชื่อถือ และสื่อ

ความน่าเชื่อถือ หมายถึง สิ่งที่แม่นยำ ทำซ้ำได้อย่างถูกต้องในทำนองเดียวกัน สิ่งที่ทำได้คงเส้นคงวาไม่ผิดพลาดไปจากเดิมซึ่งจะส่งผลต่อความน่าเชื่อถือ

สื่อ คือ ช่องทางที่ใช้ติดต่อ หรือเชื่อมต่อถึงกัน เป็นตัวกลางในการส่งสาร ส่งเนื้อหาไปยังผู้รับสาร

 

ความน่าเชื่อถือของสื่อที่ฟัง

ประเภทของสื่อที่ฟัง

1.สื่อประเภทข่าว คือ สื่อที่มีการถ่ายทอด หรือนำเสนอเรื่องราวที่เกิดขึ้นใหม่ ๆ เรื่องที่กำลังอยู่ในความสนใจ ณ ขณะนั้น เรื่องที่ได้ยินมาทั้งที่เป็นข้อเท็จจริง หรือข่าวลือ 

2.สื่อบันเทิง คือ สื่อที่เน้นนำเสนอความบันเทิงเป็นหลัก ไม่ได้ให้ความสำคัญในเรื่องข้อเท็จจริง หรือข้อมูลมาก เราจะเห็นการผลิตสื่อบันเทิงในรูปแบบ รายการ ละคร ซีรีส์ หรือภาพยนตร์ ให้คนที่รับชมได้ความสนุก เพลิดเพลินใจ

3. สื่อโฆษณา คือ สื่อที่ใช้เพื่อการนำเสนอสินค้า โปรโมตสินค้า และบริการ มุ่งเน้นการโน้มน้าวใจ หรือชักจูงใจ เพื่อกระตุ้นให้คนมีความต้องการซื้อมากขึ้น

4. สื่อออนไลน์ คือ สื่อที่ใช้รูปแบบการนำเสนอบนโลกออนไลน์ ใช้การเข้าถึงด้วยอินเทอร์เน็ต ผ่านเว็บไซต์ เบราว์เซอร์ หรือแอปพลิเคชัน เข้าถึงข้อมูลได้ง่าย รวดเร็ว และมีเนื้อหาหลากหลาย

 

ความน่าเชื่อถือของสื่อที่ฟัง

 

วิเคราะห์ลักษณะของสื่อที่มีความน่าเชื่อถือ

  • มีเนื้อหาที่สมเหตุสมผล มีแหล่งอ้างอิงชัดเจนสามารถตรวจสอบได้
  • เป็นสื่อที่มีความทันสมัย ควรระบุว่ามีการเผยแพร่เมื่อใด มีการแก้ไข หรือเปลี่ยนแปลงอะไรหรือไม่
  • สำนวนภาษาที่ใช้ต้องมีความเข้าใจง่าย ให้ข้อมูลชัดเจนไม่ได้มีลักษณะไปในทางชวนเชื่อหรือ ทำให้ผู้รับสารเข้าใจคลาดเคลื่อน
  • ถ้าหากเป็นเนื้อหา หรือสื่อประเภทข่าวต้องมีการลำดับเนื้อเรื่องอย่างเป็นขั้นเป็นตอน เรียงลำดับตั้วแต่ต้นจนจบได้อย่างเข้าใจ ไม่ปิดบัง อำพราง หรือบิดเบือนข้อมูลข่าว ต้องสามารถบอกเวลา และสถานที่ ได้อย่างถูกต้องแม่นยำ
  • หากเรื่องนั้นมีการแสดงความคิดเห็นประกอบให้เราพิจารณา ไตร่ตรองตามความเป็นจริง และไม่เอนเอียง
    ไปทางใดทางหนึ่ง เชื่อตามหลัก และเหตุผลอันเป็นที่ยอมรับ และน่าเชื่อถือจริง ๆ
  • แยกแยะให้ได้ว่าจุดประสงค์ของสื่อนั้นสร้างขึ้นมาเพื่ออะไร เป็นสื่อประเภทใด โฆษณา หรือข่าวสาร

บทส่งท้าย

ปัจจุบันสื่อมีหลายช่องทาง สารมีหลากหลายรูปแบบมาก ๆ ดังนั้น น้อง ๆ ทุกคนควรเรียนรู้ที่จะวิเคราะห์ แยกแยะเนื้อหาจากสื่อที่ฟังให้ได้ว่ามีความน่าเชื่อถือมากน้อยเพียงใด เป็นไปในทางชักจูงใจ หรือเป็นความจริง ซึ่งเรามักจะต้องใช้ทักษะนี้ในการฟังข่าวสาร หรือฟังโฆษณา ถ้าเราสามารถวิเคราะห์ได้ก็จะช่วยให้เราได้รับสาระประโยชน์จากสื่อที่เราฟังได้อย่างแท้จริง สามารถนำไปใช้ หรือปฏิบัติตามได้อย่างถูกต้องไม่เป็นภัยกับตัวเอง ถ้าหากน้อง ๆ คนไหนยังมีข้อสงสัย หรืออยากเรียนรู้เรื่องนี้เพิ่มเติมสามารถเข้าไปดูครูอุ้มสอนได้ที่คลิปด้านล่างนี้ได้เลย

 

NockAcademy คือโรงเรียนออนไลน์สำหรับเด็ก โดยแอปฯ และเว็บไซต์ นักเรียนสามารถเรียนรู้ผ่านคลิปบทเรียนวิชา คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และภาษาไทย
มากไปกว่านั้น เรายังมีคอร์สเรียนออนไลน์ การสอนพิเศษ การติวนอกสถานที่โดยติวเตอร์ที่แน่นไปด้วยความรู้ อีกด้วย

Add LINE friends for one click to find article. Add LINE friends for one click to find article.
ครูผู้สอน NockAcademy

แค่ 10 นาที ก็เข้าใจได้

สามารถดูคลิปบทเรียนวิชา คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และภาษาไทย ที่มีมากกว่า 2,000+ คลิป และยังสามารถทำแบบทดสอบที่มีมากกว่า 4000+ ข้อ

แนะนำ

แชร์

ภาษาชวา มลายู ในภาษาไทย มีลักษณะอย่างไร?

น้อง ๆ สงสัยกันไหมคะว่าในภาษาที่เราใช้พูดและใช้เขียนกันอยู่นี้ มีคำไหนบ้างที่ถูกหยิบยืมมาจากต่างประเทศ บทเรียนภาษาไทยในวันนี้จะพาน้อง ๆ ไปทำความรู้จักและศึกษาลงลึกถึงภาษาชวาและมลายู เป็นอีกหนึ่งภาษาที่เข้ามามีอิทธิพลกับภาษาไทยมาตั้งแต่สมัยอดีต ถ้าพร้อมแล้วเราไปเรียนรู้เรื่องนี้ด้วยกันเลยค่ะ   ความเป็นมาของการยืมคำจากภาษาชวา มลายู     ทางตอนใต้ของประเทศไทยติดต่อกับประเทศมาเลเซีย จึงทำให้มีการติดต่อค้าขายสานสัมพันธ์ไมตรีกันมาตั้งแต่สมัยอดีต โดยเดิมทีชาวชวาและชาวมลายูเคยใช้ภาษามลายูร่วมกัน ต่อว่าชาวชวามีภาษาเป็นของชนชาติตัวเอง แต่ก็ยังมีบางคำที่คล้ายคลึงกับภาษามลายูอยู่ 1. คำยืมภาษาชวา เพราะอิทธิพลของวรรณคดีสมัยอยุธยาตอนปลายเรื่องดาหลังและอิเหนา วรรณคดีเรื่องนี้เป็นที่นิยมถูกนำมาปรับปรุงและประพันธ์เป็นบทละคร โดยในเรื่องมีภาษาชวาอยู่เยอะมาก ทำให้เป็นที่รู้จักและถูกหยิบยืมมาใช้ในการประพันธ์เรื่อยมา

พาราโบลา

พาราโบลา

พาราโบลา พาราโบลา คือเซตของจุดบนระนาบมีระยะห่างจากจุดโฟกัส (focus) เท่ากับระยะห่างจากเส้นไดเรกตริกซ์ (directrix) พาราโบลาที่มีจุดยอดอยู่ที่จุดกำเนิด กราฟของพาราโบลาจะมีลักษณะคล้ายระฆัง ตอนม.3 น้องๆเคยเห็นทั้งพาราโบลาหงายและคว่ำแล้ว แต่ในบทความนี้น้องๆจะได้รู้จักกับพาราโบลาตะแคงซ้ายและขวา สามารถเขียนเป็นตารางให้เข้าใจง่ายๆได้ดังนี้ ข้อสังเกต  จะเห็นว่าถ้าแกนสมมาตรคือแกน y รูปแบบสมการของพาราโบลา y จะมีเลขชี้กำลังเป็น 1  สมการเส้นไดเรกตริกซ์ก็จะเกี่ยวข้องกับ y เช่นเดียวกับแกนสมมาตรเป็นแกน x รูปแบบสมการของพาราโบลา x

คำซ้ำคืออะไร เรียนรู้และเข้าใจหลักการสร้างคำอย่างง่าย

  จากที่ได้เรียนเรื่องการสร้างคำประสมและคำซ้อนไปแล้ว บทเรียนหลักภาษาไทยในวันนี้จะพาน้อง ๆ ไปเรียนรู้การสร้างคำอีกหนึ่งชนิดที่สำคัญไม่แพ้สองคำก่อนหน้า นั่นก็คือ คำซ้ำ นั่นเองค่ะ คำซ้ำคืออะไร มีวิธีสร้างคำได้อย่างไรบ้าง วันนี้เราไปทำความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องนี้พร้อม ๆ กันเลยค่ะ   คำซ้ำ     คำซ้ำคืออะไร?   คำซ้ำ หมายถึง การสร้างคำขึ้นใหม่ โดยนำคำมูลซึ่งส่วนมากเป็นคำพยางค์เดียวมาซ้ำกันแล้วมีความหมายเปลี่ยนแปลงไป อาจเน้นหนักขึ้น หรือเบาลง

เลขยกกำลัง

เลขยกกำลัง ที่มีเลขชี้กำลังเป็นจำนวนตรรกยะ

เลขยกกำลัง ที่มีเลขชี้กำลังเป็นจำนวนตรรกยะ เลขยกกำลัง ที่มีเลขชี้กำลังเป็นจำนวนตรรกยะมีความเกี่ยวข้องกับกรณฑ์ในบทความ จำนวนจริงในรูปกรณฑ์ จากที่เรารู้ว่า จำนวนตรรกยะคือจำนวนที่สามารถเขียนอยู่ในรูปเศษส่วนของจำนวนเต็มได้ เช่น , , , 2 , 3 เป็นต้น ดังนั้นเลขยกกำลังที่มีเลขชี้กำลังเป็นจำนวนตรรกยะ ก็คือจำนวนจริงใดๆยกกำลังด้วยจำนวนที่สามารถเขียนในรูปเศษส่วนของจำนวนเต็ม เช่น , เป็นต้น โดยนิยามของเลขยกกำลังที่มีเลขชี้กำลังเป็นจำนวนตรรกยะ คือ เมื่อ k และ

ลำดับเรขาคณิต

ลำดับเรขาคณิต

ลำดับเรขาคณิต ลำดับเรขาคณิต คือ ลำดับที่มีจำนวนเพิ่มขึ้นหรือลดลงอย่างคงที่เป็นจำนวนเท่า ซึ่งจำนวนที่เพิ่มขึ้นหรือลดลงนั้นเรียกว่า อัตราส่วนร่วม เขียนแทนด้วย r โดยที่ r = พจน์ขวาหารด้วยพจน์ซ้าย การเขียนลำดับเราจะเขียนแทนด้วย    โดยที่ คือพจน์ทั่วไปหรือเรียกอีกอย่างว่า พจน์สุดท้ายนั่นเอง ตัวอย่างของลำดับเรขาคณิต 2, 4, 8, 16, 32, … จะได้ว่า 

Tense and time

การใช้ Tenses ในภาษาอังกฤษ ที่เกี่ยวข้องกับเวลา

สวัสดีค่ะนักเรียนม.  1 ที่น่ารักทุกคนวันนี้ครูจะพาไปรู้จักกับ การใช้ Tense ต่าง ๆ ในภาษาอังกฤษกัน ก่อนอื่นมารู้จักTenses กันก่อน Tenses อ่านว่า เท้นสฺ ถ้าเป็นคำ Adjective หรือคุณศัพท์จะแปลว่าหนักหนาสาหัส แต่ถ้าเป็นคำนาม (Noun) จะแปลว่า กาลเวลาค่ะ หัวใจของการเรียนเรื่อง Tense คือ กริยา(verb) เมื่อกริยาเปลี่ยนไปเวลาและเงื่อนไขการใช้งานของ

โลโก้ NockAcademy

ทดลองฟรี!

เข้าใจได้ทันที NockAcademy ไลฟ์สดอันดับ 1 

โลโก้ NockAcademy

ทดลองฟรี!

เข้าใจได้ทันที NockAcademy ไลฟ์สดอันดับ 1