เรียนรู้การเขียนเชิงวิชาการ อย่างง่ายเพียง 4 ขั้นตอน

สารบัญ

Add LINE friends for one click to find article. Add LINE friends for one click to find article.

การเขียนเชิงวิชาการ อาจจะดูเป็นการเขียนที่ยากในความคิดของหลาย ๆ คน เพราะดันมีคำว่า วิชาการ อยู่ด้วยนั่นเอง แต่น้อง ๆ ทราบไหมคะว่าที่จริงแล้วการเขียนเชิงวิชาการนั้นไม่ได้ยุ่งยากและซับซ้อนเลย แถมยังมีวิธีขั้นตอนการเขียนที่ง่าย ๆ เพียงไม่กี่ขั้นตอนเท่านั้น ถ้าน้อง ๆ อยากรู้แล้วว่ามันจะง่ายขนาดนั้นจริงหรือ? เราไปหาคำตอบของเรื่องนี้พร้อมกันเลยค่ะ

 

การเขียนเชิงวิชาการ คืออะไร?

 

คือ องค์ความรู้เชิงวิชาการที่ได้จากการตกผลึกทางความคิดของผู้เขียนที่ต้องการถ่ายทอดหรือสื่อสารให้ผู้อื่นได้รับรู้ผ่านกระบวนการเรียบเรียง โดยอาศัยการศึกษาค้นคว้า สำรวจ รวบรวม วิเคราะห์ข้อมูลความรู้อย่างละเอียด ถี่ถ้วน มีเหตุผล เป็นระบบ และอ้างอิงหลักฐาน โดยอาศัยการผสมผสานระหว่างตัวอักษร รูปภาพ ตาราง และสัญลักษณ์ต่าง ๆ อย่างเป็นระบบ

 

การเขียนเชิงวิชาการมีความสำคัญอย่างไร

 

การเขียนเชิงวิชาการเป็นงานที่จะได้นำเสนอแนวคิดของตนได้อย่างอิสระโดยอยู่บนพื้นฐานของหลักวิชาการ

 

การเขียนเชิงวิชาการ

 

นอกจากนี้ตัวของผู้เขียนแล้ว การเขียนเชิงวิชาการยังมีความสำคัญต่อแวดวงของเรื่องราวที่นำมาเขียน มีความสำคัญต่อสังคม เพราะการเขียนนี้จะสามารถนำไปประยุกต์ใช้ ก่อให้เกิดความเจริญก้าวหน้าทางสังคมนอกเหนือจากการเรียนการสอนในห้องเรียน

 

การเขียนเชิงวิชาการ

 

ในงานเขียนจะต้องมีแก่นสำคัญที่ผู้เขียนควรจะให้ความสำคัญไว้เสมอ ประกอบไปด้วย 3 สิ่งนี้

 

การเขียนเชิงวิชาการ

 

1.ผู้อ่าน การเขียนที่ดี เราจะต้องนึกถึงผู้อ่านด้วย ไม่ใช่ยึดตัวเองเป็นหลัก แม้ว่าแรกเริ่มเดิมทีการเขียนนี้จะมาจากความสนใจของเราก็ตาม เพราะถ้าไม่รู้ว่าจะเขียนให้ใครอ่าน ก็จะไม่เกิดประโยชน์ ไม่บรรลุเป้าหมายอย่างที่ตั้งใจ

2. เนื้อหาสาระ เนื้อหาที่จะเขียนนั้นจะต้องถูกเรียบเรียงอย่างดี และกลั่นกรองทางความคิดอย่างเป็นระบบ เพื่อให้ตรงกับวัตถุประสงค์ในการเขียนและเพื่อให้งานที่ได้นั้นเกิดประโยชน์

3. รูปแบบ รูปแบบของการเขียนเชิงวิชาการมีความสำคัญ เพราะผู้เขียนต้องคำนึงว่าจะเขียนแบบไหนให้ผู้อ่านเกิดความรู้สึกอยากอ่านและเกิดความเข้าใจในเนื้อหาสาระที่ต้องการจะสื่อ

 

ขั้นตอนการเขียนเชิงวิชาการ

 

 

1. เลือกหัวข้อเรื่อง

การเลือกหัวข้อเรื่องนั้นสามารถเลือกได้ที่อาจารย์กำหนดให้ หรือเป็นเรื่องที่เราสนใจอยากจะค้นคว้า โดยเรื่องที่เลือกนั้นจะต้องเป็นเรื่องมีความรู้พื้นฐานอยู่พอสมควรเพื่อที่จะได้ต่อยอดการศึกษาได้ ไม่ไกลตัวจนเกิดไป เพราะอาจจะไม่ได้คำตอบที่ต้องการจะค้นคว้า

2. กำหนดจุดมุ่งหมายและขอบเขตของเรื่อง

เพื่อให้การเขียนเป็นไปอย่างราบรื่น ควรกำหนดจุดมุ่งหมายใหญ่ ๆ ไว้ก่อนจะเลือกประเด็นสำคัญเพื่อกำหนดขอบเขตจากจุดมุ่งหมายอีกที ก่อนจะนำขอบเขตนั้นมาขยายเพื่อทำการศึกษาแตกย่อยออกไปตามที่กำหนดไว้

3. ค้นคว้าและรวบรวมความรู้

ในการเขียนเชิงวิชาการควรมีแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้เป็นแหล่งอ้างอิง ดังนั้นก่อนอื่นเราจะต้องสำรวจแหล่งข้อมูลเสียก่อนว่ามีเพียงพอต่อการศึกษาหรือไม่ หรือเพราะไม่สามารถที่สร้างข้อมูลขึ้นมาใช้อ้างอิงเองได้ โดยการค้นคว้านั้นอาจจะใช้วิธีการรวบรวมข้อมูลผ่านเอกสาร หนังสือออนไลน์ หรือจากห้องสมุดเพื่อหาหนังสืออ้างอิง

4. วางโครงเรื่อง

การวางโครงเรื่องนั้นมีความสำคัญเพราะต้องนำหัวข้อต่าง ๆ มาจัดเรียงให้เป็นลำดับว่าจะเขียนเรื่องไหนก่อนหรือหลัง และต้องทำควบคู่ไปกับการสืบค้นข้อมูลเพื่อที่จะได้ปรับ เพราะขณะที่หาข้อมูลเราอาจจะได้แนวคิดหรือแนวทางใหม่ ๆ ที่ชัดเจนขึ้น โดยในการวางโครงเรื่องจะต้องกำหนดสองสิ่งหลัก ๆ นี้

 

 

เป็นอย่างไรบ้างคะน้อง ๆ การเขียนเชิงวิชาการไม่ยากอย่างที่คิดเลยใช่ไหมคะ ถึงแม้จะฟังเหมือนยาก แต่แค่น้อง ๆ หาข้อมูล และรู้จักวางโครงเรื่องให้เป็น เมื่อเราลำดับความคิดตัวเองและรู้ว่าจะเขียนอะไรแล้วก็ไม่มีอะไรยากอีกต่อไปค่ะ สำหรับน้อง ๆ ที่อยากจะฟังคำอธิบายเพิ่มเติมก็สามารถไปดูในคลิปการสอนของครูอุ้ม ในคลิปครูได้ยกตัวอย่างการเขียนขึ้นมาเพื่อให้เราเข้าใจและเห็นภาพมากกว่าเดิมด้วยนะคะ ถ้าพร้อมแล้วเราไปดูกันเลยค่ะ

 

 

อย่าพลาดการติดตามบทความภาษาไทยจาก nockacademy

NockAcademy คือโรงเรียนออนไลน์สำหรับเด็ก โดยแอปฯ และเว็บไซต์ นักเรียนสามารถเรียนรู้ผ่านคลิปบทเรียนวิชา คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และภาษาไทย
มากไปกว่านั้น เรายังมีคอร์สเรียนออนไลน์ การสอนพิเศษ การติวนอกสถานที่โดยติวเตอร์ที่แน่นไปด้วยความรู้ อีกด้วย

Add LINE friends for one click to find article. Add LINE friends for one click to find article.
เรียนพิเศษออนไลน์ ดูได้ทั้ง 4 รายวิชา - NockAcademy

แค่ 10 นาที ก็เข้าใจได้

สามารถดูคลิปบทเรียนวิชา คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และภาษาไทย ที่มีมากกว่า 2,000+ คลิป และยังสามารถทำแบบทดสอบที่มีมากกว่า 4000+ ข้อ

แนะนำ

แชร์

เสียงสระในภาษาไทย

เสียงในภาษาไทยมีทั้งหมด 3  เสียงคือพยัญชนะ สระ และวรรณยุกต์ จากที่เราได้ทำความเข้าใจในเรื่องเสียงพยัญชนะกันไปแล้ว วันนี้เราจะมาเรียนรู้อีกเสียงหนึ่งที่มีความสำคัญไม่แพ้กันก็คือเรื่องเสียงสระนั่นเองค่ะ เสียงสระจะมีกี่ชนิด แบ่งเป็นชนิดใดบ้าง ไปเรียนรู้เรื่องนี้พร้อม ๆ กันเลยค่ะ     เสียงสระ เสียงสระเป็นเสียงที่เกิดจากลมภายในปอด เปล่งออกมาโดยใช้การเคลื่อนไหวของลิ้นและริมฝีปาก เสียงที่ได้จะแบ่งออกได้ดังนี้ค่ะ สระเดี่ยว สระเดี่ยวหรือสระแท้ มีทั้งหมด 18 เสียง เสียงสั้นและเสียงยาวจับกันได้ 9

ความรู้เกี่ยวกับ การสื่อสาร มีอะไรบ้างที่เราควรรู้?

ความรู้เกี่ยวกับการสื่อสาร เป็นเรื่องที่สำคัญอย่างมากในปัจจุบัน แม้ว่าเราจะสื่อสารกับผู้คนอยู่แล้วทุกวัน แต่จะทำอย่างไรให้ตนเองสามารถสื่อสารได้อย่างถูกต้อง มีเรื่องไหนที่ควรรู้และควรระวัง บทเรียนภาษาไทยในวันนี้จะพาน้อง ๆ ไปเรียนรู้เรื่องการสื่อสารให้ดียิ่งขึ้นไปอีก ถ้าอยากรู้แล้วว่าจะเป็นอย่างไรก็ไปดูกันเลยค่ะ   การสื่อสาร คืออะไร?   เป็นกระบวนการถ่ายทอดหรือแลกเปลี่ยนความคิด ข้อมูล ข้อเท็จจริง ความรู้ ความรู้สึก จากบุคคลหนึ่งไปยังอีกบุคคลหนึ่ง ให้มีความเข้าใจตรงกัน     การสื่อสารสำคัญอย่างมากตั้งแต่ในชีวิตประจำวันไปจนถึงอุตสาหกรรม การปกครอง การเมืองและเศรษฐกิจ

กลอนบทละคร

กลอนบทละครอ่านอย่างไรให้ถูกต้อง และไพเราะ

บทนำ สวัสดีน้อง ๆ ที่น่ารักทุกคน ยินดีต้อนรับเข้าสู่เนื้อหาการเรียนรู้ภาษาไทยอีกครั้ง สำหรับใครที่กำลังรอคอย  บทเรียนเกี่ยวกับการอ่านบทอาขยานต้องมาทางนี้เลย เพราะว่าเราจะมาเรียนรู้หลักการอ่านอาขยานในประเภทบทละคร ซึ่งแน่นอนว่านอกจากน้อง ๆ จะได้เรียนรู้วิธีการอ่านที่ถูกต้องแล้ว ก็ยังจะได้สนุกไปกับเนื้อเรื่องของบทละครที่เราจะยกมาเป็นตัวอย่างในเนื้อหาวันนี้ด้วย ถ้าหากทุกคนพร้อมแล้วอย่ารอช้า เตรียมตัวไปเข้าสู่บทเรียนกันเลย     บทอาขยาน คืออะไร อาขยาน [อา – ขะ – หยาน] คือ

เรียนรู้ความเหมือนที่แตกต่างของคำพ้อง

  น้อง ๆ หลายคนคงจะเคยเห็นฝาแฝดกันมาบ้างใช่ไหมคะ แล้วรู้หรือเปล่าคะว่าในภาษาไทยเรานั้นก็มีฝาแฝดเหมือนกัน แต่ฝาแฝดนั้นถูกเรียกว่า คำพ้อง นั่นเองค่ะ หลายคำในภาษาไทยมีจุดที่เหมือนกันแต่ก็มีส่วนที่ต่างกันออกไปด้วย เพื่อไม่ให้สับสนว่าคำไหนคือคำไหน อ่านอย่างไร หมายความว่าอะไรกันแน่ วันนี้เราไปเรียนรู้เรื่องคำพ้องพร้อม ๆ กันเลยค่ะ   คำพ้อง   ความหมายของคำพ้อง     ประเภทของคำพ้อง     คำพ้องเสียง

การชักชวน และแนะนำในภาษาอังกฤษ

วิธีการพูดเสนอแนะ ชักชวน และแนะนำในภาษาอังกฤษ

  สวัสดีค่ะนักเรียน ม.1 ที่น่ารักทุกคน วันนี้ครูจะพาไปดูวิธีการพูดให้ข้อเสนอแนะ ชักชวน และแนะนำกันค่ะซึ่งในการเสนอแนะ หรือชักชวนนั้น ผู้พูดจะแสดงความคิดเห็นเสนอแนะ เพื่อให้กระทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งด้วยกัน มีการใช้ภาษาหลายระดับ และใช้รูปประโยคหลายชนิด เช่นเดียวกับการพูดในความหมายต่างๆ ที่ผ่านมาเราจึงต้องใช้รูปประโยคต่างๆ เช่นประโยคบอกเล่า คำสั่ง ชักชวน เพื่อให้ผู้ฟังทำตาม รวมถึงเทคนิคการตอบรับและปฏิเสธ ดังในตัวอย่างรูปแบบประโยคด้านล่างนะคะ   1. ประโยคบอกเล่า (Statement)  

Present Perfect

Present Perfect ในภาษาอังกฤษ

สวัสดีน้องๆ ม.​ 4 ทุกคนนะครับ วันนี้เราจะมาพูดถึงเรื่อง Present Perfect ในภาษาอังกฤษ จะเป็นอย่างไรลองไปดูกันเลยดีกว่าครับ

Nockacademy web logo 3

ทดลองฟรี!

เข้าใจได้ทันที NockAcademy ไลฟ์สดอันดับ 1

Nockacademy web logo 3

ทดลองฟรี!

เข้าใจได้ทันที NockAcademy ไลฟ์สดอันดับ 1