ทริคการสืบค้นข้อมูลทางอินเทอร์เน็ตอย่างง่าย ๆ

Picture of Chisanucha
Chisanucha

สารบัญ

Add LINE friends for one click to find article. Add LINE friends for one click to find article.

ย้อนกลับไปเมื่อหลายสิบปีที่แล้วก่อนที่อินเทอร์เน็ตจะเข้ามามีบทบาทในชีวิตของทุกคนเหมือนอย่างทุกวันนี้ แหล่งการสืบค้นหลัก ๆ จะอยู่ที่ห้องสมุด แต่ในปัจจุบันเราสามารถเข้าถึงข้อมูลต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้นเพียงคลิกปลายนิ้ว ข้อมูลที่ต้องการค้นหาก็มาปรากฏอยู่ตรงหน้าให้เลือกสรรมากมาย แต่เราจะมีวิธีการเลือกสืบค้นข้อมูลกันอย่างไร ถึงจะได้ข้อมูลที่ถูกต้องและครบถ้วนที่สุด บทเรียนในวันนี้ถือเป็นอีกหนึ่งเรื่องสำคัญที่จะช่วยให้การหาข้อมูลสำหรับการเรียนของน้อง ๆ นั้นง่ายขึ้น เราไปเรียนรู้เรื่อง การสืบค้นข้อมูลทางอินเทอร์เน็ต กันเลยค่ะ

 

การสืบค้นข้อมูลทางอินเทอร์เน็ต

 

เป็นการค้นคว้าหาความรู้โดยใช้สารสนเทศในลักษณะต่าง ๆ โดยมีเว็บไซต์ที่เป็นแหล่งเก็บรวบรวมภาพและข้อมูลต่าง ๆ

 

การสืบค้นข้อมูลทางอินเทอร์เน็ต

 

เทคนิคใน การสืบค้นข้อมูลทางอินเทอร์เน็ต

 

ข้อมูลที่อยู่บนอินเทอร์เน็ตนั้นมีมากมาย จนทำให้อาจจะมีปัญหาเพราะไม่รู้ว่าควรเลือกเข้าเว็บไซต์ไหนดีเพื่อให้ได้คำตอบของสิ่งที่เรากำลังค้นหา ดังนั้นเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าวจึงต้องมีจำกัดคำค้นหาให้แคบลง เพื่อให้ตรงประเด็นกับสิ่งที่เรากำลังหาอยู่ โดยมีวิธีการดังนี้

 

สืบค้นแบบไม่ทราบข้อมูล

ให้ใช้บริการของเว็บไซต์ที่มีแหล่งข้อมูลใหญ่ ๆ อย่าง google หรือ yahoo เพื่อเลือกเข้าไปดูข้อมูลของเว็บไซต์อื่น ๆ ที่ขึ้นมา สิ่งสำคัญที่จะทำให้เราได้ข้อมูลตามต้องการคือคีย์เวิร์ดที่เลือกใช้ ถ้าเลือกใช้คีย์เวิร์ดที่กว้างเกินไป ก็จะมีข้อมูลขึ้นมาเยอะและไม่ตรงกับความต้องการของเรา ดังนั้นควรเพิ่มคีย์เวิร์ดเพื่อระบุให้เฉพาะเจาะจงมากขึ้น

ตัวอย่างเช่น ถ้าน้อง ๆ ต้องการจะสืบค้นเกี่ยวกับวรรณคดีเรื่องขุนช้าขุนแผนแล้วน้อง ๆ นำคำว่า ขุนช้างขุนแผนไปไปใส่ในช่องค้นหา ก็จะมีข้อมูลเกี่ยวกับวรรณคดีขึ้นมามากมาย แต่ถ้าน้อง ๆ ระบุไปด้วยว่า “ขุนช้างขุนแผน คุณค่า” น้อง ๆ ก็จะได้ข้อมูลที่เฉพาะเจาะจงมากขึ้นตามที่ต้องการ

 

การสืบค้นข้อมูลทางอินเทอร์เน็ต

 

สืบค้นแบบทราบข้อมูล

 

ในกรณีนี้น้อง ๆ จะต้องรู้อยู่แล้วว่าข้อมูลที่ตัวเองต้องการจะหานั้นอยู่ในเว็บไซต์ไหน เมื่อเข้าไปแล้วพิมพ์ในช่องค้นหา ก็จะเจอกับคำตอบที่ชัดเจนกว่าไปหาในเว็บไซต์ใหญ่ ๆ อย่าง google

ตัวอย่างเช่น น้อง ๆ ต้องการจะหาคำไวพจน์ของคำว่า ม้า ก็เข้าไปในเว็บไซต์ wordyguru ตรงส่วนของคำไวพจน์แล้วพิมพ์คำว่า ม้า ในช่องค้นหา เพียงแค่นั้นน้อง ๆ ก็จะได้คำไวพจน์ทั้งหมดของคำว่าม้าที่ถูกรวบรวมไว้ในเว็บไซต์ นอกจากนี้จะค้นหาคำอื่น ๆ ต่อไปได้อย่างรวดเร็ว ไม่ต้องเสียเวลาไปหาหลายเว็บไซต์อีกด้วย

 

วิธีกรองข้อมูลสืบค้น

1.ใช้ตัวเชื่อมทางตรรกศาสตร์ AND OR NOT

AND เป็นการสั่งให้หาโดยจะต้องมีคำนั้น ๆ มาแสดงด้วย เป็นการจำกัดข้อมูลมากขึ้น ไม่ให้เว็บไซต์ขึ้นมามากเกินไป

OR เป็นการสั่งให้หาโดยจะต้องนำคำใดคำหนึ่งมาแสดง ใช้ในกรณีที่หากคีย์เวิร์ดที่เราใส่ไปในครั้งแรกมีข้อมูลน้อยเกินไป

NOT ใช้ในกรณีที่มีข้อมูลมากเกินไปและเราต้องจำกัดข้อมูลให้แคบลง โดยกำหนดไม่ให้มีคำที่เราเลือกขึ้นมาในผลการค้นหา

2. ใช้เครื่องหมาย + – ()

+ หน้าคีย์เวิร์ดคำที่เราต้องการ

– ใช้นำหน้าคำที่ไม่ต้องการ

() เป็นการช่วยแยกกลุ่มคำ

 

หลักความเชื่อ 10 ประการ (กาลามสูตร)

 

 

หลักกาลามสูตร หมายถึง วิธีปฏิบัติในเรื่องที่ควรสงสัย หรือหลักความเชื่อต่าง ๆ มีด้วยกัน 10 ประการ

1.อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการฟังตามกันมา (มา อนุสฺสเวน)

2.อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการถือสืบๆ กันมา (มา ปรมฺปราย)

3.อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการเล่าลือ (มา อิติกิราย)

4.อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการอ้างตำรา หรือคัมภีร์ (มา ปิฏกสมฺปทาเนน)

5.อย่าปลงใจเชื่อ เพราะตรรกะ (มา ตกฺกเหตุ)

6.อย่าปลงใจเชื่อ เพราะอนุมาน (มา นยเหตุ)

7.อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการคิดตรองตามแนวเหตุผล (มา อาการปริวิตกฺเกน)

8.อย่าปลงใจเชื่อ เพราะเข้าได้กับทฤษฎีที่พินิจไว้แล้ว (มา ทิฏฐินิชฺฌานกฺขนฺติยา)

9.อย่าปลงใจเชื่อ เพราะมองเห็นรูปลักษณะน่าจะเป็นไปได้ (มา ภพฺพรูปตาย)

10.อย่าปลงใจเชื่อ เพราะนับถือว่า ท่านสมณะนี้เป็นครูของเรา (มา สมโณ โน ครูติ)

 

หลักกาลามสูตรนี้เป็นอีกวิธีหนึ่งที่จะช่วยกรองข้อมูล เพราะทุกข้อมูลที่อยู่บนอินเทอร์เน็ตไม่ใช่เรื่องที่ถูกต้องเสมอไป ดังนั้นน้อง ๆ จึงจะต้องเช็คแหล่งข้อมูลเสียก่อนว่าน่าเชื่อถือหรือไม่ ก่อนจะนำข้อมูลออกมาเพื่อใช้อ้างอิงหรือเก็บเป็นความรู้ค่ะ ถือเป็นหลักคำสอนอีกเรื่องหนึ่งที่ช่วยให้เราใช้ชีวิตอย่างมีสติในโลกที่เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทมากขึ้นในชีวิตของทุกคน สุดท้ายนี้น้อง ๆ สามารถเข้าไปดูคลิปการสอนของครูอุ้มกันได้นะคะ ทั้งสนุกและได้ความรู้ น้อง ๆ จะได้เข้าใจถึงวิธีการค้นหาข้อมูลจากเว็บไซต์กันมากขึ้น ไปชมกันเลยค่ะ

 

 

อย่าพลาดการติดตามบทความภาษาไทยจาก nockacademy

NockAcademy คือโรงเรียนออนไลน์สำหรับเด็ก โดยแอปฯ และเว็บไซต์ นักเรียนสามารถเรียนรู้ผ่านคลิปบทเรียนวิชา คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และภาษาไทย
มากไปกว่านั้น เรายังมีคอร์สเรียนออนไลน์ การสอนพิเศษ การติวนอกสถานที่โดยติวเตอร์ที่แน่นไปด้วยความรู้ อีกด้วย

Add LINE friends for one click to find article. Add LINE friends for one click to find article.
ครูผู้สอน NockAcademy

แค่ 10 นาที ก็เข้าใจได้

สามารถดูคลิปบทเรียนวิชา คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และภาษาไทย ที่มีมากกว่า 2,000+ คลิป และยังสามารถทำแบบทดสอบที่มีมากกว่า 4000+ ข้อ

แนะนำ

แชร์

M2 V. to be + ร่วมกับ Who WhatWhere + -Like + infinitive

การใช้ V. to be ร่วมกับ Who/ What/Where และ Like +V. infinitive

สวัสดีค่ะนักเรียนชั้นม.2 ทุกคน วันนี้เราจะไปเรียนรู้เรื่อง การใช้ V. to be + ร่วมกับ Who/ What/Where + -Like + infinitive ซึ่งเป็นโครงสร้างที่สับสนบ่อย แต่ที่จริงแล้วง่ายมากๆ ไปลุยกันเลยจ้า Let’s go ความหมาย    Verb to be

Profile-even if-only if- unless grammartical techniques

Even if, Only If, Unless ใช้ยังไงในภาษาอังกฤษ

  สวัสดีค่ะนักเรียนชั้นม.  6 ทุกคน วันนี้ครูมีเทคนิคการใช้ Even if, Only if, Unless มาฝากกันค่ะ หลายคนที่อาจจะเคยคุ้นหูกันมาบ้างแล้ว แต่อาจะจะลืมไปหรือบางคนอาจจะยังไม่เคยเรียนเลย ไม่เป็นไรค่ะ วันนี้เราจะเริ่มกันใหม่ ไปลุยกันเลย ความหมายโดยรวมของ Even if, Only if, Unless คือ คำสันธานที่ใช้เชื่อมความขัดแย้งของประโยคเงื่อนไข ย้ำนะคะว่า

การชักชวน และแนะนำในภาษาอังกฤษ

วิธีการพูดเสนอแนะ ชักชวน และแนะนำในภาษาอังกฤษ

  สวัสดีค่ะนักเรียน ม.1 ที่น่ารักทุกคน วันนี้ครูจะพาไปดูวิธีการพูดให้ข้อเสนอแนะ ชักชวน และแนะนำกันค่ะซึ่งในการเสนอแนะ หรือชักชวนนั้น ผู้พูดจะแสดงความคิดเห็นเสนอแนะ เพื่อให้กระทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งด้วยกัน มีการใช้ภาษาหลายระดับ และใช้รูปประโยคหลายชนิด เช่นเดียวกับการพูดในความหมายต่างๆ ที่ผ่านมาเราจึงต้องใช้รูปประโยคต่างๆ เช่นประโยคบอกเล่า คำสั่ง ชักชวน เพื่อให้ผู้ฟังทำตาม รวมถึงเทคนิคการตอบรับและปฏิเสธ ดังในตัวอย่างรูปแบบประโยคด้านล่างนะคะ   1. ประโยคบอกเล่า (Statement)  

01NokAcademy_Question Tag Profile

เรื่อง Tag Question (1)

สวัสดีค่ะนักเรียนชั้นม.4 ที่น่ารักทุกคนวันนี้เราจะไปเรียนรู้ในหัวข้อ “เรื่อง Tag Question “ พร้อมแล้วก็ไปลุยกันเลยจร้า รู้จักกับ Question Tag (Tag Question หรือ Tail Question)   Question Tag ในบางครั้งเรียกว่า Tag Question หรือ Tail Question ก็ได้จร้า 

ป.6 Possessive pronoun โดยใช้ Whose_ Which ร่วมด้วย

การใช้ Possessive pronoun โดยใช้ Whose/ Which ร่วมด้วย

สวัสดีค่ะนักเรียนชั้นป.6 ที่น่ารักทุกคนค่ะ วันนี้เราจะไปเรียนรู้เรื่อง การใช้ Possessive pronoun โดยใช้ Whose/ Which ร่วมด้วย Let’s go! ไปลุยกันเลยจ้า   Possessive pronoun คืออะไร     What’s mine is yours, my dear.

การอ่านจับใจความ

การอ่านจับใจความ เทคนิคที่จะช่วยให้เข้าใจเนื้อหามากขึ้น

ปัญหาที่มักจะเกิดขึ้นได้บ่อยเวลาที่เราอ่านหนังสือเรียนจบแต่เมื่อถึงเวลาไปสอนกลับจำเนื้อหาที่อ่านมาไม่ได้เลย เพราะแท้จริงการอ่านเฉย ๆ ไม่ได้ช่วยให้เราจำเนื้อหาได้ แต่สิ่งที่จะช่วยให้เราได้เข้าใจแก่นของเรื่องที่อ่านจริง ๆ ก็คือการจับใจความสำคัญของเรื่องให้ได้นั่นเองค่ะ บทเรียนในวันนี้จะพาน้องไปเรียนรู้เกี่ยวกับเรื่อง การอ่านจับใจความ เพื่อช่วยให้สามารถจับประเด็นของเนื้อหาได้ โดยที่ไม่ต้องท่องจำให้เสียเวลาเลยค่ะ จะเป็นอย่างไรบ้างนั้น ไปดูพร้อมกันเลยค่ะ   การอ่านจับใจความ   เป็นการอ่านเพื่อจับใจความหรือข้อคิด ความคิดสำคัญหลักของข้อความ หรือเรื่องที่อ่าน เป็นข้อความที่คลุมข้อความอื่น ๆ ในย่อหน้าหนึ่ง ๆ ไว้ทั้งหมด  

โลโก้ NockAcademy

ทดลองฟรี!

เข้าใจได้ทันที NockAcademy ไลฟ์สดอันดับ 1 

โลโก้ NockAcademy

ทดลองฟรี!

เข้าใจได้ทันที NockAcademy ไลฟ์สดอันดับ 1