ไตรภูมิพระร่วง เรียนรู้วรรณคดีเก่าแก่จากสมัยสุโขทัย

สารบัญ

Add LINE friends for one click to find article. Add LINE friends for one click to find article.

ไตรภูมิพระร่วง เป็นวรรณคดีเก่าแก่ที่แต่งขึ้นตั้งแต่สมัยสุโขทัย น้อง ๆ สงสัยไหมคะว่าทำไมวรรณคดีที่เก่าแก่ขนาดนี้ถึงยังมีให้เห็น ให้เราได้เรียนกันมาจนถึงปัจจุบัน บทเรียนในวันนี้จะพาน้อง ๆ ทุกคนไปไขข้องใจทั้งประวัติความเป็นมา ลักษณะคำประพันธ์ รวมไปถึงเรื่องย่อในตอน มนุสสภูมิ กันด้วย ถ้าพร้อมแล้วเราไปเรียนรู้เรื่องนี้พร้อมกันเลยค่ะ

 

ความเป็นมาของเรื่อง

 

ไตรภูมิพระร่วง เดิมเรียกว่า เตภูมิกถา หรือ ไตรภูมิกถา แต่สมเด็จพระยาดำรงราชานุภาพ ทรงเปลี่ยนชื่อให้เพื่อเป็นเกียรติแก่พญาลิไท กษัตริย์ในราชวงศ์พระร่วงผู้พระราชนิพนธ์เรื่องนี้เมื่อปี พ.ศ. 1888 มีจุดมุ่งหมายเพื่อเทศนาโปรดพระมารดาและเพื่อสั่งสอนประชาชน ต้นฉบับสูญหายไประยะหนึ่ง ต่อมาได้พบไตรภูมิพระร่วงเป็นหนังสือ 10 ผูกซึ่งคัดลอกไว้โดย พระมหาช่วย วัดปากน้ำ (วัดกลาง จังหวัดสมุทรปราการ) เมื่อสมัยพระเจ้ากรุงธนบุรี เดือน 4 ปีจอ จุลศักราช 1140 (พ.ศ. 2321) และได้มีการตีพิมพ์ขึ้นมาเป็นครั้งแรกงานพระเมรุศพ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าประสานศรีใส และพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าประไพศรีสอาด

 

ไตรภูมิพระร่วง

 

ลักษณะคำประพันธ์

 

ลักษณะการแต่งเป็นร้อยแก้ว แบบพรรณนาโวหาร บรรยายโวหาร และเทศนาโวหาร

 

ความหมายของไตรภูมิพระร่วง

 

ไตรภูมิ หมายถึง แดนที่กำเนิดของสัตว์ 3 จำพวกหรือชั้นที่เป็นอยู่ของสัตว์ 3 จำพวก คือ กามภูมิ รูปภูมิ อรูปภูมิ

 

ไตรภูมิพระร่วง

 

กามภูมิ (หรือกามโลก) แบ่งเป็น 11 ส่วนย่อยได้แก่

ทุคติภูมิ

  1. นรกภูมิ
  2. เปรตภูมิ
  3. อสูรกายภูมิ
  4. เดรัจฉานภูมิ

สุคติภูมิ

  1. มนุสสภูมิ
  2. จาตุมหาราชิกา
  3. ดาวดึงส์
  4. ยามา
  5. ดุสิต
  6. นิมมานรดี
  7. ปรนิมมิตวสวัตดี

รูปภูมิ แบ่งเป็น 16 ชั้น เป็นที่สถิตของพระพรหม (ตามคติของพราหมณ์)

  1. พรหมปกติ 11
  2. พรหมชั้นสูง 5 (ปัญจสุทธาส)

พระพรหมที่จะสถิตอยู่จะต้องบำเพ็ญฌาน แบ่งออกเป็น ปฐมฌานภูมิ 3 ทุติยฌานภูมิ 3 ตติยฌานภูมิ 3 และจตุตฌานภูมิ 7

 

อรูปภูมิ (หรืออรูปโลก) แบ่งเป็น 4 ชั้น เป็นที่สถิตของพระพรหมระดับสูงซึ่งไม่มีรูปกาย

  • ชั้นที่ 1 อากาสานัญจายตนภูมิ
  • ชั้นที่ 2 วิญญาณัญจายตนภูมิ
  • ชั้นที่ 3 อากิญจัญญายตนภูมิ
  • ชั้นที่ 4 เป็นภูมิชั้นสูงสุดในไตรภูมิ คือ เนวสัญญานาสัญญายตนภูมิ

เนื้อหาของไตรภูมิพระร่วง ตอน มนุสสภูมิ

 

มนุสสภูมิเป็นภูมิหนึ่งในกามภูมิ กล่าวถึงการกำเนิดมนุษย์ โดยอธิบายว่าเมื่อแรกปฏิสนธินั้นมนุษย์ที่อยู่ในครรภ์มารดาจะมีขนาดเท่ากลละ หรือเซลล์ที่มีขนาดเล็กที่สุด พอครบ 7 วันจะมีลักษณะเหมือนน้ำล้างเนื้อ เรียกว่า “อัมพุทะ” อีก 7 วันถัดมาจะเป็นชิ้นเนื้อในครรภ์มารดา หรือเรียกว่า “เปสิ” ซึ่งมีลักษณะข้นเหมือนตะกั่วเชื่อมในหม้อหลังจากนั้นในอีก 7 วัน ทารกจะมีขนาดใหญ่ขึ้นเป็นก้อนดังไข่ไก่เรียกว่า “ฆนะ” จากนั้นจะเกิด “เบญจสาขาหูด” คือ มีมือ 2 อัน เท้า 2 อัน และหัวอีก 1 หัว พัฒนาต่อเรื่อย ๆ จนครบจำนวนครบ 32 ทารกจะนั่งยอง ๆ กำมือทั้งสอง คู้ตัวหัวเข่าอยู่ในครรภ์มารดา ประมาณ 7-11 เดือน จึงจะคลอดออกมา

 

ไตรภูมิพระร่วง

 

สภาพตอนอยู่ในครรภ์มารดา

เด็กที่อยู่ในท้องนั้นต้องได้รับความลำบากอย่างมาก ต้องทนอยู่ในที่ที่ทั้งชื้นและเหม็นพยาธิซึ่งอาศัยปนอยู่ในครรภ์คอยชอนไช

 

 

การคลอด

กุมารที่มีอายุ 6 เดือน อาจไม่รอด หากอายุครรภ์ 7 เดือน กุมารมักจะมีสุขภาพอ่อนแอ เด็กมาจากนรกเมื่อคลอดออกมาจะส่งเสียงร้องไห้ ส่วนเด็กที่มาจากสวรรค์ เมื่อคลอดออกมาจะหัวเราะ เด็กที่เพิ่งคลอดจะไม่สามารถจำสิ่งจดจำสิ่งต่าง ๆ ที่ผ่านมาได้ ยกเว้นผู้ที่เป็นปัจเจกพุทธเจ้าและผู้ที่เป็นอรหันตาขีณาสพ

 

ไตรภูมิพระร่วงเป็นวรรณคดีพุทธศาสนาที่แต่งในสมัยสุโขทัย แต่เนื้อหาถือว่าก้าวล้ำเกินวิทยาการในยุคนั้นไปมาก อย่างเช่นการอธิบายถึงการเกิดมนุษย์ในตอนที่ถูกยกมาเป็นแบบเรียนภาษาไทย ทำให้เห็นความเชื่อมโยงระหว่างความเชื่อของศาสนากับวิทยาศาสตร์ ถือเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวที่น่าสนใจและน่าศึกษามาก ๆ เลยค่ะ สำหรับบทเรียนเรื่องไตรภูมิพระร่วงนี้ยังไม่จบนะคะ เพราะเราจะต้องไปศึกษาตัวบทเด่นเพื่อถอดความและคุณค่าที่อยู่ในเรื่องกันต่ออีก แต่ก่อนจะไปศึกษาบทเรียนถัดไป น้อง ๆ อย่าลืมทำแบบฝึกหัดทบทวนและชมคลิปการสอนของครูอุ้มย้อนหลังกันด้วยนะคะ

 

 

 

อย่าพลาดการติดตามบทความภาษาไทยจาก nockacademy

NockAcademy คือโรงเรียนออนไลน์สำหรับเด็ก โดยแอปฯ และเว็บไซต์ นักเรียนสามารถเรียนรู้ผ่านคลิปบทเรียนวิชา คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และภาษาไทย
มากไปกว่านั้น เรายังมีคอร์สเรียนออนไลน์ การสอนพิเศษ การติวนอกสถานที่โดยติวเตอร์ที่แน่นไปด้วยความรู้ อีกด้วย

Add LINE friends for one click to find article. Add LINE friends for one click to find article.
ครูผู้สอน NockAcademy

แค่ 10 นาที ก็เข้าใจได้

สามารถดูคลิปบทเรียนวิชา คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และภาษาไทย ที่มีมากกว่า 2,000+ คลิป และยังสามารถทำแบบทดสอบที่มีมากกว่า 4000+ ข้อ

แนะนำ

แชร์

โจทย์ปัญหาสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว

โจทย์ปัญหาสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว

ขั้นตอนของการแก้โจทย์ปัญหา บทความนี้จะทำให้น้องๆ มีความรู้ความเข้าใจในเรื่อง โจทย์ปัญหาสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว ซึ่งได้รวบรวมตัวอย่างไว้อย่างหลากหลาย แต่ก่อนที่น้องๆจะเรียนเรื่องนี้อย่าลืมทบทวน การแก้สมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว กันก่อนนะคะ ถ้าน้องๆพร้อมแล้วเรามาศึกษาขั้นตอนของการแก้โจทย์ปัญหาเกี่ยวกับสมการ ดังนี้               ขั้นที่ 1 วิเคราะห์โจทย์ว่ากำหนดอะไรให้บ้าง และให้หาอะไร               ขั้นที่ 2 กำหนดตัวแปรแทนสิ่งที่โจทย์ให้หาหรือแทนสิ่งที่เกี่ยวข้องกับสิ่งที่โจทย์ให้หา               ขั้นที่ 3 เขียนสมการตามเงื่อนไขของโจทย์               ขั้นที่

Profile Linking Verbs

มาทำความรู้จักกับ Linking Verbs ให้มากขึ้น

สวัสดีค่ะนักเรียนม.1 ที่น่ารักทุกคน วันนี้เราจะไปรู้จักกับ Linking Verbs ให้มากขึ้น แต่ก่อนอื่นไปดูความหมายของ Linking Verbs กันก่อนนะคะ ไปลุยกันเลย มาทำความรู้จักกับ Linking Verbs     Linking verbs คืออะไรกันนะ Linking แปลว่า การเชื่อม มาจากรากศัพท์ link ที่เป็นกริยาเติมด้วย

ความยาวรอบรูปเเละพื้นที่ของวงกลม

ความยาวรอบรูปเเละพื้นที่ของวงกลม ความยาวรอบรูปของวงกลม หรือเรียกว่า ความยาวเส้นรอบวงของวงกลม คือ ความยาวของเส้นรอบวงกลมสามารถคำนวณได้ ดังนี้ โดย:  C        คือ ความยาวของเส้นรอบวง (หน่วยเป็น เมตร, เซนติเมตร, มิลิเมตร เป็นต้น) π         คือ อัตราส่วนระหว่างเส้นรอบวงกับรัศมี มีค่าประมาณ 22/7 หรือ

การหมุน

การแปลงทางเรขาคณิตโดยการหมุน ( Rotation ) เป็นการแปลงที่จุดทุกจุดของรูปต้นแบบเคลื่อนที่ไปเป็นมุมเดียวกันรอบจุดตรึงอยู่กับที่ ที่กำหนดหรือจุดหมุน การหมุนจะหมุนทวนเข็มนาฬิกาหรือตามเข็มนาฬิกา

สำนวนนี้มีที่มา เรียนรู้ความหมายและที่มาของ สำนวนไทย

สำนวนไทย เป็นสิ่งที่คนรุ่นก่อนใช้ความคิดและประสบการณ์สั่งสอนลูกหลาน เกิดเป็นมรดกทางวัฒนธรรมด้านคติธรรมที่แสดงถึงความรุ่งเรืองทางภาษาของประเทศไทย บทเรียนในวันนี้จะพาน้อง ๆ ไปเรียนรู้สำนวนไทยที่เห็นกันบ่อย ๆ แต่หลายคนอาจจะใช้ไม่ถูกต้อง ไม่รู้ความหมายที่ถูกต้อง พร้อมทั้งเรียนรู้ที่มาของสำนวนด้วย ถ้าพร้อมแล้วเราไปเรียนรู้กันเลยค่ะ   สำนวนไทย   สำนวนไทย หมายถึง ถ้อยคำที่คมคายซึ่งเป็นถ้อยคำที่ใช้พูดสื่อสารกันโดยมีความหมายที่กว้างและลึกซึ้ง เป็นความหมายโดยนัย ไม่ได้แปลตรงตัวเพื่อใช้เป็นคำพูดในเชิงสั่งสอน เตือนสติ มุ่งสอนใจหรือชี้แนะให้ประพฤติปฏิบัติตาม   ที่มาของสำนวนไทย   สำนวนไทยมีมูลเหตุและที่มาของการเกิดหลายประการ

การถามทางในภาษาอังกฤษ Asking for Direction in English

สวัสดีค่ะนักเรียนป.6 ที่น่ารักทุกคน เคยมั้ยที่เราเจอฝรั่งถามทางแล้วตอบไม่ได้ ทำได้แค่ชี้ๆ แล้วก็บ๊ายบาย หากทุกคนเคยเจอปัญหานี้ ต้องท่องศัพท์และรู้โครงสร้างประโยคที่สำคัญในการถามทางแล้วล่ะ ไปลุยกันเลย   การถามทางในภาษาอังกฤษ Asking for Direction in English   การถามทิศทางจะต้องมีประโยคเกริ่นก่อนเพื่อให้คนที่เราถาม ตั้งตัวได้ว่า กำลังจะโดนถามอะไร ยังไง ซึ่งเราสามารถถามได้ทั้ง คำถามแบบสุภาพเมื่อพูดกับคนที่เราไม่คุ้นเคย หรือ คำถามทั่วไปเมื่อพูดกับคนใกล้ตัว  

โลโก้ NockAcademy

ทดลองฟรี!

เข้าใจได้ทันที NockAcademy ไลฟ์สดอันดับ 1 

โลโก้ NockAcademy

ทดลองฟรี!

เข้าใจได้ทันที NockAcademy ไลฟ์สดอันดับ 1