พันธกิจของภาษา ความสำคัญและอิทธิพลของภาษาที่มีต่อมนุษย์

พันธกิจของภาษา

สารบัญ

Add LINE friends for one click to find article. Add LINE friends for one click to find article.

ภาษาที่มนุษย์ใช้กันอยู่ทุกวันนี้ไม่เพียงแต่เป็นเครื่องมือสื่อสาร แต่ยังเป็นเครื่องมือสื่อความหมาย ความต้องการ และความคิดของคน บทเรียนภาษาไทยในวันนี้จะพาน้อง ๆ ไปเรียนรู้เรื่อง พันธกิจของภาษา พร้อมความสำคัญและอิทธิพลของภาษาที่มีต่อมนุษย์ จะเป็นอย่างไรบ้างนั้นเราไปดูพร้อม ๆ กันเลยค่ะ

 

พันธกิจของภาษา

 

พันธกิจของภาษาคืออะไร?

 

พันธกิจของภาษา หมายถึง ประโยชน์หรือความสำคัญของภาษา ซึ่งประกอบไปด้วยความสำคัญหลัก ๆ ดังนี้

พันธกิจของภาษา

1. ภาษาช่วยธำรงสังคม

ธำรง หมายถึง การดำรงอยู่ เป็นพันธกิจที่สำคัญ เนื่องจากมนุษย์ใช้ภาษาในทักทายกัน ส่งต่อความเข้าใจรวมถึงทัศนคติต่าง ๆ จนก่อให้เกิดความสัมพันธ์และอยู่ร่วมกันในสังคมได้อย่างปกติสุข นอกจากนี้มนุษย์ยังใช้ภาษาในการแสดงกฎเกณฑ์ของสังคม เพื่อให้คนที่อยู่ในสังคมนั้นปฏิบัติตาม ทำให้รู้สิทธิพื้นฐาน และหน้าที่ที่ควรปฏิบัติ ไม่ละเมิดสิทธิของผู้อื่น

2. ภาษาแสดงความเป็นปัจเจกบุคคล

ปัจเจกบุคคล คือ บุคคลแต่ละคนซึ่งมีลักษณะเฉพาะต่าง ๆ อย่างเช่น สติปัญญาความคิดความอ่าน อุปนิสัย รสนิยม อารมณ์ที่แตกต่างกัน ภาษาที่ใช้ก็จะแตกต่างกันไปด้วย

3. ภาษาช่วยกำหนดอนาคต

มนุษย์สามารถกำหนดอนาคตได้ด้วยการใช้ภาษา เช่น การวางแผนงาน การร่างโครงการ การทำสัญญา การพิพากษา การทำนาย การพยากรณ์ หรือแม้แต่การใช้คำสั่ง การอ้อนวอน หรือขอร้อง

4. ภาษาช่วยจรรโลงใจ

คำในภาษาไทยมีมากมาย เมื่อมนุษย์นำมาใช้โดยการประกอบเป็นคำพูด จนก่อให้เกิดเป็นประโยคที่มีความหมายดี ลึกซึ้ง ชวนคิด หรือไพเราะ ส่งผลกับจิตของผู้ฟัง เช่น บทเห่กล่อม บทกวี บทเพลง สุนทรพจน์ คำขวัญ สุภาษิต การเล่นคำผวนเพื่อความสนุกสนาน การเล่นเกมทางภาษา โดยใช้ภาษาในลักษณะนี้ต้องเป็นไปในทางบวก หรือตรงกับรสนิยมของผู้ฟังด้วยจึงจะช่วยจรรโลงใจ

 

พันธกิจของภาษา

 

บทกวีตอนหนึ่งจาก คือแรงใจและไฟฝัน หนังสือรวมบทกวีของไพวรินทร์ ขาวงาม ที่ได้รางวัลกวีนิพนธ์ดีเด่นจากคณะกรรมการพัฒนาหนังสือแห่งชาติในงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ ปี 2535 เป็นบทกวีที่ถูกร้อยเรียงด้วยคำที่สวยงาม เรียบง่าย และทรงพลัง ช่วยจรรโลงใจผู้อ่าน

 

อิทธิพลของภาษาที่มีต่อมนุษย์

 

 

1. ภาษาและความเชื่อในชื่อมงคล

ความเชื่อในการตั้งชื่อสะท้อนค่านิยมและวิถีชีวิตของคนไทยตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน การตั้งชื่อที่มีความหมายดีเป็นสิริมงคลจะทำให้สิ่งนั้นกลายเป็นสิ่งดีตามความรู้สึกของคนเรียก ส่วนความหมายที่ไม่ดีจะทำให้รู้สึกเดือดร้อน และโชคร้าย ตัวอย่างเช่น ในการตั้งชื่อคน ก็จะเลือกชื่อที่ไม่เป็นกาลกิณี ความหมายดี เพื่อให้ชีวิตของเจ้าของชื่อเป็นไปตามชื่อนั้น หรือ การตั้งชื่อต้นไม้ให้เป็นมงคล เพื่อที่เมื่อนำมาปลูกในบริเวณบ้าน จะทำให้ผู้อยู่อาศัยเจริญรุ่งเรืองไปด้วย

 

 

2. ระดับของถ้อยคำ

ในคำบางคำ แม้จะไม่ได้มีความหมายที่ไม่ดี แต่เมื่อคนไทยนำความคิดของตัวเองไปผูกติดกับภาษา และจัดกลุ่มให้ไปอยู่รวมกับคำหยาบ คำไม่ดี ทำให้คำนั้น ๆ กลายเป็นคำที่มีหลายระดับ

 

3. การตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของภาษา

เมื่อปล่อยให้ภาษาเข้ามามีอิทธิพลมากไป คำบางคำกลายเป็นคำต้องห้าม หรือสิ่งที่ไม่ดี โดยไม่สนใจเจตนาของคำนั้น เช่น ผลไม้ที่ชื่อว่า แห้ว ถูกมองว่าไม่เป็นมงคล คนไม่นิยมกินจนต้องเปลี่ยนชื่อเรียกให้ดูดีว่า สมหวัง หรือต้นไม้ชื่อลั่นทม ไปคล้ายกับคำว่า ระทม ทำให้ไม่นิยมปลูกเพราะมีความเชื่อว่าเป็นต้นไม้อัปมงคล แต่ต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเป็น ลีลาวดีแล้ว ความเชื่อและตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของภาษาเช่นนี้ทำให้คนเราลืมนึกถึงความเป็นจริงว่าภาษาเป็นเพียงระบบสัญลักษณ์ที่เราใช้เพื่อสื่อสารกันเท่านั้น

 

จากบทเรียนในวันนี้จะทำให้เห็นได้ว่าภาษามีความสำคัญเป็นอย่างมากกับวิถีชีวิต สามารถส่งผลได้ทั้งด้านบวกและด้านลบ แต่ไม่ว่าจะมีอิทธิพลในด้านใด เราก็ไม่ควรปล่อยให้ภาษาเข้ามามีอิทธิพลมากไปแต่ต้องใช้เหตุผลควบคู่กันไปด้วย สุดท้ายนี้น้อง ๆ สามารถตามไปฟังคลิปการสอนของครูอุ้มเรื่องความสำคัญและอิทธิพลของภาษาเพื่อให้มีความรู้ความเข้าใจมากขึ้น แถมยังได้เห็นตัวอย่างที่ครูอุ้มได้ยกขึ้นมาอธิบาย รับรองว่าจะต้องเข้าใจมากกว่าเดิมแน่นอน ถ้าพร้อมแล้วเราไปทบทวนบทเรียนกันเลยค่ะ

 

 

อย่าพลาดการติดตามบทความภาษาไทยจาก nockacademy

NockAcademy คือโรงเรียนออนไลน์สำหรับเด็ก โดยแอปฯ และเว็บไซต์ นักเรียนสามารถเรียนรู้ผ่านคลิปบทเรียนวิชา คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และภาษาไทย
มากไปกว่านั้น เรายังมีคอร์สเรียนออนไลน์ การสอนพิเศษ การติวนอกสถานที่โดยติวเตอร์ที่แน่นไปด้วยความรู้ อีกด้วย

Add LINE friends for one click to find article. Add LINE friends for one click to find article.
ครูผู้สอน NockAcademy

แค่ 10 นาที ก็เข้าใจได้

สามารถดูคลิปบทเรียนวิชา คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และภาษาไทย ที่มีมากกว่า 2,000+ คลิป และยังสามารถทำแบบทดสอบที่มีมากกว่า 4000+ ข้อ

แนะนำ

แชร์

การพูดอภิปราย

การพูดอภิปรายอย่างง่าย ทำได้ไม่ยาก

การพูดอภิปราย เป็นแบบการพูดซึ่งมีลักษณะคล้ายการสนทนาทั่วไป แต่ก็มีจุดที่แตกต่างกันอยู่ น้อง ๆ ทราบไหมคะว่าคืออะไร แล้วสรุปว่าการพูดอภิปรายคืออะไร มีหลักในการพูดอย่างไรได้บ้าง บทเรียนภาษาไทยในวันนี้จะพาน้อง ๆ ไปทำความรู้จักและฝึกพูดให้คล่อง เพื่อที่เมื่อถึงเวลาอภิปราย จะได้ผ่านกันแบบฉลุยไร้กังวล ถ้าอยากเรียนรู้แล้วล่ะก็ ไปดูพร้อม ๆ กันเลยค่ะ   ความหมายของการพูดอภิปราย   การพูดอภิปราย หมายถึง การพูดเพื่อแสดงความคิดเห็น แลกเปลี่ยนความรู้เกี่ยวกับเรื่องใดเรื่องหนึ่ง เพื่อใช้ในการแก้ปัญหา

ฟังก์ชันและกราฟของฟังก์ชัน

ฟังก์ชันและกราฟของฟังก์ชัน ฟังก์ชันและกราฟของฟังก์ชัน มีความเกี่ยวข้องกันเนื่องจากฟังก์ชันที่เราเขียนในรูป y = f(x) สามารถนำไปเขียนกราฟในระบบพิกัดฉากได้ ซึ่งกราฟในระบบพิกัดฉากก็คือ กราฟที่ประกอบไปด้วยแกน x และ แกน y   ก่อนที่เราจะเริ่มบทเรียนของฟังก์ชัน อยากให้น้องๆได้ศึกษารูปต่อไปนี้ก่อนนะคะ จากรูป คือการส่งสมาชิกในเซต A ไปยังสมาชิกในเซต B เซต A จะถูกเรียกว่า โดเมน

มารู้จักกับการถามทางในภาษาอังกฤษ Asking for Direction in English

สวัสดีค่ะนักเรียนป.5 ที่น่ารักทุกคน เคยมั้ยที่เราเจอฝรั่งถามทางแล้วตอบไม่ได้ ทำได้แค่ชี้ๆ แล้วก็บ๊ายบาย หากทุกคนเคยเจอปัญหานี้ ต้องท่องศัพท์และรู้โครงสร้างประโยคที่สำคัญในการถามทางแล้วล่ะ  หากพร้อมแล้วก็ไปลุยกันเลย   มารู้จักกับการถามทางในภาษาอังกฤษ Asking for Direction in English   การถามทิศทางจะต้องมีประโยคเกริ่นก่อนเพื่อให้คนที่เราถาม ตั้งตัวได้ว่า กำลังจะโดนถามอะไร ยังไง ซึ่งเราสามารถถามได้ทั้ง คำถามแบบสุภาพเมื่อพูดกับคนที่เราไม่คุ้นเคย หรือ คำถามทั่วไปเมื่อพูดกับคนใกล้ตัว  

การใช้ going to / will ในการสร้างประโยค

การใช้ going to / will ในการสร้างประโยค เกริ่นนำเกริ่นใจ   ภาพใหญ่ของ Will และ Be going to การจะเข้าใจอะไรได้อย่างมั่นใจและคล่องตามากขึ้น เราในฐานะผู้เรียนรู้ควรที่จะต้องเห็นภาพรวมทั้งหมดก่อน โดย Will เนี่ย อยู่ในตระกูล Auxiliary verb หรือ Helping verb

เสภาขุนช้างขุนแผน

เสภาขุนช้างขุนแผน จากนิทานชาวบ้านสู่วรรณคดีราชสำนัก

เสภาเรื่องขุนช้างขุนแผน ได้รับการยกย่องจากวรรณคดีสโมสรว่าเป็นยอดของกลอนเสภาและเป็นที่ยอมรับกันในหมู่นักวรรณคดีว่าเป็นเลิศทั้งในด้านเนื้อเรื่องและการประพันธ์ มีมากมายหลายตอน หลายสำนวนและหลายผู้แต่ง แต่บทเรียนที่น้อง ๆ จะได้ศึกษากันในวันนี้เป็น เสภาขุนช้างขุนแผน ตอน ขุนช้างถวายฎีกา จะมีเนื้อหาและความเป็นมาอย่างไรเราไปศึกษาเรื่องนี้พร้อมกันเลยค่ะ   ความเป็นมาของ เสภาขุนช้างขุนแผน   ขุนช้างขุนแผนสันนิษฐานว่าเป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นในสมัยอยุธยา จากพงศาวดารทำให้ทราบว่าขุนแผนรับราชการอยู่ในสมัยสมเด็จพระพันวษา หรือ สมเด็จพระรามาธิบดีที่ 2 ซึ่งครองราชย์ระหว่าง พ.ศ. 2034-พ.ศ 2072 ต่อมามีการนำเรื่องขุนช้างขุนแผนมาแต่งเป็นกลอนสุภาพและบทเสภาโดยใช้กรับเป็นเครื่องประกอบจังหวะ

สมมูลและนิเสธ

สมมูลและนิเสธของประโยคที่มีตัวบ่งปริมาณ

“สมมูลและนิเสธ” ของประโยคที่มีตัวบ่งปริมาณ สมมูลและนิเสธ เราเคยเรียนกันไปแล้วก่อนหน้านี้ แต่เป็นของประพจน์ p, q, r แต่ในบทความนี้จะเป็นสมมูลและนิเสธของประโยคที่มีตัวบ่งปริมาณ ซึ่งก็จะเอาเนื้อหาก่อนหน้ามาปรับใช้กับประโยคที่มีตัวบ่งปริมาณ สิ่งที่เราจะต้องรู้และจำให้ได้ก็คือ การสมมูลกันของประพจน์ เพราะจะได้ใช้ในบทนี้แน่นอนน ใครที่ยังไม่แม่นสามารถไปอ่านได้ที่ บทความรูปแบบของประพจน์ที่สมมูลกัน  นิเสธของตัวบ่งปริมาณ เมื่อเราเติมนิเสธลงไปในประโยคที่มีตัวบ่งปริมาณ ข้อความต่อไปนี้จะสมมูลกัน กรณี 1 ตัวแปร ∼∀x[P(x)] ≡ ∃x[∼P(x)] ∼∃x[P(x)]

โลโก้ NockAcademy

ทดลองฟรี!

เข้าใจได้ทันที NockAcademy ไลฟ์สดอันดับ 1 

โลโก้ NockAcademy

ทดลองฟรี!

เข้าใจได้ทันที NockAcademy ไลฟ์สดอันดับ 1