ประวัติความเป็นมาของวรรณคดีคำสอน เรื่องสุภาษิตพระร่วง

สารบัญ

Add LINE friends for one click to find article. Add LINE friends for one click to find article.

สุภาษิตพระร่วง

 

คนไทยนิยมใช้สุภาษิตสั่งสอนลูกหลานกันมาตั้งแต่สมัยก่อนจนถึงปัจจุบัน เชื่อว่าน้อง ๆ หลายคนก็คงจะเคยได้ยินสุภาษิตกันมาไม่มากก็น้อย ดังนั้นบทเรียนในวันนี้จะพาน้อง ๆ ไปเรียนรู้ประวัติความเป็นมาของสุภาษิตพระร่วง วรรณคดีอันทรงคุณค่าและเป็นวรรณคดีเล่มแรกที่แต่งคำประพันธ์เป็นร่ายโบราณแบบร่ายสุภาพ ไปศึกษาเรื่องนี้พร้อม ๆ กันเลยค่ะ

 

ความเป็นมาของสุภาษิตพระร่วง

 

 

สุภาษิตพระร่วง เป็นวรรณคดีคำสอนที่ทรงคุณค่าที่มีมาอย่างยาวนาน มีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า สุภาษิตบัณฑิตพระร่วง คำว่า พระร่วง ทำให้คนเข้าใจว่าอาจจะเป็นคำสอนของกษัตริย์สักคนที่มีนามว่า พระร่วง แต่ไม่มีหลักฐานแน่ชัดที่เป็นตัวบ่งบอกว่าพระร่วงที่กล่าวถึงในสุภาษิตนั้นคือกษัตริย์องค์ใด นอกจากนี้ยุคสมัยที่แต่งสุภาษิตพระร่วงขึ้นก็ยังไม่แน่ชัดอีกด้วย เพราะถึงแม้จะมีนักวิชาการบอกว่าสุภาษิตพระร่วงคล้ายคลึงกับคำสอนของพ่อขุนรามคำแหง กษัตริย์ในสมัยสุโขทัย แต่บางคนก็มองว่าอาจจะไม่ได้เก่าขนาดนั้น เพราะคำประพันธ์นั้นคล้ายกับแต่งใหม่ในสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น อย่างไรก็ตาม ในสมัยรัชกาลที่ 3 พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จารึกเรื่องสุภาษิตพระร่วงลงบนแผ่นศิลาประดับไว้บนฝาผนังภายในวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม

 

ลักษณะคำประพันธ์

 

 

ร่ายสุภาพ

 

ลักษณะบังคับของร่ายสุภาพ

  1. คณะ ร่ายสุภาพ 1 บท มีตั้งแต่ 5 วรรคขึ้นไป วรรค 1 มี 5 คำ บทหนึ่งจะมีกี่วรรคก็ได้แต่ต้องจบด้วยโคลงสองสุภาพ
  2. สัมผัส สัมผัสจากวรรคหน้าไปคำที่ 1 2 หรือ 3 ของวรรคถัดไปและวรรคที่อยู่หน้า 3 วรรคสุดท้ายจะสัมผัสกับคำที่ 1 2 หรือ 3 ของบาทต้นในโคลงสองสุภาพ
  3. คำสร้อย เติมได้ 2 คำท้ายบท

 

โคลงสี่สุภาพ

 

ลักษณะบังคับของโคลงสี่สุภาพ

  1. คณะ 1 บทมี 4 บาท แต่ละบาทมี 2 วรรค วรรคหน้า 2 คำ วรรคหลัง 4 คำ ยกเว้นวรรคหลังของบาทที่ 4 ที่จะมี 4 คำ
  2. คำสร้อย ในบาทที่ 1 และบาทที่ 3 อาจมีคำสร้อยหรือไม่มีก็ได้
  3. คำเอก คำโท คำเอก 7 แห่งและโท 4 แห่ง กรณีที่หาคำเอกไม่ได้ให้ใช้คำตายแทน
  4. คำเอกโทษและคำโทโทษ หมายถึง คำที่เคยใช้วรรณยุกต์เอกหรือโท แต่เปลี่ยนไปใช้วรรณยุกต์ให้เป็นเสียงเดียวกันกับข้อบังคับ ในกรณีที่ไม่สามารถหาคำมาแต่งได้
  5. สัมผัส คำสุดท้ายของบาทที่ 1 สัมผัสกับคำที่ 5 ของวรรคที่ 2 หรือบาทที่ 3, คำสุดท้ายของบาทที่ 2 สัมผัสกับคำที่ 5 ของบาทที่ 4 ส่วนสัมผัสระหว่างบทนั้น คำสุดท้ายของบทต้องสัมผัสกับคำที่ 1 2 หรือ 3 ของบทต่อไป

 

โคลงสี่สุภาพในลักษณะโคลงกระทู้โดยแยกคำหน้าออกมา จากบทนี้จะได้คำว่า บัณฑิตพระร่วง ซึ่งก็หมายถึงสุภาษิตพระร่วงนั่นเอง

 

เป็นอย่างไรบ้างคะ หลังจากที่ได้รู้เรื่องราวประวัติความเป็นมาของสุภาษิตพระร่วงแล้ว ถึงผู้แต่งและปีที่แต่งจะไม่มีระบุแน่ชัดว่าเป็นใครและแต่งขึ้นในปีไหน แต่สุภาษิตพระร่วงก็นับว่าเป็นวรรณคดีอันทรงคุณค่า เต็มไปด้วยคติธรรมสอนใจมากมาย และถ้าน้อง ๆ คนไหนอยากฟังคำอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับสุภาษิตพระร่วง รวมไปถึงลักษณะคำประพันธ์ทั้งสองให้เข้าใจมากขึ้น ก็สามารถตามไปฟังได้ที่คลิปด้านล่างนี้เลยค่ะ

 

NockAcademy คือโรงเรียนออนไลน์สำหรับเด็ก โดยแอปฯ และเว็บไซต์ นักเรียนสามารถเรียนรู้ผ่านคลิปบทเรียนวิชา คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และภาษาไทย
มากไปกว่านั้น เรายังมีคอร์สเรียนออนไลน์ การสอนพิเศษ การติวนอกสถานที่โดยติวเตอร์ที่แน่นไปด้วยความรู้ อีกด้วย

Add LINE friends for one click to find article. Add LINE friends for one click to find article.
ครูผู้สอน NockAcademy

แค่ 10 นาที ก็เข้าใจได้

สามารถดูคลิปบทเรียนวิชา คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และภาษาไทย ที่มีมากกว่า 2,000+ คลิป และยังสามารถทำแบบทดสอบที่มีมากกว่า 4000+ ข้อ

แนะนำ

แชร์

NokAcademy_ ม.6 Modlas in the Past

Modals in the Past

  สวัสดีค่านักเรียนชั้นม.6 ที่น่ารักทุกคน วันนี้เราจะไปดู ” Modals in the Past “ ที่ใช้บ่อยพร้อมเทคนิคการใช้งานง่ายๆกันค่า Let’s go! ไปลุยกันเลยจร้า   ทบทวน Modal Verbs  Modal Auxiliaries คือ กริยาช่วยกลุ่ม  Modal verbs หรือ 

รามเกียรติ์ ตอน นารายณ์ปราบนนทก ศึกษาตัวบทและคุณค่า

หลังได้เรียนรู้ความเป็นมาและเรื่องย่อของบทละครเรื่อง รามเกียรติ์ ตอน นารายณ์ปราบนนทก กันไปแล้ว ในบทนี้ น้อง ๆ จะได้เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวบทเด่น ๆ ที่น่าสนใจในเรื่อง พร้อมทั้งจะได้ตามไปดูคุณค่าของเรื่องว่ามีอะไรบ้าง ถ้าพร้อมแล้ว ไปศึกษาเรื่องนี้พร้อมกันเลยค่ะ   ศึกษาตัวบทละครเรื่อง รามเกียรติ์ ตอน นารายณ์ปราบนนทก     เหลือบเห็นสตรีวิไลลักษณ์       พิศพักตร์ผ่องเพียงแขไข

การพูดรายงานหน้าชั้น พูดอย่างไรให้ได้ใจผู้ฟัง

การพูดรายงานหน้าชั้น เป็นการแสดงผลงานศึกษาค้นคว้าโดยนำมาบอกเล่า ชี้แจง นำเสนอให้ผู้อื่นได้ทราบด้วย การพูดรายงานจึงมีความสำคัญในฐานะที่เป็นการเผยแพร่และแลกเปลี่ยนความรู้ความคิด บทเรียนในวันนี้เราจะพาน้อง ๆ ไปเรียนรู้กันว่าหลักในการพูดรายงานหน้าชั้นนั้นมีอะไรบ้าง พูดอย่างไรจึงจะดึงดูดผู้ฟัง รวมไปถึงมารยาทขณะที่ออกไปพูดด้วย จะเป็นอย่างไรบ้างนั้นเราไปดูกันเลยค่ะ   หลักการพูดรายงานหน้าชั้น     1. กล่าวทักทายผู้ฟัง แนะนำผู้ร่วมงาน หัวข้อ จุดประสงค์ การทักทายถือเป็นการสร้างความประทับใจแรกให้แก่ผู้ฟัง ไม่ว่าหัวข้อที่เราจะนำมาพูดหน้าชั้นคืออะไร แต่หากเราพูดเนื้อหาขึ้นมาเลยแบบไม่มีปี่ไม่ขลุ่ย ก็อาจจะทำให้ผู้ฟังไม่อยากฟัง หรือคิดว่าการพูดหน้าชั้นของเราเป็นเรื่องน่าเบื่อ

สถิติ (เส้นโค้งความถี่)

บทความนี้ได้รวบรวมความรู้เรื่อง สถิติ (เส้นโค้งความถี่)  ซึ่งก่อนที่จะเรียนเรื่องนี้ น้องๆจะต้องมีความรู้ในเรื่อง    ค่ากลางของข้อมูล และการวัดการกระจายของข้อมูล สามารถศึกษาเพิ่มเติมได้ที่  ⇒⇒ สถิติ (ค่ากลางของข้อมูล/การกระจายของข้อมูล) ⇐⇐ เส้นโค้งของความถี่ จะมีอยู่ 3 แบบ คือ เส้นโค้งปกติ เส้นโค้งเบ้ขวา และเส้นโค้งเบ้ซ้าย ซึ่งจะมีความสัมพันธ์กับค่ากลางของข้อมูล  ได้แก่ ค่าเฉลี่ยเลขคณิต (μ)   มัธยฐาน (Med) และฐานนิยม

วิธีพูดสรุปความจากเรื่องที่ฟังและดูอย่างง่ายๆ

การพูดสรุปความสำคัญอย่างไร ? น้อง ๆ หลายคนคงจะเคยประสบปัญหาเวลาที่ต้องออกไปนำเสนองานหน้าชั้นเรียนแล้วไม่รู้ว่าจะพูดอย่างไรให้เพื่อนกับครูเข้าใจ เพราะเนื้อหาที่เราจำมามันก็เยอะเสียเหลือเกิน บทเรียนภาษาไทยวันนี้จะช่วยให้น้อง ๆ รับมือกับปัญหาเหล่านั้นได้ เพียงแค่น้อง ๆ มีความเข้าใจในเรื่องการพูดสรุปความ วันนี้เรามาดูไปพร้อม ๆ กันเลยนะคะว่าการพูดสรุปความจากเรื่องที่ฟังหรือดูจะมีวิธีใดบ้าง   การพูดสรุปความจากเรื่องที่ฟังและดู   การพูดคืออะไร   องค์ประกอบของการพูด   ผู้พูด คือผู้ที่มีจุดมุ่งหมายสำคัญที่จะนำเสนอความรู้ความคิดเห็นให้ผู้ฟังได้รับรู้และเข้าใจ เนื้อเรื่อง

การเขียนจำนวนในรูปสัญกรณ์วิทยาศาสตร์

การเขียนจำนวนในรูปสัญกรณ์วิทยาศาสตร์

การเขียนจำนวนในรูปสัญกรณ์วิทยาศาสตร์ บทความนี้ได้รวมรวมเนื้อหาและตัวอย่างเกี่ยวกับ การเขียนจำนวนในรูปสัญกรณ์วิทยาศาสตร์ ไว้อย่างหลากหลายและแสดงวิธีทำอย่างละเอียด  แต่ก่อนที่น้องๆจะได้เรียนรู้เรื่องนี้น้องสามารถทบทวน การเขียนเลขยกกำลังที่มีเลขชี้กำลังเป็นจำนวนเต็มบวก และ การคูณเลขยกกำลัง เมื่อเลขชี้กำลังเป็นจำนวนเต็มบวก (กดลิ้งค์ที่ข้อความได้เลยค่ะ)  ซึ่งจะทำให้น้องๆ ได้เรียนรู้เรื่องต่างๆอย่างง่ายดาย ซึ่งได้นำเสนออกมาในรูปแบบที่เข้าใจง่าย ทำให้น้องๆสนุกกับการเรียนคณิตศาสตร์ ฝึกการเขียนจำนวนในรูปเลขยกกำลังที่มีฐานเป็น 10 ดังนี้ 10 = 10 = 10¹ 100 = 10

โลโก้ NockAcademy

ทดลองฟรี!

เข้าใจได้ทันที NockAcademy ไลฟ์สดอันดับ 1 

โลโก้ NockAcademy

ทดลองฟรี!

เข้าใจได้ทันที NockAcademy ไลฟ์สดอันดับ 1