ความรู้เกี่ยวกับ การสื่อสาร มีอะไรบ้างที่เราควรรู้?

สารบัญ

Add LINE friends for one click to find article. Add LINE friends for one click to find article.

ความรู้เกี่ยวกับการสื่อสาร เป็นเรื่องที่สำคัญอย่างมากในปัจจุบัน แม้ว่าเราจะสื่อสารกับผู้คนอยู่แล้วทุกวัน แต่จะทำอย่างไรให้ตนเองสามารถสื่อสารได้อย่างถูกต้อง มีเรื่องไหนที่ควรรู้และควรระวัง บทเรียนภาษาไทยในวันนี้จะพาน้อง ๆ ไปเรียนรู้เรื่องการสื่อสารให้ดียิ่งขึ้นไปอีก ถ้าอยากรู้แล้วว่าจะเป็นอย่างไรก็ไปดูกันเลยค่ะ

 

การสื่อสาร คืออะไร?

 

เป็นกระบวนการถ่ายทอดหรือแลกเปลี่ยนความคิด ข้อมูล ข้อเท็จจริง ความรู้ ความรู้สึก จากบุคคลหนึ่งไปยังอีกบุคคลหนึ่ง ให้มีความเข้าใจตรงกัน

 

การสื่อสาร

 

การสื่อสารสำคัญอย่างมากตั้งแต่ในชีวิตประจำวันไปจนถึงอุตสาหกรรม การปกครอง การเมืองและเศรษฐกิจ เพราะในทุก ๆ กระบวนต้องมีการสื่อสารกันให้เกิดความเข้าใจอันดีต่อกัน

องค์ประกอบของการสื่อสาร

 

1. ผู้รับสารและผู้ส่งสาร

2. วิธีการติดต่อ ติดต่อผ่านช่องทางการสื่อสารโดยใช้สื่อต่าง ๆ

 

การสื่อสาร

 

3.เรื่องราวที่ต้องการจะสื่อสาร

 

ภาษาที่ใช้ในการสื่อสาร

 

1.วัจนภาษา หมายถึง ภาษาพูดและภาษาเขียนที่เป็นถ้อยคำของมนุษย์ในแต่ละชนชาติที่มีความคิดค้นภาษาขึ้นมา กำหนดไว้ใช้สื่อสารกันอย่างมีระบบและต้องใช้ให้ถูกต้องตามหลักของภาษานั้น ๆ แบ่งออกเป็น 2 ชนิด

  • ภาษาพูด เป็นภาษาที่มนุษย์ใช้พูดออกมาโดยการเปล่งเสียงเพื่อสื่อสารกับผู้อื่น
  • ภาษาเขียน เป็นภาษาที่ใช้อักษรในการสื่อสาร มนุษย์ประดิษฐ์ตัวอักษรขึ้นมาเพื่อให้บันทึกภาษาพูด

2.อวัจนภาษา หมายถึง การสื่อสารที่ปราศจากถ้อยคำและการเขียนแต่จะเป็นการสื่อสารผ่านสีหน้า ท่าทาง การเคลื่อนไหว หรือวัตถุอื่น ๆ ที่อยู่ในแวดล้อมขณะสื่อสาร ทำหน้าที่แทนการพูด แต่จะใช้เดี่ยว ๆ หรือใช้ควบคู่กับวัจนภาษาก็ได้ แบ่งออกได้ดังนี้

  • ภาษากาย ประกอบไปด้วย สายตา การแสดงสีหน้า อากัปกิริยา ระยะห่างระหว่างบุคคล

การสื่อสาร

 

  •  ภาษาวัตถุ เป็นการตีความหมายของวัตถุและสัญลักษณ์ต่าง ๆ เพื่อสื่อความหมาย มีดังนี้

 

1. โครงสร้างของร่างกาย (body) เช่น บุคคลที่มีโครงสร้างสูงใหญ่ จะสื่อความหมายได้ว่า เป็นคนแข็งแรง น่าเกรงขาม

2. ส่วนประกอบที่ทำให้เกิดบุคลิกภาพ (Personality) เช่น การเลือกวัตถุมาประกอบเพื่อให้เกิดเป็นบุคลิกภาพ เช่น เลือกเสื้อผ้าและรองเท้าที่สวมใส่ ก็จะสามารถสะท้อนให้เห็นถึงรสนิยม ค่านิยม และนิสัยของผู้แต่งได้

3. วัตถุที่มีความหมายเฉพาะ และไม่เฉพาะ (Specific and Non-Specific)

– วัตถุที่มีความหมายเฉพาะ (Specific) เช่น ดอกมะลิ เป็นสัญลักษณ์วันแม่

– วัตถุที่ไม่มีความหมายเฉพาะเจาะจง (Non-Specific) เช่น  นางสาว A ให้แปรงสีฟัน นางสาว B ไป โดยทั่วไปอาจจะมองว่าเป็นคนมีน้ำใจ แต่ก็อาจตีความหมายได้อีกนับว่านางสาว A ต้องการจะบอกว่านางสาว B มีกลิ่นปากรุนแรงจึงมอบแปรงสีฟันให้เป็นของขวัญเพื่อให้ไปแปรงฟัน

 

  • ภาษาธรรมเนียมและมารยาท เป็นการแสดงพฤติกรรมตามธรรมเนียมและมารยาทของสังคมนั้น ซึ่งแต่ละประเทศก็จะมีวัฒนธรรมที่ตกต่างกัน ยกตัวอย่างวัฒนธรรมไทย การ “ไป-ลา-มา-ไหว้” เป็นสิ่งที่สะท้อนธรรมเนียมเรื่องการเคารพผู้ที่อาวุโสกว่าของไทย

 

การใช้วัจนภาษาควบคู่ไปกับอวัจนภาษา

ถึงแม้ว่าจะสามารถแยกกันใช้ได้ แต่ถ้าหากใช้ทั้งสองควบคู่กันไประหว่างสื่อสารได้อย่างเหมาะสมและถูกต้องก็จะทำให้การสื่อสารนั้นชัดเจนมากขึ้น

 

 

อุปสรรคของการสื่อสาร

 

 

ผู้ส่งสาร บางครั้งการสื่อสารที่ไม่ชัดเจนของผู้ส่งสารที่มีความบกพร่องในอวัยวะที่ใช้สื่อสาร หรือการใช้คำกำกวม ไม่ชัดเจน ไม่แสดงออกท่าทางให้คนอื่นรู้ว่าต้องอะไร หรือไม่เข้าใจสารที่ต้องการจะสื่อมากพอ ก็อาจจะทำให้ผู้รับสารไม่เข้าใจ

สาร ข้อมูลของสารที่ต้องการจะสื่อถูกบิดเบือนได้ง่าย ทั้งโดยเจตนา หรือไม่เจตนาในกรณีที่สารมีความคลุมเครือ

ภาษาที่ใช้ในการสื่อสาร ความต่างของภาษาเป็นอีกหนึ่งอุปสรรคที่เห็นได้อย่างเด่นชัด ยิ่งในยุคปัจจุบันที่มีการติดต่อจากคนหลากหลายเชื้อชาติด้วยแล้ว แม้จะมีวิธีการที่แสนสะดวกสบายอย่างระบบแปลภาษาอัตโนมัติ แต่ก็ไม่สามารถแปลบริบทที่ต้องการได้ 100% ดังนั้นสิ่งที่สื่อออกไปอาจทำให้เกิดความเข้าใจผิดได้

ผู้รับสาร ในบางกรณี แม้ว่าผู้ส่งสารจะพยายามสื่อสารอย่างดีแล้ว แต่ผู้รับสารก็ยังไม่เข้าใจง่าย ๆ หรืออาจจะเป็นคนหัวช้า คิดไม่ทัน ดังนั้นผู้ส่งสารจะต้องหาวิธีสื่อสารให้เหมาะกับแต่ละบุคคล

สื่อ คำที่มีหลายความหมาย ภาษาถิ่น ภาษาท่าทางที่ไม่สอดคล้อง ข้อความที่เกินจริง

กาลเทศะและสภาพแวดล้อม การไม่ศึกษาวัฒนธรรม เสียงรบกวน แสงและอุณหภูมิที่ไม่เหมาะสม ระยะทางของการสื่อสาร ทั้งหมดนี้เป็นอุปสรรคที่เกิดจากแวดล้อมและกาลเทศะ

 

หลักในการสื่อสารที่ดี กล่าวโดยสรุปแล้ว สามารถทำได้โดยการที่ผู้สื่อสารจะต้องมีความเข้าใจทั้งกับตัวเอง เรื่องที่จะพูด เลือกสื่อที่เหมาะสม และศึกษาผู้รับสารว่าเป็นคนอย่างไร อยู่ในวัฒนธรรมแบบใด เพียงเท่านี้ การสื่อสาร ก็จะเป็นไปอย่างราบรื่นค่ะ น้อง ๆ ที่มีปัญหาในเรื่องของการสื่อสาร บทเรียนในวันนี้คงจะทำให้น้อง ๆ เข้าใจเกี่ยวกับการสื่อสารมากขึ้น และนำไปปรับใช้ในชีวิตได้นะคะ สุดท้ายนี้อย่าลืมไปชมคลิปการสอนของครูอุ้มเพื่อทบทวนบทเรียนแล้วทำแบบฝึกหัดกันด้วยนะคะ

 

อย่าพลาดการติดตามบทความภาษาไทยจาก nockacademy

NockAcademy คือโรงเรียนออนไลน์สำหรับเด็ก โดยแอปฯ และเว็บไซต์ นักเรียนสามารถเรียนรู้ผ่านคลิปบทเรียนวิชา คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และภาษาไทย
มากไปกว่านั้น เรายังมีคอร์สเรียนออนไลน์ การสอนพิเศษ การติวนอกสถานที่โดยติวเตอร์ที่แน่นไปด้วยความรู้ อีกด้วย

Add LINE friends for one click to find article. Add LINE friends for one click to find article.
ครูผู้สอน NockAcademy

แค่ 10 นาที ก็เข้าใจได้

สามารถดูคลิปบทเรียนวิชา คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และภาษาไทย ที่มีมากกว่า 2,000+ คลิป และยังสามารถทำแบบทดสอบที่มีมากกว่า 4000+ ข้อ

แนะนำ

แชร์

สับเซตและเพาเวอร์เซต

บทความนี้จะเป็นเนื้อหาเกี่ยวกับสับเซต เพาเวอร์เซต ซึ่งเป็นเนื้อหาที่สำคัญ หลังจากที่น้องๆอ่านบทความนี้จบแล้ว น้องๆจะสามารถบอกได้ว่า เซตใดเป็นสับเซตของเซตใดและสามารถบอกได้ว่าสมาชิกของเพาเวอร์เซตมีอะไรบ้าง

การแยกตัวประกอบ

การแยกตัวประกอบ

การแยกตัวประกอบ การแยกตัวประกอบ ของจำนวนนับใด หมายถึง การเขียนจำนวนนับนั้นในรูปการคูณของ ตัวประกอบเฉพาะ  ซึ่งในบทความนี้ได้นำเสนอวิธีการ รวมถึง โจทย์การแยกตัวประกอบ ไว้มากมาย น้องๆสามารถศึกษาเรียนรู้ได้ดวยตนเองโดยที่มีวิธีการแยกตัวประกอบ 2 วิธี ดังนี้ การแยกตัวประกอบ  โดยการคูณ  การแยกตัวประกอบ  โดยการหาร (หารสั้น)         ก่อนอื่นน้องๆมาทบทวน ความหมายของตัวประกอบและจำนวนเฉพาะ

การบอกลักษณะต่างๆ โดยใช้คำคุณศัพท์ Profile

การบอกลักษณะต่างๆโดยใช้คำคุณศัพท์

สวัสดีค่ะนักเรียนชั้นม.3 ที่น่ารักทุกคน วันนี้ครูจะพาไปดูเทคนิค การบอกลักษณะต่างๆโดยใช้คำคุณศัพท์ (Descriptive Adjective) กันค่ะ ถ้าพร้อมแล้วก็ไปลุยกันเลยจร้า    ความหมายของคำคุณศัพท์     คำคุณศัพท์หรือ Adjective มีตัวย่อคือ Adj.  ทำหน้าที่ขยายคำนามหรือสรรพนามที่อยู่ในประโยค คำนามหรือสรรพนาม ณ ที่นี้ ก็คือ คน สัตว์ สิ่งของ สถานที่

M2 V. to be + ร่วมกับ Who WhatWhere + -Like + infinitive

การใช้ V. to be ร่วมกับ Who/ What/Where และ Like +V. infinitive

สวัสดีค่ะนักเรียนชั้นม.2 ทุกคน วันนี้เราจะไปเรียนรู้เรื่อง การใช้ V. to be + ร่วมกับ Who/ What/Where + -Like + infinitive ซึ่งเป็นโครงสร้างที่สับสนบ่อย แต่ที่จริงแล้วง่ายมากๆ ไปลุยกันเลยจ้า Let’s go ความหมาย    Verb to be

เตรียมสอบเข้า ม.1 โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย

เตรียมสอบเข้าม.1 โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย สวัสดีค่ะน้อง ๆ วันนี้มาพบกับพี่แอดมินและ Nock Academy อีกเช่นเคย ซึ่งเรายังคงอยู่กับหัวข้อของการเตรียมสอบเข้าม.1กันนะคะ วันนี้แอดมินจะพาน้อง ๆ ไปรู้จักกับโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาและการเตรียมตัวสอบเข้าในระดับชั้นม.1ของโรงเรียนแห่งนี้กันค่ะ ก่อนอื่นแอดมินต้องขอกล่าวประวัติคร่าว ๆ ของโรงเรียนให้ทุกคนได้รู้จักกันก่อนนะคะ โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาเป็นโรงเรียนชายล้วนที่ก่อตั้งขึ้นมาในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5) ถือเป็นโรงเรียนรัฐบาลแห่งแรกของประเทศไทย ที่มีความโดดเด่นในเรื่องของวิชาการ ภาษาและความเป็นผู้นำ โดยศิษย์เก่าที่สำเร็จการศึกษามาจากโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัยแห่งนี้หลายคนเป็นผู้ที่มีชื่อเสียงและประสบความเร็จจึงทำให้ชื่อเสียงของโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัยนั้นเป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายในสังคมไทยมาอย่างยาวนาน หลักสูตรสวนกุหลาบวิทยาลัย ม.ต้น ในปัจจุบันโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัยได้มีการปรังปรุงและพัฒนาหลักสูตรให้มีความเท่าทันสังคมไทยในปัจจุบันมากยิ่งขึ้น

การทดลองสุ่มและเหตุการณ์

บทความนี้ได้รวบรวมความรู้เรื่อง การทดลองสุ่มและเหตุการณ์ ซึ่งได้กล่าวถึงในลักษณะของความหมายและยกตัวอย่างประกอบ และอธิบายอย่างละเอียด ซึ่งก่อนจะเรียนเรื่อง การทดลองสุ่มและเหตุการณ์ น้องๆสามารถทบทวน ความน่าจะเป็น ได้ที่  ⇒⇒ ความน่าจะเป็น ⇐⇐ การทดลองสุ่ม การทดลองสุ่ม  คือ การทดลองซึ่งทราบว่าผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้นอาจจะเป็นอะไรได้บ้าง  แต่ไม่สามารถบอกได้อย่างถูกต้องแน่นอนว่าในแต่ละครั้งที่ทำการทดลอง  ผลที่เกิดขึ้นจากการทดลองจะเป็นอะไรในบรรดาผลลัพธ์ที่อาจเป็นไปได้เหล่านั้น  เช่น การโยนเหรียญซึ่งมีผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้นได้ 2 แบบ คือ หัวหรือก้อย เมื่อโยนเหรียญ

โลโก้ NockAcademy

ทดลองฟรี!

เข้าใจได้ทันที NockAcademy ไลฟ์สดอันดับ 1 

โลโก้ NockAcademy

ทดลองฟรี!

เข้าใจได้ทันที NockAcademy ไลฟ์สดอันดับ 1