เรียนรู้เรื่องการสร้างคำประสมในภาษาไทย

สารบัญ

Add LINE friends for one click to find article. Add LINE friends for one click to find article.

การสร้างคำประสม

 

คำพูดที่เราพูดกันอยู่ทุกวันนั้น ๆ น้องรู้ไหมคะว่ามีที่มาอย่างไร ทำไมถึงเกิดเป็นคำนี้ให้เราเอามาพูดกันได้ นั่นก็เพราะว่าในภาษาไทยเรานั้นมีสิ่งที่เรียกว่าการสร้างคำอยู่นั่นเองค่ะ ซึ่งการสร้างคำก็มีทั้งคำที่ถูกสร้างขึ้นใหม่โดยเฉพาะ เป็นคำมูล คำไทยแท้ กับอีกลักษณะคือการสร้างคำจากคำมูลนั่นเองค่ะ บทเรียนภาษาไทยในวันนี้จะพาน้อง ๆ ไปเรียนรู้การสร้างคำประสมในภาษาไทย คำประสมคือคำแบบใดบ้าง เราไปเรียนรู้เรื่องนี้พร้อม ๆ กันเลยค่ะ

 

คำประสม

 

 

คำประสม หมายถึงคำที่เกิดจากนำคำ 2 คำขึ้นไปมารวมกัน เกิดเป็นคำที่มีความหมายใหม่

 

 

ลักษณะคำประสม

 

 

  • คำประสมในภาษาไทย มีลักษณะเหมือนคำสมาส แต่คำสมาสเป็นคำที่มาจากภาษาบาลีและสันสกฤต
  • การเรียงคำประสม จะเรียงโดยนำคำที่ความหมายหลักไว้ด้านหน้า และนำคำที่มีความหมายรองไว้ด้านหลัง เช่น วังหลวง ปากกา น้ำแข็ง
  • คำประสมเมื่อนำมาประกอบแล้วไม่สามารถแทรกคำอื่นเพิ่มเข้าไปได้เพราะจะทำให้ความหมายเปลี่ยน
  • คำประสมที่ประสมแล้วมีความหมายคล้ายกับคำเดิม เช่น พ่อตา แม่ยาย เสียใจ
  • คำประสมบางคำเมื่อผสมกันแล้วความหมายจะเป็นไปในเชิงเปรียบเทียบ เช่น อกหัก ใจหาย
  • คำมูลที่นำมาสร้างคำ สามารถนำมารวมกันได้ทั้ง  คำไทย + คำไทย, คำไทย + คำต่างประเทศ, คำต่างประเทศ + คำต่างประเทศ
  • คำที่นำมาผสมกันได้ทั้ง คำนาม สรรพนาม กริยา วิเศษณ์ บุพบท สันธาน เช่น นาม + นาม = กล้วยแขก หรือ นาม + กริยา = เรือขุด

การจำแนกคำประสม

 

 

การจำแนกคำประสม ถ้าแบ่งตามหน้าที่จะสามารถแบ่งได้ 3 ประเภท ดังนี้

1. คำประสมประเภทนาม คำเป็นที่เป็นตัวตั้งจะเป็นคำนาม ใช้เป็นชื่อสิ่งต่าง ๆ ที่มีความหมายจำกัด เมื่อพูดไปสามารถเข้าใจได้ว่าหมายถึงอะไร เช่น รถเร็ว เรือไฟ

2. คำประสมประเภทกริยา ใช้คำกริยาเป็นตัวตั้ง ความหมายมักเป็นไปในเชิงอุปมา เช่น กินใจ วางโต

3. คำประสมประเภทวิเศษณ์ คำที่เป็นตัวตั้ง เป็นคำนาม คำกริยา หรือคำวิเศษณ์ เมื่อประสมแล้วอาจใช้ในความหมายเชิงอุปมาอุปไมยได้ เช่น ชั้นต่ำ หลายใจ คอแข็ง

 

 

ข้อแตกต่างของคำมูลและคำประสมสามารถสังเกตได้ง่าย ๆ เลยก็คือ เมื่อแยกพยางค์ออกมาแล้ว ถ้าเป็นคำมูล คำที่แยกออกมาแต่ละพยางค์นั้นจะไม่มีความหมาย แต่ถ้าเป็นคำประสมเมื่อแยกออกมาแล้วยังมีความหมายอยู่ในคำนั้น ๆ

 

 

จบไปแล้วนะคะสำหรับเรื่องการสร้างคำประสมในภาษาไทย ไม่ยากเลยใช่ไหมคะ แต่นอกจากคำประสมแล้ว ในภาษาไทยก็ยังมีเรื่องเกี่ยวกับการสร้างคำอื่น ๆ อีก ส่วนจะเป็นเรื่องอะไรนั้นไว้รอติดตามกันในบทต่อไปนะคะ และสำหรับบทเรียนวันนี้ ถ้าน้อง ๆ ต้องการฟังคำอธิบายเพิ่มเติม เผื่อเตรียมตัวสอบ ก็สามารถไปดูคลิปการสอนย้อนหลังของครูอุ้มได้ที่คลิปด้านล่างนี้เลยค่ะ

 

NockAcademy คือโรงเรียนออนไลน์สำหรับเด็ก โดยแอปฯ และเว็บไซต์ นักเรียนสามารถเรียนรู้ผ่านคลิปบทเรียนวิชา คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และภาษาไทย
มากไปกว่านั้น เรายังมีคอร์สเรียนออนไลน์ การสอนพิเศษ การติวนอกสถานที่โดยติวเตอร์ที่แน่นไปด้วยความรู้ อีกด้วย

Add LINE friends for one click to find article. Add LINE friends for one click to find article.
ครูผู้สอน NockAcademy

แค่ 10 นาที ก็เข้าใจได้

สามารถดูคลิปบทเรียนวิชา คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และภาษาไทย ที่มีมากกว่า 2,000+ คลิป และยังสามารถทำแบบทดสอบที่มีมากกว่า 4000+ ข้อ

แนะนำ

แชร์

ป.5 ไวยากรณ์เรื่อง There is _ There are และ How many

ไวยากรณ์เรื่อง There is / There are และ How many

สวัสดีค่ะนักเรียนชั้น ป.5 ที่รักทุกคน วันนี้เราจะไปเรียนรู้ “ไวยากรณ์เรื่อง There is / There are และ How many” กันจ้า ถ้าพร้อมแล้วก็ไปลุยกันเลยเด้อ ถามก่อนเรียน: อ้าวแล้ว Have/has ก็แปลว่า “มี” เหมือนกันไม่ใช่เหรอ แล้ว There is/There are

การพูดรายงานหน้าชั้น พูดอย่างไรให้ได้ใจผู้ฟัง

การพูดรายงานหน้าชั้น เป็นการแสดงผลงานศึกษาค้นคว้าโดยนำมาบอกเล่า ชี้แจง นำเสนอให้ผู้อื่นได้ทราบด้วย การพูดรายงานจึงมีความสำคัญในฐานะที่เป็นการเผยแพร่และแลกเปลี่ยนความรู้ความคิด บทเรียนในวันนี้เราจะพาน้อง ๆ ไปเรียนรู้กันว่าหลักในการพูดรายงานหน้าชั้นนั้นมีอะไรบ้าง พูดอย่างไรจึงจะดึงดูดผู้ฟัง รวมไปถึงมารยาทขณะที่ออกไปพูดด้วย จะเป็นอย่างไรบ้างนั้นเราไปดูกันเลยค่ะ   หลักการพูดรายงานหน้าชั้น     1. กล่าวทักทายผู้ฟัง แนะนำผู้ร่วมงาน หัวข้อ จุดประสงค์ การทักทายถือเป็นการสร้างความประทับใจแรกให้แก่ผู้ฟัง ไม่ว่าหัวข้อที่เราจะนำมาพูดหน้าชั้นคืออะไร แต่หากเราพูดเนื้อหาขึ้นมาเลยแบบไม่มีปี่ไม่ขลุ่ย ก็อาจจะทำให้ผู้ฟังไม่อยากฟัง หรือคิดว่าการพูดหน้าชั้นของเราเป็นเรื่องน่าเบื่อ

ม.1 There is_There are ทั้งประโยคบอกเล่า_ คำถาม_ปฏิเสธ

การใช้ There is/There are ทั้งประโยคบอกเล่า/คำถาม/ปฏิเสธ

สวัสดีค่ะนักเรียนชั้น ม.1 ที่รักทุกคน วันนี้เราจะไปเรียนรู้ “การใช้ There is/There are ทั้งประโยคบอกเล่า/คำถาม/ปฏิเสธ” กันจ้า ถ้าพร้อมแล้วก็ไปลุยกันเลยเด้อ ตารางแสดงความแตกต่างของ  There is/There are และ  Have/Has นักเรียนลองสังเกตดูความแตกต่างของการใช้ There is/There are กับ Have/has จากตารางด้านล่าง ดูนะคะ

ทริคการสืบค้นข้อมูลทางอินเทอร์เน็ตอย่างง่าย ๆ

ย้อนกลับไปเมื่อหลายสิบปีที่แล้วก่อนที่อินเทอร์เน็ตจะเข้ามามีบทบาทในชีวิตของทุกคนเหมือนอย่างทุกวันนี้ แหล่งการสืบค้นหลัก ๆ จะอยู่ที่ห้องสมุด แต่ในปัจจุบันเราสามารถเข้าถึงข้อมูลต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้นเพียงคลิกปลายนิ้ว ข้อมูลที่ต้องการค้นหาก็มาปรากฏอยู่ตรงหน้าให้เลือกสรรมากมาย แต่เราจะมีวิธีการเลือกสืบค้นข้อมูลกันอย่างไร ถึงจะได้ข้อมูลที่ถูกต้องและครบถ้วนที่สุด บทเรียนในวันนี้ถือเป็นอีกหนึ่งเรื่องสำคัญที่จะช่วยให้การหาข้อมูลสำหรับการเรียนของน้อง ๆ นั้นง่ายขึ้น เราไปเรียนรู้เรื่อง การสืบค้นข้อมูลทางอินเทอร์เน็ต กันเลยค่ะ   การสืบค้นข้อมูลทางอินเทอร์เน็ต   เป็นการค้นคว้าหาความรู้โดยใช้สารสนเทศในลักษณะต่าง ๆ โดยมีเว็บไซต์ที่เป็นแหล่งเก็บรวบรวมภาพและข้อมูลต่าง ๆ    

ทศนิยมกับการวัด

ความสัมพันธ์ของทศนิยมกับการวัด

บทความนี้จะกล่าวถึงความสัมพันธ์ของทศนิยมกับการวัด ที่จะทำให้น้อง ๆสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับสถาณการณ์ที่ต้องเจอในชีวิตประจำวัน จะทำให้เข้าใจหลักการและสามารถบอกค่าของการวัดที่เป็นทศนิยมได้ถูกต้อง

NokAcademy_ม2การใช้ Wh-questions กับ Past Simple Tense

การใช้ Wh-questions กับ Past Simple Tense

สวัสดีค่ะนักเรียนชั้นม.2 ทุกคน วันนี้ครูจะพาไปตะลุย ” การใช้ Wh-questions ร่วมกับ Past Simple Tense” กันนะคะ หากพร้อมแล้วก็ไปลุยกันเลยจร้า   Wh-Questions คืออะไร      เมื่อต้องถามคำถามอะไรก็ตามที่ไม่ต้องการคำตอบ Yes หรือ No แบบตรงประเด็น เราจะเรียกคำถามประเภทนี้ว่า Question  word

โลโก้ NockAcademy

ทดลองฟรี!

เข้าใจได้ทันที NockAcademy ไลฟ์สดอันดับ 1 

โลโก้ NockAcademy

ทดลองฟรี!

เข้าใจได้ทันที NockAcademy ไลฟ์สดอันดับ 1