ระดับภาษา เรียนรู้วิธีใช้ให้ถูกต้องและเหมาะสม

สารบัญ

Add LINE friends for one click to find article. Add LINE friends for one click to find article.

ระดับภาษา มีความสำคัญอย่างมากในภาษาไทย น้อง ๆ ทราบไหมคะว่าภาษาที่เราใช้กันอยู่ในทุกวันนี้ ก็มีระดับของมันที่จะเป็นตัวบ่งบอกความเหมาะสม ให้เราได้เลือกใช้กันอย่างถูกกาลเทศะ อยากรู้ไหมคะว่ามีกี่ระดับ แต่ละระดับเป็นอย่างไร ต้องใช้แบบไหน ใช้กับใครจึงจะถูก ถ้าพร้อมแล้ว ไปเรียนรู้บทเรียนภาษาไทยในวันนี้กันเลยค่ะ

 

ความหมายของ ระดับภาษา

 

ระดับภาษา

 

ระดับภาษา หมายถึง ความลดหลั่นของถ้อยคำและการเรียบเรียงถ้อยคำที่ใช้โดยพิจารณาตามโอกาสหรือกาลเทศะ ความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลที่เป็นผู้สื่อสาร ผู้รับสาร และเนื้อหาที่สื่อสาร

 

ความสำคัญของระดับภาษา

 

ระดับภาษานั้นมีขึ้นเพื่อให้บุคคลแต่ละกลุ่มสื่อสารกันได้อย่างง่ายแต่เหมาะสมมากขึ้น เนื่องจากวัฒนธรรมของไทยต้องนับถือผู้ที่อาวุโสกว่า และมีงานพิธีการต่าง ๆ เยอะ ทำให้ต้องมีภาษาที่ต่างจากภาษาพูดทั่วไป นอกจากนี้ระดับภาษายังเป็นการบอกถึงวัฒนธรรมของภาษาไทยอีกด้วย เพราะเมื่อเวลาผ่านไป ภาษามีการเปลี่ยนแปลง คำเก่าหลายคำจึงถูกเปลี่ยนไปเป็นคำศัพท์เก่าที่ไม่ค่อยมีคนใช้ยกเว้นจะใช้ในพิธีการหรืออย่างเป็นทางการ

 

ระดับภาษา

 

ประเภทของระดับภาษา

 

ระดับภาษามีทั้งหมด 5 ระดับ แบ่งออกมาได้ดังนี้

 

ระดับภาษา

 

ระดับพิธีการ เป็นภาษาที่ถูกต้องตามหลักไวยากรณ์ มีความประณีต งดงาม ภาษาที่ใช้เป็นคำระดับสูงและมีความซับซ้อนของประโยคอยู่ ภาษาในระดับนี้จะใช้ในโอกาสสำคัญอย่างงานราชพิธี วรรณกรรมชั้นสูง

ระดับทางการ เป็นอีกภาษาหนึ่งที่มีความสมบูรณ์และถูกต้องตามหลักไวยากรณ์ มักใช้ในโอกาสสำคัญ ๆ ที่เป็นทางการ อย่างเช่น หนังสือราชการวิทยานิพนธ์ รายงานทางวิชาการ การกล่าวปราศรัย กล่าวเปิดพิธีหรืองานสำคัญ

ระดับกึ่งทางการ ระดับภาษานี้จะอยู่ก้ำกึ่งระหว่างระดับที่เป็นทางการกับไม่เป็นทางการ เป็นภาษาที่สุภาพ แต่ไม่ได้เคร่งครัดเท่าภาษาทางการ อาจมีภาษาระดับสนทนาเข้ามาปนด้วย มักใช้ในการติดต่อธุรกิจ หรือพูดกับคนที่ไม่รู้จัก ไม่สนิท และยังใช้กับงานเขียนอย่างเช่น สารคดี บทวิจารณ์ เกี่ยวกับบันเทิงคดีต่าง ๆ เพื่อไม่ให้เนื้อหาเครียดเกินไป

ระดับสนทนา เป็นภาษาที่ใช้สนทนากับบุคคลที่รู้จักหรือไม่รู้จักในเวลาส่วนตัว ร่วมถึงเจรจาซื้อขายหรือการประชุมที่ไม่เป็นทางการ มักมีรูปประโยคง่าย ๆ แต่ยังคงความสุภาพ เช่น การรายงานข่าว การเจรจาธุระทั่วไป

ระดับกันเอง เป็นภาษาพูดทั่วไปที่ใช้กับคนสนิท มีจุดประสงค์คือเพื่อนความสนุกสนาน ภาษาที่ใช้ขึงเป็นภาษาที่ฟังแล้วดูสบาย ๆ ไม่เคร่งครัด โดยคำที่ใช้จะมีทั้งคำหยาบ คำสแลง คำตัด ประโยคอาจไม่สมบูรณ์แต่ผู้สื่อสารและผู้รับสารจะเข้าใจความหมายกัน ไม่นิยมใช้ภาษาเขียนอย่างพวกวรรณกรรม วรรณคดี หรืองานเขียนที่เป็นทางการ แต่จะสามารถใช้เรื่องสั้น นวนิยาย ภาษาข่าวในหนังสือพิมพ์ หรือการเขียนบทละคร เป็นต้น

 

 

การแบ่งระดับภาษา

 

การแบ่งระดับภาษาจะพิจารณาจากโอกาส กาลเทศะ และสถานะของผู้พูดกับผู้ฟังรวมไปถึงเนื้อหา เพื่อให้เลือกใช้ตามสถานการณ์ต่าง ๆ ได้อย่างเหมาะสม

 

 

การใช้ระดับภาษา ต้องใช้ให้ถูกต้องตามกาลเทศะเพื่อให้เหมาะสม หลังได้เรียนเนื้อหาในบทเรียนวันนี้กันไปแล้ว น้อง ๆ ก็คงพอจะเข้าใจและมองภาพออกกันใช่ไหมคะว่าเราควรใช้ภาษาแบบไหนกับใคร ก่อนจากกันน้อง ๆ อย่าลืมทำแบบฝึกหัดเพื่อทบทวนนะคะ จะได้ใช้ภาษากันได้อย่างถูกต้อง และเพื่อไม่ให้พลาดเวลาเจอในข้อสอบ ก็ไปติดตามชมคลิปการสอนของครูอุ้ม ฟังคำอธิบายไปพร้อม ๆ กับฝึกคิดและวิเคราะห์ภาษา จะยิ่งทำให้น้อง ๆ เข้าใจในเรื่องนี้มากขึ้นนะคะ ไปดูกันเลยค่ะ

 

 

อย่าพลาดการติดตามบทความภาษาไทยจาก nockacademy

NockAcademy คือโรงเรียนออนไลน์สำหรับเด็ก โดยแอปฯ และเว็บไซต์ นักเรียนสามารถเรียนรู้ผ่านคลิปบทเรียนวิชา คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และภาษาไทย
มากไปกว่านั้น เรายังมีคอร์สเรียนออนไลน์ การสอนพิเศษ การติวนอกสถานที่โดยติวเตอร์ที่แน่นไปด้วยความรู้ อีกด้วย

Add LINE friends for one click to find article. Add LINE friends for one click to find article.
ครูผู้สอน NockAcademy

แค่ 10 นาที ก็เข้าใจได้

สามารถดูคลิปบทเรียนวิชา คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และภาษาไทย ที่มีมากกว่า 2,000+ คลิป และยังสามารถทำแบบทดสอบที่มีมากกว่า 4000+ ข้อ

แนะนำ

แชร์

Comparison of Adjectives

การใช้ประโยค Comparative Adjectives

สวัสดีค่ะนักเรียนชั้นม.3 ที่น่ารักทุกคน ยินดีต้อนรับทุกคนเข้าสู่บทเรียนเรื่องคำคุณศัพท์กันนะคะ วันนี้ครูได้ สรุปเรื่อง การใช้ ประโยค ประโยค Comparative Adjectives หรือ อีกชื่อหนึ่งคือ Comparison of Adjectives: การเปรียบเทียบคำคุณศัพท์ในภาษาอังกฤษ มาฝาก ไปลุยกันเลยจร้า   คำศัพท์สำคัญ: Comparative VS Comparison comparative (Adj.)

การแก้ระบบสมการเชิงเส้นสองตัวแปร

การแก้ระบบสมการเชิงเส้นสองตัวแปร บทความนี้ได้รวบรวมความรู้เรื่อง การแก้ระบบสมการเชิงเส้นสองตัวแปร  โดยการเลือกกำจัดตัวแปรใดตัวแปรหนึ่ง(x) เมื่อเลือกกำจัด x จะได้ค่า y แล้วนำค่าของตัวแปร(y) มาแทนค่าในสมการเพื่อหาค่าของตัวแปรอีกหนึ่งตัวแปร (x) ซึ่งก่อนที่จะเรียนเรื่องนี้ น้องๆสามารถศึกษาเรื่อง การแก้ระบบสมการเชิงเส้นสองตัวแปร โดยใช้กราฟ เพิ่มเติมได้ที่  ⇒⇒ การแก้ระบบสมการเชิงเส้นสองตัวแปร โดยใช้กราฟ ⇐⇐ ให้ a, b, c, d, e และ

ศึกษาตัวบทในเสภาขุนช้างขุนแผน ตอน ขุนช้างถวายฎีกา

เสภาเรื่องขุนช้างขุนแผนเป็นวรรณคดีที่มีเค้าจากเรื่องจริงในสมัยอยุธยา จากนิทานชาวบ้านสู่วรรณคดีราชสำนักตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 2 ในตอน ขุนข้างถวายฎีกา เป็นหนึ่งในตอนที่ได้รับการยกย่องว่าแต่งได้ดีที่สุด จากที่เราได้เรียนรู้ที่มาและเรื่องย่อกันไปแล้ว บทเรียนในนี้เราจะพาน้อง ๆ ไปศึกษาตัวบทเด่น ๆ ที่อยู่ในเรื่องนี้เพื่อถอดความกันค่ะ รวมไปถึงคุณค่าที่ซ่อนอยู่ในเรื่อง ถ้าพร้อมแล้วเราไปเรียนรู้พร้อมกันเลยค่ะ   ตัวบทเด่น ๆ ที่น่าสนใจ   ตัวบทที่ 1     ถอดความ มาจากตอนที่จมื่นไวยบุกมาหานางวันทองผู้เป็นแม่ที่เรือนขุนช้างแล้วพยายามจะพานางกลับไปอยู่ด้วยกัน

เส้นตรง

เส้นตรง

เส้นตรง เส้นตรง มีสมการรูปแบบทั่วไปคือ Ax + By + C = 0 และสมการรูปแบบมาตรฐานของเส้นตรงจะเขียนอยู่ในรูป y = mx + C ซึ่งจะอยู่ในหัวข้อ “สมการเส้นตรง” เส้นตรงหนึ่งเส้นประกอบไปด้วยจุดหลายจุด ซึ่งจุดเหล่านี้จะทำให้เราสามารถหาความชันได้ และเมื่อเราทราบความชันก็จะสามารถหาสมการเส้นตรงได้นั่นเอง ความชันของเส้นตรง ความชันของเส้นตรง ส่วนใหญ่นิยมใช้ m

ส่วน 10 หรือ ส่วน 1000 แปลงเป็นทศนิยมกันได้หมดถ้าสดชื่น!

จากบทความที่แล้วเราได้ทราบความสัมพันธ์ของเศษส่วนและทศนิยมไปแล้ว เชื่อว่าน้อง ๆหลายคนคงเกิดคำถามในใจว่า แล้วถ้าเจอเศษส่วนที่ตัวส่วนไม่ใช่ 10, 100 หรือ 1000 ต้องทำอย่างไร บทความนี้จะมาไขข้อสงสัยพร้อมกับแสดงวิธีคิดที่ทำให้น้อง ๆต้องพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ง๊ายง่าย!

ศึกษาตัวบทโคลนติดล้อ ตอน ความนิยมเป็นเสมียน

โคลนติดล้อ เป็นบทความแสดงความคิดเห็นของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎมีเนื้อหาเกี่ยวกับการเมือง การปลุกใจคนไทยให้รักชาติ และมีทั้งฉบับภาษาไทยและฉบับแปลเป็นภาษาอังกฤษ แค่นี้ก็น่าสนใจแล้วใช่ไหมคะ แต่ความดีเด่นของหนังสือเล่มนี้ยังมีอีกมาก บทเรียนในวันนี้จะพาน้อง ๆ ไปเรียนรู้ตัวบทที่สำคัญและคุณค่าของบทความที่ 4 ในเรื่องโคลนติดล้อตอน ความนิยมเป็นเสมียน พร้อม ๆ กันเลยค่ะ   บทเด่นใน โคลนติดล้อ ตอน ความนิยมเป็นเสมียน   บทนี้พูดถึงความนิยมในการเป็นเสมียนของหนุ่มสาวในยุคนั้นที่สนใจงานเสมียนมากกว่าการกลับไปช่วยทำการเกษตรที่บ้านเกิดเพราะเห็นว่าเสียเวลา คิดว่าตัวเองเป็นผู้ได้รับการศึกษาสูง จึงไม่สมควรที่จะไปทำงานที่คนไม่รู้หนังสือก็ทำได้  

โลโก้ NockAcademy

ทดลองฟรี!

เข้าใจได้ทันที NockAcademy ไลฟ์สดอันดับ 1 

โลโก้ NockAcademy

ทดลองฟรี!

เข้าใจได้ทันที NockAcademy ไลฟ์สดอันดับ 1