ทำความรู้จักกับพญาช้างผู้เสียสละนิทานธรรมะจรรโลงใจ

พญาช้างผู้เสียสละ

สารบัญ

Add LINE friends for one click to find article. Add LINE friends for one click to find article.

บทนำ

สวัสดีน้อง ๆ ที่น่ารักทุกคน กลับมาพบกันอีกครั้งในวิชาภาษาไทยแสนสนุก ซึ่งวันนี้เราจะพาทุกคนมาเปลี่ยนบรรยากาศกันด้วยการมาอ่านนิทานชาดกเรื่อง พญาช้างผู้เสียสละ เป็นเรื่องราวของพระพุทธเจ้าเมื่อครั้งที่ได้ลงมาเกิดเป็นพญาช้างรูปร่างงดงาม ต้องบอกว่าเรื่องราวในนิทานชาดกเรื่องนี้นอกจากจะทำให้น้อง ๆ สนุกไปกับเนื้อเรื่องแล้วก็ยังมอบคติสอนใจให้กับน้อง ๆ ได้ไม่น้อยเลย เพราะฉะนั้นถ้าทุกคนพร้อมแล้วไปเข้าสู่บทเรียนกันเลย

พญาช้างผู้เสียสละ

ภูมิหลังตัวละคร

สำหรับเรื่อง พญาช้างผู้เสียสละ อย่างที่ได้บอกไปว่าเป็นนิทานชาดกที่จัดเป็น 1 ใน 500 ชาติที่พระพุทธเจ้าเคยได้เสวยชาติ ซึ่งชาดกเรื่องนี้จะเล่าถึงพระพุทธเจ้าเมื่อครั้งที่ได้ลงมาเกิดเป็นพญาช้างสีลวะ ด้วยความที่พระองค์ทรงบำเพ็ญทานบารมีมานานจึงได้เกิดเป็นพญาช้างร่างใหญ่กำยำผิวขาวเผือกผ่อง มีงวงและงาสวยงามและมีบริวารรายล้อม นอกจากนี้ยังได้เล่าถึงพระเทวทัตที่ได้ลงมาเกิดเป็นพรานป่า ซึ่งในอดีตชาติเคยเป็นพระภิกษุที่ติดตามพระพุทธเจ้าแต่ด้วยนิสัยที่เห็นแก่ตัว หยิ่งยโส และกระทำแต่เรื่องไม่สมควรต่อพระพุทธเจ้ามากมายจึงได้ถูกธรณีสูบลงไปชดใช้กรรมในนรกอเวจีทุกชาติ

พญาช้างผู้เสียสละ

เรื่องย่อ

นานมาแล้วมี “ช้างสีลวะ” พญาช้างร่างใหญ่ที่มีผิวขาวผุดผ่อง มีงวงและงาสวยงามอาศัยอยู่ในป่าหิมพานต์อย่างสงบสุข และด้วยเป็นพญาช้างที่ถือศีลทำให้มีบริวารช้างคอยติดตาม จนกระทั่งวันหนึ่งพญาช้างเกิดรู้สึกอยากออกไปใช้ชีวิตเพียงลำพังจึงได้ปลีกตัวออกมาจากโขลง ต่อมามีพรานป่าจากเมืองพาราณสีได้เดินทางมายังป่าหิมพานต์เพื่อเก็บของป่ าและล่าสัตว์ไปเลี้ยงชีพประทังชีวิต พรานป่าได้เดินลัดเลาะมาเรื่อย ๆ แล้วเกิดหลงป่าหาทางกลับออกไปไม่ได้ เดินหาทางอยู่นานจนหมดแรงจึงได้มานั่งร้องไห้คร่ำครวญระหว่างนั้นพญาช้างสีลวะก็เดินผ่านมาแล้วเกิดได้ยินเสียงร้องไห้ของพรานป่าจึงจะเข้าไปถามไถ่ ฝ่ายพรานป่าที่เห็นพญาช้างตัวใหญ่ก็เกิดรู้สึกกลัวและกำลังคิดจะหนี แต่เมื่อมองดูดี ๆ กลับรู้สึกว่าพญาช้างตัวนี้มีลักษณะสวยงามโดดเด่นจึงได้รวบรวมความกล้ายืนรอให้พญาช้างค่อย ๆ เดินเข้ามาหาตน พญาช้างเข้ามาถามพรานว่าเขามาจากที่ไหน และทำไมมานั่งร้องไห้คร่ำครวญอยู่ในป่านี้ พรานเห็นว่าพญาช้างดูท่าทางใจดีจึงได้ตอบไปว่าเขามาจากเมืองพาราณสีเข้ามาหาของป่าแล้วเกิดหลงทาง พญาช้างที่ได้ฟังก็บอกว่าจะพาเขาออกไปให้พ้นป่านี้ต่อจากนั้นต้องหาทางกลับเมืองเอง เมื่อทั้งสองตกลงกันได้
พญาช้างก็ให้พรานขึ้นมาขี่หลังของตนจากนั้นก็พาเดินลัดป่าเลาะเขาด้วยความชำนาญ จนกระทั่งมาถึงบริเวณชายป่าพญาช้างก็ให้พรานลงจากหลังพร้อมกับบอกให้เขาใช้เส้นทางนี้เพื่อหาทางกลับเมือง ก่อนไปพญาช้างได้ขอให้พรานป่าเก็บเรื่องที่ได้พบกับพญาช้างในวันนี้เป็นความลับ ซึ่งพรานป่าก็รับปาก จากนั้นพญาช้างก็เดินหายลับไปในป่า

ต่อมาเมื่อพรานเดินทางไปถึงเมืองพาราณสีเขาก็ได้เดินไปถามกับคนที่ขายงาช้างว่าอยากได้งาของช้าง  เป็น ๆ ไหม ซึ่งพ่อค้าก็ตอบว่าอยากได้เพราะงาช้างเป็นมีค่ากว่างาช้างตายมาก ถ้าเขาหามาได้จะรับซื้อในราคาที่ดี เมื่อตกลงกันได้แล้วพรานป่าก็รีบกลับมาที่บ้านแล้วเตรียมเลื่อยเหล็กพร้อมเสบียง จากนั้นก็มุ่งหน้าไปยังป่าหิมพานต์ และลัดเลาะไปตามทางที่พญาช้างเคยพาเขามาส่งครั้งก่อน เมื่อมาถึงพญาช้างได้ถามกับพรานป่าว่าทำไมถึงกลับมาที่นี่ เขาจึงตอบว่าครั้งนี้มาหาท่านเพราะต้องการความช่วยเหลือ เขาไม่มีเงินพอเลี้ยงปากท้องและไม่มีญาติพี่น้องที่ไหน เขาจึงอยากจะขอตัดงาของพญาช้างเพื่อไปขายเลี้ยงชีพ พญาช้างหลังจากที่ได้ฟังก็สงสารจึงยอมเสียสละให้พรานนั้นตัดงาส่วนปลายของตนไปขายเลี้ยงชีพ ก่อนจะให้งาไปพญาช้างก็ได้ยกงาของตนที่ถูกตัดแล้วชูขึ้นฟ้าพร้อมตั้งจิตปรารถนาขอให้ตนนั้นได้บรรลุ “พระสัพพัญญุตญาณ” และได้สำเร็จเป็นพระพุทธเจ้า จากนั้นก็ยื่นงาของตนให้กับพรานป่าไป หลังจากนั้นพรานก็ได้นำงาของพญาช้างไปขายแต่เงินที่ได้มาเขาก็นำไปใช้หนี้และใช้เลี้ยงชีพได้เพียงไม่นานเท่านั้น ดังนั้นพรานป่าจึงตัดสินใจเดินทางไปหาพญาช้างอีกครั้งและขอตัดงาส่วนตรงกลางเพื่อนำไปขายเลี้ยงชีพอีกซึ่งพญาช้างก็ยอมให้พรานตัดไป ซึ่งเงินที่ได้จากการขายงาครั้งนี้ก็ทำให้เขาใช้ชีวิตสุขสบายได้เพียงชั่วครู่แล้วก็หมดไป พรานป่าจึงได้กลับไปขอตัดงาของพญาช้างส่วนที่เหลือเพื่อนำไปขาย ซึ่งพญาช้างก็เสียสละงาของตนให้ ตัดถึงจะทำให้เจ็บปวดก็ยอมอดทน ส่วนทางฝั่งพรานป่าหลังจากได้งาของพญาช้างไป ระหว่างทางที่จะนำไปขาย แผ่นดินก็แยกออกแล้วสูบเขาลงไปในเปลวไฟแห่งอเวจี เพราะความจริงแล้วเทวดาได้เฝ้าดูพฤติกรรมของพรานป่ามาตลอด และเห็นว่าคนอกตัญญูอย่างเขานั้นให้ครองทั้งแผ่นดินก็คงไม่หายโลภ ส่วนฝ่ายของพญาช้างสีลวะในท้ายที่สุดก็ล้มตายไปเมื่อถึงอายุขัย

พญาช้างผู้เสียสละ

ข้อคิดคติสอนใจ

นิทานธรรมเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ผู้อกตัญญูไม่รู้คุณคน แม้ฟ้าดินก็ลงโทษ” คนอกตัญญูนั้นท้ายที่สุดก็จะพบกับความวิบัติล่มจม  เพราะฟ้าดินจะต้องลงโทษเหมือนอย่างพรานป่าอกตัญญูต่อพญาช้างสีลวะ แล้วต้องพบกับความวิบัติในที่สุด

บทส่งท้าย

จบลงไปแล้วสำหรับเนื้อหาการเรียนในวันนี้ หวังว่าน้อง ๆ ทุกคนที่ได้อ่านนิทานชาดกเรื่องพญาช้างผู้เสียสละ จะได้ข้อคิดคติสอนใจกลับไปเป็นแนวทางในการปฏิบัติตัวเป็นเด็กดี ถือเป็นนิทานที่สนุกและมีคุณค่าด้านเนื้อหาด้วย และถ้าน้อง ๆ คนไหนอยากจะฟังครูอุ้มเล่านิทานเรื่องนี้ให้ฟังอีกรอบก็สามารถเข้าไปดูในคลิปที่แนบมาด้านล่างนี้ได้เลย

NockAcademy คือโรงเรียนออนไลน์สำหรับเด็ก โดยแอปฯ และเว็บไซต์ นักเรียนสามารถเรียนรู้ผ่านคลิปบทเรียนวิชา คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และภาษาไทย
มากไปกว่านั้น เรายังมีคอร์สเรียนออนไลน์ การสอนพิเศษ การติวนอกสถานที่โดยติวเตอร์ที่แน่นไปด้วยความรู้ อีกด้วย

Add LINE friends for one click to find article. Add LINE friends for one click to find article.
ครูผู้สอน NockAcademy

แค่ 10 นาที ก็เข้าใจได้

สามารถดูคลิปบทเรียนวิชา คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และภาษาไทย ที่มีมากกว่า 2,000+ คลิป และยังสามารถทำแบบทดสอบที่มีมากกว่า 4000+ ข้อ

แนะนำ

แชร์

วิธีเขียน คำขวัญ ให้ถูกใจคนอ่าน

น้อง ๆ หลายคนคงจะคุ้นเคยกับคำขวัญกันเป็นอย่างนี้ เพราะในวันสำคัญต่าง ๆ อย่างวันเด็ก นายกรัฐมนตรีของประเทศในแต่ละสมัยก็จะให้คำขวัญแก่เด็ก ๆ ทุกปี แต่ทราบหรือไม่คะว่า คำขวัญ นั้นคืออะไรกันแน่ มีจุดมุ่งหมาย ลักษณะ และวิธีการเขียนอย่างไร บทเรียนในวันนี้จะพาน้อง ๆ ไปเรียนรู้เรื่องราวทั้งหมดนั้นของคำขวัญ ถ้าพร้อมแล้วเราไปเรียนรู้พร้อมกันเลยค่ะ   คำขวัญ คืออะไร   คำขวัญ คือ

เรียนรู้เทคนิคที่จะช่วยให้การเขียน ผังมโนภาพ เป็นเรื่องง่ายๆ

  ผังมโนภาพ เป็นเทคนิคที่พัฒนาขึ้นจากจดบันทึกความคิด ความรู้ ความเข้าใจ น้อง ๆ หลายคนก็คงจะเคยได้รับโจทย์จากคุณครูให้เขียนแผนผังมโนภาพเพื่อทดสอบความเข้าใจ หลายคนอาจจะคิดว่าเป็นเรื่องยากที่จะเขียนออกมา แต่ทราบไหมคะว่าที่จริงแล้วมีวิธีการเขียนที่ง่ายมากแถมยังมีประโยชน์อีกด้วย จะเป็นอย่างไรไปเรียนรู้เรื่องนี้พร้อมกันเลยค่ะ   ความหมายของผังมโนภาพ   ผังมโนภาพเป็นแผนผังหรือแผนภาพที่แสดงความสัมพันธ์ของมโนทัศน์หรือความคิดรวบยอด ที่เริ่มจากความคิดหลัก ซึ่งทำหน้าที่เป็นชื่อเรื่อง แล้วแตกแขนงไปสู่ความคิดย่อย ๆ กระจายออกไปโดยรอบ ทำให้เกิดภาพเชื่อมโยงขององค์ความรู้เรื่องใดเรื่องหนึ่งในทุกแง่มุม   วิธีเขียนแผนผังมโนภาพ   ผังมโนภาพเป็นผังที่แสดงความสัมพันธ์ของสาระหรือความคิดต่าง

คติธรรมในสำนวนไทย

คติธรรม หมายถึง ธรรมที่เป็นแบบอย่าง เป็นวัฒนธรรมที่เกี่ยวกับหลักการดำเนินชีวิตซึ่งได้มาจากหลักธรรมทางพระพุทธศาสนาหรืออาจเรียกได้ว่าเป็นวัฒนธรรมทางจิตใจอย่างหนึ่งที่คนไทยให้ความสำคัญอย่างมากและมักจะถูกสอดแทรกอยู่ในสื่อต่าง ๆ เพื่อปลูกฝังเด็กรุ่นใหม่ให้มีคติธรรมประจำใจ ไม่ว่าจะเป็นนิทานหรือสำนวนไทย สำหรับบทเรียนในวันนี้เราจะพาน้อง ๆ ไปเรียนรู้เรื่อง คติธรรมในสำนวนไทย มาดูกันค่ะว่าจะมีอะไรบ้าง   สำนวนที่เกี่ยวกับคติธรรม   สำนวนไทยถือเป็นภูมิปัญญาในการใช้ภาษาไทยอีกรูปแบบหนึ่ง เป็นถ้อยคำที่มิได้มีความหมายตรงไปตรงมาตามตัวอักษร หรือแปลตามรากศัพท์ แต่เป็นถ้อยคำที่มีความหมายเป็นอย่างอื่น ชวนให้ผู้อ่านได้คิด มีรูปแบบการใช้ภาษาที่ต้องผ่านการเรียบเรียงถ้อยคำ การรวมข้อความยาว ๆ ให้สั้น โดยนำถ้อยคำเพียงไม่กี่คำมาเรียงร้อย

การนำเสนอข้อมูลและแปลความหมายข้อมูลด้วยกราฟเส้น

การนำเสนอข้อมูลและแปลความหมายข้อมูลด้วยกราฟเส้น การนำเสนอข้อมูลและแปลความหมายข้อมูลด้วยกราฟเส้น เป็นกราฟที่นิยมใช้เเสดงความเปลี่ยนเเปลงของข้อมูลของข้อมูลที่ได้จากการเก็บรวบรวมข้อมูล โดยเรียงข้อมูลตามลำดับก่อนหลังของเวลาที่ข้อมูลนั้น ๆ เกิดขึ้น ทำให้เห็นเเนวโน้มของข้อมูลเเละช่วยให้เห็นการเปลี่ยนเเปลงของข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว รวมไปถึงเเสดงถึงความสัมพันธ์ต่าง ๆ ของข้อมูล ซึ่งสามารถนำไปใช้ในการพยากรณ์เกี่ยวกับข้อมูลนั้น ๆ ได้ ตัวอย่างรูปเเบบของกราฟเส้นที่สามารถพบเห็นได้ทั่วไปในชีวิตประจำวัน ตัวอย่างการนำเสนอข้อมูลเเละเเปลความหมายข้อมูลด้วยกราฟเส้น  ตัวอย่างที่ 1 จงเขียนกราฟเเสดงจำนวนผลไม้ที่ถูกขายตามข้อมูลดังนี้ วิธีทำ เริ่มจากการสร้างเเกน x เเละเเกน y โดยให้เเกน x เป็น

ลิลิตตะเลงพ่าย

ถอดความหมายตัวบทเด่นใน ลิลิตตะเลงพ่าย

ลิลิตตะเลงพ่าย เป็นวรรณคดีเรื่องดังที่มีตัวบทเด่น ๆ มากมาย สำหรับการถอดคำประพันธ์ในวันนี้เราได้คัดเลือกบทเด่น ๆ มาให้น้อง ๆ ได้เรียนกันถึง 13 บทเลยทีเดียว แต่เพราะเนื้อหาที่สนุก ภาษาที่สละสลวย รับรองว่าน้อง ๆ จะไม่มีทางเบื่อวรรณคดีเรื่องนี้แน่นอน ถ้าพร้อมแล้วเราไปเรียนความหมายของแต่ละบทพร้อมกันเลยนะคะ ตัวบทเด่น ๆ ใน ลิลิตตะเลงพ่าย   บทที่ 1  

เรียนรู้และเข้าใจเรื่องคำซ้อนในภาษาไทย

คำซ้อน เป็นหนึ่งในบทเรียนหลักภาษาไทยเรื่องการสร้างคำ น้อง ๆ หลายคนอาจจะเคยสับสนกับวิธีสร้างคำซ้อน ไม่รู้ว่าแบบไหนกันแน่ที่เรียกว่าคำซ้อน เพราะภาษาไทยเรานั้นก็มีคำมากมายเหลือเกิน วันนี้เราจะมาเรียนรู้เรื่องคำซ้อนให้มากขึ้น รับรองว่าไม่ยากแน่นอนค่ะ   คำซ้อน     ความหมายของคำซ้อน   คำซ้อน คือ คำที่เกิดจากการนำคำตั้งแต่ 2 คำ ขึ้นไปมาเรียงต่อกัน โดยคำที่นำมาซ้อนกันจะต้องเป็นคำที่มีความหมายเหมือนกัน ใกล้เคียงกัน ตรงข้ามกัน หรืออาจมีเสียงที่คล้ายกัน

โลโก้ NockAcademy

ทดลองฟรี!

เข้าใจได้ทันที NockAcademy ไลฟ์สดอันดับ 1 

โลโก้ NockAcademy

ทดลองฟรี!

เข้าใจได้ทันที NockAcademy ไลฟ์สดอันดับ 1