ถอดความหมายตัวบทเด่นใน ลิลิตตะเลงพ่าย

ลิลิตตะเลงพ่าย

สารบัญ

Add LINE friends for one click to find article. Add LINE friends for one click to find article.

ลิลิตตะเลงพ่าย เป็นวรรณคดีเรื่องดังที่มีตัวบทเด่น ๆ มากมาย สำหรับการถอดคำประพันธ์ในวันนี้เราได้คัดเลือกบทเด่น ๆ มาให้น้อง ๆ ได้เรียนกันถึง 13 บทเลยทีเดียว แต่เพราะเนื้อหาที่สนุก ภาษาที่สละสลวย รับรองว่าน้อง ๆ จะไม่มีทางเบื่อวรรณคดีเรื่องนี้แน่นอน ถ้าพร้อมแล้วเราไปเรียนความหมายของแต่ละบทพร้อมกันเลยนะคะ

ตัวบทเด่น ๆ ใน ลิลิตตะเลงพ่าย

 

บทที่ 1

ลิลิตตะเลงพ่าย

 

กล่าวถึงเหตุการณ์ทางหงสาวดี ในตอนที่พระเจ้าหงสาวดีตรัสเชิงประชดกับพระมหาอุปราชาที่กลัวการยกทัพไปรบกับไทยว่าถ้าเจ้าเกรงว่าเคราะห์ร้ายก็อย่าไปรบเลย เอาผ้าสตรีมานุ่งเถอะ จะได้หมดเคราะห์

 

บทที่ 2

ลิลิตตะเลงพ่าย

 

มาจากตอนที่พระมหาอุปราชาเสด็จไปลานางสนมซึ่งร่ำไห้คร่ำครวญและขอตามเสด็จไปด้วย พระมหาอุปราชาได้ตรัสบอกแก่นางสนมว่าหนทางนั้นลำบาก พระองค์จึงจำใจต้องจากเหล่าสนมไปในไม่ช้าก็คงจะได้กลับคืนมา

 

บทที่ 3

ลิลิตตะเลงพ่าย

 

เป็นตอนที่พระเจ้านันทบุเรงทรงให้โอวาทกับพระมหาอุปราชาว่าสงครามมีมากเล่ห์แสนกล อย่าได้ฟังความตื้นๆ อย่าทะนงตน การศึกนั้นมันซับซ้อนนัก เป็นหนึ่งในหลักการครองงาน

 

บทที่4

ลิลิตตะเลงพ่าย

 

พระเจ้านันทบุเรงทรงให้โอวาทกับพระมหาอุปราชาก่อนออกไปทำศึกสงครามว่าโบราณท่านว่าขอให้เอาใจทหาร อย่าได้ไปคบกับคนโง่คนเขลา เป็นบทที่มีคำสอนอยู่ทั้งหลักครองคนและครองตน

 

บทที่ 5

ลิลิตตะเลงพ่าย

 

โอวาทที่พระเจ้านันทบุเรงให้กับพระมหาอุปราชาว่า ขอให้รู้พยุหค่ายกลศึก วิชาการทหาร ตำราพิชัยสงคราม รู้แบบนี้แล้วก็อาจสามารถรบชนะได้ เป็นหนึ่งในหลักการครองงาน ว่าให้รู้รู้ตำราพิชัยสงคราม

 

บทที่ 6

ลิลิตตะเลงพ่าย

 

มีความหมายว่าให้รู้จักการปูนบำเหน็จความดีความชอบแก่แม่ทัพนายกองที่มีความสามารถในการปราบศัตรู จงขยันหมั่นเพียร อย่าย่อหย่อนอย่าเกียจคร้าน อยู่ในหลักครองคน ให้ปูนบำเหน็จแก่นายทหารที่มีฝีมือ และหลักครองตนที่ให้อย่าหย่อนความเพียรเพราะความเกียจคร้าน และย้ำให้ปฏิบัติตามโอวาททั้ง 8 ที่ให้ไป

 

บทที่ 7

ลิลิตตะเลงพ่าย

 

เป็นบทที่พระมหาอุปราชารำพันถึงนางสนม ทรงเห็นต้นสลัดได ก็หวนคิดถึงแต่น้องนาง ที่ต้องมารอนแรมอยู่กลางป่าก็เพราะว่าสงคราม เห็นต้นสละ ก็เหมือนที่พี่ต้องจำใจสละน้องมา เห็นต้นระกำ ก็เหมือนที่พี่ต้องระกำใจ

 

บทที่ 8

ลิลิตตะเลงพ่าย

 

เป็นบทรำพึงถึงนางของพระมหาอุปราชาต่อเนื่องจากบทที่แล้ว มีความหมายว่า ดอกสายหยุดพอสายก็หมดกลิ่น แต่ดวงใจพี่แม้ในยามสาย ไม่คลายรักน้องจะกี่คืนกี่วันที่พี่จากน้องมา พี่ก็หวนคิดถึงน้องทุกค่ำเช้า ไม่รู้จะหยุดได้อย่างไร

 

บทที่ 9

 

เป็นตอนที่พระมหาอุปราชากล่าวรำพึงรำพันขณะเดินทางไปรบเพียงลำพังโดยไม่ได้มีพระเจ้านันทบุเรงผู้เป็นบิดาตามมาด้วยทำให้หนักใจเป็นอย่างมากจึงกล่าวว่า การศึกสงครามในครั้งนี้เป็นที่หนักใจหนักหนา พระองค์ทรง หนาวเหน็บพระทัย หากต้องตายไปในสนามรบใครจะนำร่างกลับไป ศพคงจะถูกทิ้งไว้ไร้คนเผาเป็นแน่

 

บทที่ 10

 

เป็นตอนทำสงคราม ขณะสู้รบกันอยู่แล้วช้างของสมเด็จพระนเรศวรตกมัน วิ่งเข้าไปในป่าเพียงลำพัง แล้วเห็นว่าทัพของพม่ามีการจัดทัพแบบ 16 กษัตริย์ คือมีช้าง 16 เชือก เพื่อไม่ให้รู้ว่าพระมหาอุปราชาอยู่บนช้างเชือกไหน เมื่อเห็นดังนั้นพระองค์จึงทรงเร่งไสช้างตามหาพระมหาอุปราชา

 

บทที่ 11

 

เป็นตอนการสู้รบของพระนเรศวรกับพระมหาอุปราชา พระนเรศวรทรงเปรียบเทียบว่าช้างทรง ๒ ช้าง ของสมเด็จพระนเรศวรกับพระมหาอุปราชา เป็นเหมือนช้างเอราวัณซึ่งเป็นช้างทรงของพระอินทร์ และช้างคีริเมขล์ซึ่งเป็นพาหนะของวสวัตดีมารมาชนช้างกัน

 

บทที่ 12

 

เป็นของพระนเรศวรกับพระมหาอุปราชา ถอดความหมายได้ว่า สมเด็จพระนเรศวรต้านทานพระมหาอุปราชาไว้ได้ ทั้งสองพระองค์ไม่ได้ทรงยำเกรงกลัวกันเลย สมเด็จพระนเรศวรใช้พระหัตถ์ยกพระแสงของ้าวเหวี่ยงไปมา เพื่อสู้กับข้าศึก

 

บทที่ 13

 

เป็นตอนที่พระนเรศวรทำยุทธหัตถีกับพระมหาอุปราชา ในตอนที่พระนเรศวรเป็นเจ้าได้ทีจ้วงฟัน ถูกพระอังษา พระมหาอุปราชาซบลงกับคอช้าง และสิ้นพระชนม์

 

คุณค่าในลิลิตตะเลงพ่าย

 

คุณค่าของลิลิตตะเลงพ่ายนั้น มีทั้งด้านวรรณศิลป์ ที่ต้องบอกว่าลิลิตเรื่องนี้ได้รับการยกย่องว่าเป็นลิลิตที่แต่งดีที่สุด ดังนั้นภาษาที่ใช้ในบทประพันธ์จึงสละสลวย มีการให้โวหาร ภาพพจน์และการซ้ำคำอันเป็นเอกลักษณ์ ไม่เพียงเท่านั้น วรรณคดีเรื่องนี้ยังเต็มเปี่ยมไปด้วยคุณค่าด้านเนื้อหาและสังคม เพราะได้ถ่ายทอดเรื่องความเสียสละของกษัตริย์สมัยก่อนที่ได้ทำศึกเพื่อปกป้องชาติบ้านเมืองจากการรุกราน ทำให้คนรุ่นหลังได้ตระหนักและภูมิใจในความเป็นไทย

 

เป็นอย่างไรกันบ้างคะน้อง ๆ บทเด่น ๆ ในลิลิตตะเลงพ่ายนั้นดูจะมีมากกว่าวรรณคดีเรื่องที่เราได้เรียนผ่านกันมา นั่นเพราะว่าวรรณคดีเรื่องนี้ถือเป็นเรื่องดังที่ไม่ว่าจะหยิบจับบทไหนขึ้นมาพูดก็ล้วนแล้วแต่จะไพเราะและเป็นที่รู้จักไปเสียหมดเลยล่ะค่ะ จากบทเรียนที่ได้เรียนไป คงจะทำให้น้อง ๆ เห็นแล้วใช่ไหมคะว่าบทแต่ละบทนั้นมีความไพเราะแค่ไหน เป็นเรื่องราวที่เปี่ยมไปด้วยคุณค่าและข้อคิดมากมายเลยค่ะ สุดท้ายนี้น้อง ๆ สามารถตามไปดูคลิปที่ครูอุ้มได้สรุปความรู้และประเมินค่าบทประพันธ์เรื่องนี้ได้เลยนะคะ รวมไปถึงคลิปเรื่องตัวบททั้ง 2 คลิปด้วย รับรองว่าน้อง ๆ จะอ่านและแปลลิลิตตะเลงพ่ายได้หมดทุกบทเลยล่ะค่ะ

 

 

อย่าพลาดการติดตามบทความภาษาไทยจาก nockacademy

NockAcademy คือโรงเรียนออนไลน์สำหรับเด็ก โดยแอปฯ และเว็บไซต์ นักเรียนสามารถเรียนรู้ผ่านคลิปบทเรียนวิชา คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และภาษาไทย
มากไปกว่านั้น เรายังมีคอร์สเรียนออนไลน์ การสอนพิเศษ การติวนอกสถานที่โดยติวเตอร์ที่แน่นไปด้วยความรู้ อีกด้วย

Add LINE friends for one click to find article. Add LINE friends for one click to find article.
เรียนพิเศษออนไลน์ ดูได้ทั้ง 4 รายวิชา - NockAcademy

แค่ 10 นาที ก็เข้าใจได้

สามารถดูคลิปบทเรียนวิชา คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และภาษาไทย ที่มีมากกว่า 2,000+ คลิป และยังสามารถทำแบบทดสอบที่มีมากกว่า 4000+ ข้อ

แนะนำ

แชร์

ประวัติความเป็นมาของวรรณคดีคำสอน เรื่องสุภาษิตพระร่วง

สุภาษิตพระร่วง   คนไทยนิยมใช้สุภาษิตสั่งสอนลูกหลานกันมาตั้งแต่สมัยก่อนจนถึงปัจจุบัน เชื่อว่าน้อง ๆ หลายคนก็คงจะเคยได้ยินสุภาษิตกันมาไม่มากก็น้อย ดังนั้นบทเรียนในวันนี้จะพาน้อง ๆ ไปเรียนรู้ประวัติความเป็นมาของสุภาษิตพระร่วง วรรณคดีอันทรงคุณค่าและเป็นวรรณคดีเล่มแรกที่แต่งคำประพันธ์เป็นร่ายโบราณแบบร่ายสุภาพ ไปศึกษาเรื่องนี้พร้อม ๆ กันเลยค่ะ   ความเป็นมาของสุภาษิตพระร่วง     สุภาษิตพระร่วง เป็นวรรณคดีคำสอนที่ทรงคุณค่าที่มีมาอย่างยาวนาน มีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า สุภาษิตบัณฑิตพระร่วง คำว่า พระร่วง ทำให้คนเข้าใจว่าอาจจะเป็นคำสอนของกษัตริย์สักคนที่มีนามว่า พระร่วง

เรียนรู้ตัวบทเด่นของบทละครพูดคำฉันท์เรื่องดัง มัทนะพาธา

มัทนะพาธา เป็นบทละครพูดคำฉันท์ที่ประพันธ์โดยรัชกาลที่ 6 ซึ่งพระองค์ทรงคิดขึ้นเองไม่ได้แปลหรือดัดแปลงมาจากเรื่องใด จากการศึกษาความเป็นมาในบทเรียนคราวที่แล้วทำให้เราได้รู้ที่มา ลักษณะคำประพันธ์รวมไปถึงเรื่องย่อของเรื่องกันไปแล้ว บทเรียนในวันนี้เราจะศึกษาตัวบทเด่น ๆ ของเรื่องกันนะคะว่ามีบทใดที่ได้ชื่อว่าเป็นวรรคทอง ถอดความ พร้อมทั้งเรียนรู้คุณค่าของานประพันธ์ชิ้นนี้อีกด้วย ถ้าน้อง ๆ อยากรู้แล้วเราไปเรียนรู้เรื่องนี้พร้อมกันเลยค่ะ   ตัวบทเด่น ๆ ใน มัทนะพาธา     ถอดความ บทนี้เป็นคำพูดของฤษีกาละทรรศินที่กำลังอธิบายให้ศุภางค์ แม่ทัพของท้าวชัยเสนว่าเหตุใดพระฤษีจึงเห็นว่าการห้ามปรามความรักระหว่างพระชัยเสนกับมัทนาเป็นสิ่งไร้ประโยชน์ โดยบอกว่า

NokAcademy_ ม.4Gerund

Gerund

  สวัสดีค่ะนักเรียนชั้นม.4 ที่น่ารักทุกคน วันนี้เราจะไปเรียนเรื่อง “Gerund” และฝึกวิเคราะห์โจทย์ข้อสอบเข้ามหาวิทยาลัยกันจร้า พร้อมแล้วก็ไปลุยกันโลดเด้อ   ความหมายของ Gerund   อธิบายแบบง่ายๆ เลยว่า Gerund หรือ Ing-form ในบริติชอิงลิช ที่จริงแล้ว มันก็คือ คำกริยาเติม ing (V-ing) แล้วหน้าที่เป็นคำนาม ในภาษาไทยถูกนำมาใช้ในไวยากรณ์เรียกว่า กริยานาม

คำสุภาพและคำผวน

คำสุภาพ คำผวน สองขั้วตรงข้ามในภาษาไทย

คำสุภาพ และคำผวน คำสุภาพและคำผวน คือสองเรื่องในภาษาไทยที่ต่างกันสุดขั้ว ทั้งวิธีใช้ ความหมาย และความสำคัญ บทเรียนภาษาไทยวันนี้เราจะพาน้อง ๆ ไปทำความรู้จักกับทั้งคำสุภาพ และคำผวนในภาษาไทย ว่าทำไมถึงต่างกันและสามารถใช้ในโอกาสใดได้บ้าง ไปเรียนรู้เรื่องนี้พร้อม ๆ กันเลยค่ะ   ความหมายของคำสุภาพ     คำสุภาพ เป็นการเปลี่ยนแปลงการใช้คำศัพท์เดิมให้เปลี่ยนไปในทางดีขึ้น เพื่อให้ดูสุภาพมากกว่าเดิม ใช้เมื่อต้องการหลีกเลี่ยงเรียกคำที่ไม่น่าฟัง หรือใช้กับคนที่อาวุโสกว่าก็ได้ อาจเรียกอีกอย่างว่าเป็นคำราชาศัพท์

NokAcademy_บอกเวลาเป็นภาษาอังกฤษ

เรียนรู้เกี่ยวกับการบอกเวลา

Hi guys! สวัสดีค่ะนักเรียนชั้น ม.1 ที่น่ารักทุกคน วันนี้เราจะไป เรียนรู้เกี่ยวกับการบอกเวลา กันค่ะ ถ้าพร้อมแล้วก็ไปลุยกันเลย Let’s go! การแบ่งประเภท     ในบทเรียนนี้ครูขอยกตัวอย่างการบอกเวลาที่นิยมใช้กันโดยทั่วไปใน 2 รูปแบบ ตามที่มาของ Native English หรือ ภาษาอังกฤษของเจ้าของภาษา นะคะ  ดังตัวอย่างดังต่อไปนี้  

ผู้รู้ดีเป็นผู้เจริญ

ผู้รู้ดีเป็นผู้เจริญ เรียนรู้บทร้อยกรองจากพุทธศาสนสุภาษิต

สุภาษิต หมายถึงถ้อยคำที่กล่าวสืบต่อกันมาช้านาน และมีความหมายเป็นคติสอนใจ บางสุภาษิตพูดนำมาแต่งเป็นบทร้อยกรองเพื่อใช้เป็นบทอาขยานให้กับเด็ก ๆ ได้เรียน ได้ฝึกอ่าน รวมไปถึงให้เรียนรู้ข้อคิดจากสุภาษิตได้ง่ายมากขึ้น บทที่เราจะได้เรียนกันในวันนี้คือ ผู้รู้ดีเป็นผู้เจริญ จะเป็นอย่างไรบ้างนั้น ไปเรียนรู้พร้อม ๆ กันเลยค่ะ   ความเป็นมา ผู้รู้ดีเป็นผู้เจริญ     ผู้รู้ดีเป็นผู้เจริญเป็นบทร้อยกรองที่ถูกประพันธ์ขึ้นโดยพระยาอุปกิตศิลปสาร แต่งด้วยโคลงสี่สุภาพ 1 บท และกาพย์ยานี 11

Nockacademy web logo 3

ทดลองฟรี!

เข้าใจได้ทันที NockAcademy ไลฟ์สดอันดับ 1 

Nockacademy web logo 3

ทดลองฟรี!

เข้าใจได้ทันที NockAcademy ไลฟ์สดอันดับ 1