กลอนดอกสร้อยรำพึงในป่าช้า ความเป็นมาของวรรณคดีที่แปลจากภาษาอังกฤษ

กลอนดอกสร้อยรำพึงในป่าช้า

สารบัญ

Add LINE friends for one click to find article. Add LINE friends for one click to find article.

กลอนดอกสร้อยรำพึงในป่าช้า เป็นวรรณคดีที่ไทยที่ถูกแปลมาจากภาษาอังกฤษ น้อง ๆ คงจะสงสัยกันใช่ไหมคะว่าทำไมเราถึงได้เรียนวรรณคดีที่ถูกแปลจากภาษาอื่นด้วย บทเรียนในวันนี้จะพาน้อง ๆ ไปทำความรู้จักวรรณคดีที่ทรงคุณค่าอีกเรื่องหนึ่งว่ามีที่มาและเรื่องย่ออย่างไร ใครเป็นผู้แต่งในฉบับภาษาไทย ถ้าพร้อมที่จะเรียนรู้แล้วก็ไปดูกันเลยค่ะ

 

ความเป็นมา กลอนดอกสร้อยรำพึงในป่าช้า

 

กลอนดอกสร้อยรำพึงในป่าช้า

 

วรรณคดีเรื่องกลอนดอกสร้อยรำพึงในป่าช้า วรรณคดีเรื่องนี้มีที่มาจากกวีนิพนธ์อังกฤษชื่อ Elegy Written in a country churchyard ของ ธอร์มัส เกรย์ กวีชาวอังกฤษ ซึ่งประพันธ์หลังจากที่คนใกล้ชิดของกวีเสียชีวิตลงในเวลาใกล้เคียงกัน เสฐียรโกเศศได้นำมาแปลเป็นภาษาไทย โดยรำพึง ในภาษาไทยมีความหมายว่า คิดถึง ต่อมาพระยาอุปกิตศิลปสารได้นำไปประพันธ์เป็นบทร้อยกรองกลอนดอกสร้อยจำนวน 33 บท

 

กลอนดอกสร้อยรำพึงในป่าช้า

 

ประวัติผู้ประพันธ์บทร้อยกรอง พระยาอุปกิตศิลปสาร

 

พระยาอุปกิตศิลปสาร (นิ่ม กาญจนาชีวะ) เกิดวันที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2422 เป็นบุคคลสำคัญต่อวงการศึกษาไทยอย่างมาก เนื่องจากเป็นผู้แต่งตำราอักขรวิธี วจีวิภาค วากยสัมพันธ์ และฉันทลักษณ์ แต่นอกจากด้านการศึกษาแล้ว ผลงานด้านการประพันธ์ของพระยาอุปกิจศิลปสารก็ยังโดดเด่นมาก ๆ อีกด้วย ทั้งร้อยแก้วและร้อยกรอง และที่สำคัญไปกว่านั้น พระยาอุปกิตศิลปสารยังเป็นผู้บัญญัติคำทักทายที่เราใช้กันอยู่ทุกวันนี้อย่างคำว่า “สวัสดี”

 

 

ในการประพันธ์เรื่องนี้ พระยาอุปกิตศิลปสารก็ได้นำคำดั้งเดิมมาประยุกต์ให้กับความเป็นไทย เช่น

ต้นไอวี เปลี่ยนเป็น เถาวัลย์

ต้นเอล์ม เปลี่ยนเป็น ต้นโพธิ์

แมลงบีตเทิล เปลี่ยนเป็น จิ้งหรีดเรไร

 

ลักษณะคำประพันธ์

 

กลอนดอกสร้อยทั้ง 33 บทนี้ ถูกแต่งเพิ่มจากต้นฉบับภาษาอังกฤษ 1 บท ในแต่ละบทจะประกอบไปด้วยกลอนสุภาพจำนวน 2 บท หรือ 4 คำกลอน (มี 8 วรรค) แต่วรรคแรกจะมี 4-5 โดยคำที่ 2 ของวรรคแรกจะใช้คำว่า “เอ๋ย” และจบคำสุดท้ายของบทด้วยคำว่า “เอย” ลักษณะสัมผัสจะเหมือนกลอนสุภาพทุกประการ

 

 

เรื่องย่อ กลอนดอกสร้อยรำพึงในป่าช้า

 

 

บทประพันธ์กล่าวถึงบุคคลหนึ่งที่ไปนั่งอยู่ในป่าช้าในเวลาพลบค่ำ ศพในป่าช้าเป็นศพของชาวนาชาวไร่ บรรยากาศและเสียงระฆังทำให้รู้สึกวังเวง จึงรำพึงถึงวิญญาณนักรบ กวี นักการเมือง ที่ไม่ว่าจะมีสถานะหรืออาชีพที่ต่างกันอย่างไรสุดท้ายก็ต้องนอนจมใต้กองดินเหมือนกันหมด แม้จะเสียดายชีวิตแต่ก็ไม่มีใครหนีความตายพ้น

 

ถึงแม้ว่ากลอนดอกสร้อยรำพึงในป่าช้าจะเป็นวรรณคดีที่แปลมาจากภาษาต่างประเทศ แต่ผู้ประพันธ์ก็ไม่ละทิ้งความเป็นไทย เพราะเนื้อเรื่องได้ถูกปรับให้เข้ากับความเป็นไทยมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นสภาพแวดล้อมหรือบุคคล เรียกได้ว่าเป็นวรรณคดีแปลที่อ่านแล้วยังได้กลิ่นความเป็นไทยอัดแน่นอยู่ทุกตัวอักษรเลยนะคะ ก่อนจะไปศึกษาบทตัวต่อไปในเรื่องของตัวบทเด่น ๆ และคุณค่าที่อยู่ในเรื่อง น้อง ๆ อย่าลืมทบทวนความรู้ในบทนี้ควบคู่กับชมคลิปการสอนของครูอุ้มไปด้วยนะคะ

 

 

อย่าพลาดการติดตามบทความภาษาไทยจาก nockacademy

NockAcademy คือโรงเรียนออนไลน์สำหรับเด็ก โดยแอปฯ และเว็บไซต์ นักเรียนสามารถเรียนรู้ผ่านคลิปบทเรียนวิชา คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และภาษาไทย
มากไปกว่านั้น เรายังมีคอร์สเรียนออนไลน์ การสอนพิเศษ การติวนอกสถานที่โดยติวเตอร์ที่แน่นไปด้วยความรู้ อีกด้วย

Add LINE friends for one click to find article. Add LINE friends for one click to find article.
ครูผู้สอน NockAcademy

แค่ 10 นาที ก็เข้าใจได้

สามารถดูคลิปบทเรียนวิชา คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และภาษาไทย ที่มีมากกว่า 2,000+ คลิป และยังสามารถทำแบบทดสอบที่มีมากกว่า 4000+ ข้อ

แนะนำ

แชร์

โคลนติดล้อ บทความปลุกใจในรัชกาลที่ 6

เป็นที่รู้กันดีกว่าพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 ของเรานั้น ทรงโปรดงานด้านวรรณกรรมมาตั้งแต่ยังเยาว์ และเริ่มงานวรรณกรรมตั้งแต่ยังทรงศึกษาอยู่ที่ประเทศอังกฤษ ทำให้มีผลงานในพระราชนิพนธ์มากมายหลายเรื่อง และแตกต่างกันออกไป ที่ผ่านมาน้อง ๆ คงจะได้เรียนมาหลายเรื่องแล้ว บทเรียนในวันนี้ก็จะพาน้อง ๆ ไปรู้จักกับผลงานของพระองค์อีกเรื่องหนึ่ง แตกต่างจากเรื่องก่อน ๆ ที่เคยเรียนมาอย่างแน่นอน เพราะเรากำลังพูดถึงโคลนติดล้อ ผลงานในพระราชนิพนธ์ที่อยู่ในรูปแบบของบทความ จะมีที่มา มีเนื้อหาที่น่าสนใจอย่างไรบ้างนั้น เราไปติดตามกันเลยค่ะ   ที่มาของ โคลนติดล้อ

ฟังก์ชันตรีโกณมิติอื่นๆ

ฟังก์ชันตรีโกณมิติอื่นๆ

ฟังก์ชันตรีโกณมิติอื่นๆ ฟังก์ชันตรีโกณมิติอื่นๆ ในบทความนี้จะกล่าวถึงฟังก์ชันที่เป็นส่วนกลับของฟังก์ชันไซน์และโคไซน์ และฟังก์ชันที่เกิดจากการดำเนินการของค่า cosθ sinθ ซึ่งก็คือ tanθ และ cotθ นอกจากนี้ยังจะกล่าวถึงโคฟังก์ชันของฟังก์ชันตรีโกณมิติอีกด้วย ในบทความนี้สิ่งที่น้องๆต้องรู้ก็คือ วิธีการหาค่า cosθ และ sinθ จตุภาคของพิกัดจุดปลายส่วนโค้ง ซึ่งสามารถอ่านได้ตามลิงค์ด้านล่างนี้เลยค่ะ การวัดความยาวส่วนโค้ง ค่าของฟังก์ชันไซน์และโคไซน์ หลังจากที่น้องๆมีพื้นฐาน 2 เรื่องที่กล่าวมาแล้วเราจะเริ่มทำความรู้จักกับฟังก์ชันตรีโกณมิติอื่นๆกันค่ะ   ฟังก์ชันที่เป็นส่วนกลับของฟังก์ชันไซน์และโคไซน์

ข้อสอบO-Net เรื่องจำนวนจริง

ข้อสอบO-Net ข้อสอบO-Net ในบทความนี้จะคัดเฉพาะเรื่องจำนวนจริงมาให้น้องๆทุกคนได้ดูว่าที่ผ่านมาแต่ละปีข้อสอบเรื่องจำนวนจริงออกแนวไหนบ้าง โดยบทความนี้พี่ได้นำข้อสอบย้อนหลังของปี 49 ถึงปี 52 มาให้น้องๆได้ดูพร้อมเฉลยอย่างละเอียด เมื่อน้องๆได้ศึกษาโจทย์ทั้งหมดและลองฝึกทำด้วยตัวเองแล้ว น้องๆจะสามารถทำข้อสอบทั้งของในโรงเรียนและข้อสอบO-Net ได้แน่นอนค่ะ ข้อสอบO-Net เรื่องจำนวนจริง ปี 49   1.   มีค่าเท่ากับข้อในต่อไปนี้     60      

Profile Linking Verbs

มาทำความรู้จักกับ Linking Verbs ให้มากขึ้น

สวัสดีค่ะนักเรียนม.1 ที่น่ารักทุกคน วันนี้เราจะไปรู้จักกับ Linking Verbs ให้มากขึ้น แต่ก่อนอื่นไปดูความหมายของ Linking Verbs กันก่อนนะคะ ไปลุยกันเลย มาทำความรู้จักกับ Linking Verbs     Linking verbs คืออะไรกันนะ Linking แปลว่า การเชื่อม มาจากรากศัพท์ link ที่เป็นกริยาเติมด้วย

โคลงโลกนิติ ประวัติความเป็นมาและเรื่องย่อ

โคลงโลกนิติ เป็นคำโคลงที่ถูกแต่งไว้ตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา ดูจากช่วงเวลาแล้ว น้อง ๆ หลายคนคงจะสงสัยว่าเหตุใดบทประพันธ์ที่มีมาตั้งแต่ยุคก่อนโน้น ยังถูกนำมาเป็นบทเรียนให้คนรุ่นหลังสมัยนี้ศึกษาอยู่ โคลงโลกนิติเป็นบทประพันธ์แบบใด ถึงได้รับการอนุรักษ์ไว้มาอย่างยาวนาน วันนี้เรามาเรียนรู้ถึงประวัติความเป็นมาและเรื่องย่อของโคลงโลกนิติกันค่ะ โคลงโลกนิติ ประวัติและความเป็นมา โคลงโลกนิติเป็นบทประพันธ์ที่มีมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา ไม่ปรากฏนามผู้แต่งที่ชัดเจน เนื่องจากเป็นสุภาษิตเก่าที่ถูกนำมาร้อยเรียงเป็นคำโคลง ต่อมา เมื่อถึงสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงปฏิสังขรณ์วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม (วัดโพธ์) และประสงค์ให้มีการนำโคลงโลกนิติมาจารึกลงแผ่นศิลาติดไว้เป็นธรรมทาน เพื่อที่ประชาชนจะได้ศึกษาคติธรรมจากบทประพันธ์   ผู้แต่งโคลงโลกนิติ เดิมทีไม่มีปรากฏชื่อผู้แต่งที่ชัดเจนและไม่มีหลักฐานยืนว่าโคลงโลกนิติถูกแต่งขึ้นเมื่อไหร่ แต่นักวรรณคดีศึกษาคาดว่าโคลงโลกนิติแพร่หลายในสมัยกรุงศรีอยุธยา

คำซ้ำคืออะไร เรียนรู้และเข้าใจหลักการสร้างคำอย่างง่าย

  จากที่ได้เรียนเรื่องการสร้างคำประสมและคำซ้อนไปแล้ว บทเรียนหลักภาษาไทยในวันนี้จะพาน้อง ๆ ไปเรียนรู้การสร้างคำอีกหนึ่งชนิดที่สำคัญไม่แพ้สองคำก่อนหน้า นั่นก็คือ คำซ้ำ นั่นเองค่ะ คำซ้ำคืออะไร มีวิธีสร้างคำได้อย่างไรบ้าง วันนี้เราไปทำความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องนี้พร้อม ๆ กันเลยค่ะ   คำซ้ำ     คำซ้ำคืออะไร?   คำซ้ำ หมายถึง การสร้างคำขึ้นใหม่ โดยนำคำมูลซึ่งส่วนมากเป็นคำพยางค์เดียวมาซ้ำกันแล้วมีความหมายเปลี่ยนแปลงไป อาจเน้นหนักขึ้น หรือเบาลง

โลโก้ NockAcademy

ทดลองฟรี!

เข้าใจได้ทันที NockAcademy ไลฟ์สดอันดับ 1 

โลโก้ NockAcademy

ทดลองฟรี!

เข้าใจได้ทันที NockAcademy ไลฟ์สดอันดับ 1