การนำเสนอข้อมูลและแปลความหมายข้อมูลด้วยแผนภูมิแท่ง

สารบัญ

Add LINE friends for one click to find article. Add LINE friends for one click to find article.

การนำเสนอข้อมูลและแปลความหมายข้อมูลด้วยแผนภูมิแท่ง

การนำเสนอข้อมูลและแปลความหมายข้อมูลด้วยแผนภูมิแท่ง คือ การนำเสนอข้อมูลที่ได้มีการเก็บรวบรวมข้อมูลไว้โดยใช้รูปสี่เหลี่ยมมุมฉาก ซึ่งเเต่ละรูปมีความกว้างเท่ากัน เเละใช้ความสูงหรือความยาวเเสดงปริมาณของข้อมูล เเต่จุดเริ่มต้นจะต้องเริ่มในระดับเดียวกันเสมอ อาจอยู่ในเเนวตั้งหรือเเนวนอนก็ได้

การนำเสนอข้อมูลและแปลความหมายข้อมูลด้วยแผนภูมิแท่งเปรียบเทียบ คือ การนำเสนอข้อมูลโดยเปรียบเทียบข้อมูลตั้งเเต่ 2 ชุดขึ้นไปในแผนภูมิเดียวกัน โดยมีเเท่งสี่เหลี่ยมที่เเสดงข้อมูลชนิดเดียวกันอยู่ด้วยกันเป็นชุดๆ เเละมีสีหรือเเรเงาในเเท่งสี่เหลี่ยมต่างกัน เเละระบุไว้บนเเผนภูมิด้วยว่าสีหรือเเรเงานั้น ๆ เป็นข้อมูลของอะไร

ตัวอย่างของแผนภูมิเเท่งเปรียบเทียบ

ส่วนประกอบของเเผนภูมิแท่ง:
1. ชื่อแผนภูมิ
2. จำนวน
3. ชื่อรายการ
4. แท่งเเสดงข้อมูล
5. ประเภทของข้อมูล

โดยแผนภูมิด้านบนเเสดงถึงจำนวนนักเรียนที่เข้ามาใช้บริการในห้องสมุดเเบ่งกลุ่มเป็นเดือน เเละมีเเท่งเเสดงข้อมูล สีส้ม, สีเหลือง, เเละสีเขียว เเสดงข้อมูลของนักเรียนชั้น ม.1, ม.2, เเละ ม.3 ตามลำดับ ซึ่งแผนภูมิที่ได้น้อง ๆ สามารถนำไปแปลความหมายเป็นข้อมูลต่าง ๆ ได้


ตัวอย่างการเเปรความหมายเเผ่นภูมิเเท่ง

ตัวอย่างที่ 1 จากเเผนภูมิด้านบน จำนวนนักเรียนชั้น ม.3 ที่เข้ามาใช้บริการห้องสมุดในช่วงเดือนมกราคม ถึง มีนาคม มีทั้งหมดกี่คน

วิธีทำ     จากเเผนภูมิเเท่งจำนวนนักเรียนชั้น ม.3 (เเท่งสีเขียว) ที่เข้ามาใช้บริการห้องสมุดตั้งเเต่เเต่เดือน มกราคม ถึง เมษายน มีค่าเท่ากับ
= จำนวนนักเรียนชั้น ม.3 เดือนมกราคม  + เดือนกุมภาพันธ์ + เดือนมีนาคม + เดือนเมษายน
= 400 + 500 + 600 + 500

ตอบ ทั้งหมด 2,000 คน

ตัวอย่างที่ 2 จากเเผนภูมิด้านบน เดือนที่มีจำนวนนักเรียนเข้ามาใช้บริการมากที่สุด คือเดือนอะไร เเละจำนวนเท่าใด

วิธีทำ     จากเเผนภูมิเเท่งจำนวนนักเรียนที่เข้ามาใช้บริการในเเต่ละเดือนมีดังนี้
เดือนมกราคม      จำนวนนักเรียนชั้น ม.1 + ม.2 + ม.3 = 100 + 200 + 400  = 700 คน
เดือนกุมภาพันธ์   จำนวนนักเรียนชั้น ม.1 + ม.2 + ม.3 = 400 + 300 + 500 = 1,200 คน
เดือนมีนาคม        จำนวนนักเรียนชั้น ม.1 + ม.2 + ม.3 = 350 + 200 + 600 = 1,150 คน
เดือนเมษายน      จำนวนนักเรียนชั้น ม.1 + ม.2 + ม.3 = 600 + 550 + 500 = 1,650 คน

ตอบ เดือนเมษายน จำนวน 1,650 คน

ตัวอย่างที่ 3 จากเเผนภูมิด้านบน จำนวนนักเรียนชั้น ม.2 ที่เข้ามาใช้บริการห้องสมุดในเดือนกุมภาพันธ์มีจำนวนมากกว่าหรือน้อยกว่าเดือนมีนาคมเท่าใด

วิธีทำ     จากเเผนภูมิเเท่งจำนวนนักเรียนชั้นม.2 (เเท่งสีเหลือง) ที่เข้ามาใช้บริการห้องสมุดในเดือนกุมภาพันธ์ทั้งหมด 300 คน เเละในเดือนมีนาคมทั้งหมด 200 คน
ดังนั้น   จำนวนนักเรียนในเดือนกุมภาพันธ์ – จำนวนนักเรียนในเดือนมีนาคม        = 300 – 200 คน

  = 100 คน

ตอบ มีจำนวนมากกว่าทั้งหมด 100 คน

ตัวอย่างที่ 4 จากเเผนภูมิด้านบน ตั้งเเต่เดือนมกราคม ถึง เมษายน จำนวนเฉลี่ยของนักเรียนชั้น ม.1 ที่เข้ามาใช้บริการห้องสมุดในเเต่ละเดือนเป็นเท่าใด

วิธีทำ     จากแผนภูมิเเท่ง จำนวนนักเรียนชั้น ม.1 (เเท่งสีส้ม) ที่เข้ามาใช้บริการห้องสมุดในเเต่ละเดือนมีจำนวนดังนี้
เดือนมกราคม               จำนวน 100 คน
เดือนกุมภาพันธ์           จำนวน 400 คน
เดือนมีนาคม                 จำนวน 350 คน
เดือนเมษายน               จำนวน 600 คน

โดยทั้ง 4 เดือน มีจำนวนนักเรียนที่เข้ามาใช้บริการทั้งหมดรวมกัน = 100 + 400 + 350 + 600 = 1450 คน
ดังนั้น จำนวนเฉลี่ยของนักเรียนชั้น ม.1 มีค่า       =    จำนวนทั้งหมดรวมกัน/จำนวนเดือน

=     1,450 คน/4 เดือน

=     362.5 คน/เดือน

ตอบ จำนวนเฉลี่ยของนักเรียนชั้น ม.1 ที่เข้าใช้บริการห้องสมุดมีค่าเท่ากับ 362.5 คน/เดือน

ตัวอย่างที่ 5 จากเเผนภูมิเเท่งด้านบน จำนวนนักเรียนชั้น ม.3 มีจำนวนเป็นร้อยละเท่าใดของจำนวนนักเรียนทั้งหมดที่มาใช้บริการในเดือนมีนาคม

วิธีทำ     จากตัวอย่างที่ 2 จำนวนนักเรียนทั้งหมดที่ใช้บริการห้องสมุดในเดือนมีนาคมมีจำนวน 1150 คน
เเละจำนวนนักเรียนชั้น ม.3 ที่มาใช้บริการห้องสมุดในเดือนมีนาคมมีจำนวน 600 คน
ดังนั้น ร้อยละของจำนวนนักเรียนชั้น ม.3 ต่อจำนวนนักเรียนทั้งหมดที่มาใช้บริการในเดือนมีนาคมมีค่า
= (จำนวนนักเรียนชั้น ม.3/จำนวนนักเรียนทั้งหมด) x 100
= (600/1150) x 100
= 52.17
ตอบ ร้อยละ 52.17 ของนักเรียนทั้งหมดที่มาใช้บริการในเดือนมีนาคม

เมื่อเราเเปลความหมายข้อมูลได้ เราสามารถนำข้อมูลต่าง ๆ มาวิเคราะห์ต่อไปในด้านอื่น ๆ ได้เพื่อต่อยอดหรือเเก้ไขปัญหาต่างๆ ด้วยการตั้งคำถามง่าย ๆ เช่น  ทำไมช่วงเดือนเมษายนจึงมีนักเรียนเข้าใช้บริการห้องสมุดเยอะที่สุด อาจเป็นเพราะว่าใกล้ช่วงสอบนักเรียนจึงเข้าไปใช้บริการห้องสมุดเยอะ อาจจะเกิดปัญหาเก้าอี้ไม่พอในอนาคตได้ ดังนั้นทางห้องสมุดอาจจะเเก้ไขปัญหาด้วยการ เพิ่มจำนวนโต๊ะเเละเก้าอี้เพื่อให้มีที่นั่งเพียงพอกับนักเรียนที่เข้ามาใช้บริการ

บทความนี้ได้รวบรวมเนื้อหาของ การนำเสนอข้อมูลและแปลความหมายข้อมูลด้วยแผนภูมิแท่ง จะเห็นได้ว่ามีส่วนสำคัญในการเเก้ปัญหาที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้ หากวิเคราะห์ข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ในส่วนของการสร้างเเผนภูมิเเท่งเเละตัวอย่างการเเปรความหมายน้อง ๆ สามารถศึกษาเพิ่มเติมได้จากวิดีโอนี้


คลิปวิดีโอ การนำเสนอข้อมูลเเละการเเปรความหมายข้อมูลด้วยเเผนภูมิเเท่ง

คลิปวิดีโอนี้ได้รวบรวมวิธี การนำเสนอข้อมูลและแปลความหมายข้อมูลด้วยแผนภูมิแท่ง ไว้อย่างละเอียด ซึ่งเป็นคลิปสั้นๆ ที่สามารถเข้าใจได้ง่าย แฝงไปด้วยความรู้ เเละเทคนิครวมถึงการอธิบาย ตัวอย่าง เเละสอนวิธีคิดที่จะทำให้วิชาคณิตศาสตร์เป็นเรื่องง่าย

NockAcademy คือโรงเรียนออนไลน์สำหรับเด็ก โดยแอปฯ และเว็บไซต์ นักเรียนสามารถเรียนรู้ผ่านคลิปบทเรียนวิชา คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และภาษาไทย
มากไปกว่านั้น เรายังมีคอร์สเรียนออนไลน์ การสอนพิเศษ การติวนอกสถานที่โดยติวเตอร์ที่แน่นไปด้วยความรู้ อีกด้วย

Add LINE friends for one click to find article. Add LINE friends for one click to find article.
ครูผู้สอน NockAcademy

แค่ 10 นาที ก็เข้าใจได้

สามารถดูคลิปบทเรียนวิชา คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และภาษาไทย ที่มีมากกว่า 2,000+ คลิป และยังสามารถทำแบบทดสอบที่มีมากกว่า 4000+ ข้อ

แนะนำ

แชร์

Daily Conversation P6

บทสนทนาในชีวิตประจำวันที่ควรรู้

  สวัสดีค่ะนักเรียนป. 6 ที่รักทุกคน เมื่อก่อนการคุยกันผ่านออนไลน์ยังไม่ค่อยเป็นที่นิยมเท่าในปัจจุบันที่เราหลีกเลี่ยงไม่ได้เลยในสถานการณ์ยุคโควิด เป็นเรื่องที่น่าเศร้าเวลาที่เราออกไปไหนไม่ได้ บทสนทนาออนไลน์จึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างมากแต่ไม่ค่อยมีใครพูดถึงสักเท่าไหร่ วันนี้ครูจะพาไปดูบทสนทนาที่อัพเดทแล้วในปัจจุบันรวมทั้งประโยคและวลีที่เราเจอบ่อยในชีวิตประจำวันทั้งชีวิตจริงและบนโลกออนไลน์กันค่ะ ไปลุยกันเลยค่า      การเริ่มบทสนทนากับคนที่เราไม่เคยรู้จักกันมาก่อนเลย     Hi/ Hello/ Is that …? = สวัสดี ที่นั่น ..(เบอร์/ สถานที่)… ใช่ไหม

พันธกิจของภาษา

พันธกิจของภาษา ความสำคัญและอิทธิพลของภาษาที่มีต่อมนุษย์

ภาษาที่มนุษย์ใช้กันอยู่ทุกวันนี้ไม่เพียงแต่เป็นเครื่องมือสื่อสาร แต่ยังเป็นเครื่องมือสื่อความหมาย ความต้องการ และความคิดของคน บทเรียนภาษาไทยในวันนี้จะพาน้อง ๆ ไปเรียนรู้เรื่อง พันธกิจของภาษา พร้อมความสำคัญและอิทธิพลของภาษาที่มีต่อมนุษย์ จะเป็นอย่างไรบ้างนั้นเราไปดูพร้อม ๆ กันเลยค่ะ   พันธกิจของภาษา   พันธกิจของภาษาคืออะไร?   พันธกิจของภาษา หมายถึง ประโยชน์หรือความสำคัญของภาษา ซึ่งประกอบไปด้วยความสำคัญหลัก ๆ ดังนี้ 1. ภาษาช่วยธำรงสังคม

เพลงพื้นบ้าน เรียนรู้วิถีชีวิตของผู้คนในอดีตผ่านบทเพลง

ในอดีตประเทศไทยจัดว่าเป็นประเทศที่มีความอุดมสมบูรณ์มาก ประชาชนมีชีวิตที่สุขสบาย เมื่อมีเวลาว่างก็มักรวมตัวกันในชุมชนเพื่อร้องรำทำเพลง เล่นกันสนุกสนาน หรือในงานเทศกาลต่าง ๆ บทเพลงที่ใช้ร้องเล่นกันนั้นเรียกว่า เพลงพื้นบ้าน ซึ่งมีลักษณะที่แตกต่างกันไปแล้วแต่ท้องถิ่น บทเรียนในวันนี้เราจะไปพาน้อง ๆ ไปเรียนรู้เกี่ยวกับเรื่องของเพลงพื้นบ้านในแต่ละถิ่นของประเทศไทยกันว่าจะมีอะไรบ้าง ถ้าพร้อมแล้วไปดูกันเลยค่ะ   เพลงพื้นบ้าน   เพลงพื้นบ้าน หมายถึง เพลงของชาวบ้านในท้องถิ่นต่าง ๆ ซึ่งในแต่ละท้องถิ่นจะมีการร้องเล่นที่แตกต่างกันออกไปตามสภาพของท้องถิ่นนั้น ๆ นิยามเล่นกันในเทศกาลต่าง ๆ หรืองานที่มาร่วมรื่นเริงกัน

คติธรรมในสำนวนไทย

คติธรรม หมายถึง ธรรมที่เป็นแบบอย่าง เป็นวัฒนธรรมที่เกี่ยวกับหลักการดำเนินชีวิตซึ่งได้มาจากหลักธรรมทางพระพุทธศาสนาหรืออาจเรียกได้ว่าเป็นวัฒนธรรมทางจิตใจอย่างหนึ่งที่คนไทยให้ความสำคัญอย่างมากและมักจะถูกสอดแทรกอยู่ในสื่อต่าง ๆ เพื่อปลูกฝังเด็กรุ่นใหม่ให้มีคติธรรมประจำใจ ไม่ว่าจะเป็นนิทานหรือสำนวนไทย สำหรับบทเรียนในวันนี้เราจะพาน้อง ๆ ไปเรียนรู้เรื่อง คติธรรมในสำนวนไทย มาดูกันค่ะว่าจะมีอะไรบ้าง   สำนวนที่เกี่ยวกับคติธรรม   สำนวนไทยถือเป็นภูมิปัญญาในการใช้ภาษาไทยอีกรูปแบบหนึ่ง เป็นถ้อยคำที่มิได้มีความหมายตรงไปตรงมาตามตัวอักษร หรือแปลตามรากศัพท์ แต่เป็นถ้อยคำที่มีความหมายเป็นอย่างอื่น ชวนให้ผู้อ่านได้คิด มีรูปแบบการใช้ภาษาที่ต้องผ่านการเรียบเรียงถ้อยคำ การรวมข้อความยาว ๆ ให้สั้น โดยนำถ้อยคำเพียงไม่กี่คำมาเรียงร้อย

อัตราส่วนของจำนวนหลายๆ จำนวน

อัตราส่วนของจำนวนหลายๆ จำนวน

ในบทความนี้เราจะได้เรียนรู้หลักการเขียนอัตราส่วนแทนการเปรียบเทียบปริมาณของสิ่งต่างๆที่มากกว่า 2 สิ่งขึ้นไปได้ โดยใช้ความรู้เกี่ยวกับอัตราส่วนของจํานวนหลายๆจํานวนในการแก้ปัญหาหรือสถานการณ์ต่าง ๆได้

Direct Object

Direct and Indirect Objects

สวัสดีน้องๆ ม. 5 ทุกคนนะครับ วันนี้เราจะมาทำความเข้าใจเรื่อง Direct และ Indirect Objects กันครับว่าคืออะไร ถ้าพร้อมแล้วไปดูกันเลย

โลโก้ NockAcademy

ทดลองฟรี!

เข้าใจได้ทันที NockAcademy ไลฟ์สดอันดับ 1 

โลโก้ NockAcademy

ทดลองฟรี!

เข้าใจได้ทันที NockAcademy ไลฟ์สดอันดับ 1