โจทย์ปัญหาการวัด ม.2

ในบทความนี้เราจะได้เรียนรู้ตัวอย่างโจทย์การแปลงหน่วย และหาพื้นที่ของรูปเรขาคณิตต่างๆ พร้อมทั้งเรียนรู้การใช้สูตรที่เร็วขึ้น

สารบัญ

Add LINE friends for one click to find article. Add LINE friends for one click to find article.

การวัดพื้นที่ของรูปเรขาคณิตต้องรู้จักหน่วยทุกแบบล้วนเพราะจำเป็นต่อ การซื้อ – ขาย การก่อสร้าง ไปจนถึงการใช้ชีวิตประจำวัน ซึ่งแต่ละแบบก็มีวิธีแปลงหน่วยพื้นที่แตกต่างกันออกไป ลองมาทำความรู้จักกับหน่วยวัดพื้นที่และการแปลงหน่วย รวมทั้งที่โจทย์ปัญหาการวัดพื้นที่ด้วยวิธีง่ายๆที่จะมาช่วยคำนวณได้เร็วขึ้น

โจทย์ปัญหาการวัดพื้นที่

ข้อสังเกต  1. รูปสี่เหลี่ยมด้านขนานที่มีฐานเท่ากันและความสูงเท่ากัน จะมีพื้นที่เท่ากันเสมอ

การวัดพื้นที่

จากรูปจะได้ว่า

พื้นที่ DABCD = พื้นที่ DABEF = พื้นที่ DABHG = พื้นที่ CABXY

  1. รูปสามเหลี่ยมที่มีฐานยาวเท่ากันกับฐานของรูปสี่เหลี่ยมด้านขนาน และมีความสูงเท่ากับความสูงของรูปสี่เหลี่ยมด้านขนาน พื้นที่ของรูปสามเหลี่ยมจะเป็นครึ่งหนึ่งของรูปสี่เหลี่ยม
  2. รูปสี่เหลี่ยมที่เกิดจากการต่อจุดกึ่งกลางของด้านทั้งสี่ของรูปสี่เหลี่ยมด้านขนานหรือรูปสี่เหลี่ยมมุมฉากจะมีพื้นที่เป็นครึ่งหนึ่งของรูปเดิม

ตัวอย่างที่ 1 รูปสี่เหลี่ยมด้านขนานรูปหนึ่งมีฐานยาว a  หน่วยและความสูง b หน่วย ถ้าเพิ่มฐานขึ้นอีก 25% และลดความสูงลง 25% พื้นที่ใหม่จะเป็นเศษส่วนเท่าไรของพื้นที่รูปเดิม

วัดพื้นที่

ตัวอย่างที่ 2  ABCDE เป็นที่ดินแปลงหนึ่ง ซึ่งต้องการขายในราคาตารางเมตรละ 1,000 บาท และจากการวัดความยาวของส่วนต่างๆ ดังรูป เจ้าของที่ขายที่ดินแปลงนี้ได้เงินเท่าไร

ตัวอย่างการหาพื้นที่

ตัวอย่างที่ 3 พิกุลมีที่ดินแปลงหนึ่งมีเนื้อที่ 2 ไร่ 150 ตารางวา ปลูกบ้านในเนื้อที่รูปสี่เหลี่ยมผืนผ้ากว้าง 20 เมตร ยาว 50 เมตรจะเหลือเนื้อที่กี่ตารางวา

การวัดม.2

ตัวอย่างที่ 4 สนามแห่งหนึ่งเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้ามีพื้นที่ 2 ไร่ 140 ตารางวามีด้านกว้างยาว 20 วา ถ้าต้องการซื้อลวดหนามมาล้อมสนามแห่งนี้ ลวดหนามที่ใช้ขึง 1 รอบจะมีความยาวอย่างน้อยที่สุดกี่เมตร

พื้นที่สี่เหลี่ยม

ตัวอย่างที่ 5 สระว่ายน้ำแห่งหนึ่งกว้าง 20 เมตร ยาว 30 เมตร ลึก 2 เมตร ต้องการปูด้วยกระเบื้องขนาด 10 x 10 ตารางเซนติเมตร จะต้องใช้กระเบื้องอย่างน้อยที่สุดกี่แผ่น

พื้นที่ผิว

คลิปตัวอย่างโจทย์ปัญหาการวัดพื้นที่

NockAcademy คือโรงเรียนออนไลน์สำหรับเด็ก โดยแอปฯ และเว็บไซต์ นักเรียนสามารถเรียนรู้ผ่านคลิปบทเรียนวิชา คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และภาษาไทย
มากไปกว่านั้น เรายังมีคอร์สเรียนออนไลน์ การสอนพิเศษ การติวนอกสถานที่โดยติวเตอร์ที่แน่นไปด้วยความรู้ อีกด้วย

Add LINE friends for one click to find article. Add LINE friends for one click to find article.
ครูผู้สอน NockAcademy

แค่ 10 นาที ก็เข้าใจได้

สามารถดูคลิปบทเรียนวิชา คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และภาษาไทย ที่มีมากกว่า 2,000+ คลิป และยังสามารถทำแบบทดสอบที่มีมากกว่า 4000+ ข้อ

แนะนำ

แชร์

การแยกตัวประกอบ

การแยกตัวประกอบ

การแยกตัวประกอบ การแยกตัวประกอบ ของจำนวนนับใด หมายถึง การเขียนจำนวนนับนั้นในรูปการคูณของ ตัวประกอบเฉพาะ  ซึ่งในบทความนี้ได้นำเสนอวิธีการ รวมถึง โจทย์การแยกตัวประกอบ ไว้มากมาย น้องๆสามารถศึกษาเรียนรู้ได้ดวยตนเองโดยที่มีวิธีการแยกตัวประกอบ 2 วิธี ดังนี้ การแยกตัวประกอบ  โดยการคูณ  การแยกตัวประกอบ  โดยการหาร (หารสั้น)         ก่อนอื่นน้องๆมาทบทวน ความหมายของตัวประกอบและจำนวนเฉพาะ

วิชชุมมาลาฉันท์

เรียนรู้การแต่ง วิชชุมมาลาฉันท์ 8 ฉันท์ที่เปล่งสำเนียงยาวดุจสายฟ้า

ฉันท์ คือ ลักษณะถ้อยคำที่กวีได้ประพันธ์ขึ้นเพื่อให้เกิดความไพเราะ โดยกำหนดครุ ลหุ และสัมผัสไว้เป็นมาตรฐาน มีด้วยกันมากมายหลายชนิด จากที่บทเรียนครั้งก่อนเราได้เรียนรู้เกี่ยวกับที่มาและพื้นฐานการแต่งฉันท์ไปแล้ว บทเรียนในวันนี้เราจะมาเจาะลึกให้ลึกขึ้นไปอีกด้วยการฝึกแต่ง วิชชุมมาลาฉันท์ 8 กันค่ะ ฉันท์ประเภทนี้จะเป็นอย่างไร ทำไมถึงเป็น 8  ถ้าพร้อมแล้วเราไปเรียนรู้พร้อมกันเลยค่ะ   คำประพันธ์ประเภท ฉันท์   ฉันท์ในภาษาไทยได้แบบแผนมาจากอินเดีย ในสมัยพระเวท แต่ลักษณะฉันท์ในสมัยพระเวทไม่เคร่งครัดเรื่องครุ ลหุ นอกจากจะบังคับเรื่องจำนวนคำในแต่ละบท

M2 V. to be + ร่วมกับ Who WhatWhere + -Like + infinitive

การใช้ V. to be ร่วมกับ Who/ What/Where และ Like +V. infinitive

สวัสดีค่ะนักเรียนชั้นม.2 ทุกคน วันนี้เราจะไปเรียนรู้เรื่อง การใช้ V. to be + ร่วมกับ Who/ What/Where + -Like + infinitive ซึ่งเป็นโครงสร้างที่สับสนบ่อย แต่ที่จริงแล้วง่ายมากๆ ไปลุยกันเลยจ้า Let’s go ความหมาย    Verb to be

Imperative for Advice

Imperative for Advice: การให้คำแนะนำ

สวัสดีน้องๆ ป. 6 ทุกคนนะครับ วันนี้เราจะมาเรียนเรื่องง่ายๆ อย่าง Imperative for Advice กัน จะง่ายขนาดไหนเราลองไปดูกันเลยครับ

เทคนิคอ่านจับใจความ Skim and Scan

เทคนิคอ่านเร็วจับใจความในภาษาอังกฤษ (Skimming and Scanning)

เคยเป็นมั้ยว่าเจอบทความภาษาอังกฤษทีไร ปวดหัวทุกที ทั้งเยอะและยาว เมื่อไหร่จะอ่านจบกว่าจะตอบได้หมดเวลากันพอดี สวัสดีค่ะนักเรียนชั้นม.1 ทุกคน วันนี้ครูจะพาไปดูเทคนิคการอ่านเพื่อจับใจความสำคัญ โดยใช้วิธีการที่เรียกว่า อ่านแบบเร็ว (จ๊วด …) หรือ Speed Reading (ภาษาอีสาน จ๊วด แปลว่า เร็วเหมือนเสียงปล่อยจรวด) ถ้าเราสามารถอ่านได้เร็วเหมือนจรวดคงเป็นสิ่งที่ดีมาก ไปจ๊วดกันเลยกับเทคนิคอ่านเร็วทุกคน ก่อนอื่นจะต้องรู้จักกับประเภทของ Speed Reading กันก่อนค่ะ การอ่านแบบจับใจความสำคัญส่วนใหญ่แล้วเราจะเจอ

การเขียนจำนวนในรูปสัญกรณ์วิทยาศาสตร์

การเขียนจำนวนในรูปสัญกรณ์วิทยาศาสตร์

การเขียนจำนวนในรูปสัญกรณ์วิทยาศาสตร์ บทความนี้ได้รวมรวมเนื้อหาและตัวอย่างเกี่ยวกับ การเขียนจำนวนในรูปสัญกรณ์วิทยาศาสตร์ ไว้อย่างหลากหลายและแสดงวิธีทำอย่างละเอียด  แต่ก่อนที่น้องๆจะได้เรียนรู้เรื่องนี้น้องสามารถทบทวน การเขียนเลขยกกำลังที่มีเลขชี้กำลังเป็นจำนวนเต็มบวก และ การคูณเลขยกกำลัง เมื่อเลขชี้กำลังเป็นจำนวนเต็มบวก (กดลิ้งค์ที่ข้อความได้เลยค่ะ)  ซึ่งจะทำให้น้องๆ ได้เรียนรู้เรื่องต่างๆอย่างง่ายดาย ซึ่งได้นำเสนออกมาในรูปแบบที่เข้าใจง่าย ทำให้น้องๆสนุกกับการเรียนคณิตศาสตร์ ฝึกการเขียนจำนวนในรูปเลขยกกำลังที่มีฐานเป็น 10 ดังนี้ 10 = 10 = 10¹ 100 = 10

โลโก้ NockAcademy

ทดลองฟรี!

เข้าใจได้ทันที NockAcademy ไลฟ์สดอันดับ 1 

โลโก้ NockAcademy

ทดลองฟรี!

เข้าใจได้ทันที NockAcademy ไลฟ์สดอันดับ 1