การบวก ลบ คูณ หารจำนวนเต็ม

ารบวก-ลบ-คูณ-หารจำนวนเต็ม

สารบัญ

Add LINE friends for one click to find article. Add LINE friends for one click to find article.

บทความนี้จะทำให้น้องๆ มีความรู้ความเข้าใจในเรื่อง การบวก ลบ คูณ หารจำนวนเต็ม มากยิ่งขึ้น ซึ่งได้รวบรวมตัวอย่างไว้อย่างหลากหลายและอธิบายไว้อย่างละเอียด โดยก่อนที่น้องๆจะเรียนเรื่องนี้จะต้องเรียนรู้เรื่อง จำนวนตรงข้าม และ ค่าสัมบูรณ์ เพื่อใช้ในการบวก ลบ จำนวนเต็ม ซึ่งมีวิธีการดังตัวอย่างต่อไปนี้

การบวกจำนวนเต็ม

การบวกจำนวนเต็มบวก โดยใช้ค่าสัมบูรณ์ ให้น้องๆทบทวนการหาค่าสัมบูรณ์ ดังนี้

|-12|=   12

|4|=   4

เนื่องจาก   ค่าสัมบูรณ์ของจำนวนเต็มบวก และ จำนวนเต็มลบ ถอดค่าสมบูรณ์ได้ จำนวนเต็มบวก เสมอ               

การบวกจำนวนเต็มบวกด้วยจำนวนเต็มบวก          

ตัวอย่างที่ 1   จงหาผลบวกของจำนวนต่อไปนี้

1)   3 + 4

วิธีทำ      3 + 4 = | 3 | + | 4 |

      = 3 + 4

      = 7

ตอบ   7

2)   3 + 9

วิธีทำ      3 + 9  = | 3 | + | 9 |

       = 3 + 9

       = 12

ตอบ  12

        การบวกจำนวนเต็มบวกด้วยจำนวนเต็มบวก ทำได้โดยการนำค่าสัมบูรณ์มาบวกกัน  ผลลัพธ์ที่ได้เป็นจำนวนเต็มบวก

การบวกจำนวนเต็มลบด้วยจำนวนเต็มลบ

ตัวอย่างที่ 2   จงหาผลบวกของจำนวนต่อไปนี้  

1)   (-3) + (-4)  

วิธีทำ (-3) + (-4) = -7

ตอบ  -7

2)  (-4) + (-1)

วิธีทำ  (-4) + (-1)  =  -5

ตอบ   -5

          การบวกจำนวนเต็มลบกับจำนวนเต็มลบ  ผลลัพธ์ที่ได้เป็นจำนวนเต็มลบ

การบวกจำนวนเต็มบวกด้วยจำนวนเต็มลบ 

ตัวอย่างที่ 3  จงหาผลบวกของจำนวนต่อไปนี้

1)   6 + (-4)  

วิธีทำ   6 + (-4) = 2

ตอบ   2

2)   2 + (-6)

วิธีทำ  2 + (-6) = -4

ตอบ   -4

3)   3 + (-2)

วิธีทำ  3 + (-2) = 1

ตอบ   1

4)   7 + (-5)

วิธีทำ  7 + (-5) = 2

ตอบ   2

การบวกจำนวนเต็มลบด้วยจำนวนเต็มบวก 

ตัวอย่างที่ 4  จงหาผลบวกของจำนวนต่อไปนี้

1)   (-2) + 5

วิธีทำ   (-2) + 5 = 3

ตอบ   3

2)  (-5) + 3

วิธีทำ   (-5) + 3 = -2

ตอบ   -2

3)  (-7) + 5

วิธีทำ   (-7) + 5 = -2

ตอบ   -2

4)  (-4) + 10

วิธีทำ   (-4) + 10 = 6

ตอบ   6

          การบวกจำนวนเต็มบวกกับจำนวนเต็มลบ ทำได้โดยการนำจำนวนที่มีค่าสัมบูรณ์มากกว่าเป็นตัวตั้ง แล้วลบด้วยจำนวนที่มีค่าสัมบูรณ์น้อยกว่า ผลลัพธ์ที่ได้เป็นจำนวนเต็มบวกหรือจำนวนเต็มลบตามจำนวนที่มีค่าสัมบูรณ์มากกว่า

การลบจำนวนเต็ม

การลบจำนวนเต็มคือการบวกด้วยจำนวนตรงข้าม เช่น จำนวนตรงข้ามของ 2 คือ -2 , จำนวนตรงข้ามของ 8 คือ -8

ตัวอย่างที่ 5  จงหาผลลบของจำนวนต่อไปนี้

1)   7 – 12

วิธีทำ   7 – 12  =  7 + (-12)

                      =  -5

ตอบ       -5

2)  (-8) – 2

วิธีทำ    (-8) – 2  =  (-8) + (-2)

                         =  -10    

ตอบ       -10

3)   3 – (-5)

วิธีทำ    3 – (-5)       =  3 + 5

                               =  8

ตอบ       8

4)   (-3) – (-8)

วิธีทำ      (-3) – (-8)   =   (-3) + 8

                                =   5    

ตอบ       5

5)   8 – 5

วิธีทำ    8 – 5  =  8 + (-5)

                     =     3

ตอบ       3

6)   (-9) – 4

วิธีทำ        (-9) – 4   =  (-9) + (-4)

                              =  -13    

ตอบ       -13

7)   6 – (-4)

วิธีทำ    6 – (-4)       =  6 + 4

                               =  10

ตอบ       10

8)   (-8) – (-2)

วิธีทำ        (-8) – (-2)   =   (-8) + 2

                                  =   -6    

ตอบ       -6

9)   (-8) – 4

วิธีทำ   (-8) – 4  =  (-8) + (-4)

                         =  -12

ตอบ      -12

10)   (-9) – (-3)

วิธีทำ   (-9) – (-3)  =  (-9) + 3

                             =  -6

ตอบ      -6

การคูณจำนวนเต็ม

การคูณจำนวนเต็มบวกด้วยจำนวนเต็มบวก

ตัวอย่างที่ 6  จงหาผลคูณของจำนวนเต็มต่อไปนี้

1)   3 x 2  

วิธีทำ        3 x 2  =   | 3 | x | 2 |

                         =   3 x 2

                         =   6

ตอบ     6

2)   4 x 7  

วิธีทำ        4 x 7  =   | 4 | x | 7 |

                         =   4 x 7

                         =   28

ตอบ     28

3)   4 x 10

วิธีทำ       4 x 10  =   | 4 | x | 10 |

                         =   4 x 10

                         =   40

ตอบ     40

4)   6 x 9  

วิธีทำ  6 x 9  =   | 6 | x | 9 |

                         =   6 x 9

                         =   54

ตอบ     54

       การคูณจำนวนเต็มบวกด้วยจำนวนเต็มบวก  คำตอบที่ได้เป็นจำนวนเต็มบวกที่มี  ค่าสัมบูรณ์เท่ากับผลคูณของค่าสัมบูรณ์ของสองจำนวนนั้น (บวกคูณบวกได้บวก)

การคูณจำนวนเต็มลบด้วยจำนวนเต็มลบ

ตัวอย่างที่ 7  จงหาผลคูณของจำนวนเต็มต่อไปนี้

1)   (-2)(-5) = 0

วิธีทำ   (-2)(-5)  =   | -2 | x | -5 |

                         =   2 x 5

                         =   10

ตอบ     10

(2)  (-7)(-3) = 0

วิธีทำ       (-7)(-3)   =  | -7 | x | -3 |

                              =   7 x 3

                              =   21

ตอบ     21

       การคูณจำนวนเต็มลบด้วยจำนวนเต็มลบ คำตอบที่ได้เป็นจำนวนเต็มบวกที่มี  ค่าสัมบูรณ์เท่ากับผลคูณของค่าสัมบูรณ์ของสองจำนวนนั้น (ลบคูณลบได้บวก)

ตัวอย่างที่ 8  จงหาผลลัพธ์ของจำนวนต่อไปนี้

1)   [(-2)(4)](-9) 

วิธีทำ   [(-2)(4)](-9)  =  (-8) (-9)

                                =   72

ตอบ     72

2)    [ 5(-7)] 6 

วิธีทำ     [ 5(-7)]6   =  (-35) 6

                              =    -210

ตอบ     -210

3)   [ 2(-5)](-4) 

วิธีทำ     [ 2(-5)](-4)  =   (-10) (-4)

                                 =   40

ตอบ     40

4)   9[ (-5)(-4)]  

วิธีทำ   9[(-5)(-4)]   =  9 x 20

                               =   180

ตอบ     180

การหารจำนวนเต็ม

ตัวอย่างที่ 9  จงหาผลหารของจำนวนเต็มต่อไปนี้

1)   36 ÷ 6

หาจำนวนเต็มที่คูณกับ 6 แล้วได้ 36

เนื่องจาก 6 x 6 = 36 

ดังนั้นจำนวนที่ต้องการคือ 6

นั่นคือ 36 ÷ 6 = 6

2)   (-54) ÷ (-9)

หาจำนวนเต็มที่คูณกับ -9 แล้วได้ -54

เนื่องจาก (-9) x 6 = -54 

ดังนั้นจำนวนที่ต้องการคือ 6

นั่นคือ (-54) ÷ (-9) = 6

         การหารจำนวนเต็ม เมื่อตัวตั้งและตัวหารเป็นจำนวนเต็มบวกทั้งคู่ หรือจำนวนเต็มลบทั้งคู่ จะได้คำตอบเป็นจำนวนเต็มบวก (ลบหารด้วยลบ หรือ บวกหารด้วยบวก ได้บวกเสมอ)

ตัวอย่างที่ 10  จงหาผลหารของจำนวนเต็มต่อไปนี้

1)   72 ÷ (-9)

หาจำนวนเต็มที่คูณกับ -9 แล้วได้ 72

เนื่องจาก (-9) x (-8) = 72 

ดังนั้นจำนวนที่ต้องการคือ -8

นั่นคือ 72 ÷ (-9) = -8

2)   (-36) ÷ 6

หาจำนวนเต็มที่คูณกับ 6 แล้วได้ -36

เนื่องจาก 6 x (-6) = -36 

ดังนั้นจำนวนที่ต้องการคือ -6

นั่นคือ (-36) ÷ 6 = -6

         การหารจำนวนเต็ม เมื่อตัวตั้งและตัวหารตัวใดตัวหนึ่งเป็นจำนวนเต็มลบ โดยที่อีกตัวหนึ่งเป็นจำนวนเต็มบวก จะได้คำตอบเป็นจำนวนเต็มลบ (ลบหารด้วยบวก หรือ บวกหารด้วยลบ ได้ลบเสมอ)

ตัวอย่างที่ 11  จงหาผลหารของจำนวนเต็มต่อไปนี้

1)   14 ÷ (-7) = -2    (หาจำนวนที่คูณกับ -7 แล้วได้ 14 คือ -2)

2)   12 ÷ 3 = 4    (หาจำนวนที่คูณกับ 3 แล้วได้ 12 คือ 4)

3)   (-21) ÷ 3 = -7    (หาจำนวนที่คูณกับ 3 แล้วได้ -21 คือ -7)

4)   (-35) ÷ (-5) = 7    (หาจำนวนที่คูณกับ -5 แล้วได้ -35 คือ 7)

5)   40 ÷ 8 = 5    (หาจำนวนที่คูณกับ 8 แล้วได้ 40 คือ 5)

สรุป
  • การบวกจำนวนเต็มบวกด้วยจำนวนเต็มบวก ได้เป็นจำนวนเต็มบวก
  • การบวกจำนวนเต็มลบกับจำนวนเต็มลบ ได้เป็นจำนวนเต็มลบ
  • การบวกจำนวนเต็มบวกกับจำนวนเต็มลบ ได้เป็นจำนวนเต็มบวกหรือจำนวนเต็มลบตามจำนวนที่มีค่าสัมบูรณ์มากกว่า    
  • การคูณจำนวนเต็มบวกด้วยจำนวนเต็มบวก  ได้เป็นจำนวนเต็มบวก (บวกคูณบวกได้บวก)
  • การคูณจำนวนเต็มลบด้วยจำนวนเต็มลบ ได้เป็นจำนวนเต็มบวก (ลบคูณลบได้บวก)
  •  การหารจำนวนเต็ม ลบหารด้วยลบ ได้บวก หรือ บวกหารด้วยบวก ได้บวก
  • การหารจำนวนเต็ม ลบหารด้วยบวก ได้ลบ หรือ บวกหารด้วยลบ ได้ลบ

คลิปวิดีโอ การบวก ลบ คูณ หารจำนวนเต็ม

        คลิปวิดีโอนี้ได้รวบรวมวิธี การบวก ลบ คูณ หารจำนวนเต็ม ไว้อย่างละเอียด ซึ่งเป็นคลิปสั้นๆ ที่สามารถเข้าใจได้ง่าย แฝงไปด้วยสาระความรู้ และเทคนิค รวมถึงการอธิบาย ตัวอย่าง และสอนวิธีคิดที่จะทำให้วิชาคณิตศาสตร์เป็นเรื่องง่าย

NockAcademy คือโรงเรียนออนไลน์สำหรับเด็ก โดยแอปฯ และเว็บไซต์ นักเรียนสามารถเรียนรู้ผ่านคลิปบทเรียนวิชา คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และภาษาไทย
มากไปกว่านั้น เรายังมีคอร์สเรียนออนไลน์ การสอนพิเศษ การติวนอกสถานที่โดยติวเตอร์ที่แน่นไปด้วยความรู้ อีกด้วย

Add LINE friends for one click to find article. Add LINE friends for one click to find article.
ครูผู้สอน NockAcademy

แค่ 10 นาที ก็เข้าใจได้

สามารถดูคลิปบทเรียนวิชา คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และภาษาไทย ที่มีมากกว่า 2,000+ คลิป และยังสามารถทำแบบทดสอบที่มีมากกว่า 4000+ ข้อ

แนะนำ

แชร์

ปก short answer questions

Short question and Short answer

  สวัสดีค่ะนักเรียนชั้นม.2 ทุกคน วันนี้ครูจะพาไปตะลุยตัวอย่างและวิธีการแต่งประโยคคำถาม ของเรื่อง “Short question and Short answer“ การถามตอบคำถามแบบสั้น หากพร้อมแล้วก็ไปลุยกันเลยจร้า   ความหมาย Short question and Sho rt answer คือการถามตอบแบบสั้นหรือส่วนใหญ่แล้วมักขึ้นต้นคำถามด้วยกริยาช่วย และได้คำตอบขนาดสั้น เช่น Yes, I

NokAcademy_ ม.6 Modlas in the Past

Modals in the Past

  สวัสดีค่านักเรียนชั้นม.6 ที่น่ารักทุกคน วันนี้เราจะไปดู ” Modals in the Past “ ที่ใช้บ่อยพร้อมเทคนิคการใช้งานง่ายๆกันค่า Let’s go! ไปลุยกันเลยจร้า   ทบทวน Modal Verbs  Modal Auxiliaries คือ กริยาช่วยกลุ่ม  Modal verbs หรือ 

นิทานเวตาล เรื่องเล่าที่สอดแทรกคติธรรมไว้มากมาย

นิทานเวตาล เป็นวรรณคดีอินเดียโบราณที่มีประวัติความเป็นมายาวนานนับพันปี มีเนื้อหาที่บันเทิงแต่ก็สอดแทรกปริศนาธรรมและคติธรรมคำสอนไว้เพื่อเป็นเครื่องกล่อมเกลาจิตใจมนุษย์ บทเรียนในวันนี้เราจะพาน้อง ๆ ไปเรียนรู้ประวัติความเป็นมาและเรื่องย่อจากวรรณคดีเรื่องนี้กันค่ะว่าจะมีความน่าสนใจอย่างไรบ้าง ถ้าพร้อมแล้ว ไปเรียนรู้พร้อม ๆ กันเลยค่ะ   ความเป็นมาของนิทานเวตาล     นิทานเวตาล หรือ เวตาลปัญจวิงศติ เป็นวรรณกรรมอินเดียโบราณ กวีคนแรกที่เป็นคนแต่งคือ ศิวทาส เมื่อ 2.500 ปี ต่อมาโสมเทวะ กวีชาวแคว้นกัษมีระได้นํามา

มนุสสภูมิ ตอนที่ว่าด้วยกำเนิดของมนุษย์ในไตรภูมิพระร่วง

ไตรภูมิพระร่วงมีจุดมุ่งหมายที่จะชี้ให้เห็นคุณและโทษของโลกทั้งสามที่ไม่แน่นอน เพื่อที่จะให้มนุษย์ตระหนักถึงกรรมดีและกรรมชั่วและพบกับความสุขไม่ว่าจะอยู่ในโลกไหน โดยในตอน มนุสสภูมิ นี้ก็ได้กล่าวถึงการกำเนิดมนุษย์ที่อธิบายโดยใช้หลักความเชื่อทางพุทธศาสนามาอธิบายจึงทำให้วรรณคดีเรื่องนี้เป็นอีกเรื่องที่มีความสนใจเป็นอย่างมากเลยล่ะค่ะ จากที่ครั้งก่อนเราได้เรียนเรื่องนี้กันไปแล้วในส่วนของที่มาและความสำคัญและเนื้อเรื่องย่อ บทเรียนในวันนี้จะพาน้อง ๆ ไปเรียนรู้เพิ่มเติมแต่เป็นเรื่องของตัวบทเพื่อถอดคำประพันธ์ รวมไปถึงศึกษาคุณค่าที่ปรากฏในเรื่องด้วยค่ะ ถ้าพร้อมแล้วเราไปดูกันเลย ตัวบทเด่น ๆ ในไตรภูมิพระร่วง ตอน มนุสสภูมิ     ถอดความ เป็นการอธิบายถึงวิวัฒนาการของทารกในครรภ์ตั้งแต่เริ่มเป็นเซลล์ โดยอธิบายว่าไม่ว่าจะเกิดเป็นชายหรือหญิง ก็จะเริ่มจากการเป็นกลละ แล้วโตขึ้นทีละน้อย เมื่อถึง 7

โดเมนของความสัมพันธ์

โดเมนของความสัมพันธ์ โดเมนของความสัมพันธ์ r คือ สมาชิกตัวหน้าของคู่อันดับในความสัมพันธ์ r เขียนแทนด้วย กรณีที่ r เขียนแบบแจกแจงสมาชิก เราสามารถหาโดเมนได้เลยโดย คือสมาชิกตัวหน้า เช่น = {(2, 2), (3, 4), (8, 9)} จะได้ว่า  = {2, 3, 8}

ฟังก์ชันและกราฟของฟังก์ชัน

ฟังก์ชันและกราฟของฟังก์ชัน ฟังก์ชันและกราฟของฟังก์ชัน มีความเกี่ยวข้องกันเนื่องจากฟังก์ชันที่เราเขียนในรูป y = f(x) สามารถนำไปเขียนกราฟในระบบพิกัดฉากได้ ซึ่งกราฟในระบบพิกัดฉากก็คือ กราฟที่ประกอบไปด้วยแกน x และ แกน y   ก่อนที่เราจะเริ่มบทเรียนของฟังก์ชัน อยากให้น้องๆได้ศึกษารูปต่อไปนี้ก่อนนะคะ จากรูป คือการส่งสมาชิกในเซต A ไปยังสมาชิกในเซต B เซต A จะถูกเรียกว่า โดเมน

โลโก้ NockAcademy

ทดลองฟรี!

เข้าใจได้ทันที NockAcademy ไลฟ์สดอันดับ 1 

โลโก้ NockAcademy

ทดลองฟรี!

เข้าใจได้ทันที NockAcademy ไลฟ์สดอันดับ 1