โจทย์ปัญหาการนําเสนอข้อมูล

บทความนี้จะยกตัวอย่างเกี่ยวกับโจทย์ปัญหาการนำเสนอข้อมูลให้น้องๆทราบถึงวิธีคิดหรือวิธีทำเพื่อหาคำตอบที่ถูกต้อง
Picture of tucksaga
tucksaga
โจทย์ปัญหาการนำเสนอข้อมูล

สารบัญ

Add LINE friends for one click to find article. Add LINE friends for one click to find article.

ในบทเรียนเรื่องการนำเสนอข้อมูล การเขียนนำข้อมูลมานำเสนอในรูปแบบต่างๆเช่น แผนภูมิแท่ง หรือกราฟเส้น เมื่อเราทำการศึกษาและสามารถอ่านข้อมูลจากส่งเหล่านั้นได้แล้ว บทเรียนต่อไปจะเป็นเรื่องของโจทย์ปัญหาในการนำเสนอข้อมูล ที่จะมาในรูปแบบของคำถามที่ต้องหาคำตอบจาก แผนภูมิแท่งหรือกราฟเส้นที่โจทย์กำหนดมานั่นเอง

โจทย์ปัญหาการนำเสนอข้อมูล ป.5

ในการแก้โจทย์ปัญหาทางคณิตศาสตร์เรื่องการนำเสนอข้อมูลนั้น คุณต้องมีพื้นฐานการอ่านข้อมูลจาก แผนภูมิ หรือกราฟก่อนจึงจะสามารถแก้ไขโจทย์และหาคำตอบออกมาได้อย่างถูกต้อง ยกตัวอย่างโจทย์ดังนี้

ตัวอย่างที่ 1 โจทย์ปัญหาแผนภูมิแท่ง

แผนภูมิแท่ง

จากแผนภูมิแท่งจงคำถามต่อไปนี้

ข้อที่ 1.) พ.ศ.2558 – พ.ศ.2560 สินค้าที่มีมูลค่าการส่งออกมากที่สุดกับน้อยที่สุดต่างกันเท่าใด

วิธีทำ สินค้าที่มีมูลค้าการส่งออกมาที่สุดคือ ข้าว ในปี พ.ศ.2560 มีมูลค่าเท่ากับ 174,000 ล้านบาท และสินค้าที่มีมูลค่าการส่งออกที่น้อยที่สุดคือ ผลไม้สดและแห้ง ในปีพ.ศ. 2558 มีมูลค่าเท่ากับ 45,000 ล้านบาท

ดังนั้นมีมูลค่าต่างกันอยู่ที่ 174,000 –  45,000 = 129,000 ล้านบาท

ตอบ 129,000 ล้านบาท

ข้อที่ 2.) สินค้าที่มีมูลการส่งออกทั้งสามปีน้อยกว่า 200,000 ล้านบาทได้แก่อะไรบ้าง

วิธีทำ มูลค่าทั้งสามปีของข้าวเท่ากับ 156,000 + 155,000 + 174,000

                                                 = 485,000 ล้านบาท 

มูลค่าทั้งสามปีของผลิตภันฑ์มันสำปะหลังเท่ากับ  117,000 + 103,000 + 95,000

                                                 = 315,000 ล้านบาท

มูลค่าทั้งสามปีของไก่แปรรูปเท่ากับ 66,000 + 71,000 + 76,000

                                                 = 143,000 ล้านบาท

มูลค่าทั้งสามปีของผลไม้สดและแห้งเท่ากับ 45,000 + 54,000 + 77,000

                                                 = 176,000 ล้านบาท

ตอบ ไก่แปรรูป และ ผลไม้สดและแห้ง

ตัวอย่างที่ 2 โจทย์ปัญหากราฟเส้น

กราฟเส้น

จากกราฟเส้นจงคำถามต่อไปนี้

คำถาม: ตั้งแต่ พ.ศ.2556 – พ.ศ.2560 การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยใช้ถ่านหินลิกไนต์เฉลี่ยปีละกี่ล้านตัน

วิธีทำ นำปริมาณถ่านหินลิกไนต์ที่ใช้ไปของปีพ.ศ.2556 – พ.ศ.2560มารวมกัน

จะได้      16.9 + 20.4 + 14.36 + 16.41 + 15.91 = 83.98 ล้านตัน

จากนั้นรวมปริมาณที่รวมกันข้างต้นเฉลี่ยให้กับ 5 ปี เท่าๆกัน

จะได้      83.98 ล้านตัน ÷ 5 = 16.796 ล้านตัน

ตอบ เฉลี่ยปีละ 16.796 ล้านตัน

 

NockAcademy คือโรงเรียนออนไลน์สำหรับเด็ก โดยแอปฯ และเว็บไซต์ นักเรียนสามารถเรียนรู้ผ่านคลิปบทเรียนวิชา คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และภาษาไทย
มากไปกว่านั้น เรายังมีคอร์สเรียนออนไลน์ การสอนพิเศษ การติวนอกสถานที่โดยติวเตอร์ที่แน่นไปด้วยความรู้ อีกด้วย

Add LINE friends for one click to find article. Add LINE friends for one click to find article.
ครูผู้สอน NockAcademy

แค่ 10 นาที ก็เข้าใจได้

สามารถดูคลิปบทเรียนวิชา คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และภาษาไทย ที่มีมากกว่า 2,000+ คลิป และยังสามารถทำแบบทดสอบที่มีมากกว่า 4000+ ข้อ

แนะนำ

แชร์

M5 Past Passive

Passive Voice ในอดีต

  Hi guys! สวัสดีค่ะนักเรียนชั้นม.5 ทุกคน วันนี้เราจะไปเรียนรู้เรื่อง Past Passive กันค่ะ ก่อนอื่นจะต้องไปรู้ความหมายกันก่อนน๊าว่ามันคืออะไร พร้อมแล้วก็ไปลุยกันโลด   ความหมาย Past หมายถึง อดีต ส่วน Passive มาจาก Passive voice หมายถึง ประโยคที่ประธานถูกกระทำ รวมแล้วหมายถึงการใช้ Passive

การใช้ Auxiliary Verb: can, can’t

การใช้ Auxiliary Verb: can, can’t  บทนำแสนแซ่บ สวัสดีครับพ่อแม่พี่น้องสุดปังทุกท่าน วันนี้เรามาคุยกันเรื่องของคำกริยาช่วยที่ทำให้เรารู้ว่าคนนั้น ๆ สิ่งนั้น หรืออันนั้นมีความสามารถในการทำอะไรได้บ้างกันดีกว่า  ในภาษาไทยเอง เวลาเราจะอธิบายว่าเรามีความสามารถอะไรเราก็มักจะพูดว่า “เรา… ทำได้” หรือ “เราสามารถ….ทำได้” โดยภาษาอังกฤษสุดที่รักของเราเองก็มีอะไรแบบนั้นเหมือนกัน โดยเค้าใช้คำว่า Can มาช่วย โดยเราจะเรียกคำกริยาช่วยเหลือนี้ว่า Auxiliary verb หรือ

NokAcademy_ ม4 Passive Modals (2)

Passive Modals คืออะไร

สวัสดีค่านักเรียนชั้นม.4 ที่น่ารักทุกคน วันนี้เราจะไปดู ” Passive Modals“ ที่ใช้บ่อยพร้อมเทคนิคการใช้งานง่ายๆกันค่า Let’s go! ไปลุยกันเลยเด้อ ทบทวนสักหน่อย   ก่อนอื่นเราจะต้องทบทวนเรื่อง Modal verbs หรือ Modal Auxiliaries กันก่อนจร้า แล้วจากนั้นเราจะไปลงลึกเรื่อง Passive voice หรือโครงสร้างประธานถูกกระทำที่คุ้นหูกันหากใครที่ลืมแล้วก็ไม่เป็นไรน๊า มาเริ่มใหม่ทั้งหมดกันเลยจร้า กลุ่มของ

สัญลักษณ์แทนการบวก

สัญลักษณ์แทนการบวก

สัญลักษณ์แทนการบวก สัญลักษณ์แทนการบวก หรือ   เรียกว่า ซิกมา ( Sigma ) เราใช้เพื่อลดรูปการบวกกันของตัวเลข เนื่องจากว่าบางทีเป็นการบวกของจำนวนตัวเลข 100 พจน์ ถ้ามานั่งเขียนทีละตัวก็คงจะเยอะไป เราจึงจะใช้เครื่องหมายซิกมามาใช้เพื่อประหยัดเวลาในการเขียนนั่นเอง เช่น 1 + 2 + 3 + 4 +5  สามารถเขียนแทนด้วย

ฟังก์ชันจากเซตหนึ่งไปอีกเซตหนึ่ง

ฟังก์ชันจากเซตหนึ่งไปอีกเซตหนึ่ง ฟังก์ชันจากเซตหนึ่งไปอีกเซตหนึ่ง เป็นการส่งสมาชิกจากของเซตหนึ่งเรียกเซตนั้นว่าโดเมน ส่งไปให้สมาชิกอีกเซตหนึ่งเซตนั้นเรียกว่าเรนจ์ จากบทความก่อนหน้าเราได้พูดถึงฟังก์ชันและการส่งสมาชิกในเซตไปแล้วบางส่วน ในบทความนี้เราจะได้ทำความเข้าใจเกี่ยวกับฟังก์ชันจากเซตหนึ่งไปอีกเซตหนึ่งมากขึ้น จากที่เรารู้ว่าเซตของคู่อันดับเซตหนึ่งจะเป็นฟังก์ชันได้นั้น สมาชิกตัวหน้าต้องไปเหมือนกัน แต่ฟังก์ชันจากเซตหนึ่งไปอีกเซตหนึ่งเป็นการกำหนดขอบเขตให้ฟังก์ชันนั้นแคปลงกว่าเดิม เช่น {(1, a), (2, b), (3, a), (4, c)}  จากเซตของคู่อันดับเราสมารถตอบได้เลยว่าเป็นฟังก์ชัน เพราะสมาชิกตัวหน้าไม่เหมือนกัน แต่ฟังก์ชันจากเซตหนึ่งไปอีกเซตหนึ่ง คือการที่เรามีเซต 2 เซต แล้วเราส่งสมาชิกในเซตหนึ่งไปอีกเซตหนึ่ง

โลโก้ NockAcademy

ทดลองฟรี!

เข้าใจได้ทันที NockAcademy ไลฟ์สดอันดับ 1 

โลโก้ NockAcademy

ทดลองฟรี!

เข้าใจได้ทันที NockAcademy ไลฟ์สดอันดับ 1