หลักการใช้ Past Simple Tense

ม.1 หลักการใช้ Past Simple

สารบัญ

Add LINE friends for one click to find article. Add LINE friends for one click to find article.

Hi guys! สวัสดีค่ะนักเรียนชั้นม.1 ที่น่ารักทุกคน วันนี้เราจะไปเรียนรู้เรื่อง หลักการใช้ Past Simple   ถ้าพร้อมแล้วก็ไปลุยกันโลด

Past Simple Tense

 

ม.1 หลักการใช้ Past Simple (2)

 

หลักการใช้ง่ายๆ

ใช้กับเหตุการณ์ หรือการกระทำที่เกิดขึ้นและจบลงในอดีต มักมีคำหรือกลุ่มคำของอดีตมากำกับ


ตัวอย่างประโยคทั่วไปที่มักเจอบ่อยๆ

 

ม.1 หลักการใช้ Past Simple (3)

บอกเล่า

  • saw Jack yesterday.
    ฉันเห็นแจ็คเมื่อวานนี้
  • Last year, I traveled to China.
    ปีที่แล้วฉันไปเที่ยวประเทศจีน
  • Last year, I didn’t travel to the UK.
    ปีที่แล้วฉันไม่ได้เดินทางไปสหราชอาณาจักร
  • She washed her car.
    เธอล้างรถของเธอ

ปฏิเสธ

  • He didn’t wash his car.
    เขาไม่ได้ล้างรถของเขา
  • They didn’t have much time to play.
    พวกเขาไม่มีเวลาเล่นมากนัก
  • didn’t see a teacher yesterday.
    เมื่อวานฉันไม่ได้พบครู
  • She wasn’t at home when we arrived last night.
    เธอไม่ได้อยู่บ้านตอนที่เราไปถึงเมื่อคืนนี้

คำถาม

  • Did you have dinner last night?
    เมื่อคืนคุณทานอาหารเย็นหรือเปล่า
  • Were you at the park yesterday?
    เมื่อวานคุณอยู่ที่สวนสาธารณะใช่ไหม
  • Was she at the hospital last week?
    เธออยู่ที่โรงพยาบาลเมื่อสัปดาห์ที่แล้วหรือเปล่า

Situation: At School

ม.1 หลักการใช้ Past Simple (4)

Jennie: What did you eat this morning?
เมื่อเช้าคุณกินอะไรมา

Boss: I ate some rice and an omelette. What about you?
ผมทานข้าวกับไข่เจียวมาครับ แล้วคุณล่ะครับ

Jennie: I didn’t eat at all.
ฉันไม่ได้กินอะไรมาเลยค่ะ

คำบอกเวลาใน Past Simple Tense

 

ม.1 หลักการใช้ Past Simple (5)

  •  yesterday (เมื่อวานนี้) 
  • this morning/ this afternoon ใช้บอกว่าผ่านมาแล้ว…วันนี้
  • last week  (หรือคำอื่นๆที่ ใช้ last นำหน้า  เช่น last year,  last month, etc.)
  • ago แปลว่า ที่แล้ว  เช่น two weeks ago แปลว่า 2 ปีที่แล้ว
  • the day before yesterday แปลว่า เมื่อวานซืน
  • World War II แปลว่า สงครามโลกครั้งที่สอง
  • last decade แปลว่า ทศวรรษที่ผ่านมา

คำเหล่านี้มักจะวางไว้ท้ายประโยค  หรืออาจ วางไว้หน้าประโยคก็ได้ ค่ะ
เช่น

I went to England a year ago.

หรือ A year ago, I went to England.

แปลว่า ปีที่แล้ว ฉันไปประเทศอังกฤษ

  • หลักการเติม ed ของกริยา
  1. คำที่ลงท้ายด้วย e อยู่แล้ว ให้เติม d

love > loved รัก

like > liked ชอบ

  1. คำที่มีสระตัวเดียวเสียงสั้น และตัวสะกดตัวเดียว ให้เพิ่มตัวสะกดอีกตัว แล้วเติม ed

สระเสียงสั้นได้แก่ a (แอะ) e (เอะ) i (อิ) o (เอาะ) u (อะ, อุ)

  1. หน้า y เป็นสระ a e i o u ให้เติม ed ได้เลย

 

enjoy > enjoyed ชอบ

 

  1. หน้า y เป็นพยัญชนะ เปลี่ยน y เป็น i แล้วเติม ed

 

cry > cried ร้องให้

  1. คำที่ลงท้ายด้วย c ให้เติม k ก่อนเติม ed

picnic > picnicked = ปิคนิค

  1. คำที่มีสองพยางค์ขึ้นไป

เช่น admit > admitted= รับ

  1. คำที่ลงท้ายด้วย er

    ถ้าเน้นเสียงพยางค์หลัง ให้เพิ่ม r อีกตัว
    deter > deterred ยับยั้ง

  1. ถ้าไม่เน้นเสียงพยางค์หลัง ให้เติม ed ได้เลย

enter > entered = เข้า

  1. คำที่ลงท้ายด้วย l, ll

    เช่น control > controlled = ควบคุม

สรุปการใช้

 

  1. เปลี่ยนรูปคำกริยาในอดีตให้ถูกต้อง โดยใช้ V.2 หรือ กริยาเติม ed
  2. ถ้าเกิดว่าเราใช้ did หลัง did ต้องตามด้วย V. infinitive (กริยาช่อง1 ไม่ผัน)
  3. ใช้คำบอกเวลาให้ถูกต้องตามบริบท

ตางรางกริยา3 ช่องที่ควรรู้

 

กริยาช่องที่ 1 บอกปัจจุบัน ช่อง 2 บอกอดีต ช่อง 3 เรียกว่า Past Participle

arise arose arisen เกิดขึ้น
be was / were been เป็น
beat beat beaten ชนะ
become became become กลายเป็น
begin began begun เริ่ม
bend bent bent โค้งงอ
bite bit bitten กัด
bleed bled bled เลือดออก
blow blew blown เป่า
break broke broken แตก/หัก
bring brought brought นำมา
catch caught caught จับ
choose chose chosen เลือก
come came come มา
dig dug dug ขุด
do did done ทำ
draw drew drawn วาด
dream dreamt dreamt ฝัน
drink drank drunk ดื่ม
eat ate eaten กิน
fall fell fallen ตก
feed fed fed ให้อาหาร
forget forgot forgotten ลืม
sell sold sold ขาย
send sent sent ส่ง
shake shook shaken เขย่า
sing sang sung ร้องเพลง
sink sank sunk จม
sit sat sat นั่ง
sleep slept slept นอน
speak spoke spoken พูด
spend spent spent ใช้จ่าย
spill spilt spilt หก
stand stood stood ยืน
steal stole stolen ขโมย
stick stuck stuck ติด
sting stung stung ต่อย
strike struck struck โจมตี
swear swore sworn สาบาน
take took taken เอา
teach taught taught สั่งสอน

แบบฝึกหัด Past Simple Tense

 

ม.1 หลักการใช้ Past Simple (6)

 

คำสั่ง: จงเลือกคำตอบที่เหมาะสมที่สุดตามหลักการใช้ Past Simple Tense

 

1.Tony_____a letter to his parents yesterday.

A. writes

B. wrote

C. writed

D. was wrote

 

2.We _______ Lisa in Korea a few days ago.

A. seeing

B. was saw

C. did saw

D. saw

 

3.  I _____________ the window 2 hours ago.

A. shut

B. was

C. am

D. are

 

4. I ___________ my dishes this morning.

A. washed

B. being washed

C. been washing

D. washes

 

5.What __________ you  do a year ago?

A. done

B. did

C. doing

D. do

 

6. I____school yesterday.

A. came

B. come

C. having

D. being

 

7. The movie wasn’t very good. I _____________ it very much.

A. enjoyed

B. wasn’t enjoy

C. didn’t enjoyed

D. didn’t enjoy

 

8. The bed was very uncomfortable. I ____________ sleep very well.

A. didn’t

B. did

C. wasn’t

D. not

 

9. The window was open and a bird ___________ into the room.

A. fly

B. flew

C. was flew

D. flying

 

10.  I __________ the lottery.

A. being won

B. wins

C. won

D.  win

 

เฉลยแบบฝึกหัดเรื่อง Past Simple Tense

ม.1 หลักการใช้ Past Simple (7)

  1. B
  2. D
  3. A
  4. A
  5. B
  6. A
  7. D
  8. A
  9. B
  10. C

เป็นอย่างไรกันบ้างคะ ขอให้นักเรียนทุกคนได้รับประโยชน์จากการอ่านบทความ เรื่อง หลักการใช้ Past Simple นี้นะคะ  อย่าลืมทบทวนบทเรียนได้ที่วีดีโอด้านล่างนี้เด้อ 

คลิกปุ่มเพลย์แล้วไปเรียนให้สนุกกันนะคะ แล้วเจอกันครั้งหน้า
See you again next time!

NockAcademy คือโรงเรียนออนไลน์สำหรับเด็ก โดยแอปฯ และเว็บไซต์ นักเรียนสามารถเรียนรู้ผ่านคลิปบทเรียนวิชา คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และภาษาไทย
มากไปกว่านั้น เรายังมีคอร์สเรียนออนไลน์ การสอนพิเศษ การติวนอกสถานที่โดยติวเตอร์ที่แน่นไปด้วยความรู้ อีกด้วย

Add LINE friends for one click to find article. Add LINE friends for one click to find article.
ครูผู้สอน NockAcademy

แค่ 10 นาที ก็เข้าใจได้

สามารถดูคลิปบทเรียนวิชา คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และภาษาไทย ที่มีมากกว่า 2,000+ คลิป และยังสามารถทำแบบทดสอบที่มีมากกว่า 4000+ ข้อ

แนะนำ

แชร์

Suggesting Profile

การแสดงความต้องการ เสนอและให้ความช่วยเหลือ ตอบรับและปฏิเสธการให้ความช่วยเหลือในสถานการณ์ต่างๆ

สวัสดีค่ะนักเรียนชั้นม. 3 ที่น่ารักทุกคน วันนี้ครูจะพาไปดูเทคนิค การแสดงความต้องการ เสนอและให้ความช่วยเหลือ ตอบรับและปฏิเสธการให้ความช่วยเหลือในสถานการณ์ต่างๆ ถ้าพร้อมแล้วก็ไปลุยกันเลยจร้า การแสดงความต้องการ     Question: สงสัยมั้ยว่า need/want /would like to have สามคำนี้ต่างกันยังไง? ตัวอย่างการใช้ need VS want  ในประโยคบอกเล่า เช่น

M6 Phrasal Verbs

Phrasal Verbs 

สวัสดีค่ะนักเรียนชั้นม.6 ที่รักทุกคนวันนี้เราจะไปเรียนรู้กันเรื่อง “Phrasal Verbs“ กันนะคะ ถ้าพร้อมแล้วก็ไปลุยกันโลด   ความหมาย Phrasal Verbs  Phrasal Verbs คือ คำกริยา โดยเป็นกริยาที่มีคำอื่นๆ อย่างเช่น คำบุพบท (Preposition) ร่วมกันส่วนใหญ่แล้ว Phrasal Verbs จะบอกถึงการกระทำ มักจะเจอในชีวิตประจำวันในสถานการณ์ทั่วไป ไม่เป็นทางการมาก ข้อดีคือจะทำให้ภาษาใกล้เคียงกับเจ้าของภาษามากขึ้นนั่นเองจ้า

NokAcademy_Question ป5 การใช้ Question Words

การใช้ Question Words

  สวัสดีค่ะนักเรียนชั้น ป.5 ที่น่ารักทุกคน วันนี้ครูจะพาเรียนรู้เกี่ยวกับ Question Words ที่รวมทั้งรูปแบบกริยาช่วยนำหน้าประโยค และรูปแบบ Wh-questions กันนะคะ พร้อมกันหรือยังเอ่ย ถ้าพร้อมแล้วก็ ไปลุยกันเลย   Question words ขึ้นต้นด้วยกริยาช่วย   ทบทวนกริยาช่วยสักนิด Helping verb หรือ Auxiliary verb

การใช้ตัวเชื่อม (Connective words): First,… Second,… Third,… Fourth,… Finally,…

 การใช้ตัวเชื่อม (Connective words) สวัสดีค่ะนักเรียน ม.2 ทุกคน วันนี้ครูมีเทคนิคที่จะทำให้ทุกคนนำไปปรับใช้กับงานเขียนด้วย  การใช้ตัวเชื่อม (connective words) ในภาษาอังกฤษกันค่ะ โดยปรกติแล้วงานเขียนแบ่งออกออกเป็นสองรูปแบบหลักๆคือ เรียงความ (Essay Writing) กับ พารากราฟ (Paragraph Writing) ขอสรุปสั้นๆง่ายๆ ให้ทุกคนเข้าใจว่า Essay คือเรียงความเพราะฉะนั้นจะยาวกว่า Paragraph ที่เป็นเพียงย่อหน้าหนึ่งเท่านั้นนั่นเองค่ะ 

NokAcademy_Articles E5

Articles: a/an/the

สวัสดีค่ะนักเรียนชั้น ป. 6 ที่น่ารักทุกคนวันนี้ครูได้สรุปเรื่อง  Articles: a/an/the พร้อมเทคนิคการนำไปใช้ มาฝากกันค่ะ หากพร้อมแล้วก็ไปลุยกันเลย   Articles คืออะไร   Articles เป็นคำคุณศัพท์อย่างหนึ่ง การเรียน เรื่อง Articles นี้ที่มีหน้าที่หลักคือ ใช้นำหน้าคำนาม เราต้องทำความเข้าใจควบคู่ไปกับเรื่องนามนับได้ ( Countable Nouns )

การแยกตัวประกอบ

การแยกตัวประกอบ

การแยกตัวประกอบ การแยกตัวประกอบ ของจำนวนนับใด หมายถึง การเขียนจำนวนนับนั้นในรูปการคูณของ ตัวประกอบเฉพาะ  ซึ่งในบทความนี้ได้นำเสนอวิธีการ รวมถึง โจทย์การแยกตัวประกอบ ไว้มากมาย น้องๆสามารถศึกษาเรียนรู้ได้ดวยตนเองโดยที่มีวิธีการแยกตัวประกอบ 2 วิธี ดังนี้ การแยกตัวประกอบ  โดยการคูณ  การแยกตัวประกอบ  โดยการหาร (หารสั้น)         ก่อนอื่นน้องๆมาทบทวน ความหมายของตัวประกอบและจำนวนเฉพาะ

โลโก้ NockAcademy

ทดลองฟรี!

เข้าใจได้ทันที NockAcademy ไลฟ์สดอันดับ 1 

โลโก้ NockAcademy

ทดลองฟรี!

เข้าใจได้ทันที NockAcademy ไลฟ์สดอันดับ 1