การใช้ Possessive Pronoun

สารบัญ

Add LINE friends for one click to find article. Add LINE friends for one click to find article.

สวัสดีค่ะนักเรียนชั้นป.6 ที่น่ารักทุกคน วันนี้เราจะไปเรียนรู้เรื่อง การใช้ Possessive Pronoun ถ้าพร้อมแล้วก็ไปลุยกันเลยจ้า

บทนำ

P6 การใช้ Possessive Pronoun (2)

Possessive pronoun (เช่น mine, yours, hers) ถือเป็นหัวข้อหนึ่งในภาษาอังกฤษที่หลายคนมักจะสับสน นั่นก็เพราะมันมีความคล้ายคลึงกับ Possessive adjective (เช่น my, your, her)

ลองเปรียบเทียบประโยคเหล่านี้ดูนะคะ

 

A honeybee has two wings on each side of its body.

(ผึ้งตัวหนึ่งมีปีกสองข้างอยู่แต่ละข้างของตัวมัน)

This car is mine. The other one is yours.

(รถคันนี้เป็นของฉัน อีกคนเป็นของคุณ)

Her table is here. Yours is over there.

(โต๊ะของเธออยู่ที่นี่ ของคุณอยู่ตรงนั้น)

 

ความหมายของ Possessive pronoun
P6 การใช้ Possessive Pronoun (3)

 

คำว่า possessive แปลว่า “ซึ่งเป็นเจ้าของ” ส่วนคำว่า pronoun นั้นแปลว่า “คำสรรพนาม” ซึ่งก็คือคำที่ใช้แทนคำนามเพื่อแสดงความเป็นเจ้าของนั่นเองค่า Possessive pronoun นั้นๆ ได้แก่ mine, yours, his, hers, its, ours, theirs (จะไม่มีคำนามมาตามหลัง)

นักเรียนอาจจะเคยได้เรียนเรื่อง Possessive adjective มาบ้างแล้ว ตารางด้านล่างนี้แสดงรายละเอียดของทั้ง possessive adjective หรือ คำคุณศัพท์แสดงความเป็นเจ้าของ

Possessive adjective Possessive pronoun ความหมาย
My Mine ของฉัน
Her Hers ของเธอ
Its Its ของมัน
Our Ours ของพวกเรา
Their Theirs ของพวกเขา, ของพวกมัน
Your Yours ของคุณ หรือ
ของพวกคุณ
His His ของเขา

 

 

ความต่างระหว่าง Possessive adjective และ Possessive pronoun

 

P6 การใช้ Possessive Pronoun (4)

Possessive adjective ซึ่งก็คือ my, your, his, her, its, our, their ทำหน้าที่เป็นคำคุณศัพท์ ใช้ขยายคำนาม เวลาใช้จะต้องมีคำนามตามหลัง

ตัวอย่างประโยค เช่น

  • ⚠ จุดที่มักผิดบ่อยๆ

 ✅ ถูก: Don’t judge a book by its cover.

แปลว่า อย่าตัดสินหนังสือจากหน้าปก

🔴  ผิด: Don’t judge a book by it’s cover.
แปลว่า อย่าตัดสินหนังสือจากมันคือหน้าปก
(ถ้าเราใส่ apostrophe ผิดที่ความหมายเปลี่ยนเลยนะคะ)

  • อธิบายการใช้ apostrophe

“It’s VS  Its “

It’s ย่อมาจาก It is และมี ‘(apostrophe) เพื่อช่วยในการย่อคำ

Its ที่ไม่มี apostrophe ก็คือหนึ่งในสรรพนามแสดงความเป็นเจ้าของค่ะ
ไปลุยกันต่อที่ตารางแสดงความแตกต่างในรูปแบบประโยคด้านล่างนะคะ

ลองเทียบกันชัดๆว่า มันใช้ยังไงกันแน่
ดังตัวอย่างต่อไปนี้

P6 การใช้ Possessive Pronoun

This is your bag./ This bag is yours.
นี่ คือกระเป๋าของคุณ/ กระเป๋าใบนี้ เป็นของคุณ

These are his toys./ These toys are his.
นี่คือของเล่นของเขา / ของเล่นเหล่านี้เป็นของเขา

Those are her clothes. / Those clothes are hers.
นั่นคือเสื้อผ้าของเธอ / เสื้อผ้าเหล่านั้นเป็นของเธอ

That is our puppy./ That puppy is ours.
นั่นคือลูกสุนัขของเรา / ลูกสุนัขตัวนั้นเป็นของเรา

This is their book./ This book is theirs.
นี่คือหนังสือของพวกเขา / หนังสือเล่มนี้เป็นของพวกเขา

My wallet is beautiful but I like yours.
กระเป๋าเงินของฉันสวย แต่ฉันชอบของคุณ

  • ตัวอย่างประโยคสนทนา
    P6 การใช้ Possessive Pronoun (6)

Jane: Is that my dress?
เจน: นั่นชุดฉันเหรอ
Tiffany: No! It’s mine!
ทิฟฟานี่: ไม่ใช่ มันเป็นของฉัน

Possessive Adjectives + Noun Possessive Pronouns
My My body Mine These cars are mine.
รถเหล่านี้เป็นของฉัน
Your Your book Yours This book is yours.
หนังสือเล่มนี้เป็นของคุณ
His His house *His This bag is his.
กระเป๋าใบนี้เป็นของเขา
Her Her school Hers That house is hers.
บ้านนั้นเป็นของเธอ
Our Our home Ours This money is ours.
เงินนี้เป็นของเรา
Your Your bag Yours These dresses are yours.
ชุดเหล่านี้เป็นของคุณ
Their Their car Theirs These seats are theirs.
ที่นั่งเหล่านี้เป็นของพวกเขา

แบบฝึกหัด

P6 การใช้ Possessive Pronoun (7)

 

คำสั่ง: จงเลือกเติมคำจากวงเล็บด้านหลังประโยคมมาเติมลงในช่องว่างให้ถูกต้อง

 

  1. Tim had ____ hair cut. (his, hers)
  2. It was his fault, not _____ (their, theirs).
  3. Jane: Is that bag Mary’s?
    Jessica: I think it’s ____.(her, hers)
  1. Tom: Is that Rosie and David’s car?
    Daniel: Yes, it’s ____.(his, their, theirs)
  1. Is that umbrella ____ or mine (your, yours).
  2. He didn’t have an umbrella, so she gave him ____. (her, hers)
  3. I gave him my address and he gave me ____. (his, hers)
  4. A honeybee has two wings on each side of ____ body. (its, it’s, it)
  5. This hat is ____ (my, mine). The other one is ____ .(your, yours)
  6. _____ book is here. (Her, Hers) _____ is over there. (Your, Yours)

 

 

 

P6 การใช้ Possessive Pronoun (8)

 

 

เฉลย:      

  1. Tim had his hair cut.
    (ทิมตัดผมแล้ว)
  2. It was his fault, not theirs.
    มันเป็นความผิดของเขา(ผู้ชาย) ไม่ใช่ของพวกเขา
  3. Jane: Is that bag Mary’s?
    (กระเป๋าใบนั้นเป็นของแมรี่เหรอ)
    Jessica: I think it’s hers.
    (ฉันคิดว่ามันเป็นของเธอ)
  1. Tom: Is that Rosie and David’s car?
    (นั่นรถของโรซี่กับเดวิดเหรอ)
    Daniel: Yes, it’s theirs.
    (ใช่ มันเป็นของพวกเขา)
  1. Is that umbrella yours or mine?
    (ร่มนั้นเป็นของคุณหรือของฉัน)
  2. He didn’t have an umbrella, so she gave him hers.
    (เขาไม่มีร่ม เธอจึงให้ร่มแก่เขา)
  3. I gave him my address and he gave me his.
    (ฉันให้ที่อยู่ของฉันแก่เขาและเขาก็ให้ที่อยู่ของเขาแก่ฉัน)
  4. A honeybee has two wings on each side of its body.
    (ผึ้งตัวหนึ่งมีปีกสองข้างอยู่แต่ละข้างของตัวมัน)
  5. This hat is mine The other one is yours.
    (หมวกนี้เป็นของฉัน อีกอันเป็นของคุณ)
  6. Her book is here. Yours is over there.
    (หนังสือของเธออยู่ที่นี่ ของคุณอยู่ตรงนั้น)

เป็นยังไงกันบ้างคะนักเรียน พอจะเข้าใจ การใช้ Possessive Pronoun ขึ้นมาบ้างมั้ยคะ อย่าลืมทบทวนบทเรียนกับวีดีโอด้านล่างนะคะ

คลิกปุ่มเพลย์แล้วไปเรียนให้สนุกและได้ความรู้กันจ้า
Have fun guys!

NockAcademy คือโรงเรียนออนไลน์สำหรับเด็ก โดยแอปฯ และเว็บไซต์ นักเรียนสามารถเรียนรู้ผ่านคลิปบทเรียนวิชา คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และภาษาไทย
มากไปกว่านั้น เรายังมีคอร์สเรียนออนไลน์ การสอนพิเศษ การติวนอกสถานที่โดยติวเตอร์ที่แน่นไปด้วยความรู้ อีกด้วย

Add LINE friends for one click to find article. Add LINE friends for one click to find article.
ครูผู้สอน NockAcademy

แค่ 10 นาที ก็เข้าใจได้

สามารถดูคลิปบทเรียนวิชา คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และภาษาไทย ที่มีมากกว่า 2,000+ คลิป และยังสามารถทำแบบทดสอบที่มีมากกว่า 4000+ ข้อ

แนะนำ

แชร์

เมทริกซ์

เมทริกซ์ และเมทริกซ์สลับเปลี่ยน

เมทริกซ์ เมทริกซ์ (Matrix) คือตารางสี่เหลี่ยมที่บรรจุตัวเลขหรือตัวแปร สามารถนำมาบวก ลบ คูณกันได้ เราสามารถใช้เมทริกซ์ในการการแก้ระบบสมการเชิงเส้นได้ซึ่งจะสะดวกกว่าการแก้แบบกำจัดตัวแปรสำหรับสมการที่มากกว่า 2 ตัวแปร ตัวอย่างการเขียนเมทริกซ์ เรียกว่าเมทริกซ์มิติ 3×3 ซึ่ง 3 ตัวหน้าคือ จำนวนแถว 3 ตัวหลังคือ จำนวนหลัก ซึ่งเราจะเรียกแถวในแนวนอนว่า แถว และเรียกแถวในแนวตั้งว่า หลัก และจากเมทริกซ์ข้างต้นจะได้ว่า

สำนวนไทยที่เราควรรู้ และตัวอย่างการนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน

น้อง ๆ เคยเป็นกันหรือเปล่าคะ เวลาที่อยากจะพูดอะไรสักอย่างแต่มันช่างยาวเหลือเกิน กว่าจะพูดออกมาหมดนอกจากคนฟังจะเบื่อแล้วยังอาจทำให้เขาไม่สนใจคำพูดของเราเลยก็เป็นไปได้ เพราะอย่างนั้นแหละค่ะในภาษาไทยของเราจึงต้องมีสิ่งที่เรียกว่าสำนวนขึ้นมาเพื่อใช้บอกเล่าเรื่องราวที่ถูกกลั่นกรองออกมาจนได้คำที่สละสลวย รวมใจความยาว ๆ ให้สั้นลง ทำให้เราไม่ต้องพูดอะไรให้ยืดยาวอีกต่อไป บทเรียนในวันนี้จะพาน้อง ๆ ไปทบทวนความรู้เรื่อง สำนวนไทย รวมถึงตัวอย่างสำนวนน่ารู้ในชีวิตประจำวันเพิ่มเติมด้วยค่ะ จะมีอะไรบ้างนั้น ไปดูกันเลย   ความหมายและลักษณะของ สำนวนไทย   สำนวน หมายถึง ถ้อยคำหรือสำนวนพูดหรือเขียนที่มีความหมายไม่ตรงกับรากศัพท์หรือตรงไปตรงมาตามพจนานุกรม แต่เป็นถ้อยคำที่มีความหมายเป็นอย่างอื่น

พันธกิจของภาษา

พันธกิจของภาษา ความสำคัญและอิทธิพลของภาษาที่มีต่อมนุษย์

ภาษาที่มนุษย์ใช้กันอยู่ทุกวันนี้ไม่เพียงแต่เป็นเครื่องมือสื่อสาร แต่ยังเป็นเครื่องมือสื่อความหมาย ความต้องการ และความคิดของคน บทเรียนภาษาไทยในวันนี้จะพาน้อง ๆ ไปเรียนรู้เรื่อง พันธกิจของภาษา พร้อมความสำคัญและอิทธิพลของภาษาที่มีต่อมนุษย์ จะเป็นอย่างไรบ้างนั้นเราไปดูพร้อม ๆ กันเลยค่ะ   พันธกิจของภาษา   พันธกิจของภาษาคืออะไร?   พันธกิจของภาษา หมายถึง ประโยชน์หรือความสำคัญของภาษา ซึ่งประกอบไปด้วยความสำคัญหลัก ๆ ดังนี้ 1. ภาษาช่วยธำรงสังคม

สุภาษิตสอนหญิง ข้อคิดเตือนใจหญิงจากยุคสู่ยุค

สุภาษิต คือถ้อยคำหรือข้อความที่กล่าวสืบกันมาตั้งแต่อดีต มีความหมายเป็นคติสอนใจ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการดำเนินชีวิต ทั้งทางความคิด การพูด และการกระทำ มีสุภาษิตมากมายที่สอนถึงการปฏิบัติตัวของผู้หญิงให้ถูกต้องเหมาะสม บทเรียนในวันนี้ น้อง ๆ จะได้เรียนรู้เรื่อง สุภาษิตสอนหญิง เป็นหนึ่งในบทเรียนเรื่องสุภาษิตที่มีความสำคัญและมีคุณค่าอย่างมาก จะเป็นอย่างไรบ้างนั้นเราจะดูพร้อมกันเลยค่ะ   สุภาษิตสอนหญิง : ความเป็นมา     สุภาษิตสอนหญิง เป็นวรรณกรรมคำสอนประเภทกลอนสุภาพ แต่งโดยสุนทรภู่ ประมาณปี

ประโยคปฏิเสธรูปแบบอดีต

สวัสดีค่ะนักเรียน ม.2 ที่น่ารักทุกคน วันนี้ครูจะพาไปทบทวนเรื่อง ประโยคปฏิเสธรูปแบบอดีต ซึ่งเมื่อเล่าถึงเวลาในอดีตส่วนใหญ่แล้วเรามักเจอคำว่า yesterday (เมื่อวานนี้), 1998 (ปี ค.ศ. ที่ผ่านมานานแล้ว), last month (เดือนที่แล้ว)  และกลุ่มคำอื่นๆ ที่กำกับเวลาในอดีต ซึ่งเราจะเจอ Past Time Expressions ในกลุ่ม Past Tenses หรือ อดีตกาล

Let Me Introduce Myself: พูดเกี่ยวกับตัวเองแบบง่าย

พี่เชื่อว่าพอเปิดเทอมทีไรสิ่งที่เราต้องทำนั่นก็คือ การแนะนำตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นทั้งในวิชาภาษาอังกฤษ หรือวิชาอื่นๆ นอกจากการแนะนำตัวเองแล้ว น้องๆ อาจจะต้องพูดบรรยายเกี่ยวกับตัวเองอีกด้วย วันนี้เราจะมาดูกันว่าเราจะสามารถพูดและบรรยายเกี่ยวกับตนเองให้น่าสนใจได้อย่างไรบ้าง

โลโก้ NockAcademy

ทดลองฟรี!

เข้าใจได้ทันที NockAcademy ไลฟ์สดอันดับ 1 

โลโก้ NockAcademy

ทดลองฟรี!

เข้าใจได้ทันที NockAcademy ไลฟ์สดอันดับ 1