Would และ Used to แตกต่างกันอย่างไร?

สวัสดีน้องๆ ม. 6 ทุกคนนะครับ วันนี้เราจะมาเรียนรู้เกี่ยวกับเรื่อง Would และ Used to กันครับ จะเป็นอย่างไรเราไปดูกันเลย
would used

สารบัญ

Add LINE friends for one click to find article. Add LINE friends for one click to find article.

Used to ใช้อย่างไร?

ในภาษาไทยนั้นกริยา ‘used to’ + infinitive นั้นแปลว่า “เคย” ซึ่งเราจะใช้คำนี้เวลาที่พูดถึง “สถานะ” ในอดีตที่จบลงไปแล้ว มีโครงสร้างดังนี้

used to

ตัวอย่างเช่น

I used to live in Chonburi when I was a kid.
ฉันเคยอาศัยอยู่ที่ชลบุรีตอนที่ฉันเป็นเด็ก

We used to be friends but not anymore.
พวกเราเคยเป็นเพื่อนกันแต่ตอนนี้ไม่แล้ว

 

หรือ เราสามารถใช้กับนิสัยที่เคยทำเป็นประจำในอดีต (ปัจจุบันไม่ทำแล้ว) ก็ได้เช่นกัน เช่น

Mike used to play basketball every Friday when he was in college.
ไมค์เคยเล่นบาสเกตบอลทุกวันศุกร์เมื่อตอนที่เขาอยู่มหาวิทยาลัย

 

ข้อควรระวัง
น้องๆ ไม่ควรสับสนระหว่าง ‘used to + infinitive’ และ ‘be + used to + V.ing’ ที่มีความหมายที่แตกต่างจากอย่างสิ้นเชิง ซึ่งจะอธิบายเพิ่มเติมในโอกาสต่อไป

 

Would ใช้อย่างไร?

สำหรับคำนี้นั้นเราจะใช้เหมือนกันกับ used to ในการพูดถึงนิสัยที่ “เคย” ทำเป็นประจำในอดีต ซึ่งไม่ทำแล้วในปัจจุบัน มีโครงสร้างดังนี้

would

ตัวอย่างเช่น

Every Monday I would go for a walk at the park.
ทุกวันจันทร์ฉันจะออกไปเดินที่สวนสาธารณะ (นิสัยในอดีต)

My mom would read me bedtime stories every night.
แม่ของฉันจะเล่านิทานก่อนนอนให้ฉันฟังทุกคืน (นิสัยในอดีต)

 

ข้อควรจำ
การใช้ would ในการอธิบายนิสัยในอดีตนั้นจะมีความเป็นทางการกว่าการใช้ used to เล็กน้อย และเราจะไม่ใช้ would ในการบอกถึง “สถานะ” ที่จบลงไปแล้วในอดีต เพราะคำว่า “เคย” ของ would นั้น ต่างจากคำว่า “เคย” ของ used to ตรงที่จะใช้ would บอกนิสัยที่เคยทำเท่านั้น (I would live in Chonburi จึงจะแปลว่า “ฉันเคยอาศัยอยู่ที่ชลบุรี” เหมือน I used to live in Chonburi ไม่ได้)

 

ความแตกต่างของ ‘Would’ ‘Used to’ และ ‘Past Simple’

เราสามารถใช้ Past Simple ในการพูดถึงสถานะหรือนิสัยในอดีตได้เช่นกัน ต่างกันที่ว่าเหตุการณ์ที่เป็น Past Simple นั้นอาจจริงหรือไม่จริงในปัจจุบันก็ได้ ลองสังเกตความแตกต่างดังนี้

 

We celebrated Christmas at home every winter.
พวกเราฉลองคริสต์มาสที่บ้านทุกฤดูหนาว (ในอดีต)

“ปัจจุบันอาจจะยังฉลองอยู่หรือไม่ก็ได้”

We used to celebrate Christmas at home every winter.
We would celebrate Christmas at home every winter.
พวกเรา “เคยฉลอง/จะฉลอง” คริสต์มาสที่บ้านทุกฤดูหนาว (ในอดีต)

ทั้งสองประโยคนี้บอกได้ว่า “ปัจจุบันเราไม่ฉลองคริสต์มาสที่บ้านอีกต่อไปแล้ว”

 

เป็นอย่างไรกันบ้างครับน้องๆ สำหรับการใช้ would และ used to ในภาษาอังกฤษ หวังว่าจะทำให้น้องๆ เข้าใจนำไปใช้ในสถานการณ์ต่างๆ ได้อย่างถูกต้อง สำหรับน้องๆ ที่ยังอยากเรียนเรื่องนี้เพิ่มเติมสามารถรับชมวิดีโอจากช่อง Nock Academy ได้ด้านล่างเลยครับ

NockAcademy คือโรงเรียนออนไลน์สำหรับเด็ก โดยแอปฯ และเว็บไซต์ นักเรียนสามารถเรียนรู้ผ่านคลิปบทเรียนวิชา คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และภาษาไทย
มากไปกว่านั้น เรายังมีคอร์สเรียนออนไลน์ การสอนพิเศษ การติวนอกสถานที่โดยติวเตอร์ที่แน่นไปด้วยความรู้ อีกด้วย

Add LINE friends for one click to find article. Add LINE friends for one click to find article.
ครูผู้สอน NockAcademy

แค่ 10 นาที ก็เข้าใจได้

สามารถดูคลิปบทเรียนวิชา คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และภาษาไทย ที่มีมากกว่า 2,000+ คลิป และยังสามารถทำแบบทดสอบที่มีมากกว่า 4000+ ข้อ

แนะนำ

แชร์

ผู้รู้ดีเป็นผู้เจริญ

ผู้รู้ดีเป็นผู้เจริญ เรียนรู้บทร้อยกรองจากพุทธศาสนสุภาษิต

สุภาษิต หมายถึงถ้อยคำที่กล่าวสืบต่อกันมาช้านาน และมีความหมายเป็นคติสอนใจ บางสุภาษิตพูดนำมาแต่งเป็นบทร้อยกรองเพื่อใช้เป็นบทอาขยานให้กับเด็ก ๆ ได้เรียน ได้ฝึกอ่าน รวมไปถึงให้เรียนรู้ข้อคิดจากสุภาษิตได้ง่ายมากขึ้น บทที่เราจะได้เรียนกันในวันนี้คือ ผู้รู้ดีเป็นผู้เจริญ จะเป็นอย่างไรบ้างนั้น ไปเรียนรู้พร้อม ๆ กันเลยค่ะ   ความเป็นมา ผู้รู้ดีเป็นผู้เจริญ     ผู้รู้ดีเป็นผู้เจริญเป็นบทร้อยกรองที่ถูกประพันธ์ขึ้นโดยพระยาอุปกิตศิลปสาร แต่งด้วยโคลงสี่สุภาพ 1 บท และกาพย์ยานี 11

เรียนรู้เรื่อง ส่วนประกอบของประโยค

​ประโยค คือถ้อยคำต่าง ๆ ที่นำมาเรียงกันแล้วมีใจความสมบูรณ์ว่าใครกำลังทำอะไร ที่ไหน และเมื่อไหร่ บทเรียนในวันนี้ น้อง ๆ จะได้เรียนรู้เรื่อง ส่วนประกอบของประโยค เพื่อให้เข้าใจมากขึ้นว่าประโยคที่เราใช้กันอยู่ทุกวันนี้ประกอบด้วยอะไรบ้าง ไปเรียนรู้พร้อมกันเลยค่ะ   ส่วนประกอบของประโยค   โดยทั่วไปประโยคจะมีอยู่ด้วยกัน 2 ภาค คือ ภาคประธานและภาคแสดง     ภาคประธาน คือ

ภาษาถิ่นใต้

ภาษาถิ่นใต้ มรดกทางวัฒณธรรมที่ควรค่าแก่การศึกษา

ภาษาเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรม โดยสิ่งที่สะท้อนให้เห็นถึงวัฒนธรรมผ่านภาษามากที่สุด ก็คือ การมีอยู่ของภาษาถิ่น ซึ่งเป็นภาษาที่ใช้พูดติดต่อสื่อสารตามท้องถิ่นต่าง ๆ เพื่อให้คนในพื้นที่เข้าใจกัน ประเทศไทยมีทั้งหมด 6 ภาค ภาษาถิ่นที่เด่นชัดที่สุดจะแบ่งออกเป็นภาษาถิ่นภาคกลางซึ่งครอบคลุมไปถึงภาคตะวันตะวันตก อาจมีแตกต่างบ้างในเรื่องของคำศัพท์บางคำและสำเนียง ภาษาถิ่นเหนือและภาษาถิ่นอีสาน ที่ได้รับอิทธิพลจากประเทศเพื่อนบ้าน และด้วยภูมิภาคที่อยู่ใกล้กันทำให้บางคำก็ใช้ด้วยกัน และสุดท้าย ภาษาถิ่นใต้ ที่ค่อนข้างจะแตกต่างกับภาษาถิ่นอื่น ๆ แต่จะมีลักษณะ และมีคำศัพท์น่ารู้อะไรบ้างนั้น เราไปเรียนรู้เรื่องนี้พร้อมกันเลยค่ะ   ภาษาถิ่นใต้  

พระบรมราโชวาท จดหมายของร.5ที่เขียนถึงพระโอรส

พระบรมราโชวาท เป็นจดหมายร้อยแก้วที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้เขียนให้พระโอรสทั้ง 4 พระองค์ก่อนจะไปศึกษาต่างประเทศ เหตุใดเนื้อความในจดหมายถึงกลายเป็นวรรณคดีอันทรงคุณค่าให้คนรุ่นหลังได้ศึกษา บทเรียนในวันนี้จะพาไปเรียนรู้ประวัติความเป็นมาและเนื้อหาโดยรวมของเนื้อความเพื่อให้เข้าใจถึงคำสอนและข้อคิดจากพระบรมราโชวาทของพระมหากษัตริย์ในแง่มุมของพ่อสอนลูก จะเป็นอย่างไรไปเรียนรู้พร้อม ๆ กันเลยค่ะ   ประวัติความเป็นมา     วรรณคดีเรื่องพระบรมราโชวาท เป็นคำสั่งสอนของรัชกาลที่ 5 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวที่มีต่อพระราชโอรสทั้ง 4 พระองค์ที่กำลังจะเดินทางไปศึกษาต่อต่างประเทศ พระองค์จึงมีพระบรมราโชวาทเพื่อสั่งสอนและตักเตือนพระราชโอรส ซึ่งในการส่งไปศึกษาต่อในครั้งนี้ พระองค์ทรงเล็งเห็นว่า การศึกษาเป็นรากฐานของการพัฒนาประชาชนและประเทศชาติ    

การเปรียบเทียบจำนวนเต็ม

การเปรียบเทียบจำนวนเต็ม

ทบทวนจำนวนเต็ม บทความนี้จะทำให้น้องๆ เข้าใจ การเปรียบเทียบจำนวนเต็ม ซึ่งได้รวบรวมตัวอย่างไว้อย่างหลากหลาย น้องๆรู้จัก จำนวนเต็ม กันแล้ว แต่หลายคนยังไม่สามาถเปรียบเทียบความมากน้อยของจำนวนเต็มเหล่านั้นได้ ซึ่งถ้าน้องๆ เคยเรียนเรื่องการเปรียบเทียบเศษส่วนและจำนวนคละมาแล้ว เรื่องนี้จะกลายเป็นเรื่องง่ายดาย ซึ่งได้นำเสนออกมาในรูปแบที่เข้าใจง่าย ทำให้น้องๆสนุกกับการเรียนคณิตศาสตร์ ทบทวนเรื่องจำนวนเต็ม  เช่น                                                                                                     25 ,  9  , -5 , 5.5 ,

Suggesting Profile

การแสดงความต้องการ เสนอและให้ความช่วยเหลือ ตอบรับและปฏิเสธการให้ความช่วยเหลือในสถานการณ์ต่างๆ

สวัสดีค่ะนักเรียนชั้นม. 3 ที่น่ารักทุกคน วันนี้ครูจะพาไปดูเทคนิค การแสดงความต้องการ เสนอและให้ความช่วยเหลือ ตอบรับและปฏิเสธการให้ความช่วยเหลือในสถานการณ์ต่างๆ ถ้าพร้อมแล้วก็ไปลุยกันเลยจร้า การแสดงความต้องการ     Question: สงสัยมั้ยว่า need/want /would like to have สามคำนี้ต่างกันยังไง? ตัวอย่างการใช้ need VS want  ในประโยคบอกเล่า เช่น

โลโก้ NockAcademy

ทดลองฟรี!

เข้าใจได้ทันที NockAcademy ไลฟ์สดอันดับ 1 

โลโก้ NockAcademy

ทดลองฟรี!

เข้าใจได้ทันที NockAcademy ไลฟ์สดอันดับ 1