Short question เน้นรูปอดีตโดยใช้ Did, Was, Were

ม3 เน้นรูปอดีตโดยใช้ Did_ Was_Were_

สารบัญ

Add LINE friends for one click to find article. Add LINE friends for one click to find article.

สวัสดีค่ะนักเรียนชั้นม.3 ที่น่ารักทุกคน วันนี้เราจะไปเรียนรู้เรื่อง “Short question เน้นรูปอดีตโดยใช้ Did, Was, Were” ไปลุยกันโลดเด้อ

 

ทำไมต้องเรียนเรื่อง Did, Was, Were

ม3 เน้นรูปอดีตโดยใช้ Did_ Was_Were_ (2)

Did, Was, Were ใช้ถามคำถามใน Past Simple Tense กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและจบลงไปแล้วในอดีต หรือ
ถามเพื่อให้แน่ใจว่าได้ทำสิ่งนั้นๆไปแล้ว ดังตัวอย่างด้านล่างต่อไปนี้

ตัวอย่างประโยค Short questions  with Was/Were:

ม3 เน้นรูปอดีตโดยใช้ Did_ Was_Were_ (3)

Was Lisa at the party last night?
ลิซ่าไปงานปาร์ตี้เมื่อคืนนี้หรือเปล่า

Short answer: Yes, she was.
ใช่หล่อนไป

Long answer: Yes, she was at the party last night.
ใช่หล่อนอยู่ที่งานเลี้ยงเมื่อคืนนี้

จากตัวอย่างจะเห็นว่า เราจะใช้ Did เมื่อประโยคเดิมเป็น Past Simple Tense จากนั้นสลับที่แล้ว กริยาจะเปลี่ยนเป็น กริยาช่องที่ 1 ไม่ผันหรือเราเรียกว่า Verb infinitive เหตุที่เป็นเช่นนี้เพราะเราผันกริยาที่ Did ไปแล้ว ซึ่งผันกริยาหลักในประโยคได้แค่ตัวเดียวและครั้งเดียวนั่นเองค่า

 Did you see John during the weekend?

คุณเห็นจอห์นช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์หรือเปล่า

Short answer: No, I didn’t.
ไม่นะ ไม่เลย

Long answer: No, I didn’t see John during the weekend.
ไม่ ฉันไม่เห็นจอห์นในช่วงสุดสัปดาห์เลย

 

 

  • ถามโดยใช้ Can

 

Can they speak English?
พวกเขาสามารถพูดภาษาอังกฤษได้หรือไม่?

Short answer:  Yes, they can.
ใช่พวกเราทำได้

Long answer: Yes, they can speak English.
ใช่ พวกเขาสามารถพูดภาษาอังกฤษได้

 

การใช้ Did ในประโยคบอกเล่า

 

ม3 เน้นรูปอดีตโดยใช้ Did_ Was_Were_ (4)

 

หลักการใช้ Did ใน Past Tense
โครงสร้าง: S+ did +…

did ในประโยคบอกเล่าแปลว่า ทำ

 

I did my homework yesterday.
ฉันทำการบ้านเมื่อวานนี้

 

Tom did his laundry this morning.
ทอมซักผ้าของเขาเมื่อเช้านี้

 

Jane did the laundry last week.
เจนซักผ้าเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

 

My aunt did cleaning her clothes.
ป้าของฉันทำความสะอาดเสื้อผ้าของเธอ

  • การใช้ Did ในประโยคปฏิเสธม3 เน้นรูปอดีตโดยใช้ Did_ Was_Were_ (5)

did ในประโยคปฏิเสธ และประโยคคำถาม เป็นกริยาช่วย ดังนั้นไม่ต้องแปลว่าทำ

มี did ที่เป็นกริยาช่องที่ 2 ***เป็นกริยาช่วยแล้ว กริยาแท้ต้องเป็นช่อง 1 เสมอนะจ้ะ

 

***รูปย่อของ did not คือ didn’t

 

I didn’t do my laundry.
ฉันไม่ได้ซักผ้า

 

My dad didn’t come home last week.
อาทิตย์ที่แล้วพ่อไม่กลับบ้าน

 

Timothy did not go swimming yesterday.
ทิโมธีไม่ได้ไปว่ายน้ำเมื่อวานนี้

 

They didn’t call me last night.

เมื่อคืนพวกเขาไม่โทรหาฉัน

 

การใช้ Did ในประโยคคำถาม

ม3 เน้นรูปอดีตโดยใช้ Did_ Was_Were_ (8)

Did Jane go shopping last Tuesday?
เจนไปช้อปปิ้งเมื่อวันอังคารที่แล้วหรือเปล่า

 

Did Tom go to the movie with you yesterday?
ทอมไปดูหนังกับคุณเมื่อวานนี้หรือเปล่า

การใช้ Was / Were ในประโยคคำถามสั้นๆ

 

ตัวอย่างประโยค Short Answer
(Affirmative)
ใช่
Short Answer
(Negative)
ไม่
Was I too fast?
ฉันเร็วเกินไปหรือเปล่า
Yes, you were.

 

No, you weren’t.

 

Were you really busy yesterday?
เมื่อวานคุณยุ่งมากไหม
Yes, I was. No, I wasn’t.
Were you both proud?
คุณทั้งคู่ภูมิใจไหม
Yes, we were. No, we weren’t.
Were they hungry?
พวกเขาหิวไหม
Yes, they were. No, they weren’t.
Was she late again?
เธอมาสายอีกแล้วเหรอ
Yes, she was. No, she wasn’t.
Was she a good student?
เธอเป็นนักเรียนที่ดีหรือเปล่า
Yes, she was. No, she wasn’t.
Were they ready to go?

พวกเขาพร้อมที่จะไปหรือยัง

Yes, they were. No, they weren’t.

 

การใช้ “Did” ใน Short Answer Questions

 

ตัวอย่างประโยค Short Answer
(Affirmative)
Short Answer
(Negative)
Did I fail the test?
ฉันสอบตกหรือไม่
Yes, you did. No, you didn’t.
Did you need a vacation?

คุณต้องการวันหยุดพักผ่อนหรือไม่

Yes, I did. No, I didn’t.
Did you both like cooking?

คุณทั้งคู่ชอบทำอาหารไหม

Yes, we did. No, we didn’t.
Did they finish their work?

พวกเขาทำงานเสร็จหรือยัง

Yes, they did. No, they didn’t.
Did she have a good time?

เธอมีช่วงเวลาที่ดีหรือไม่

Yes, she did. No, she didn’t.
Did she want to leave early?

เธอต้องการที่จะออกไปก่อน

Yes, she did. No, she didn’t.
Did it have blue buttons?

มันมีปุ่มสีน้ำเงินหรือไม่

Yes, it did. No, it didn’t.

 

โครงสร้าง ของ Was / Were


ม3 เน้นรูปอดีตโดยใช้ Did_ Was_Were_ (9)

 

  • ประธาน I / He / She / It / A cat ใช้กับ กริยา was
  • ประธาน You / We / They / Cats ใช้กับกริยา were

 

Affirmative sentences Questions
I was late.
ฉันมาสาย
Was I late?
ฉันมาสายหรือเปล่า
You were sick yesterday.
เมื่อวานคุณป่วย
Were you sick yesterday?
เมื่อวานคุณป่วยหรือเปล่า
She was surprised.
เธอรู้สึกประหลาดใจ
Was she surprised?
เธอแปลกใจไหม
She was from Italy originally.
เดิมทีเธอมาจากอิตาลี
Was she from Italy?
เธอมาจากอิตาลีหรือเปล่า
It was a nightmare.
มันเป็นฝันร้าย
Was it a nightmare?
มันเป็นฝันร้ายหรือเปล่า
We were ready.
เราก็พร้อม
Were we ready?
เราพร้อมไหม
You were early.
คุณมาก่อน
Were you early?
คุณมาเร็วไหม
They were busy.

พวกเขายุ่ง

Were they busy?
พวกเขายุ่งหรือเปล่า

 เนื่องจากว่า was / were เป็นช่องที่ 2 ของ is / am / are ดังนั้นหลักการใช้ก็จะเหมือนกันทุกประการ ต่างกันแค่ใช้เล่าเรื่องราวในอดีต แค่นั้นเองจ้า 

ข้อควรรู้:

 

ม3 เน้นรูปอดีตโดยใช้ Did WasWere

 

เราจะไม่ย่อ รูปของ V. to be ในประโยคบอกเล่านะคะ อย่าลืมน๊า ตัวอย่างเช่น

Question: Did you hate him that much?

ผิด: Yes, I’m. 
ถูก: Yes, I did. ใช่แล้ว (ถาม Did ตอบ did นะคะ)

เป็นอย่างไรกันบ้างคะ ครูหวังเป็นอย่างยิ่งว่าบทเรียนเรื่อง “Short question เน้นรูปอดีตโดยใช้ Did, Was, Were” จะเป็นประโยชน์กับทุกคนนะคะ อย่าลืมทบทวนบทเรียนปังๆ ได้ที่ด้านล่างนี้นะคะ 

Take care! ไปเรียนให้สนุกและได้ความรู้กันจ้า คลิกที่ปุ่มเพลย์เลยน๊า ดูแลสุขภาพด้วยเด้อ เลิฟๆ

 

NockAcademy คือโรงเรียนออนไลน์สำหรับเด็ก โดยแอปฯ และเว็บไซต์ นักเรียนสามารถเรียนรู้ผ่านคลิปบทเรียนวิชา คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และภาษาไทย
มากไปกว่านั้น เรายังมีคอร์สเรียนออนไลน์ การสอนพิเศษ การติวนอกสถานที่โดยติวเตอร์ที่แน่นไปด้วยความรู้ อีกด้วย

Add LINE friends for one click to find article. Add LINE friends for one click to find article.
ครูผู้สอน NockAcademy

แค่ 10 นาที ก็เข้าใจได้

สามารถดูคลิปบทเรียนวิชา คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และภาษาไทย ที่มีมากกว่า 2,000+ คลิป และยังสามารถทำแบบทดสอบที่มีมากกว่า 4000+ ข้อ

แนะนำ

แชร์

การพูดรายงานหน้าชั้น พูดอย่างไรให้ได้ใจผู้ฟัง

การพูดรายงานหน้าชั้น เป็นการแสดงผลงานศึกษาค้นคว้าโดยนำมาบอกเล่า ชี้แจง นำเสนอให้ผู้อื่นได้ทราบด้วย การพูดรายงานจึงมีความสำคัญในฐานะที่เป็นการเผยแพร่และแลกเปลี่ยนความรู้ความคิด บทเรียนในวันนี้เราจะพาน้อง ๆ ไปเรียนรู้กันว่าหลักในการพูดรายงานหน้าชั้นนั้นมีอะไรบ้าง พูดอย่างไรจึงจะดึงดูดผู้ฟัง รวมไปถึงมารยาทขณะที่ออกไปพูดด้วย จะเป็นอย่างไรบ้างนั้นเราไปดูกันเลยค่ะ   หลักการพูดรายงานหน้าชั้น     1. กล่าวทักทายผู้ฟัง แนะนำผู้ร่วมงาน หัวข้อ จุดประสงค์ การทักทายถือเป็นการสร้างความประทับใจแรกให้แก่ผู้ฟัง ไม่ว่าหัวข้อที่เราจะนำมาพูดหน้าชั้นคืออะไร แต่หากเราพูดเนื้อหาขึ้นมาเลยแบบไม่มีปี่ไม่ขลุ่ย ก็อาจจะทำให้ผู้ฟังไม่อยากฟัง หรือคิดว่าการพูดหน้าชั้นของเราเป็นเรื่องน่าเบื่อ

แบบฝึกหัดความสัมพันธ์

แบบฝึกหัดความสัมพันธ์ แบบฝึกหัดความสัมพันธ์ เป็นการทบทวนเนื้อหาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ ได้แก่ เรื่องโดเมนและเรนจ์ของความสัม กราฟของความสัมพันธ์ และตัวผกผันของความสัมพันธ์ ก่อนทำแบบฝึกหัดความสัมพันธ์ บทความที่น้องๆควรรู้ คือ โดเมนของความสัมพันธ์ เรนจ์ของความสัมพันธ์ กราฟของความสัมพันธ์ ตัวผกผันของความสัมพันธ์   แบบฝึกหัด 1.) ถ้า (x, 5) = (3, x – y)

สัญลักษณ์แทนการบวก

สัญลักษณ์แทนการบวก

สัญลักษณ์แทนการบวก สัญลักษณ์แทนการบวก หรือ   เรียกว่า ซิกมา ( Sigma ) เราใช้เพื่อลดรูปการบวกกันของตัวเลข เนื่องจากว่าบางทีเป็นการบวกของจำนวนตัวเลข 100 พจน์ ถ้ามานั่งเขียนทีละตัวก็คงจะเยอะไป เราจึงจะใช้เครื่องหมายซิกมามาใช้เพื่อประหยัดเวลาในการเขียนนั่นเอง เช่น 1 + 2 + 3 + 4 +5  สามารถเขียนแทนด้วย

โจทย์ปัญหาเกี่ยวกับอัตราส่วน สัดส่วน และร้อยละ

โจทย์ปัญหาเกี่ยวกับอัตราส่วน สัดส่วน และร้อยละ บทความนี้ ได้รวบรวม โจทย์ปัญหาเกี่ยวกับอัตราส่วน สัดส่วน และร้อยละ ซึ่งการแก้โจทย์ปัญหานั้น น้องๆจะต้องอ่านทำความเข้าใจกับโจทย์ให้ละเอียด และพิจารณาอย่างรอบคอบว่าโจทย์กำหนดอะไรมาให้บ้างและโจทย์ต้องการให้หาอะไร จากนั้นจะสามารถหาค่าของสิ่งที่โจทย์ต้องการได้โดยใช้ความรู้เรื่องการคูณไขว้ สัดส่วน และร้อยละ ก่อนจะเรียนรู้เรื่องนี้ น้องๆจำเป็นต้องมีความรู้ในเรื่อง สัดส่วน เพิ่มเติมได้ที่  ⇒⇒ สัดส่วน ⇐⇐ โจทย์ปัญหาเกี่ยวกับสัดส่วน ตัวอย่างที่ 1  อัตราส่วนของอายุของนิวต่ออายุของแนน เป็น 2

ภาษาถิ่นใต้

ภาษาถิ่นใต้ มรดกทางวัฒณธรรมที่ควรค่าแก่การศึกษา

ภาษาเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรม โดยสิ่งที่สะท้อนให้เห็นถึงวัฒนธรรมผ่านภาษามากที่สุด ก็คือ การมีอยู่ของภาษาถิ่น ซึ่งเป็นภาษาที่ใช้พูดติดต่อสื่อสารตามท้องถิ่นต่าง ๆ เพื่อให้คนในพื้นที่เข้าใจกัน ประเทศไทยมีทั้งหมด 6 ภาค ภาษาถิ่นที่เด่นชัดที่สุดจะแบ่งออกเป็นภาษาถิ่นภาคกลางซึ่งครอบคลุมไปถึงภาคตะวันตะวันตก อาจมีแตกต่างบ้างในเรื่องของคำศัพท์บางคำและสำเนียง ภาษาถิ่นเหนือและภาษาถิ่นอีสาน ที่ได้รับอิทธิพลจากประเทศเพื่อนบ้าน และด้วยภูมิภาคที่อยู่ใกล้กันทำให้บางคำก็ใช้ด้วยกัน และสุดท้าย ภาษาถิ่นใต้ ที่ค่อนข้างจะแตกต่างกับภาษาถิ่นอื่น ๆ แต่จะมีลักษณะ และมีคำศัพท์น่ารู้อะไรบ้างนั้น เราไปเรียนรู้เรื่องนี้พร้อมกันเลยค่ะ   ภาษาถิ่นใต้  

เมื่อฉันโดนงูรัด!: เรียนรู้การใช้ Passive Voice แบบผ่อน ‘คลายย’

น้องๆ ทราบกันมั้ยว่าในไวยากรณ์ภาษาอังกฤษจะมีสิ่งที่เรียกว่า ‘Voice’ ถ้ายังไม่ทราบหรือเคยได้ยินแต่ยังไม่แน่ใจว่าคืออะไรวันนี้เราจะมาเรียนรู้เรื่อง Voice ในภาษาอังกฤษแบบเข้าใจง่ายๆ กันครับ

โลโก้ NockAcademy

ทดลองฟรี!

เข้าใจได้ทันที NockAcademy ไลฟ์สดอันดับ 1 

โลโก้ NockAcademy

ทดลองฟรี!

เข้าใจได้ทันที NockAcademy ไลฟ์สดอันดับ 1