สวัสดีค่ะนักเรียนชั้นม.2 ทุกคน วันนี้ครูจะพาไปตะลุยตัวอย่างและวิธีการแต่งประโยคคำถาม ของเรื่อง “Short question and Short answer“ การถามตอบคำถามแบบสั้น หากพร้อมแล้วก็ไปลุยกันเลยจร้า
ความหมาย
Short question and Sho
rt answer คือการถามตอบแบบสั้นหรือส่วนใหญ่แล้วมักขึ้นต้นคำถามด้วยกริยาช่วย และได้คำตอบขนาดสั้น เช่น Yes, I do. No, I don’t. Yes, they are. เป็นต้น
ตัวอย่าง รูปแบบโครงสร้างคำถามที่ข้นต้นด้วย Verb to be และ Verb to do กันจร้า
Example:
Are you hungry?
หิวมั้ย
Answer: Yes, I’m hungry. หรือ No, I’m not hungry.
ใช่แล้ว ฉันหิว หรือ ไม่เลย ฉันไม่หิวDo you like me?
คุณชอบฉันมั้ยAnswer: Yes, I do. หรือ No, I don’t.
ใช่ ฉันชอบคุณ หรือ ไม่ ฉันไมชอบคุณ
Short Questions and Short Answers ขึ้นต้นด้วย “Verb to be”
กริยาช่วยกลุ่มนี้ที่สามารถขึ้นต้นประโยคคำถามได้ ได้แก่ is, am, are, was, were
โครงสร้างประโยคคำถามที่เราต้องรู้ คือ
Verb to be + Subject + Object/ Complement….?
ตัวอย่างประโยค
ประโยคบอกเล่า: Emily is going to the zoo. แปล เอมมิลี่กำลังจะไปสวนสัตว์
ประโยคคำถาม: Is Emily going to the zoo?
แปลว่า เอมมิลี่จะไปสวนสัตว์มั้ย
อธิบายเพิ่มเติม: เอมมิลี่เป็นประธาน, is เป็น V. to be, going มาจาก go + .ing แปลว่า กำลังไปทบทวน: Helping verb หรือ Auxiliary verb กริยาช่วย หรือ ภาษาทางการเรียกว่า กริยานุเคราะห์ คือกริยาที่วางอยู่หน้ากริยาหลัก (Main verb) ในประโยค ทำหน้าที่ช่วยกริยาอื่นให้มีความหมายตาม Tenses กาลเวลา (Present, Past, Future) เพื่อให้ประโยคมีความหมายสมบูรณ์ขึ้น
Verb to Do ขึ้นต้น Short Questions and Short Answers
หน้าที่เป็นกริยาช่วย (Auxiliary Verb) โดยจะใช้ร่วมกับกริยาหลัก (Main Verb) เพื่อสร้างประโยคคำถาม
ประโยคปฏิเสธ หรือเพื่อเน้นย้ำความสำคัญ
โครงสร้างประโยคคำถาม:
Do/Does/Did + Subject + V .infinitive + Object/Complement?
- Simple Present Tense ใช้ Do / Does
Do you like going to the zoo?
= คุณชอบไปสวนสัตว์มั้ยDoes the tiger eat meat?
= เสือกินเนื้อเป็นอาหารมั้ย
- Past Tense ใช้ Did กับเหตุการณ์ที่เป็นอดีต
Did you feed monkeys at the zoo?
แปล คุณได้ให้อาหารลิงที่สวนสัตว์มั้ย
ทบทวนกริยาช่วยและการสร้างประโยค
Helping verb หรือ Auxiliary verb กริยาช่วย หรือ ภาษาทางการเรียกว่า กริยานุเคราะห์ คือกริยาที่วางอยู่หน้ากริยาหลัก (Main verb) ในประโยค ทำหน้าที่ช่วยกริยาอื่นให้มีความหมายตาม Tenses กาลเวลา (Present, Past, Future) เพื่อให้ประโยคมีความหมายสมบูรณ์ขึ้น
ประเภทของ Helping Verbs
Helping หรือ Auxiliary verbs กริยาช่วยในภาษาอังกฤษ แบ่งออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ๆ คือ
- Modal auxiliary verbs คือ กริยาช่วยที่มาช่วยขยายความหมายของกริยาแท้ เช่น will, shall, should, can, may, must กริยาช่วยกลุ่มนี้จะช่วยบอกความเป็นไปได้ ความจำเป็น และเปลี่ยนแปลงความหมายของกริยาแท้ไปในเชิงนั้นๆ
ประโยคบอกเล่า: Jenny can play a piano. (เจนนี่สามารถเล่นเปียโนได้)
ประโยคคำถาม: Can Jenny play a piano?
ตามโครงสร้าง: Modal auxiliary verbs + Subject + V. Infinitive + Object/Compliment?
- Primary auxiliary verbs คือ กริยาช่วยที่ทำหน้าที่ช่วยกริยาแท้ให้เป็นไปตามโครงสร้างทางไวยากรณ์ภาษาอังกฤษ แบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่
V. to be, V. to have, และ V. todo
Primary auxiliary verbs กริยาช่วยในกลุ่มนี้ ไม่มีความหมายในตัวเอง และไม่สามารถอยู่ตามลำพังได้ จะต้องใช้คู่กับกริยาหลัก (Main verb) เท่านั้น ทำให้เราสามารถสร้างโครงสร้างประโยคคำถามได้เป็น 4 กลุ่มใหญ่ๆ ดังนี้ค่ะ
กริยาช่วยกลุ่มนี้ได้แก่ is, am, are, was, were
โครงสร้างประโยคคำถามคือ V. to be + Subject + Object/ Complement….?
ตัวอย่างประโยค
ประโยคบอกเล่า: Jen is hit by a car. แปล เจนโดนรถชน
ประโยคคำถาม: Is Jen hit by a car?
แปลว่า เจนถูกรถชนใช่มั้ย
เพิ่มเติม: เจนเป็นประธาน, is เป็น V. to be, hit เป็น กริยาช่อง 3 ของ hit (hit, hit, hit) แปลว่า โดนชนข้อสังเกต: เราสามารถ ตอบคำถามข้อนี้ได้เป็น Yes ใช่ หรือ No ไม่ใช่ นั่นเองค่า
V. to have ขึ้นต้นประโยคคำถาม
กริยาช่วยกลุ่มนี้ได้แก่ has, have, had
โครงสร้าง: Have/Has/Had + Subject + V.3+ Object/ Complement….?
ประโยคบอกเล่า: Daniel has eaten a piece of cake.แปลว่า เดเนียลได้กินเค้กไปแล้ว 1 ชิ้น
ประโยคคำถาม: Has Daniel eaten a piece of cake?
แปล: เดเนียลได้กินเค้กชิ้นนั้นไปใช่มั้ย
ข้อสังเกต: เราสามารถ ตอบคำถามข้อนี้ได้เป็น Yes ใช่ หรือ No ไม่ใช่ นั่นเองค่า
ข้อสังเกต: เราสามารถ ตอบคำถามข้อนี้ได้เป็น Yes ใช่ หรือ No ไม่ใช่ นั่นเองค่า
Modal auxiliaries ขึ้นต้นประโยคคำถาม
กริยาช่วยเหล่านี้เป็นกริยาช่วยที่มีความหมายในตัวมันเอง ได้แก่
will, would = จะ
shall, should = จะ, น่าจะ, ควรจะ
can, could = สามารถ
may, might = อาจจะ
must = ควรจะ
ought to = ควรจะ (ปัจจุบันไม่ค่อยถูกนำมาใช้)
โครงสร้างประโยคคำถามคือ: modal auxiliaries + subject + V. Infinitive
(กริยาช่องที่ 1 ไม่ผัน) + Object/ Complement….?
ตัวอย่างประโยคคำถาม
Would you like to come with me?
แปลว่า คุณต้องการที่จะมากับผมมั้ยครับ
อธิบายเพิ่มเติม
would เป็น modal auxiliaries ส่วน you เป็นสรรพนามบุรุษที่2 ใช้กับคนที่เราพูดด้วย และวลีส่วน to come with me ทำหน้าที่เป็นส่วนเติมเต็มเรียกว่า วลีบุพบท
ข้อสังเกต: เราสามารถ ตอบคำถามข้อนี้ได้เป็น Yes ใช่ หรือ No ไม่ใช่ นั่นเองค่า
สรุป Short Answer Questions
คำถามที่ขึ้นต้นด้วย กริยาช่วยมักจะได้คำตอบที่เป็น yes หรือ no แบบตายตัว และอาจจะมีส่วนขยายพ่วงมาด้านหลังโดยขึ้นต้นด้วยคอมม่า (,) ซึ่งคำตอบจะเป็น Short Questions หรือ คำตอบสั้นๆนั่นเองค่า ส่วนคำถามที่ขึ้นต้นด้วย Wh- questions นั้นต้องการคำตอบที่เจาะจง เช่นถามว่าชื่ออะไร ผู้ตอบก็ต้องตอบชื่อไปตามตรง แบบนี้นั่นเอง
เป็นอย่างไรกันบ้างคะขอให้สนุกกับการอ่านบทเรียนเรื่อง Short Questions and Short Answers กันนะคะ นักเรียนที่รักทุกคนอย่าลืมทบทวนบทเรียนที่วีดีโอ เรื่อง Short Questions and Short Answers กับทีชเชอร์กรีซกันน๊า เผื่อจะร้องอ๋อ ยิ่งๆขึ้นไป เลิฟๆ