Present Progressive พร้อมโครงสร้าง และวิธีใช้

สวัสดีน้องๆ ม. 4 ทุกคนนะครับ วันนี้เราจะมาเรียนรู้เรื่อง Present Progressive ซึ่งเป็นอีกหนึ่ง Tense ที่สำคัญเช่นกันในไวยากรณ์ภาษาอังกฤษ เราไปดูกันเลยดีกว่าครับ
present progressive

สารบัญ

Add LINE friends for one click to find article. Add LINE friends for one click to find article.

What is Present Progressive?

สำหรับ Tense นี้น้องๆ อาจจะเคยได้ยินชื่อของมันมาบ้าง ซึ่งจริงๆ แล้วมันมีอีกชื่อนึงว่า Present Continuous นั่นเองครับ (ชื่อนี้อาจจะคุ้นมากกว่า) โดยเราจะใช้ Present Progressive เพื่อ

1) บรรยายเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้น

2) บอกกำหนดการณ์ที่แน่นอนในอนาคตอันใกล้

3) บอกสิ่งที่เกิดขึ้นในระยะสั้นๆ หรือชั่วคราว

 

โครงสร้าง

รูปแบบประโยคบอกเล่า

present progressive

I am looking for a part-time job this summer.

(ฉันกำลังมองหางานพาร์ทไทม์ช่วงฤดูร้อน)

Sarah is waiting for her friends at the train station.

(ซาร่าห์กำลังรอเพื่อนๆ ของเธอที่สถานีรถไฟ)

Please be quiet. I am currently speaking.

(กรุณางดใช่เสียง ฉันกำลังพูดอยู่)

 

รูปแบบประโยคปฏิเสธ

negative progressive

เราจะใช้ “not” ตามหลัง Verb to be เพื่อทำให้ประโยคอยู่ในรูปปฎิเสธ

I am not going to school today. I feel very sick.

(ฉันจะไม่ไปโรงเรียนวันนี้ ฉันรู้สึกไม่ค่อยสบาย)

Peter is not focusing on his project.

(ปีเตอร์ไม่ค่อยใส่ใจในโปรเจ็คของเขา)

It is not raining after midnight.

(ฝนจะไม่ตกหลังเที่ยงคืน)

 

รูปแบบประโยคคำถาม

interrogative progressive

เราสามารถนำ Verb to be มาขึ้นต้นประโยคเพื่อทำเป็นรูปคำถามได้เลย เช่น

Are you leaving now?

(คุณกำลังจะไปแล้วใช่มั้ย?)

Is he joining us this evening?

(เขาจะมาเข้าร่วมกับเราเย็นนี้หรือเปล่า?)

Are you talking about me?

(คุณกำลังพูดถึงฉันอยู่หรือเปล่า?)

 

ตัวอย่างการใช้ในรูปแบบต่างๆ

1) บรรยายเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้น

We are studying English now.

(เรากำลังเรียนวิชาภาษาอังกฤษอยู่ตอนนี้)

He is repairing the computer.

(เขากำลังซ่อมคอมพิวเตอร์อยู่)

Lauren and Sam are walking to the bus station.

(ลอเรนและแซมกำลังเดินไปที่สถานีรถบัส)

present progressive

 

2) บอกกำหนดการณ์ที่แน่นอนในอนาคตอันใกล้

It is going to rain at 10 a.m.

(ฝนจะตกตอนช่วงสิบโมงเช้า)

Tyler is going to Italy next week.

(ไทเลอร์จะไปอิตาลีอาทิตย์หน้า)

The train is not leaving until 6 p.m.

(รถไฟจะไม่ออกจนกว่าจะหกโมงเย็น)

present progressive

 

3) บอกสิ่งที่เกิดขึ้นในระยะสั้นๆ ชั่วคราว หรือในห้วงเวลาปัจจุบัน

Nancy is staying with her parents at the moment.

(ช่วงนี้แนนซี่พักอยู่พ่อแม่ของเธอ)

She is currently working on his final project.

(ช่วงนี้หล่อนกำลังทำไฟนอลโปรเจ็คอยู่)

I am studying B.Sc. in Biology at Burapha University.

(ผมกำลังเรียนเอกชีวะวิทยาอยู่ที่มหาวิทยาลัยบูรพา)

present progressive

 

ข้อสังเกตและข้อควรระวัง

ในประโยค Present Progressive มักจะมี Adverb ที่บอกเวลา ณ ขณะนั้นอยู่ในประโยคด้วย เช่น now, right now, at the moment เป็นต้น หรือถ้าเป็นเหตุการณ์ที่กำหนดไว้ชัดเจนในอนาคตก็มักจะมีคำบอกเวลาชัดเจน เช่น next week, this evening, tomorrow เป็นต้น

มีกริยาบางตัวที่ไม่สามารถทำเป็นรูป be + Ving ได้ เรามักเรียกกริยาเหล่านี้ว่ากริยาที่บอกลักษณะอาการ (state verbs) เช่น know, have (แปลว่า มี), like, love, prefer, hate, believe, cost เป็นต้น

I am knowing that he loves me.

(ฉันกำลังรู้ว่าเขารักฉัน) *กำลังรู้ ไม่มีความหมาย

เราจะใช้ว่า

I know that he loves me.

(ฉันรู้ว่าเขารักฉัน)

หรือ

Lisa is hating durians because of its awful smell.

(ลิซ่ากำลังเกลียดทุเรียนเพราะกลิ่นเหม็นๆ ของมัน) *กำลังเกลียด ไม่มีความหมาย

เราจะใช้ว่า

Lisa hates durians because of its awful smell.

(ลิซ่าเกลียดทุเรียนเพราะกลิ่นเหม็นๆ ของมัน)

 

น้องๆ จะเห็นได้ว่าเราใช้ Present Progressive ในชีวิตประจำวันบ่อยมากๆ ดังนั้นการเรียนรู้ Tense นี้จึงมีประโยชน์มากในน้องๆ หมั่นทบทวนและฝึกใช้กันบ่อยๆ นะครับ และน้องๆ สามารถดูวิดีโอเพิ่มเติมจาก NockAcademy ได้ที่ข้างล่างเลย 🙂

NockAcademy คือโรงเรียนออนไลน์สำหรับเด็ก โดยแอปฯ และเว็บไซต์ นักเรียนสามารถเรียนรู้ผ่านคลิปบทเรียนวิชา คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และภาษาไทย
มากไปกว่านั้น เรายังมีคอร์สเรียนออนไลน์ การสอนพิเศษ การติวนอกสถานที่โดยติวเตอร์ที่แน่นไปด้วยความรู้ อีกด้วย

Add LINE friends for one click to find article. Add LINE friends for one click to find article.
ครูผู้สอน NockAcademy

แค่ 10 นาที ก็เข้าใจได้

สามารถดูคลิปบทเรียนวิชา คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และภาษาไทย ที่มีมากกว่า 2,000+ คลิป และยังสามารถทำแบบทดสอบที่มีมากกว่า 4000+ ข้อ

แนะนำ

แชร์

การพูดรายงานหน้าชั้น พูดอย่างไรให้ได้ใจผู้ฟัง

การพูดรายงานหน้าชั้น เป็นการแสดงผลงานศึกษาค้นคว้าโดยนำมาบอกเล่า ชี้แจง นำเสนอให้ผู้อื่นได้ทราบด้วย การพูดรายงานจึงมีความสำคัญในฐานะที่เป็นการเผยแพร่และแลกเปลี่ยนความรู้ความคิด บทเรียนในวันนี้เราจะพาน้อง ๆ ไปเรียนรู้กันว่าหลักในการพูดรายงานหน้าชั้นนั้นมีอะไรบ้าง พูดอย่างไรจึงจะดึงดูดผู้ฟัง รวมไปถึงมารยาทขณะที่ออกไปพูดด้วย จะเป็นอย่างไรบ้างนั้นเราไปดูกันเลยค่ะ   หลักการพูดรายงานหน้าชั้น     1. กล่าวทักทายผู้ฟัง แนะนำผู้ร่วมงาน หัวข้อ จุดประสงค์ การทักทายถือเป็นการสร้างความประทับใจแรกให้แก่ผู้ฟัง ไม่ว่าหัวข้อที่เราจะนำมาพูดหน้าชั้นคืออะไร แต่หากเราพูดเนื้อหาขึ้นมาเลยแบบไม่มีปี่ไม่ขลุ่ย ก็อาจจะทำให้ผู้ฟังไม่อยากฟัง หรือคิดว่าการพูดหน้าชั้นของเราเป็นเรื่องน่าเบื่อ

NokAcademy_ม3 การใช้ Yes_No Questions  และ Wh-Questions

การใช้ Yes/No Questions  และ Wh-Questions

  สวัสดีค่ะนักเรียนชั้นม.3 ทุกคน วันนี้ครูจะพาไปตะลุยตัวอย่างและวิธีการแต่งประโยคคำถาม 2กลุ่ม ได้แก่ “การใช้  Yes/No Questions  และ Wh-Questions” หากพร้อมแล้วก็ไปลุยกันเลยจร้า   Yes/No Questions คืออะไร?   Yes/ No Questions ก็คือ กลุ่มคำถามที่ต้องการคำตอบแน่ชัดว่า Yes ใช่  หรือ

Profile-even if-only if- unless grammartical techniques

Even if, Only If, Unless ใช้ยังไงในภาษาอังกฤษ

  สวัสดีค่ะนักเรียนชั้นม.  6 ทุกคน วันนี้ครูมีเทคนิคการใช้ Even if, Only if, Unless มาฝากกันค่ะ หลายคนที่อาจจะเคยคุ้นหูกันมาบ้างแล้ว แต่อาจะจะลืมไปหรือบางคนอาจจะยังไม่เคยเรียนเลย ไม่เป็นไรค่ะ วันนี้เราจะเริ่มกันใหม่ ไปลุยกันเลย ความหมายโดยรวมของ Even if, Only if, Unless คือ คำสันธานที่ใช้เชื่อมความขัดแย้งของประโยคเงื่อนไข ย้ำนะคะว่า

เทคนิคการใช้ Yes, No Questions M.1

เทคนิคการใช้ Yes, No Questions ในภาษาอังกฤษ

  สวัสดีค่ะนักเรียน ม.  1 ที่น่ารักทุกคนวันนี้ครูจะพาไปดูเทคนิคและวิธีการอย่างง่ายในการใช้ประโยค Yes/No questions กันค่ะไปลุยกันเลยค่า Yes, No Questions คืออะไร คือ ประโยคคำถามที่ต้องการคำตอบรับ (Yes) หรือปฏิเสธ (No) เป็นการถามที่ผู้ถามอาจจะมีข้อมูลอยู่บ้างว่า ว่าจะเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ หรือผู้ถามอาจจะถามเพื่อให้มั่นใจว่าเป็นจริงตามที่เข้าใจหรือเปล่า ในที่นี้ครูจึงแยกออกเป็น 3 ชนิดค่ะ คือ ประโยคคำถามที่ขึ้นต้นด้วย

การใช้ Quantity words

การใช้ Quantity words เช่น many/ much/ a lot of/ lots of and etc.

Hi guys! สวัสดีค่ะนักเรียนชั้นม.2 ทุกคนวันนี้เราจะไปเรียนรู้ “การใช้ Quantity words เช่น many/ much/ a lot of/ lots of and etc. ” ในภาษาอังกฤษกันค่ะ Let’s go! ไปลุยกันโลด Quantity words คืออะไร

NokAcademy_ม3 มารู้จักกับ Signal Words

การใช้ Signal words : First, Second, Firstly, Secondly, Finally, Then, Next etc.

มารู้จักกับ Signal Words หรือ อีกชื่อที่รู้จักกันคือ Connective Words: คำเชื่อมประโยค/วลี ในภาษาอังกฤษ สวัสดีค่ะนักเรียน ม.3 ทุกคน วันนี้ครูมีเทคนิคที่จะทำให้ทุกคนนำไปปรับใช้กับงานเขียนด้วย  การใช้ตัวเชื่อม (connective words) ในภาษาอังกฤษกันค่ะ โดยปรกติแล้วงานเขียนแบ่งออกออกเป็นสองรูปแบบหลักๆคือ เรียงความ (Essay Writing) กับ พารากราฟ (Paragraph Writing)

โลโก้ NockAcademy

ทดลองฟรี!

เข้าใจได้ทันที NockAcademy ไลฟ์สดอันดับ 1 

โลโก้ NockAcademy

ทดลองฟรี!

เข้าใจได้ทันที NockAcademy ไลฟ์สดอันดับ 1