Present Perfect Continuous แบบเข้าใจง่ายและใช้ได้จริง

สวัสดีน้องๆ ม. 4 ทุกคนนะครับ วันนี้เราจะมาเรียนรู้เกี่ยวกับ Present Perfect Continuous ในภาษาอังกฤษกันครับ จะเป็นอย่างไรเราไปเริ่มกันเลยดีกว่าครับ
present perfect cont

สารบัญ

Add LINE friends for one click to find article. Add LINE friends for one click to find article.

Present Perfect Continuous

Present Perfect Continuous หรือมีอีกชื่อนึงว่า Present Perfect Progressive นั้นเป็น Tense ที่ใช้เพื่อแสดงถึงสิ่งที่ทำมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน และเน้นว่ายังคงทำสิ่งนี้ต่อไปนั่นเองครับ สำหรับโครงสร้างของ Tense นี้ก็คือ

Present Perfect Continuous

 

ความแตกต่างระหว่าง Present Perfect กับ Present Perfect Cont.

ที่จริงแล้ว 2 Tense นี้มีความใกล้เคียงกันมาก (โดยน้องๆ สามารถศึกษาเกี่ยวกับ Present Perfect ได้ที่นี่) ซึ่งหากจะต้องบอกถึงความแตกต่างนั้น เราลองมาดูตัวอย่างเปรียบเทียบกันดีกว่าครับ

 

Present Perfect

Present Perfect Cont.

I have waited for the bus for 2 hours.

I have been waiting for the bus for 2 hours.

(ฉันรอรถบัสมาเป็นเวลา 2 ชั่วโมงแล้ว)

(ฉันรอรถบัสมาเป็นเวลา 2 ชั่วโมงแล้ว)

 

            น้องๆ จะสังเกตเห็นว่าความหมายของ 2 ประโยคด้านบนนั้นไม่ได้ต่างกันเลยครับ สิ่งที่แตกต่างคือ
“หากเป็น Present Perfect Cont. จะเน้นให้เห็นว่ายังคงทำกริยานั้นต่อไปอีก”
ในประโยคตัวอย่างนั้นจึงต้องการเน้นว่า “ฉันรอมาแล้ว 2 ชั่วโมง และฉันก็ยังรอต่อไป”

ซึ่งแตกต่างจาก Present Perfect ที่ว่าหากใช้ Present Perfect ผู้พูดอาจจะรอ 2 ชั่วโมงแล้วรถมาพอดี
หรืออาจจะยังรอต่อไปก็ได้ เป็นการเน้นแค่ว่ารอมา 2 ชั่วโมงแล้ว
แต่ไม่ได้เน้นถึงการกระทำที่ยังคงทำต่อเนื่องต่อไปไปอีกนั่นเองครับ (อาจจะทำต่อหรือไม่ก็ได้)

 

ตัวอย่างประโยค

เพื่อให้เข้าใจมากขึ้น เรามาลองดูตัวอย่างเพิ่มเติมกันอีกหน่อยนะครับ

She has been working since 8 o’clock.
=เธอทำงานมาตั้งแต่ 8 โมงเช้าแล้ว (และก็ยังคงทำต่อไปอีก)

Laura and Michael have been travelling around the world for months.
=ลอร่ากับไมเคิลออกเดินทางรอบโลกมาเป็นเวลาหลายเดินแล้ว (จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่กลับมา)

I have been talking to you for 2 hours.
=ฉันคุยกับคุณมาเป็นเวลา 2 ชั่วโมงแล้ว (ยังคงคุยต่อไป)

example

 

เหตุการณ์ที่จบลงไปแล้วและยังส่งผลถึงปัจจุบัน

นอกจากนั้นเรายังสามารถใช้ Tense นี้เพื่อพูดถึงเหตุการณ์ที่เพิ่งจบลงไป(คล้ายๆ กับ Present Perfect) และเรายังสามารถเห็นผลลัพธ์ของเหตุการณ์นั้นในปัจจุบันได้อีกด้วยครับ เช่น

It’s been raining.
=ฝนเพิ่งตกไปเมื่อตะกี๊ (ฝนเพิ่งหยุดไปแต่เรายังเห็นถนนเปียกอยู่)

Somebody has been eating my coffee.
=มีคนเพิ่งดื่มกาแฟของฉันไป (กาแฟในแก้วหายไปครึ่งนึง)

My mom has been cooking since the morning.
=แม่ฉันทำอาหารมาตั้งแต่เช้า (ตอนนี้อาหารอยู่บนโต๊ะแล้วพร้อมทาน)

example 2

 

เป็นยังไงกันบ้างครับสำหรับเรื่อง Present Perfect Continuous ไม่ยากเลยใช่มั้ยล่ะครับ? เป็นอีกหนึ่ง Tense ที่น้องๆ จะได้เจอบ่อยๆ ในชีวิตประจำวัน และหากน้องๆ คนไหนอยากเรียนรู้เพิ่มเติมก็สามารถรับชมวิดีโอจากช่อง Nock Academy ด้านล่างได้เลยครับ

NockAcademy คือโรงเรียนออนไลน์สำหรับเด็ก โดยแอปฯ และเว็บไซต์ นักเรียนสามารถเรียนรู้ผ่านคลิปบทเรียนวิชา คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และภาษาไทย
มากไปกว่านั้น เรายังมีคอร์สเรียนออนไลน์ การสอนพิเศษ การติวนอกสถานที่โดยติวเตอร์ที่แน่นไปด้วยความรู้ อีกด้วย

Add LINE friends for one click to find article. Add LINE friends for one click to find article.
ครูผู้สอน NockAcademy

แค่ 10 นาที ก็เข้าใจได้

สามารถดูคลิปบทเรียนวิชา คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และภาษาไทย ที่มีมากกว่า 2,000+ คลิป และยังสามารถทำแบบทดสอบที่มีมากกว่า 4000+ ข้อ

แนะนำ

แชร์

M6 Phrasal Verbs

Phrasal Verbs 

สวัสดีค่ะนักเรียนชั้นม.6 ที่รักทุกคนวันนี้เราจะไปเรียนรู้กันเรื่อง “Phrasal Verbs“ กันนะคะ ถ้าพร้อมแล้วก็ไปลุยกันโลด   ความหมาย Phrasal Verbs  Phrasal Verbs คือ คำกริยา โดยเป็นกริยาที่มีคำอื่นๆ อย่างเช่น คำบุพบท (Preposition) ร่วมกันส่วนใหญ่แล้ว Phrasal Verbs จะบอกถึงการกระทำ มักจะเจอในชีวิตประจำวันในสถานการณ์ทั่วไป ไม่เป็นทางการมาก ข้อดีคือจะทำให้ภาษาใกล้เคียงกับเจ้าของภาษามากขึ้นนั่นเองจ้า

ส่วนต่างๆ ของวงกลม

ส่วนต่างๆ ของวงกลม ก่อนที่เราจะมารู้จักส่วนต่างๆ ของวงกลม เรามาเริ่มรู้จักวงกลมกันก่อน จากคำนิยามของวงกลมที่กล่าวว่า “วงกลมเกิดจากชุดของจุดที่มาเรียงต่อกันบนระนาบเดียวกัน โดยทุกจุดอยู่ห่างจากจุดจุดหนึ่งซึ่งเป็นจุดคงที่ในระยะทางที่เท่ากันทุกจุด”   โดยเรียกจุดคงที่นี้ว่า จุดศูนย์กลางของวงกลม เรียกระยะทางที่เท่ากันนี้ว่า รัศมีของวงกลม       วงกลม คือ รูปทรงเรขาคณิตที่มีสองมิติเเละจะมีมุมภายในของวงกลมที่มีขนาด 360 องศา โดยทั่วไปในชีวิตประจำวัน เราจะเห็นสิ่งที่มีลักษณะเป็นวงกลมอยู่รอบ ๆ ตัวเราอยู่เยอะเเยะมากมาย

คำสมาสแบบสมาส คำสมาสแบบสนธิ

เรียนรู้หลักการสร้างคำสมาสแบบสมาส และคำสมาสแบบสนธิ

บทนำ คำสมาส และคำสนธิ ถือว่าเป็นหนึ่งบทเรียนในหลักภาษาไทยของระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นที่หลายคนมักมองว่าเป็นเรื่องยาก และปราบเซียนในการสอบสุด ๆ เนื่องจากว่าเราจะต้องมีพื้นฐานความเข้าใจเรื่อง คำบาลี สันสกฤตเพื่อให้สามารถแยกแยะคำ หรือสร้างคำใหม่ได้ รวมไปถึงต้องจำหลักการอ่านเชื่อมเสียงแบบต่าง ๆ จึงทำให้ใครหลายคนรู้สึกว่ามันยากมาก แต่จริง ๆ แล้วน้อง ๆ หลายคนอาจเคยได้ยินหลักการจำที่ว่า “คำสมาสนำมาชน สนธินำมาเชื่อม” ซึ่งเป็นวิธีที่น้อง ๆ ควรจะใช้เป็นแนวทางในการจำอย่างเข้าใจ ดังนั้น เพื่อเป็นการเรียนรู้เรื่องคำสมาสแบบสมาส และคำสมาสแบบสนธิให้เข้าใจมากขึ้น

การคูณเลขยกกำลังที่มีเลขชี้กำลังเป็นจำนวนเต็มบวก

การคูณเลขยกกำลัง เมื่อเลขชี้กำลังเป็นจำนวนเต็มบวก

บทความนี้ ได้รวบรวมตัวอย่าง การคูณเลขยกกำลัง เมื่อเลขชี้กำลังเป็นจำนวนเต็มบวก ซึ่งทำได้โดยการใช้สมบัติการคูณของเลขยกกำลัง ทั้งสามสมบัติ ก่อนจะเรียนเรื่องการคูณเลขยกกำลัง เมื่อเลขชี้กำลังเป็นจำนวนเต็มบวก ให้น้องๆ ไปศึกษาเรื่อง การเขียนเลขยกกำลังที่มีเลขชี้กำลังเป็นจำนวนเต็มบวก การคูณเลขยกกำลัง เมื่อเลขชี้กำลังเป็นจำนวนเต็มบวก สมบัติของการคูณเลขยกกำลัง  ถ้า a เป็นจำนวนใดๆ m และ n เป็นจำนวนเต็มบวก แล้ว  1)   am x an

โลโก้ NockAcademy

ทดลองฟรี!

เข้าใจได้ทันที NockAcademy ไลฟ์สดอันดับ 1 

โลโก้ NockAcademy

ทดลองฟรี!

เข้าใจได้ทันที NockAcademy ไลฟ์สดอันดับ 1