Passive Voice in English
Voice (ในที่นี้พี่ขอเรียกทับศัพท์ว่า Voice /วอยซ์/ ไปเลยนะครับ) ในภาษาอังกฤษจะมีทั้งหมด 2 ประเภทด้วยกัน คือ
1) Active Voice และ
2) Passive Voice
ซึ่ง Active Voice จะใช้ในประโยคที่ ประธาน (Subject) เป็นผู้ทำกริยา (Verb) นั้นๆ ด้วยตัวเอง เช่น
The snake strangles me.
งูรัดคอฉัน
ให้น้องๆ สังเกตที่ประธาน คือ งู (snake) ซึ่งทำกริยารัดคอ (strangle) ด้วยตัวมันเองนั่นเองครับ ถ้าเราลองเปลี่ยนประโยคให้เป็น Passive Voice หรือการที่เราถูกกระทำ (ตัวอย่างในที่นี้คือโดนงูรัด) เราจะสามารถเปลี่ยนได้เป็น
I am strangled by the snake.
แปลตามตัวจะแปลได้ว่า ฉันถูกรัดคอโดยงู
เราสามารถกล่าวได้ว่า Passive Voice คือประโยคที่ประธานเป็นผู้ถูกกระทำนั่นเองครับ ซึ่ง Voice ทั้งสองแบบนี้ จะปรากฎอยู่ใน Tense ทุกประเภท ซึ่งวันนี้เราจะมาโฟกัสกันที่ Passive Voice ใน Present Simple Tense กันครับ
พื้นฐานที่ควรมีมาก่อน: Present Simple, กริยา 3 ช่อง
โครงสร้าง Present Simple แบบ Passive Voice
โครงสร้างของ Present Simple ในรูปแบบ Passive Voice คือ
Subject + is/am/are + Past Participle
ข้อควรจำ!
1) Past Participle เป็นชื่อเรียกอย่างเป็นทางการของ “กริยาช่องที่ 3”
2) ในประโยคแบบ passive voice กริยาช่อง 3 จะคงรูปแบบนั้นเสมอ จะมีเฉพาะ Verb to be ที่เปลี่ยนตามประธานของประโยค
พี่จะลองแบ่งโครงสร้างให้ดูเข้าในง่ายๆ ตามตารางนี้ครับ
ประโยคบอกเล่า
ประโยคปฎิเสธและคำถาม
สำหรับน้องๆ ที่มีพื้นฐานการสร้างประโยคมาบ้างแล้ว ประโยคปฏิเสธและคำถามแบบ Active Voice จะใช้ Verb to do มาช่วยตามที่ได้เรียนกันมา แต่แบบ Passive Voice จะแตกต่างกันนิดหน่อยครับ ซึ่งจากตัวอย่างด้านบนสามารถทำเป็นประโยคแบบปฎิเสธและคำถามได้ดังนี้
ข้อควรจำ!
1) ประโยค Passive Voice สามารถมี “by” หรือไม่มีก็ได้ ซึ่งหากสิ่งที่กระทำกับประธานนั้นไม่สำคัญต่อความหมาย หรือไม่ทราบว่าผู้กระทำคือใคร เราจะสามารถตัด “by” ทิ้งได้ เช่น
Rice is grown in Thailand.
ข้าวถูกปลูกในประเทศไทย (จะโดยใครก็ได้ ไม่ได้สำคัญกับประโยค)
การใช้ในชีวิตประจำวัน
เราใช้ Passive Voice เมื่อเราต้องการเน้นสิ่งที่ถูกกระทำว่าสำคัญกว่าผู้กระทำครับ ซึ่งโดยส่วนมากแล้วเราจะพบและใช้ Passive Voice ในการเขียนหรืองานเขียนที่ต้องการความเป็นทางการ ซึ่งสามารถยกตัวอย่างคร่าวๆ ได้ดังนี้
1) เมื่อพูดถึงวิทยาศาสตร์ ศิลปะ หรือวรรณกรรม เช่น
Glass is classified as a solid.
แก้วถูกจัดให้อยู่ในประเภทของแข็ง
This scientific method is used for chemical experiments.
วิธีการทางวิทยาศาสตร์นี้ถูกใช้สำหรับการทดลองทางเคมี
E.T. is directed by Steven Spielberg
ภาพยนตร์เรื่อง E.T. (ถูก)กำกับโดย สตีเฟ่น สปิลเบิร์ก
2) เพื่อบอกขั้นตอนหรือกฎกติกา เช่น
Keep stirring until the meat is cooked.
คนต่อไปเรื่อยๆ จนกว่าเนื้อจะ(ถูกทำให้)สุก
Do not move until you are told to do so.
ห้ามขยับจนกว่าคุณจะถูกบอกให้ทำเช่นนั้น
3) ใช้ในการรายงานข่าว หรือการเขียนเชิงวิชาการ เช่น
Many people are killed in the war.
ผู้คนมากมายถูกสังหารในสงคราม
The president is assassinated this morning.
ประธานาธิบดีถูกสังหารเมื่อเช้านี้
These activities are designed for young children.
กิจกรรมเหล่านี้ถูกออกแบบมาสำหรับเด็กๆ
ข้อควรระวัง!
กริยา Intransitive Verbs (อกรรมกริยา) หรือ กริยาที่ไม่ต้องการกรรม ไม่สามารถทำให้เป็น Passive Voice ได้ (เพราะมันไม่ต้องการกรรมตั้งแต่แรกนั่นเอง) เช่น
come die go happen occur rain walk
Jane comes to the meeting. Jane is come to the meeting.
แจนมาประชุม แจนถูกมาประชุม (ไม่มีความหมาย)
The cat dies in the street. The cat is died in the street.
แมวตายอยู่ที่ถนน แมวถูกตายอยู่ที่ถนน (ไม่มีความหมาย)
Kate walks to the school. Kate is walked to the school.
เคทเดินมาโรงเรียน เคทถูกเดินมาโรงเรียน (ไม่มีความหมาย)
เห็นมั้ยครับว่าเรื่อง Passive Voice นั้นไม่ยากเลย สิ่งที่น้องๆ ต้องจำให้แม่นก็คือกริยาที่อยู่ในรูป Past Participle (กริยาช่อง 3) และการผัน Verb to be ให้ตรงกับประธานนั่นเองครับ