สวัสดีค่านักเรียนชั้นม.5 ที่น่ารักทุกคน วันนี้เราจะไปดู ” Modals in the Past “ ที่ใช้บ่อยพร้อมเทคนิคการใช้งานง่ายๆกันค่า Let’s go! ไปลุยกันเลยจร้า
ทบทวน Modal Verbs
Modal Auxiliaries คือ กริยาช่วยกลุ่ม Modal verbs หรือ Modals ซึ่งจะมีความหมายพิเศษในตัวของมันเอง และ ไม่ควรจะแปลตรงๆ ตามความหมายใน Dictionary เหมือนกริยาช่วยตระกูล V. to be, V. to do, และ V. to have เราจะต้องดูที่บริบทการใช้งานของผู้พูด
กลุ่มของ Modal verbs ที่ควรรู้จักคือ shall, should, will, would, may, might can, could, must, ought to,
used to ที่เราจะได้รู้และทบทวนในบทความนี้นั่นเองค่าแต่ในบทเรียนนี้เราจะไปโฟกัสที่ Modals in the Past หรือ ในบางครั้งเราอาจจะเคยได้ยินชื่อ Past Modals กันเด้อ
Sit back, relax, and enjoy your lesson! ขอให้สนุกกับการเรียนน๊า
ตาราง Modal Auxiliaries 9 คำ พร้อมความหมาย
การใช้ Modal Auxiliaries แสดง “ความเป็นไปได้”
สำหรับความเป็นไปได้ แบ่งเป็น 3 ระดับดังนี้ คือ เป็นไปได้มาก เป็นไปได้ปานกลาง เป็นไปได้น้อย
can | can + V. infinitive | แปลว่า สามารถ… |
could | could + V. infinitive | แปลว่า สามารถ |
may | may + V. infinitive | แปลว่า อาจจะ |
might | might + V. infinitive | แปลว่า อาจจะ |
shall | shall + V. infinitive | แปลว่า จะ/ ควรจะ |
should | should + V. infinitive | แปลว่า จะ/ ควรจะ |
will | will + V. infinitive | แปลว่า จะ |
would | would + V. infinitive | แปลว่า จะ |
must | must + V. infinitive | แปลว่า ต้อง |
ข้อควรรู้: would จะใช้เพื่อแสดงการคาดการณ์ถึงเหตุการณ์ในอนาคต
ส่วนการใช้ Modal verbs พวก must, can, will จะแสดงความเป็นไปได้มาก
- Can
Can แปลเป็นไทยได้ว่า สามารถ หรือ มีโอกาสที่จะ ดังนี้
บอกเล่า: I can edit the video.
แปล ฉันสามารถตัดต่อวีดีโอได้
คำถาม: Can you edit the video?
แปล คุณสามารถตัดต่อวีดีโอได้มั้ย
ปฏิเสธ: I cannot (can’t) edit the video.
แปล ฉันไม่สามารถตัดต่อวีดีโอได้
เมื่อต้องแสดงความเป็นไปได้ “ระดับปานกลาง”
กริยาช่วยกลุ่มนี้ ได้แก่ may, might, could, should
คำเหล่านี้เมื่ออยู่ในประโยคจะมีน้ำหนักของคำระดับปานกลาง และจะมีความหมายเหมือนกันซึ่งแปลว่า อาจจะ เช่น
I might like him a bit.
ฉันอาจจะชอบเขานิดหน่อย
- Could แสดงความเป็นไปได้น้อยมาก
Could นอกจากจะใช้เพื่อแสดงแนวโน้มของความเป็นไปได้ปานกลาง และ การเปรียบเทียบที่เกินจริง บางครั้งเป็นการประชดประชัน
เช่น
I’m hungry. I could eat a horse.
ฉันหิวมาก ฉันสามารถกินม้าได้ทั้งตัวเลย (เกินจริง)
She could win the beauty pageant.
หล่อนคงจะชนะการประกวดนางงามนะ (ประชด) ***ลองนึกถึงสถานการณ์แฟนนางงามขี้อิจฉาพูดประโยคนี้แล้วยิ้มที่มุมปากแบบร้ายๆ
How could I be without him?
ฉันจะอยู่ด้วยตัวเองยังไงโดยไม่มีเขา (ไม่มั่นใจ)
สรุปการใช้ Modals in the past
ดังรายละเอียดต่อไปนี้ ด้านล่างเลยจร้า
ใช้แสดงความไม่มั่นใจว่าบางอย่างได้เกิดขึ้นในอดีตหรือไม่
ตามโครงสร้าง
“may (might) + have + Past participle (V.3)”
หมายถึง การคาดคะเนเหตุการณ์ที่ค่อนข้างจะ ไม่มั่นใจว่าได้เกิดขึ้นในอดีตหรือไม่ ตัวอย่างเช่น
John may have his car washed last week.
จอนอาจจะล้างรถเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว (อาทิตย์ที่แล้วหรือเปล่านะ ไม่แน่ใจ)Jenny might have her hair cut with Jennifer.
เจนนี่อาจจะไปตัดผมมากับช่างที่ชื่อเจนนิเฟอร์มั้งนะ ***ผู้พูดไม่แน่ใจ
Danny may not have seen his best friend after graduation.
แดนนี่อาจจะไม่ได้เจอเพื่อนๆเลยหลังจากเขาเรียนจบแล้ว
Sunisa might not have eaten fat. That’s why she looks so “skinny.”
สุนิสาอาจจะไม่กินอาหารที่มีไขมันเลย เธอเลยดูผมมาก
มีแต่ไม่ได้ใช้ หรือ ไม่ทำ…
ตามโครงสร้าง “could + have + Past participle”
ใช้แสดงความสามารถที่ไม่ได้ถูกนำออกมาใช้ คือ ไม่ได้กระทำนั่นเองตัวอย่างเช่น
She could have started working three hours ago.
แปล หล่อนควรจะเริ่มทำงานตั้งแต่สามชั่วโมงที่แล้วTimothy could have graduated his Master Degree last year.
ทีโมธีควรจะเรียนจบปริญญาโทตั้งแต่ปีที่แล้วๆ
ค่อนข้างจะมั่นใจว่าได้มีบางอย่างเกิดขึ้นในอดีต
โครงสร้าง
must + have + Past participle (V.3) ใช้แสดงการคาดคะเนเหตุการณ์ที่ ค่อนข้างจะมั่นใจว่าได้
เกิดขึ้นในอดีต ตัวอย่างเช่น
Your English is really good. You must have studied aboard.
ภาษาอังกฤษของคุณดีมากเลย คุณต้องเคยไปเรียนที่ต่างประเทศมาแล้วแน่ๆI can’t find my money. It must have fallen while I was on the flight.
หาตังค์ไม่เจอเลยมันต้องหล่นตอนอยู่บนเครื่องแน่ๆ
เหตุการณ์ตรงกันข้ามกับสิ่งที่พูด
โครงสร้าง
should + have + Past participle(V.3) ใช้แสดงว่าเหตุการณ์นั้นๆ ไม่ได้เกิดขึ้นจริงเหตุการณ์เกิดขึ้น ตรงกันข้ามกับข้อความที่พูด ตัวอย่างเช่น
Steve should have come to school yesterday. (But he didn’t.)
สตีฟควรจะมาโรงเรียนนะเมื่อวาน แต่เขาก็ไม่มาThe stealers should not have broken into the police’s home last night. (But they did.)
พวกหัวขโมยไม่ควรจะบุกรุกเข้าไปบ้านตำรวจเลยเมื่อคืน แต่พวกเขาก็กระตุกหนวดเสือซะแล้ว***สำนวน “broken into มากจาก break into แปลว่า บุกรุก” ออกข้อสอบบ่อยมากเวอร์
โครงสร้าง V. to be + supposed to+…
การใช้ V. to be + supposed to+… แปลว่า “ควรต้อง” สมควรที่จะต้องทำอะไรบางอย่าง หากเป็นอดีต was, were จะหมายถึงสิ่งที่ควรทำแต่อาจจะไม่ได้ทำ แต่หาก ใช้ is, am, are จะถูกใช้ในการ แนะนำ ซึ่งหมายถึง “สมควร, ควรจะ” ตามบริบทที่แตกต่างกันออกไป ดังตัวอย่างด้านล่างเลยนะคะ
You are supposed to work from home.
แปลว่า คุณสมควรที่จะทำงานจากบ้าน
Jenny is supposed to be with Jim. Why is she with another guy?
แปลว่า เจนนี่ควรจะอยู่กับจิม แล้วทำไมหล่อนอยู่กับผู้ชายคนอื่น
Daniel’s new secretary was supposed to call him at 10 a.m.
Why didn’t she call him?
แปลว่า เลขาคนใหม่ของเดเนียลสมควรจะโทรหาเขาตอน 10 โมงเช้า (แต่หล่อนอาจจะลืม)
ทำไมหล่อนไม่โทรกันนะ
The students were supposed to submit the project guideline today.
Where were they?
แปลว่า ที่จริงนักเรียนควรต้องส่งไกด์ไลน์โครงงานวันนี้ แล้วพวกเขาอยู่ไหนกันเนี่ย (ความจริงคือ นักเรียนไม่ได้ส่ง)
ตารางสรุปกริยาช่วยเพิ่มเติม
กริยาช่วยรูปปกติ |
รูปปฎิเสธ (แบบเต็ม) |
รูปปฎิเสธ (แบบย่อ) |
||
1 | is | (เป็น, อยู่, คือ) | is not | isn’t |
2 | am | (เป็น, อยู่, คือ) | am not | ไม่มีรูปย่อ |
3 | are | (เป็น, อยู่, คือ) | are not | aren’t |
4 | was | (เป็น, อยู่, คือ) | was not | wasn’t |
5 | were | (เป็น, อยู่, คือ) | were not | weren’t |
6 | do | (ทำ) | do not | don’t |
7 | does | (ทำ) | does not | doesn’t |
8 | did | (ทำ) | did not | didn’t |
9 | has | (มี) | has not | hasn’t |
10 | Have | (มี) | have not | haven’t |
11 | Had | (มี) | had not | hadn’t |
12 | Can | (สามารถ) | cannot | can’t |
13 | Could | (สามารถ) | could not | couldn’t |
14 | May | (อาจจะ) | may not | mayn’t |
15 | Might | (อาจจะ) | might not | mightn’t |
16 | Will | (จะ) | will not | won’t |
17 | Would | จะ) | would not | wouldn’t |
18 | Shall | (จะ) | shall not | shan’t |
19 | should | (ควรจะ) | should not | shouldn’t |
20 | Must | (จะ,จะต้อง) | must not | mustn’t |
21 | Need | (จำเป็น) | need not | needn’t |
22 | Dare | (กล้า) | dare not | daren’t |
23 | ought to | (ควรจะ) | ought not | oughtn’t |
24 | used to | (เคย) | used not to | usedn’t to |
เมื่อจะต้องใช้ Modals in the past สิ่งที่ต้องคำนึงถึงคือ บริบทการใช้งาน ว่าเราต้องการจะสื่ออะไร เพื่อให้เราสามารถใช้ภาษาอังกฤษได้ถูกต้อง และคล่องมากๆแบบเจ้าของภาษากันจร้า อย่าลืมดูวีดีโอทบทวนบทเรียนในหัวข้อ วิชาภาษาอังกฤษ ชั้น ม.5 เรื่อง Modals in the past กันด้วยเด้อ เลิฟๆ
คลิกที่ปุ่มเพลย์แล้วไปเรียนให้สนุกกันจร้า