การใช้ Auxiliary Verb: can, can’t

สารบัญ

Add LINE friends for one click to find article. Add LINE friends for one click to find article.

การใช้ Auxiliary Verb: can, can’t 

บทนำแสนแซ่บ

สวัสดีครับพ่อแม่พี่น้องสุดปังทุกท่าน วันนี้เรามาคุยกันเรื่องของคำกริยาช่วยที่ทำให้เรารู้ว่าคนนั้น ๆ สิ่งนั้น หรืออันนั้นมีความสามารถในการทำอะไรได้บ้างกันดีกว่า 

ในภาษาไทยเอง เวลาเราจะอธิบายว่าเรามีความสามารถอะไรเราก็มักจะพูดว่า “เรา… ทำได้” หรือ “เราสามารถ….ทำได้” โดยภาษาอังกฤษสุดที่รักของเราเองก็มีอะไรแบบนั้นเหมือนกัน โดยเค้าใช้คำว่า Can มาช่วย โดยเราจะเรียกคำกริยาช่วยเหลือนี้ว่า Auxiliary verb หรือ Helping Verb นั่นเองละครับจ้าวนายยยย

หน้าที่ของ Auxiliary verb ก็ง่ายมาก มีแต่ 3 หน้าที่หลักก็เท่านั้นเอง นั่นก็คือ มันช่วยบอกอารมณ์ เวลา และน้ำเสียงของเราได้ และเพื่อให้จำง่าย เราจึงเรียกเค้าว่า Helping verb ยังไงละ

พออ่านมาถึงตรงนี้ก็พอจะเห็นภาพแล้วใช่หรือเปล่าละครับ แต่ยังไงเรามาดูภาพใหญ่ที่มีญาติพี่น้องในตระกูล Axiliary verb กันหน่อยดีกว่า เพราะต้องยอมรับว่า คำว่า CAN/CAN’T ไม่ใช่ตัวเดียวที่เป็นกริยาช่วย แต่ยังมีพี่น้องของเค้าอีก 22 ตัวที่เราควรที่จะจำได้ (แต่เราจะไม่ไปทำความรู้จักเหล่าพี่น้องทั้งหมดหรอกนาจา… เพราะวันนี้เราจะเอาแค่ Can และ Can’t ก็น่าจะเหนื่อยแล้ว)

Verb to be  Verb to have  Verb to do
Is, am, are, was, were
(เป็น อยู่ คือ)
Have, has และ had (มี) Do, does, did (ทำ)
Will, would, shall (จะ)
Should, ought to (ควรจะ)
Can, could (สามารถ)
Have to, has to, had to
(ต้อง)
Need (จำเป็น)
Had better (ควรจะ)
I would rather (Prefer)
Used to (เคย)
Dare (ท้า/กล้า)

เยอะนะแม่…!! เอาจริงดิ? นี่ไง เราเลยต้องเรียนแค่ 2 คำไง ไม่งั้นไม่ไหว อธิบายหน้าเดียวไม่หมดแน่เลยแม่ เพราะฉะนั้น มา!!! มาดูการทำงานของ Can และ Can’t กัน

การทำงานของ CAN

กริยาช่วย CAN ใช้เพื่อแสดงความสามารถหรือเพื่อบอกว่าบางสิ่งเป็นไปได้ CAN ใช้กับประธานใดก็ได้ และตามด้วยกริยาฐาน

วิธีการเขียนก็ง่าย ๆ ด้วยสูตร

SUBJECT + CAN + BASE VERB

ตัวอย่างเช่น 

  • I can help you with your presentation (ฉันสามารถช่วยคุณเรื่องการนำเสนองานได้นะ)
  • My friend can drive a car (เพื่อนของฉันสามารถขับรถได้นะ/ เพื่อนฉันขับรถได้)
  • She can go to the hotel tomorrow (เธอสามารถไปโรงแรมได้พรุ่งนี้นะ)
  • Her dog can swim (หมาของเธอว่ายน้ำได้)

ข้อสังเกตง่าย ๆ ของการใช้ CAN คือ 

  1. มันสามารถบอกได้ว่าเรามีทักษะหรือความสามารถพิเศษอะไร
  2. มันใช้เพื่อบอกว่าเรามีแนวโน้มที่จะทำได้นะ แต่อาจจะทำหรือไม่ก็แล้วแต่ฉัน เช่น ประโยคที่ She can go to the hotel tomorrow ที่แปลว่า เธอสามารถไปโรงแรมพรุ่งนี้ได้นะ แต่จะไปหรือเปล่าก็อีกเรื่อง

การทำงานของ CAN’T

ในการสร้างเชิงลบของ CAN – เพื่อแสดงว่าไม่มีความสามารถหรือพูดว่าบางสิ่งเป็นไปไม่ได้ เราเพิ่ม “Not” กับ “Can” เพื่อสร้าง CANNOT หรือใช้ตัวสั้นอย่าง CAN’T แล้วตามด้วยกริยาฐาน (Base verb) 

สรุปแบบง่าย ๆ เลยนะแม่ คือเอางี้นะ ถ้า Can ทำอะไรได้ การใช้ Can’t หรือหมายถึงสิ่งตรงกันข้ามคือทำไม่ได้ หรือไม่สามารถทำได้นั่นเอง

วิธีการเขียนก็ง่าย ๆ ด้วยสูตร

SUBJECT + CANNOT หรือ CAN’T + BASE VERB

ตัวอย่างเช่น

  • I can’t go to your house tonight. (คืนนี้ฉันไปบ้านของเธอไม่ได้นะ)
  • They cannot speak Chinese. (พวกเขาพูดจีนไม่ได้)
  • Her dog cannot swim fast. (หมาของเธอว่ายน้ำได้ไม่เร็ว)
  • She can’t drive a car. (เธอขับรถไม่ได้)

ข้อสังเกตง่าย ๆ ของการใช้ CAN คือ 

  1. มันสามารถบอกได้ว่าเราไม่มีทักษะหรือความสามารถพิเศษอะไรบ้าง ฉันขับรถไม่ได้ ว่ายน้ำเร็วไม่เป็น อะไรทำนองนี้
  2. มันใช้เพื่อบอกว่าเรามีแนวโน้มที่จะทำอะไรไม่ได้แบบไม่ได้เลย แต่ถ้าฝึกหรือทำบ่อยก็ทำได้นะ เช่น ประโยคที่ She can’t drive a car ที่แปลว่า เธอขับรถไม่ได้ แต่ถ้าฝึกไปก็ไม่แน่นะแม่

การตั้งคำถามด้วย Can

คำถามที่ขึ้นต้นด้วย Can

ในการสร้างคำถามด้วย Can มีขึ้นก็เพื่อถามว่าคนพูดหรือตัว Subject นั้นมีความสามารถหรือมีความเป็นไปได้หรือไม่ที่จะทำได้ โดยเราวาง SUBJECT ระหว่าง CAN และ Base verb อ่านแล้วอาจจะงง ๆ งั้นเรามาทำให้เห็นภาพด้วยสูตรง่าย ๆ กันเถอะ

นี่คือสูตร: CAN + Subject + Base verb

ตัวอย่างเช่น:

  • Can she wash the dishes after lunch? (เธอล้างจานหลังข้าวเที่ยงได้มั้ยอ่ะ?)
  • Can we go to a movie this Friday night?  (เราไปดูหนังวันศุกร์ได้มั้ยอ่ะ?)
  • Can it be difficult to learn a new language? (การเรียนภาษาใหม่เป็นเรื่องยากไหม)

ป.ล. การขึ้นคำถามด้วย Can’t ไม่เป็นที่นิยม เพราะมันออกแนวเหมือนแบบมองว่าอีกฝั่งทำไม่ได้หรือเปล่า ไปแนวแบบดูถูกอีกฝั่งแบบกราย ๆ อยู่นะแม่ เพราะฉะนั้นใช้ Can ไปก่อนดีกว่าเพราะมันบอกเราได้ว่า เราคิดว่าคนที่เราถามนั้นสามารถทำได้ เพราะคงไม่มีใครอยากเป็นคนที่ไม่สามารถ… หรอกเนาะ

คำถามที่ขึ้นต้นด้วย WH question word

อันนี้อาจจะไม่ยากถ้าเราเข้าใจ WH Question ที่มีคำว่า What (อะไร), where (ที่ไหน), when เมื่อไหร่), why (ทำไม), who (ใคร), how (อย่างไร).แต่มันจะยากแน่ถ้าเราไม่เข้าใจ เพราะฉะนั้นไปทำความเข้าใจแปบ หรือทริคง่าย ๆ ก็แปลเป็นไทยไปก่อน แล้วก็มาเรียนเรื่องของ Can และ Can’t กันก่อนเนาะ

สูตรง่าย ๆ จำได้ไม่ยาก คือ  WH question word + CAN or CAN’T + SUBJECT+ กริยาฐาน

ตัวอย่างเช่น:

  • Where can I buy a bag? ฉันซื้อกระเป๋าได้ที่ไหนบ้างอ่ะ?
  • What can we do now? เราทำอะไรได้บ้างตอนนี้?
  • Why can’t you go with us?  ทำไมเธอถึงไปกับเราไม่ได้ละ?

ไหน ๆ ก็ไหน ๆ และ จบท้ายด้วยคำถาม เราก็ต้องรู้จักตอบสินะ 

การตอบคำถาม Can และ Can’t 

ทริคง่าย ๆ คือ ถ้าขึ้นต้นคำถามด้วย Can หรือ Can’t ก็ตอบแค่ Yes, I can หรือ No, I can’t ก็แค่นั้นเอง แต่ที่จะเป็นปัญหาหัวจะปวดก็จะเป็นคำถาม WH-Question ที่เราจะต้องฟังว่าเค้าขึ้นต้นคำถามว่า What, where, when, why, who, how หรืออะไร แล้วเราก็ต้องตอบตามนั้น

เอาจะครับพ่อแม่พี่น้องทุกท่าน เราก็มาถึงช่วงสุดท้ายของเรื่อง Can’t and Can กันแล้ว เรื่องนี้เหมือนจะง่าย แต่ก็ไม่ง่าย แต่ถ้าเราจะทำให้มันง่ายมันก็จะง่าย เอะ ยังไง? สรุปคือ ถ้าเราจำแค่จำเป็นแล้วค่อยไปเจาะลึกตามที่เราเจอจริงในชีวิตประจำวัน ผ่านการใช้งานบ่อย ๆ ก็จะช่วยได้เยอะครับ เพราะพี่ที่เขียนเองก็ใช้วิธีการพูดและเขียนบ่อย ๆ จนเริ่มชินชาไปกับความหัวจะปวด เพราะฉะนั้น ถ้าพี่ทำได้ เราก็ทำได้ ที่หนึ่งในใจคุณ แล้วพบกันใหม่… สวัสดีครับบบบบบบบ

NockAcademy คือโรงเรียนออนไลน์สำหรับเด็ก โดยแอปฯ และเว็บไซต์ นักเรียนสามารถเรียนรู้ผ่านคลิปบทเรียนวิชา คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และภาษาไทย
มากไปกว่านั้น เรายังมีคอร์สเรียนออนไลน์ การสอนพิเศษ การติวนอกสถานที่โดยติวเตอร์ที่แน่นไปด้วยความรู้ อีกด้วย

Add LINE friends for one click to find article. Add LINE friends for one click to find article.
ครูผู้สอน NockAcademy

แค่ 10 นาที ก็เข้าใจได้

สามารถดูคลิปบทเรียนวิชา คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และภาษาไทย ที่มีมากกว่า 2,000+ คลิป และยังสามารถทำแบบทดสอบที่มีมากกว่า 4000+ ข้อ

แนะนำ

แชร์

โคลงโลกนิติ

ศึกษาตัวบทและคุณค่าที่แฝงอยู่ในโคลงโลกนิติ

หลังจากที่ได้เรียนรู้ความเป็นมาและเนื้อหาในโคลงโลกนิติกันแล้ว น้อง ๆ ก็คงจะอยากรู้กันแล้วใช่ไหมคะว่าตัวบทในโคลงโลกนิติที่มีอยู่มากมายนั้น มีตัวบทไหนที่เด่น ๆ กันบ้าง วันนี้เรามาศึกษาตัวบทที่น่าสนใจเพื่อทำความเข้าใจถึงคติธรรมและคุณค่าที่อยู่ในเรื่องกันค่ะ โคลงโลกนิติ โคลงโลกนิติเป็นบทประพันธ์ที่มีคำสอนมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการคบเพื่อน การปฏิบัติตัวกับพ่อแม่ หรือแม้แต่การดำเนินชีวิตในแต่ละวัน เรามาดูตัวบทเด่น ๆ ที่ควรรู้กันทีละบทเลยนะคะว่าแต่ละบทสอนเรื่องอะไรบ้าง   ศึกษาตัวบท     ความหมาย กล่าวถึงปลาร้าที่มีกลิ่นเหม็น และใบคา แม้ใบคาจะเป็นใบไม้ที่ไม่มีกลิ่นเฉพาะตัว แต่เมื่อนำไปห่อปลาร้าก็จะทำให้มีกลิ่นเหม็นจากปลาร้าติดไปด้วย

การใช้ประโยคเกี่ยวกับอาชีพ สัญชาติ ข้อมูลส่วนบุคคล และอาชีพที่อยากทำในอนาคต

สวัสดีนักเรียนชั้นป.5 ที่น่ารักทุกคน วันนี้เราจะไปดูวิธีการบอกข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับตัวเราในภาษาอังกฤษกันค่ะ ได้แก่ ประโยคเกี่ยวกับอาชีพ สัญชาติ ข้อมูลส่วนบุคคล และอาชีพที่อยากทำในอนาคต พร้อมทั้งตัวอย่างสถานการณ์ใกล้ตัวกันค่ะ ไปลุยกันเลย   อาชีพ (Occupation)     ตารางคำศัพท์ภาษาอังกฤษเกี่ยวกับอาชีพ คำศัพท์ แปล engineer วิศวกร actor นักแสดง YouTuber นักยูทูบเบอร์ Gamer

ที่มาและเรื่องย่อของวรรณคดียิ่งใหญ่ตลอดกาล รามเกียรติ์ ตอน ศึกไมยราพ

นับตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา มีผู้นำรามเกียรติ์มาแต่งมากมายหลายฉบับ ด้วยเนื้อหาที่เข้มข้นและสนุกเกินบรรยาย แต่ฉบับที่สมบูรณ์ที่สุดคือฉบับที่ประพันธ์โดยสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก หรือก็คือรัชกาลที่ 1 นั่นเองค่ะ รามเกียรติ์ฉบับนี้มีความพิเศษและมีจุดประสงค์ที่ต่างจากฉบับก่อนหน้า บทเรียนในวันนี้จะพาน้อง ๆ ไปเรียนรู้ถึงพระปรีชาสามารถของรัชกาลที่ 1 ผ่านความเป็นมาของวรรณคดีรวมไปถึงเรื่องย่อในตอนสำคัญอย่างตอน ศึกไมยราพ กันค่ะ ไปดูพร้อมกันเลยค่ะว่า รามเกียรติ์ ตอน ศึกไมยราพ จะสนุกแค่ไหน   ประวัติความเป็นมา     รามเกียรติ์

วิธีพูดสรุปความจากเรื่องที่ฟังและดูอย่างง่ายๆ

การพูดสรุปความสำคัญอย่างไร ? น้อง ๆ หลายคนคงจะเคยประสบปัญหาเวลาที่ต้องออกไปนำเสนองานหน้าชั้นเรียนแล้วไม่รู้ว่าจะพูดอย่างไรให้เพื่อนกับครูเข้าใจ เพราะเนื้อหาที่เราจำมามันก็เยอะเสียเหลือเกิน บทเรียนภาษาไทยวันนี้จะช่วยให้น้อง ๆ รับมือกับปัญหาเหล่านั้นได้ เพียงแค่น้อง ๆ มีความเข้าใจในเรื่องการพูดสรุปความ วันนี้เรามาดูไปพร้อม ๆ กันเลยนะคะว่าการพูดสรุปความจากเรื่องที่ฟังหรือดูจะมีวิธีใดบ้าง   การพูดสรุปความจากเรื่องที่ฟังและดู   การพูดคืออะไร   องค์ประกอบของการพูด   ผู้พูด คือผู้ที่มีจุดมุ่งหมายสำคัญที่จะนำเสนอความรู้ความคิดเห็นให้ผู้ฟังได้รับรู้และเข้าใจ เนื้อเรื่อง

หลักการเบื้องต้นของอัตราส่วน

หลักการเบื้องต้นของอัตราส่วน

“อัตราส่วน คือ ปริมาณ อย่างหนึ่งที่แสดงถึง จำนวน หรือ ขนาด ตามสัดส่วนเมื่อเปรียบเทียบกับอีก ปริมาณ หนึ่งที่เกี่ยวข้องกัน ที่อาจมีได้ตั้งแต่สองปริมาณขึ้นไป”

NokAcademy_ม2 การใช้ Future Simple กับการตั้งคำถามด้วย Wh-Questions

การใช้ Future Simple กับการตั้งคำถามด้วย Wh-Questions

สวัสดีค่ะนักเรียนชั้นม.2 ทุกคน วันนี้ครูจะพาไปตะลุย “การใช้  Future Simple กับการตั้งคำถามด้วย Wh-Questions” หากพร้อมแล้วก็ไปลุยกันเลยจร้า Future Simple Tense     Future Simple Tense หรือ ประโยคอนาคตกาล เอาไว้พูดถึงเรื่องราวในอนาคต เช่น สิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้น สิ่งที่จะเกิดขึ้น สิ่งที่จะทำ เป็นต้น

โลโก้ NockAcademy

ทดลองฟรี!

เข้าใจได้ทันที NockAcademy ไลฟ์สดอันดับ 1 

โลโก้ NockAcademy

ทดลองฟรี!

เข้าใจได้ทันที NockAcademy ไลฟ์สดอันดับ 1