การใช้ Why and because + want + infinitive

สารบัญ

Add LINE friends for one click to find article. Add LINE friends for one click to find article.

การใช้ Why and because + want + infinitive

เกริ่นนำเกริ่นใจ

กลับมาอีกครั้ง กับนักเขียนเจ้าเก่าคนเดิม คนที่พร้อมจะพาทุกคนเข้าสู่โลกของการเรียนรู้และความหัวปวดด้วยภาษาที่สองอย่างภาษาอังกฤษ เช้าที่สดใสแบบนี้จะมีอะไรดีไปกว่าการได้มานั่งเขียนเรื่องราวดี ๆ เพื่อแบ่งปันให้กับผู้อื่นอีกละ จริงมั้ย? คำถามคือ ทำไมต้องมาเขียนอะไรแบบนี้ทุกเช้าด้วยละ? สงสัยใช่มั้ยละ? นั่นก็เพราะว่า คนเขียนนั้นรักในการเขียนและอยากจะแบ่งปันความรู้ให้กับคนอ่านทุกคนยังไงละ Easy เลย แค่นั้นเลย

คนบนโลกจะเข้าใจกันมากหากเรามีเหตุผลในสิ่งที่ทำ และสามารถถ่ายทอดมันออกมาได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งการบอกเล่าเหตุผลนั้นไม่ยากเพียงแค่อาศัยคำ ๆ นี้ “เพราะว่า” แล้วตามด้วยเหตุผลว่าทำไม คือมันง่ายแค่นี้เลย เราก็จะเข้าใจว่าอะไรกันแน่ที่ทำให้คนเราเลือกที่จะทำสิ่งใดสิ่งหนึ่ง แต่มันก็มีบางกรณีที่เราทำไป “เพราะ” อารมณ์ทำให้ไม่สามารถอธิบายด้วยเหตุผลแบบสวยหรูได้ แต่ อารมณ์ก็เป็นเหตุผลได้  “เพราะ” การกระทำเกิดจากการกระตุ้นของอารมณ์เช่นกัน 

มาถึงตอนนี้แล้วเราก็พอจะเห็นแล้วใช่มั้ยละว่า ทั้งการเขียนและการพูด เราล้วนแต่เคยใช้โครงสร้างการให้เหตุผล รวมถึงการพยายามตั้งคำถามหาเหตุผลนั้นด้วย ภาษาอังกฤษก็เช่นกัน การตั้งคำถามเพื่อหาเหตุผลของการกระทำและต้นตอของปัญหาก็เป็นหนึ่งในวัฒนธรรมที่สำคัญที่นำไปสู่การเป็นภาษาที่ถูกใช้งานไปทั่วโลก (เราจะไม่โยงเข้าประวัติศาสตร์หรอกนะ) อ่ะมะแม่ เรามาเข้าเรื่องของเรากันเลย และเรื่องในวันนี้คือ… การใช้ WHY และ BECAUSE……………….. เฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮ โอ้ลืม!! แล้วก็เรื่องของการบอกความต้องการโดยใช้ WANT………เฮฮฮฮฮฮฮฮฮ

ภาพใหญ่ของ การใช้ Why and because + want + infinitive

 

  • อยากรู้เหตุผลต้องตั้งคำถาม WHY (ทำไม) 

ก่อนที่เราจะเข้าเรื่องของ WHY เราจะต้องเข้าใจครอบครัวของ WHY ก่อนว่ามีอะไรบ้าง โดย WHY นั้นอยู่ในตระกูล WH-Question ประกอบไปด้วย WHAT, WHERE, WHEN, WHY, WHO, HOW 

WH-Questions อธิบายง่าย ๆ คือ ประโยคคำถามที่ขึ้นต้นด้วย WH เว้นแต่ HOW ที่ไม่มี W อ่ะนะ แต่ภาพหลัก ๆ ก็จะประมาณนี้ 

WH-Questions Sentence
WHAT ถามหาอะไร What is your name? คุณชื่ออะไร 
WHERE ถามหาที่ไหน Where are you? คุณอยู่ไหน
WHEN ถามว่าเมื่อไหร่ When is your birthday? วันเกิดคุณเมื่อไหร่
WHY ถามว่าทำไม Why are you here? ทำไมคุณถึงอยู่ที่นี่
WHO ถามว่าใคร Who are you? คุณเป็นใคร
HOW ถามว่าอย่างไร How are you? คุณเป็นอย่างไรบ้าง

โครงสร้างการตั้งคำถามด้วย WH-Question

Wh-question + an auxiliary verb (be, do or have) + subject + main verb

ตัวอย่างประโยค เช่น What do you do for a living? คุณทำงานอะไรอ่ะ?

หรือ

 Wh-question + a modal verb (หรือ Helping verb) + subject + main verb: 

ตัวอย่างประโยค เช่น Where should I park the car? ฉันควรจอดรถที่ไหนดี

  • อยากได้คำตอบว่าทำไมให้ใช้ Because (เพราะว่า)

เอาเข้าจริง เรื่องนี้มันค่อนข้างเหมือนจะง่าย แต่มันก็มีความสับสนอยู่ เพราะคำว่า because ที่มีความหมายว่า เพราะว่า นั้นไม่ได้มีแค่คำเดียวไง มันมีคำอื่นที่มีความหมายที่คล้ายกัน โดยคนที่เรียนใหม่ ๆ มักจะสับสนวิธีการใช้ Because และ Because of จนบางครั้งไม่ทราบว่าจะใช้คำไหนในสถานการณ์ใดบ้าง 

ง่าย ๆ เลย Because เป็นคำสันธาน (conjunction) ใช้เชื่อมประโยค 2 ประโยคเข้าด้วยกัน ในขณะที่ Because of เป็นคำบุพบท (preposition) ซึ่งโดยปกติแล้วจะวางไว้หน้าคำนาม หรือคำสรรพนาม 

โครงสร้างประโยคของการใช้คำว่า Because คือ 

Because + Subject + Verb

ตัวอย่างประโยค เช่น She crashed her car because she was driving too fast. เธอขับรถชนเพราะเธอขับรถเร็วเกินไป 

โครงสร้างประโยคของการใช้คำว่า Because of คือ 

Because of + Noun Phrase / Verb-ing

ตัวอย่างประโยค เช่น Because of the rain, I missed the office. เพราะฝนฉันเลยไปออฟฟิศไม่ทัน

  • เหตุผลที่ทำเพราะ “อยาก” เรานั้นจะใช้ Want + infinitive

คำถามว่า ทำไมเราต้องเจาะจงไปที่ Want + infinitive นั่นก็เพราะ Want+infinitive ใช้เพื่อบอกความต้องการที่จะทำอะไร หรือต้องการจะเป็นอะไรในอนาคต

โครงสร้างประโยคของการใช้ Want+infinitive คือ

 I / You / We / They + want to + V1

      He / She + wants to + V 1

ตัวอย่างประโยค เช่น I want to take a bus to Siam ฉันอยากขึ้นรถบัสไปสยาม 

She wants to drink some tea. เธออยากดื่มชาสักหน่อย

 

การทำงานของ Why and because + want + infinitive

หลังจากเกริ่นภาพรวมของสิ่งที่เราจะพูดมาทั้งหมดแล้ว เราก็มาดูภาพรวมของเรื่อง WHY, because ที่ใช้ Want + infinitive นั่นเป็นอย่างไรกัน ด้วยสูตรง่าย ๆ คือ เริ่มด้วย WHY ตามด้วย Because คือมันแค่นั้นเองเลย

  • เริ่มต้นด้วยคำถาม WHY

โครงสร้างการตั้งคำถามด้วย WH-Question

Wh-question + an auxiliary verb (be, do or have) + subject + main verb

ตัวอย่างประโยค เช่น Why do you want to study English at Nockacademy? ทำไมคุณถึงอยากเรียนภาษาอังกฤษกับ Nockacademy ละ?

หรือ

 Wh-question + a modal verb (หรือ Helping verb) + subject + main verb: 

ตัวอย่างประโยค เช่น Why can you speak English very well? ทำไมคุณถึงพูดอิ้งเก่งจัง?

  • ถาม Why ตอบด้วย Because 

โครงสร้างประโยคของการใช้คำว่า Because คือ 

Because + Subject + Verb

ตัวอย่างประโยค เช่น 

  • Because I want to study English at Nockacademy to improve my English quickly. (ภาษาพูดใช้ได้ แต่ถ้าเขียนไม่ได้ เพราะจะเข้าข่าย Fragmented sentence)
  • I can speak English very well because I want to study abroad. ฉันพูดอิ้งไปปังปั้ว เพราะฉันอยากจะเรียนต่างประเทศ
  • รวมกันเป็นโกโก้ครันช์!!!

  • Why do you want to learn English at Nockacademy?  ทำไมคุณถึงอยากเรียนภาษาอังกฤษกับ Nockacademy ละ?
    • Because I want to improve my English quickly. (ภาษาพูดใช้ได้ แต่ถ้าเขียนไม่ได้ เพราะเข้าข่าย Fragmented sentence) เพราะฉันอยากพัฒนาภาษาอังกฤษของฉันเร็ว ๆ
  • Why can you speak English very well? ทำไมคุณถึงพูดอิ้งเก่งจัง?
    • I can speak English very well because I want to study abroad.  ฉันพูดอังกฤษได้แบบปังปั้ว เพราะฉันอยากจะไปเรียนต่างประเทศ

สาระมีอยู่จริง

ตัวอย่างประโยคที่ให้ไปที่แบบตอนตอบมันเหมือนจะยาว ๆ เพราะเราทวนความคำถามช่วงต้น แล้วตามด้วย Because ก็เพราะทำให้ประโยคนั้นสมบูรณ์นะ หากเป็นภาษาพูดเราก็ขึ้นต้นด้วย Because ไเลย ไม่ต้องไปทวนก็ได้ เพราะสุดท้ายตอนสนทนาเค้าก็ถามหาเหตุผลว่าทำไมเราถึงทำแบบนั้น คิดแบบนั้นอยู่ดี แต่เวลาเขียนก็แนะนำให้เขียนตัวเต็ม เพราะไม่เช่นนั้นอาจจะเกิดเป็นปัญหาด้าน Grammar อย่างเรื่อง Fragmented sentence งี้ แต่ตอนพูดหรือสื่อสารก็ตัดไปแล้วแต่เรา ฮันแน สงสัยเรื่อง Fragmented sentence ละสิ ถ้าอยากรู้เพิ่มก็คอมเม้นไปเลย เดี๋ยวเขียนให้จ้า

สุดท้ายนี้

ท้ายที่สุดแล้ว เรื่องการตั้งถามหาเหตุผล และการตอบอย่างมีเหตุผลนั้นไม่ใช่สิ่งที่ไกลตัว หากเราเข้าใจหลักที่ว่า เมื่อใดที่มี WHY เรามักจะได้รับรู้ถึง Because ของคนที่ถูกถามเสมอ เพราะเมื่อเราต้องการเหตุผลคำว่า “เพราะว่า“ ก็จะขึ้นมาอยู่ในหัวเสมอ แค่นี้เลย แต่ถ้าจะให้แนะนำวิธีการเรียนเรื่องนี้ให้ได้ผลดีที่สุดก็คงจะเป็นการให้ผู้เรียนนำสิ่งที่ได้เรียนรู้ในวันนี้ไปใช้ฝึกแนะนำคนอื่นเยอะ ๆ เอาไปใช้ในการพูดตอนแบบถามว่าทำทำไม เพราะอะไรถึงอยากเรียนเรื่องนี้ เพราะอะไรถึงอยากทำแบบนั้น ตอนนั้น เอาจริงนะแม่การฝึกฝนจะทำให้เราคุ้นชินกับสถานการณ์มากกว่าการที่จะต้องมานั่งคิดในหัวว่า ใช้ตอนนี้ดีมั้ย หรือใช้สถานการณ์ไหนดีกว่า เหมือนภาษาไทยที่เราใช้ตลอดแบบใช้ทั้งวันทั้งคืนจนลืมไปแล้วว่ามันมีหลักวิชาการยังไงบ้างอ่ะแม่ ภาษาอังกฤษก็เหมือนกัน แค่นี้ชีวิตก็ง่ายขึ้นแล้วปะ แล้วเจอกันครับ Takashi (เนี่ยเปลี่ยนอารมณ์กลับมาไม่ทันเลยครับ เราเน้นสายฮาพร้อมสาระนะจะ เพื่อนักอ่าน นักเขียนเองก็พร้อมจะทำทุกอย่างเพื่อสื่อมันออกไปอย่างน่ารัก และถูกใจทุกคน ปล.จากการสำรวจอ่ะนะ)

NockAcademy คือโรงเรียนออนไลน์สำหรับเด็ก โดยแอปฯ และเว็บไซต์ นักเรียนสามารถเรียนรู้ผ่านคลิปบทเรียนวิชา คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และภาษาไทย
มากไปกว่านั้น เรายังมีคอร์สเรียนออนไลน์ การสอนพิเศษ การติวนอกสถานที่โดยติวเตอร์ที่แน่นไปด้วยความรู้ อีกด้วย

Add LINE friends for one click to find article. Add LINE friends for one click to find article.
ครูผู้สอน NockAcademy

แค่ 10 นาที ก็เข้าใจได้

สามารถดูคลิปบทเรียนวิชา คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และภาษาไทย ที่มีมากกว่า 2,000+ คลิป และยังสามารถทำแบบทดสอบที่มีมากกว่า 4000+ ข้อ

แนะนำ

แชร์

อิเหนา

อิเหนา จากนิทานปันหยีสู่วรรณคดีเลื่องชื่อของไทย

อิเหนา เป็นวรรณคดีที่ถูกเผยแพร่เข้ามาในไทยตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา น้อง ๆ สงสัยไหมคะว่าจุดเริ่มต้นของนิทานของชาวชวานี้มีจุดเริ่มต้นในไทยอย่างไร เหตุใดถึงถูกประพันธ์ขึ้นเป็นบทละครให้ได้เล่นกันในราชสำนัก ถ้าน้อง ๆ พร้อมหาคำตอบแล้ว เราไปเรียนรู้ประวัติความเป็นมาและเรื่องย่อของอิเหนา ตอน ศึกกะหมังกุหนิงกันเลยค่ะ   ความเป็นมา   อิเหนามีความเป็นมาจากนิทานปันหยี หรือที่เรียกว่า อิเหนาปันหยีรัตปาตี ซึ่งเป็นนิทานที่เล่าแพร่หลายกันมากในชวา เชื่อกันว่าเป็นนิยายอิงประวัติศาสตร์ของชวา ในสมัยพุทธศตวรรษที่ 16 ปรุงแต่งมาจากพงศาวดารชวา อิทธิพลของเรื่องอิเหนาเข้ามาในประเทศไทยครั้งแรกในสมัยอยุธยา จากการที่เจ้าฟ้าหญิงกุณฑลและเจ้าฟ้าหญิงมงกุฎ

เรียนรู้และประเมินคุณค่าบทประพันธ์ อิศรญาณภาษิต

หลังจากครั้งที่แล้ว ที่เราได้เรียนรู้ประวัติความเป็นมา ลักษณะคำประพันธ์ และตัวบทที่สำคัญในเรื่องกันแล้ว ครั้งนี้เรื่องที่น้อง ๆ จะได้เรียนรู้ต่อไปก็คือคุณค่าที่อยู่ใน อิศรญาณภาษิต นั่นเองค่ะ อย่างที่รู้กันว่าวรรณคดีเรื่องนี้อัดแน่นไปด้วยคำสอนและข้อคิดเตือนใจต่าง ๆ มากมาย เพราะงั้นเราไปเรียนรู้กันให้ลึกขึ้นดีกว่านะคะว่าคุณค่าในเรื่องนี้จะมีด้านใดบ้าง ไปดูกันเลยค่ะ   คุณค่าในเรื่องอิศรญาณภาษิต     คุณค่าด้านเนื้อหา   อิศรญาณภาษิต มีเนื้อหาที่เป็นคำสอน ข้อคิดเตือนใจ เพื่อให้คนในสังคมได้ตระหนักถึงการกระทำของตน ว่าทำอย่างไรจึงจะอยู่ร่วมกับผู้อื่นอย่างเป็นปกติสุขได้

เสียงพยัญชนะ

การออกเสียงพยัญชนะต้นคำและพยัญชนะท้ายคำที่ออกเสียงยากในภาษาอังกฤษ

สวัสดีน้องๆ ม.​ 3 ทุกคนนะครับ วันนี้เราจะมาเรียนรู้การออกเสียงพยัญชนะต่างๆ ที่ขึ้นชื่อว่าออกเสียง “ยาก” ในภาษาอังกฤษ จะมีตัวอะไรกันบ้างนั้นเราไปดูกันเลยครับ

สำนวนไทยที่เกี่ยวกับศาสนา

สำนวนไทยที่เกี่ยวกับศาสนา ศึกษาที่มาและคุณค่าในสำนวน

  สำนวนไทยที่เกี่ยวกับศาสนา มีอยู่มากมายเลยทีเดียวค่ะ เพราะพุทธศาสนา เป็นศาสนาที่อยู่คู่บ้านคู่เมืองเรามาตั้งแต่อดีตกาล ทำให้มีความเกี่ยวโยงไปถึงสำนวน ซึ่งเป็นเหมือนถ้อยคำที่ใช้สั่งสอนและให้ข้อคิดแก่ผู้คนมายุคต่อยุค บทเรียนภาษาไทยในวันนี้จะพาน้อง ๆ ไปเรียนรู้ถึงสำนวนไทยที่เกี่ยวกับศาสนา และคุณค่าที่อยู่ในสำนวน ถ้าพร้อมแล้ว ไปศึกษาเรื่องนี้พร้อม ๆ กันเลยค่ะ   สำนวนไทยที่เกี่ยวกับศาสนา   สำนวนไทยที่เกี่ยวกับศาสนา มาจากความเชื่อเรื่องศาสนาพุทธของคนไทย โดยความหมายของสำนวนจะมีทั้งสำนวนที่ยังมีเค้าของความหมายเดิม และสำนวนที่ความหมายเปลี่ยนไป   ตัวอย่างสำนวนไทยที่เกี่ยวกับศาสนา  

ตัวหารร่วมมาก (ห.ร.ม.)

ตัวหารร่วมมาก (ห.ร.ม.)

             ตัวหารร่วมมาก (ห.ร.ม.) ตัวหารร่วมมาก (ห.ร.ม.) ของจำนวนนับตั้งแต่สองจำนวนขึ้นไปนั้น  เป็นการหาตัวหารร่วมหรือตัวประกอบร่วมที่มีค่ามากที่สุดของจำนวนนับเหล่านั้น ในบทความนี้ได้รวบรวมวิธี การหา ห.ร.ม. ไว้ทั้งหมด 3 วิธี น้องๆอาจคุ้นชินกับ การหา ห.ร.ม. โดยวิธีตั้งหาร แต่น้องๆทราบหรือไม่ว่าวิธีการหา ห.ร.ม. มีวิธีการดังต่อไปนี้ การหา ห.ร.ม. โดยการหาผลคูณร่วม การหา ห.ร.ม.

ทริคการสืบค้นข้อมูลทางอินเทอร์เน็ตอย่างง่าย ๆ

ย้อนกลับไปเมื่อหลายสิบปีที่แล้วก่อนที่อินเทอร์เน็ตจะเข้ามามีบทบาทในชีวิตของทุกคนเหมือนอย่างทุกวันนี้ แหล่งการสืบค้นหลัก ๆ จะอยู่ที่ห้องสมุด แต่ในปัจจุบันเราสามารถเข้าถึงข้อมูลต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้นเพียงคลิกปลายนิ้ว ข้อมูลที่ต้องการค้นหาก็มาปรากฏอยู่ตรงหน้าให้เลือกสรรมากมาย แต่เราจะมีวิธีการเลือกสืบค้นข้อมูลกันอย่างไร ถึงจะได้ข้อมูลที่ถูกต้องและครบถ้วนที่สุด บทเรียนในวันนี้ถือเป็นอีกหนึ่งเรื่องสำคัญที่จะช่วยให้การหาข้อมูลสำหรับการเรียนของน้อง ๆ นั้นง่ายขึ้น เราไปเรียนรู้เรื่อง การสืบค้นข้อมูลทางอินเทอร์เน็ต กันเลยค่ะ   การสืบค้นข้อมูลทางอินเทอร์เน็ต   เป็นการค้นคว้าหาความรู้โดยใช้สารสนเทศในลักษณะต่าง ๆ โดยมีเว็บไซต์ที่เป็นแหล่งเก็บรวบรวมภาพและข้อมูลต่าง ๆ    

โลโก้ NockAcademy

ทดลองฟรี!

เข้าใจได้ทันที NockAcademy ไลฟ์สดอันดับ 1 

โลโก้ NockAcademy

ทดลองฟรี!

เข้าใจได้ทันที NockAcademy ไลฟ์สดอันดับ 1