สวัสดีนักเรียนชั้นมป.5 ที่น่ารักทุกคน วันนี้เราจะไปดูวิธีการบอกข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับ “เรื่อง Present Tense โดยมีคำบอกเวลา และเเต่งประโยคให้เข้ากับคำศัพท์เรื่องสถานที่ต่างๆ” พร้อมทั้งตัวอย่างสถานการณ์ใกล้ตัวกันค่ะ ไปลุยกันเลยค่า Let’s go!
ความหมาย
Present แปลว่า ปัจจุบัน Simple แปลว่า ธรรมดา ส่วน Tense นั้น แปลว่ากาล ดังนั้น Present Simple Tense จึงเป็นประโยคที่มี โครงสร้างแบบง่าย ๆ ธรรมดา ที่พูดถึงเหตุการณ์ในปัจจุบัน (Present) นั่นเองค่า โดยมีเงื่อนไขตามลักษณะต่าง ๆเพิ่มเติมดังนี้
- ใช้เพื่อพูดถึงความเป็นจริงในชีวิตประจำวัน หรือความเป็นจริงตามธรรมชาติ (Natural truth) เช่น
The sun rises in the east.
แปลว่า ดวงอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันออกThe suns sets in the west.
แปลว่า ดวงตะวันตกทางทิศตะวันตก
- ใช้เพื่อพูดถึงเหตุการณ์ นิสัย (Habits) เช่น
We go to school 5 days a week.
แปล พวกเราไปโรงเรียน 5 ครั้งต่อสัปดาห์Lisa wakes up at 5 a.m. every day.
แปล
- ใช้เพื่อให้คำแนะนำหรือการบอกทิศทาง เช่น
Take a shower before going to school.
อาบน้ำก่อนไปโรงเรียนYou turn right at the corner.
คุณเลี้ยวขวาตรงหัวมุมนะคะ
รูปประโยคของ Present Simple Tense
- ประโยคบอกเล่า
โครงสร้างของประโยคบอกเล่า : Subject + Verb.1 + Object + (คำบอกเวลา)
ทั้งนี้คำกริยาช่องที่ 1 นั้นจะมีการเติม s หรือ es ถ้าหากประธานของประโยคเป็นเอกพจน์ (He, She, It)
แต่ถ้าประธานเป็น I, You หรือประธานพหูพจน์ (You (หลายคน), We, They) ให้คงรูปคำกริยานั้น ๆ ไว้เช่นเดิม เช่น
Emma washes the dishes often.
แปล เอ็มม่าล้างจานบ่อยๆ
We hardly go to the zoo.
เราไม่ค่อยได้ไปสวนสัตว์
**ประโยคนี้ประธานคือ They เป็นพหูพจน์ กริยาคือ enjoy จึงไม่ต้องเติม s หรือ es ที่ท้ายกริยา
ข้อสังเกต :
หลักการเติม s, es นั้นง่ายนิดเดียว คือ คำกริยาที่ลงท้ายด้วย sh, ch, o, s, ss, x, z ให้เติม es เมื่อประธานของประโยคเป็นเอกพจน์ (He, She, It) เช่น
She kisses her mother’s cheek before going to school.
เธอหอมแก้มแม่ก่อนไปโรงเรียน
จะเห็นว่า ประธานของประโยคคือ She ซึ่งเป็นเอกพจน์ คำกริยาคือ kiss
ที่ลงท้ายด้วย ss จึงต้องเติม -es ต่อท้ายนั่นเองจ้า
- ประโยคคำถาม
โครงสร้างของประโยคคำถามใน Present Simple Tense มีสองรูปแบบคือ
- แบบที่ 1 : Verb to be + Subject + Object/Complement + (คำบอกเวลา) ? เช่น
ประโยคบอกเล่า: She is my best friend.
ประโยคคำถาม: Is she your best friend?
แปล หล่อนเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของเธอเหรอ
- แบบที่ 2 : Verb to do + Subject + Verb.1 + Object + (คำบอกเวลา)?
Do you eat noodle?
กินก๊วยเตี๋ยวกันไหม
Does Jennie eat vegetable?
เจนนี่กินผักหรือเปล่า
ทริคดีๆ:
Do+ ประธาน: I/You/We/They /หลายคน หลายสิ่ง
Does+ ประธาน:He/She/It/สิ่งเดียว อันเดียว คนเดียว
- ประโยคปฏิเสธ (Negative sentence)
- แบบที่ 1 : Subject + Verb to be + not + Object/Complement + (คำบอกเวลา)
Ex: I am not your girlfriend.
แปล ฉันไม่ใช่แฟนของคุณ
- แบบที่ 2 : Subject + Verb to do (do, does)not + Verb.1 + Object + (คำบอกเวลา)
Situation: At school
Jennie: Do you like singing?
เจนนี่: คุณชอบร้องเพลงไหม
Lisa: Yes, I do. Do you like dancing?
ลิซ่า: ใช่แล้วค่ะ คุณชอบเต้นไหม
Jennie: Yes, I do.
เจนนี่: ใช่แล้วค่ะ
หลักการเติม s/es
หลักการเติม s/es ก็คือ
- นักเรียนเติม s หลังคำกริยาได้ทั่วๆไปได้เลยค่ะ
- eat eats – กิน
- stay stays- อาศัย
- ถ้าคำกริยาลงท้ายด้วย s, sh, ch, x, z และ o เราต้องเติม es หลังกริยานั้นๆด้วยนะคะ
- wish/ wishes
- watch/ watches
- fix / fixes
- go goes
ข้อควรระวัง:
“I” แปลว่าฉันหน้าตาอาจจะมีคนเดียว แต่ว่าเป็นประธานพหูพจน์นะคะ
ให้ใช้กริยาที่ไม่เติม s เลยค่า เช่น
- I walk to school.
ฉันเดินไปโรงเรียน - I use Facebook.
ฉันใช้เฟสบุค/ฉันเล่นเฟสบุค
ทริคดีๆ:
คำนามเอกพจน์ คือคำนามที่ไม่ได้เติม s/es
อย่างเช่น a friend, a dog, a table
คำนามพหูพจน์ คือคำนามที่เติม s/es
อย่างเช่น students, cats, tablesคำกริยาเอกพจน์
คือคำกริยาที่เติม s/es อย่างเช่น walks, uses, plays
คำกริยาพหูพจน์
คือคำกริยาที่ไม่ได้เติม s/es อย่างเช่น walk, use, play
คำบอกเวลาใน Present Simple Tense
Adverbs of Frequency
Always = สม่ำเสมอ, เป็นประจำ
Frequently = บ่อย ๆ
Often = บ่อย ๆ
Usually = โดยปกติ
Hardly = แทบจะไม่เคย
Never= ไม่เคย
Rarely = แทบจะไม่เคย
Seldom= นาน ๆ ครั้ง
Sometimes= บางครั้ง
ประโยคถามเส้นทาง
|
แปล |
Could you tell me how to get to..?
(get to = go to)
|
กรุณาบอกหน่อยได้ไหมครับว่าจะไป…ได้อย่างไร? |
How do I find…?
|
ฉันจะหา….ได้อย่างไร? (ทางไป…) |
What is the best way to…?
|
ทางไหนดีที่สุดที่จะไป…? |
Pardon me, I’m lost, how do I get to…?
|
ขอโทษนะคะ/ครับ ฉันหลงทาง ไม่ทราบว่าจะไป….อย่างไร? |
How do I get to…?
|
ฉันจะไปที่…ได้อย่างไร? |
คำศัพท์เกี่ยวกับสถานที่
ตารางศัพท์เกี่ยวกับสถานที่ นักเรียนสามารถใช้ at + the+ สถานที่ ด้านล่างนี้เพื่อบอกว่า เราอยู่ที่ไหนได้เลยค่า
คำศัพท์ภาษาอังกฤษ | คำแปล |
airport | สนามบิน |
escalator | บันไดเลื่อน |
expressway | ทางด่วน |
furniture store | ร้านขายเฟอร์นิเจอร์ |
garage | อู่ซ่อมรถ |
apartment | อพาร์ทเมนท์ |
bakery | ร้านเบเกอรี่ |
car showroom | ศูนย์จำหน่ายรถยนต์ |
church | โบสถ์คริสต์ |
crosswalk | ทางม้าลาย |
driving range | สนามซ้อมไดรฟ์กอล์ฟ |
government office | หน่วยงานราชการ |
hardware shop | ร้านขายอุปกรณ์ช่าง |
house | บ้าน |
hut | กระท่อม |
clinic | คลินิก |
coffee shop | ร้านกาแฟ |
condominium | คอนโดมีเนี่ยม |
foundation | มูลนิธิ |
gymnasium | โรงยิม |
night market | ตลาดกลางคืน |
pier | สะพานที่ยื่นออกไปในน้ำ |
playhouse | โรงละคร |
resort | สถานที่พักตากอากาศ |
อย่าลืมทบทวนบทเรียนภาษาอังกฤษฟรีๆ บนยูทูป ในหัวข้อ “Present Tense โดยมีคำบอกเวลา และเเต่งประโยคให้เข้ากับคำศัพท์เรื่องสถานที่ต่างๆ” นะคะ เลิฟๆ
คลิกที่ปุ่มเพลย์แล้วไปเรียนให้สนุกกันจ้า
Take care guys!