สวัสดีค่ะนักเรียนป.5 ที่น่ารักทุกคน เคยมั้ยที่เราเจอฝรั่งถามทางแล้วตอบไม่ได้ ทำได้แค่ชี้ๆ แล้วก็บ๊ายบาย หากทุกคนเคยเจอปัญหานี้ ต้องท่องศัพท์และรู้โครงสร้างประโยคที่สำคัญในการถามทางแล้วล่ะ หากพร้อมแล้วก็ไปลุยกันเลย
มารู้จักกับการถามทางในภาษาอังกฤษ
Asking for Direction in English
การถามทิศทางจะต้องมีประโยคเกริ่นก่อนเพื่อให้คนที่เราถาม ตั้งตัวได้ว่า กำลังจะโดนถามอะไร ยังไง ซึ่งเราสามารถถามได้ทั้ง คำถามแบบสุภาพเมื่อพูดกับคนที่เราไม่คุ้นเคย หรือ คำถามทั่วไปเมื่อพูดกับคนใกล้ตัว
วิธีการถามทาง
โครงสร้าง: How can I get to…(name of the place)..?
แปล ไม่ทราบว่าจะไป …ชื่อสถานที่…. ได้อย่างไร
Examples:
Excuse me,
How can I get to the UK embassy building?
= ขอโทษนะคะ/ครับ
ฉัน/ผมขอถามทางไปตึกสถานทูตอังกฤษหน่อยExcuse me. หรือ Pardon me.
แปลว่า ขอโทษค่ะ/ครับ เป็นภาษาพูดแบบสุภาพ ใช้กับคนที่เราไม่คุ้นเคย หรือ การพูดทั่วไปที่ต้องเกริ่นก่อนที่จะถาม
Do you know…
Do you know where …(destination)..?
แปล คุณรู้ไหมว่า ……. อยู่ที่ไหนDo you know where the toilet is?
แปล คุณรู้ไหมว่าห้องน้ำอยู่ที่ไหน (อเมริกัน)Do you know where the bathroom is?
แปล คุณรู้ไหมว่าห้องน้ำอยู่ที่ไหน (บริติช)
คำขึ้นต้นประโยคที่ใช้บ่อยเวลาถามทาง
Could you tell me..?
= ช่วยบอกได้ไหมว่า…
Do you know..?
= คุณรู้จัก…
May I ask…?
= ขอถามหน่อยว่า…
Do you mind if I ask…?
= จะเป็นอะไรไหมถ้าจะขอถามว่า…
I’d like to know…
= ฉัน หรือ ผมต้องการทราบว่า…
I’m interested to know…
= ฉันหรือผมอยากรู้ว่า…
Indirect Questions คืออะไร
Indirect Question คือ รูปแบบประโยคคำถามทางอ้อม จะไม่ถามตรงๆแบบรูปแบบประโยคทั่วไป (Direct Quetions)
เรามักจะเจอ ประโยคคำถามแบบ Indirect Questions ในสถานการณ์ที่เป็นทางการ หรือ ในสถานการณ์ที่ต้องใช้ความสุภาพ
เช่น การถามทาง เป็นต้น
อธิบายเพิ่มเติม:
Direct Question VS Indirect Question คืออะไร
- Direct Questions คือ คำถามที่ถามตรงๆ ไม่อ้อมค้อม แบบห้วนๆเลย ตัวอย่างเช่น
Which is the best way to school? แปลว่า ทางไปโรงเรียนที่ดีที่สุดคือทางไหน
- Indirect Questions คือคำถามแบบอ้อม ตัวอย่างเช่น
Do you know which is the best way to school? แปลว่า คุณพอจะทราบ ทางไปโรงเรียนที่ดีที่สุดมั้ยคะ/ครับ
***ในกรณีของผู้ตอบ หากไม่รู้ก็มีวิธีปฏิเสธแบบสุภาพก็สามารถ พูดแบบตรงๆ หรืออ้อม เพื่อรักษาน้ำใจผู้ถามได้เหมือนกัน ดังตัวอย่างประโยคด้านล่างเช่น
Sorry, I’m also new here.
= ขอโทษด้วย ผม/ฉันก็ใหม่กับที่นี่เหมือนกันLet me find it on Google map for you.
= เดี๋ยวผม/ฉันช่วยหาบนกูเกิลแมพให้นะSorry, I don’t know it.
=ขอโทษด้วยนะ ผม/ฉันไม่รู้จริงๆLet me ask my friend for you first.
= ขอถามเพื่อนให้ก่อนนะ
ตารางสรุป (Asking for direction)
เมื่อต้องมีการถามเส้นทาง เราสามารถถามคำถามได้ทั่วไป และถามแบบสุภาพ โดยการใช้ตัวอย่างประโยคด้านล่างนะคะ
ประโยคถามเส้นทาง
(Asking for direction) |
แปล
(Translation) |
Could you tell me how to get to..?
(get to = go to)
|
กรุณาบอกหน่อยได้ไหมครับว่าจะไป…ได้อย่างไร? |
How do I find…?
|
ฉันจะหา….ได้อย่างไร? (ทางไป…) |
What is the best way to…?
|
ทางไหนดีที่สุดที่จะไป…? |
Pardon me, I’m lost, how do I get to…?
|
ขอโทษนะคะ/ครับ ฉันหลงทาง ไม่ทราบว่าจะไป….อย่างไร? |
How do I get to…?
|
ฉันจะไปที่…ได้อย่างไร? |
Which way do I go to get to..?
|
ฉันจะไป…ทางไหน? |
What’s the best way to..?
|
วิธีไหนที่ดีที่สุดในการไป…คือวิธีไหน |
Could you direct me to…?
|
คุณสามารถบอกทางไป…ฉันหน่อยได้มั้ย? |
Excuse me, How can I go to…?
|
ขอโทษนะคะ ฉันจะไปที่…ได้ยังไง? |
Can you tell me the way to..?
|
ช่วยบอกทางไป…ได้มั้ย |
คำบุพบทบอกตำแหน่ง (Preposition of direction)
เมื่อจะต้องบอกทาง เราต้องรู้จักกลุ่มคำศัพท์หนึ่งที่เรียกว่า Preposition หรือคำบุพบท คือ คำที่ใช้เชื่อมคำนามกับคำนาม หรือเชื่อมคำนามกับ วลี/ประโยค ซึ่ง Preposition ที่สำคัญและพบกันอยู่บ่อยๆ ในการบอกทิศทาง ได้แก่ go straight (เดินตรงไป), in(ใน), on (บน), toward (ไปยัง), form (จาก), in (ใน), after (หลังจาก), among (ระหว่าง), at (ที่), move to the left (เดินไปทางซ้าย)
คู่คำบุพบทบอกสถานที่สับสนบ่อย
- On VS On top
โดยปกติแล้ว ‘On’ จะถูกใช้กับที่ปกติที่ใช้ในการวางสิ่งของ เช่น
The books are on the bookshelf.
แปล หนังสืออยู่บนหิ้งส่วน ‘On top’ จะถูกใช้กับที่ที่ไม่ปกติในการวางสิ่งของ เช่น
The pillows are on top of the bed.
แปล หมอนวางอยู่บนหัวเตียง
- Between VS Beside
‘Between’ เพื่อแสดงให้เห็นว่ามีวัตถุหนึ่งอยู่ตรงกลางระหว่าง 2 วัตถุ ส่วน ‘Beside’ มีความหมายเหมือนกับ ‘Next to’ แต่ว่า ‘Beside’ จะมีความเป็นทางการมากกว่า ทั้งคู่จะถูกใช้เมื่อวัตถุ หนึ่ง อยู่ข้างๆ วัตถุ หนึ่ง
Situation: Daniel is asking for a parking lot.
Daniel: Where did you park your car?
แดเนียล: คุณจอดรถไว้ไหนJessica: It’s next to the 5th Avenue Street.
เจสสิกา: ฉันจอดไว้ที่ถนนฟิฟต์เอเวนนิวDaniel: Is it between the coffee shop and the convenient store?
แดเนียล: ใช่ถนนที่อยู่ระหว่างร้านกาแฟกับร้านขายของชำมั้ยJessica: Exactly!
เจสสิกา: ใช่เลย
- Under VS Below
ใช้ ‘Under’ เมื่อวัตถุหนึ่งถูกปกคลุมด้วยวัตถุอื่น ส่วนเราจะใช้ ‘Below’ เมื่อวัตถุหนึ่งอยู่ในตำแหน่งที่ต่ำกว่าวัตถุอื่น
Situation: Tourist is asking Dao for a direction.
Tourist: Excuse me, how can I go to Thai Food Restaurant?
นักท่องเที่ยว: ขอโทษนะครับ ไม่ทราบว่าร้านอาหารไทยไปทางไหนครับSiri: I think it is below this 3rd floor.
สิริ: ฉันคิดว่ามันอยู่ใต้ ชั้นสามนี่แหละค่ะTourist: I see. And where is the nearest toilet please?
นักท่องเที่ยว: เข้าใจแล้วครับ แล้วห้องน้ำที่ใกล้ที่สุดอยู่ตรงไหนครับSiri: You can go straight. The toilet is about 10 meters away.
สิริ: ให้คุณเดิน ตรงไป นะคะ ห้องน้ำอยู่ไกลจากตรงนี้อีกประมาณ 10 เมตร
เป็นอย่างไรกันบ้างคะทุกคน ขอให้นักเรียนที่รักเดินทางไปไหนแล้วไม่หลง หรือถ้าหลงอย่างน้อยก็ต้องกล้าที่จะถามทางกันนะคะ
Have a good day guys!