มาทำความรู้จักกับ Linking Verbs ให้มากขึ้น

Profile Linking Verbs

สารบัญ

Add LINE friends for one click to find article. Add LINE friends for one click to find article.

สวัสดีค่ะนักเรียนม.1 ที่น่ารักทุกคน วันนี้เราจะไปรู้จักกับ Linking Verbs ให้มากขึ้น แต่ก่อนอื่นไปดูความหมายของ Linking Verbs กันก่อนนะคะ
ไปลุยกันเลย

มาทำความรู้จักกับ Linking Verbs

 

Linking Verbs Profile

 

Linking verbs คืออะไรกันนะ Linking แปลว่า การเชื่อม มาจากรากศัพท์ link ที่เป็นกริยาเติมด้วย ing แล้วกลายเป็นคำนามที่เราอาจจะเคยได้ยินในชื่อ Gerund หรือ Ing-form และ Verb ที่แปลว่า กริยา เพราะฉะนั้น Linking verbs จึงหมายถึง กริยาเชื่อม ทำหน้าที่เชื่อมประธานกับคุณศัพท์ เพื่อบอกสองสิ่งหลักๆ ก็คือประธานกับคำคุณศัพท์ที่ทำหน้าที่ขยายคำนามนั่นเอง เราจะเข้าใจมากขึ้นเมื่อดูตัวอย่างด้านล่าง จากหัวข้อ A และ Bไป C นะคะที่รัก

หลักการใช้  Linking Verbs

 

หลักการใช้ Linking verbs

Linking verb ก็คือ คำกริยาที่ทำหน้าที่เชื่อมประธานของประโยค กับ คำคุณศัพท์ เพื่อบ่งบอกสภาวะของประธานในประโยคนั้นๆ ซึ่งคำที่เรารู้จักกันดีก็คือ Verb to be  แต่ก็มีหลักการใช้ที่ต่างกันออกไปตามตัวอย่างประโยค A, B, และ C

A: เพื่อบ่งบอกสภาวะของประธานในประโยคนั้นๆ
ซึ่งบางคนอาจจะเคยได้ยินบ่อยๆในชื่อของกริยา ก็คือ Verb to be นั่นเองค่ะ

ตัวอย่างประโยค

They are content. แปลว่า  พวกเขามีความสุข

Neena is crazy. แปลว่า นีน่าเป็นบ้าไปแล้ว

เพิ่มเติม: Linking Verbs หรือกริยาแท้

Linking Verb ตามตัวอย่างด้านบนนั้น ส่วนใหญ่ทำหน้าที่ได้ทั้ง กริยาแท้ และกริยาเชื่อม มีสาม 3 คำ คือ be , become, seem ที่เป็นได้เฉพาะกริยาเชื่อม เพราะบอกได้แค่สภาวะ แต่ไม่สามารถบอกการกระทำได้

การนำไปใช้ในประโยค

 

การนำ Linking verbs ไปใช้

 

 

จากที่ได้เล่าไว้-ข้างต้นว่ากริยากลุ่ม Linking Verbs ทำหน้าที่เป็น  “ตัวเชื่อม”  เหมือนกับกาว ที่เชื่อมระหว่างประธาน และ ส่วนเติมเต็ม ของประโยค ถึงแม้จะได้ชื่อว่าเป็น “กริยา” แต่  Linking Verbs กลับไม่ “แสดงการกระทำ” เหมือนกริยาอื่น ๆ ทั่วไป แต่จะทำหน้าที่ เพื่อ อธิบาย เกี่ยวกับประธาน โดยมี “ส่วนเติมเต็ม” (complement) ทำหน้าที่เป็นคำอธิบาย ให้จำหลักการง่ายๆว่า ถ้าทำหน้าที่เป็นกริยาแท้จะแสดงการกระทำ ถ้าทำหน้าที่เป็นกริยาเชื่อมจะแสดงสภาวะของประธานหลักในประโยคนั่นเองค่ะ

ตัวอย่างคำกริยาที่เป็นได้ทั้งกริยาแท้ และกริยาเชื่อม เช่น

My dream of having a Korean boyfriend comes true.

ฝันที่จะมีแฟนเป็นคนเกาหลีของฉันกลายเป็นจริงแล้วสินะ

 

กริยา comes ใช้แทน linking verb ได้เลย เชื่อม ฝันของฉัน ว่าเป็นจริงแล้ว
(เชื่อม dream //linking verb: comes// true เป็น Adj. ที่ขยายประธาน dream)

 

คำถามที่พบบ่อย: Linking Verb กับ Verb to be ต่างกันอย่างไร

Questions with Linking verbs

 คำตอบ: ความแตกต่างของLinking verb กับ Verb to be ก็คือ
Linking verb จะใช้เชื่อมพฤติกรรมชั่วคราว ส่วน Verb to be จะใช้เชื่อมพฤติกรรมค่อนข้างถาวร นะคะทุกคน ต้องดูที่ตัวอย่างด้านล่างแล้วจะร้องอ๋อมากขึ้น

Example with Linking verbs

 

B: บอกนิสัย หรือพฤติกรรม

 

Example with Linking verbs

 

ถ้าเราใช้ Verb to be เมื่อไหร่ จะเป็นการบอกนิสัย ถาวรของคนๆนั้น แต่ถ้าใช้ linking verb จะบอกว่าพฤติกรรมนั้นๆเกิดเพียงแค่ชั่วคราว
เช่นในประโยคด้านล่าง

They are very happy.
พวกเขามีความสุขมาก
V. to be /are/ เชื่อม They /กับ/ happy

She is diligent.
หล่อนเป็นคนขยัน
She เป็นประธาน is เป็น V.to be ที่เชื่อม diligent ที่แปลว่าขยัน

Neena and Danie are very nice.
นีน่ากับแดนี่เป็นคนที่ดีมาก
Neena กับ Danie ทำหน้าที่เป็นประธานของประโยค ส่วน are เป็น V. to be ที่เชื่อมประธานทั้งสองคนว่า nice (คนดี)
และมี very /Adv./ แปลว่า มาก มาขยาย nice อีกที ซึ่งแปลว่าดีมาก

 

C: Verb to be จะถูกแทนที่ด้วยคำบางคำที่มีความหมายชัดเจนกว่า
แต่ในบางบริบทจะมีคำบางคำที่ใช้แทนกันได้เลย
เช่น

Example with Linking verbs

 

ตัวอย่างประโยค

The food here is very good.= The food here  tastes very good.

แปลว่า อาหารที่นี่มีรสชาติดีมาก VS อาหารที่นี่รสชาติดีมาก

She is very upset now. = She seems very upset now.
หล่อนรู้สึกอารมณ์เสียมาก VS หล่อนดูอารมณ์เสียมาก

เพิ่มเติม: แม้ว่าจะมีเทคนิคมากมายให้เลือกใช้ แต่ต้องดูบริบทการใช้ Linking Verbs ด้วยนะคะ เช่น ตัวอย่างประโยคด้านล่างนี้

 

Example with Linking verbs

They were busy this morning. = They seemed busy this morning.
พวกเขายุ่งมากเมื่อเช้านี้ VS พวกเขาดูยุ่งมากเมื่อเช้านี้
ประโยคแรกจะดูมั่นใจว่าพวกเขายุ่งจริงๆเมื่อเช้านี้ เหมือนกับว่าผู้พูดอยู่ในสถานการณ์นั้นเลยค่ะ ส่วนประโยคที่สองจะใช้เมื่อผู้พูดแสดงความคิดเห็นว่า “เขาดู…” เพราะว่า ไม่ค่อยมั่นใจ หรือเป็นเพียงการแสดงข้อคิดเห็นขึ้นมาเท่านั้น

จากตรงนี้จะเห็นได้ว่า บริบทการใช้คำนั้นมีความสำคัญอย่างมากเมื่อเราต้องแต่งประโยค และสิ่งที่สำคัญมากกว่านั้นคือการสื่อสารให้ตรงบริบทนั่นเองค่ะ
ซึ่งการท่องศัพท์ให้ได้และนำไปใช้ให้เป็นก็สำคัญไม่แพ้กัน

สรุปการใช้ Verb to be 3 ข้อ 

  1. ความเป็นไปของประธาน
  2. บอกพฤติกรรม
  3. ถูกแทนที่ด้วยความหมายที่ชัดเจนกว่า

หัวใจของการใช้ Linking verbs

 เราต้องแยกให้ได้ว่า Linking verbs ตัวนั้น ทำหน้าที่เป็นตัวเชื่อม หรือทำหน้าที่เป็นกริยาแสดงอาการกระทำ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นกริยากลุ่ม Action verbs หรือกริยาที่แสดงการกระทำชัดเจนในตัวมันเช่น taste เป็นต้น

Vocabulary of Linking verb

ศัพท์ที่สำคัญใน Linking Verbs

คำศัพท์พื้นฐาน ของ Linking verbs เบื้องต้นที่ทุกคนควรรู้ ได้แก่

feel  แปลว่า รู้สึก

get แปลว่า  เริ่ม ,ได้รับ

go แปลว่า เกิด, ไป

grow แปลว่า โต, ปลูก

look แปลว่า ดูเหมือน

remain แปลว่า ยังคง, อยู่

be (is am are/ wase were/ been) แปลว่า เป็น, อยู่,  คือ

appear แปลว่า ดูเหมือน , ปรากฎ

become แปลว่า เริ่ม, กลาย

come แปลว่า เป็น, กลายเป็น, มา

seem แปลว่า ดูเหมือน

smell แปลว่า ส่งกลิ่น , ดม

sound แปลว่า ดูเหมือน , ส่งเสียง

stay แปลว่า ยังคง , พัก
turn แปลว่า กลาย ,หมุน

taste แปลว่า  มีรส, ชิม

สรุปอีกรอบเพื่อให้เข้าใจยิ่งขึ้นนะคะ ในกลุ่มของ Linking Verbs จะสามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภท
คือ Linking Verbs (V. to be) และ Linking Verbs (ชั่วคราว) และต้องจำให้ขึ้นใจว่า V. to be คือ is, am, are, was, were, been, being
และกลุ่ม Linking Verbs แบบที่มีความหมายในตัวเอง เช่น look, sound, feel, get, seem, become, appear, smell, taste ที่สำคัญต้องดูบทบาทและสถาณการณ์การใช้ (Context and Situational usage) กันด้วยนะคะ

 

เป็นยังไงกันบ้างคะนักเรียนที่รักทุกคน ขอให้สนุกกับการเรียนเรื่อง Linking Verbs กันนะคะ และที่สำคัญอย่าลืมบททวนบทเรียนเพื่อให้เราได้เข้าใจมากขึ้นกับวีดีโอสนุกๆ ด้านล่างด้วยนะคะ เลิฟๆ

 

NockAcademy คือโรงเรียนออนไลน์สำหรับเด็ก โดยแอปฯ และเว็บไซต์ นักเรียนสามารถเรียนรู้ผ่านคลิปบทเรียนวิชา คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และภาษาไทย
มากไปกว่านั้น เรายังมีคอร์สเรียนออนไลน์ การสอนพิเศษ การติวนอกสถานที่โดยติวเตอร์ที่แน่นไปด้วยความรู้ อีกด้วย

Add LINE friends for one click to find article. Add LINE friends for one click to find article.
ครูผู้สอน NockAcademy

แค่ 10 นาที ก็เข้าใจได้

สามารถดูคลิปบทเรียนวิชา คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และภาษาไทย ที่มีมากกว่า 2,000+ คลิป และยังสามารถทำแบบทดสอบที่มีมากกว่า 4000+ ข้อ

แนะนำ

แชร์

NokAcademy_ ม.4Gerund

Gerund

  สวัสดีค่ะนักเรียนชั้นม.4 ที่น่ารักทุกคน วันนี้เราจะไปเรียนเรื่อง “Gerund” และฝึกวิเคราะห์โจทย์ข้อสอบเข้ามหาวิทยาลัยกันจร้า พร้อมแล้วก็ไปลุยกันโลดเด้อ   ความหมายของ Gerund   อธิบายแบบง่ายๆ เลยว่า Gerund หรือ Ing-form ในบริติชอิงลิช ที่จริงแล้ว มันก็คือ คำกริยาเติม ing (V-ing) แล้วหน้าที่เป็นคำนาม ในภาษาไทยถูกนำมาใช้ในไวยากรณ์เรียกว่า กริยานาม

NokAcademy_ม5 การใช้ Modal Auxiliaries

Modal Auxiliaries ที่สำคัญ

สวัสดีค่านักเรียนชั้นม.5 ที่น่ารักทุกคน วันนี้เราจะไปดู ” Modal Auxiliaries หรือ Modal verbs “ ที่ใช้บ่อยพร้อมเทคนิคการใช้งานง่ายๆกันค่า Let’s go! ไปลุยกันเลยจร้า รู้จักกับ Modal Auxiliaries   Modal Auxiliaries คือ กริยาช่วยกลุ่ม  Modal verbs หรือ 

ฟังก์ชันตรีโกณมิติอื่นๆ

ฟังก์ชันตรีโกณมิติอื่นๆ

ฟังก์ชันตรีโกณมิติอื่นๆ ฟังก์ชันตรีโกณมิติอื่นๆ ในบทความนี้จะกล่าวถึงฟังก์ชันที่เป็นส่วนกลับของฟังก์ชันไซน์และโคไซน์ และฟังก์ชันที่เกิดจากการดำเนินการของค่า cosθ sinθ ซึ่งก็คือ tanθ และ cotθ นอกจากนี้ยังจะกล่าวถึงโคฟังก์ชันของฟังก์ชันตรีโกณมิติอีกด้วย ในบทความนี้สิ่งที่น้องๆต้องรู้ก็คือ วิธีการหาค่า cosθ และ sinθ จตุภาคของพิกัดจุดปลายส่วนโค้ง ซึ่งสามารถอ่านได้ตามลิงค์ด้านล่างนี้เลยค่ะ การวัดความยาวส่วนโค้ง ค่าของฟังก์ชันไซน์และโคไซน์ หลังจากที่น้องๆมีพื้นฐาน 2 เรื่องที่กล่าวมาแล้วเราจะเริ่มทำความรู้จักกับฟังก์ชันตรีโกณมิติอื่นๆกันค่ะ   ฟังก์ชันที่เป็นส่วนกลับของฟังก์ชันไซน์และโคไซน์

NokAcademy_ม3 การใช้ Yes_No Questions  และ Wh-Questions

การใช้ Yes/No Questions  และ Wh-Questions

  สวัสดีค่ะนักเรียนชั้นม.3 ทุกคน วันนี้ครูจะพาไปตะลุยตัวอย่างและวิธีการแต่งประโยคคำถาม 2กลุ่ม ได้แก่ “การใช้  Yes/No Questions  และ Wh-Questions” หากพร้อมแล้วก็ไปลุยกันเลยจร้า   Yes/No Questions คืออะไร?   Yes/ No Questions ก็คือ กลุ่มคำถามที่ต้องการคำตอบแน่ชัดว่า Yes ใช่  หรือ

NokAcademy_Definite & Indefinite Articles M1

Definite & Indefinite Articles

  Hi guys! สวัสดีค่ะนักเรียนชั้น ม.1 ที่น่ารักทุกคนวันนี้ครูได้สรุปเรื่อง  Articles: a/an/the พร้อมเทคนิคการนำไปใช้ มาฝากกันค่ะ หากพร้อมแล้วก็ไปลุยกันเลย   Articles คืออะไร   Articles เป็นคำคุณศัพท์อย่างหนึ่ง การเรียน เรื่อง Articles นี้ที่มีหน้าที่หลักคือ ใช้นำหน้าคำนาม เราต้องทำความเข้าใจควบคู่ไปกับเรื่องนามนับได้ ( Countable

ศิลาจารึก วรรณคดีเชิงประวัติศาสตร์ที่สำคัญของคนไทย

ศิลาจารึก เป็นวรรณคดีเชิงประวัติศาสตร์ บทเรียนภาษาไทยในวันนี้จะพาน้อง ๆ ย้อนอดีตไปในสมัยสุโขทัยเพื่อเรียนรู้ประวัติความเป็นมาของศิลาจารึก ที่เป็นการบันทึกเรื่องราวต่าง ๆ บนแผ่นดิน ถ้าอยากรู้แล้วว่าแผ่นหินที่ว่านี่มีประวัติความเป็นมาอย่างไร ก็ไปเรียนรู้พร้อม ๆ กันเลยค่ะ   ศิลาจารึกหลักที่ 1 ประวัติความเป็นมา     ศิลาจารึกหลักที่ 1 จารึกโดยพ่อขุนรามคำแหง ใช้อักษรไทย สุโขทัย หรือ ลายสือไทย

โลโก้ NockAcademy

ทดลองฟรี!

เข้าใจได้ทันที NockAcademy ไลฟ์สดอันดับ 1 

โลโก้ NockAcademy

ทดลองฟรี!

เข้าใจได้ทันที NockAcademy ไลฟ์สดอันดับ 1